ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์"ป๋าเทพ"รอดล้มละลาย

ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์"ป๋าเทพ"รอดล้มละลาย


ตลกรุ่นใหญ่ ''เทพ โพธิ์งาม'' ถูกศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้พิทักษ์ทรัพย์ แต่ไม่มีคำสั่งล้มละลาย เจ้าตัวฉุนแบงก์ขายทอดทรัพย์สินไม่เคยรับรู้ บอกไม่เคยคิดโกงแต่อยากได้รับความเป็นธรรม


เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. ศาลล้มละลายกลางพิพากษาในคดีที่ นายสุเทพ โพธิ์งาม หรือ ''เทพ โพธิ์งาม'' นักแสดงตลกชื่อดัง อายุ 60 ปี ถูกธนาคารกรุงไทย ยื่นฟ้องล้มละลาย เนื่องจากขาดส่งค่าผ่อนทาวน์เฮาส์ที่พัทยาจำนวน 5 หลัง เป็นเงินทั้งสิ้น 700,000 บาท เป็นเวลานานนับปี และไม่ได้รับการติดต่อขอประนอมหนี้ จนทำให้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระพุ่งสูงนับล้านบาท


ทั้งนี้ ศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้พิทักษ์ทรัพย์ ''เทพ โพธิ์งาม'' ทั้งบ้าน รถ หรือทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งจะนำไปขายหรือจำนองไม่ได้ แต่ไม่มีคำสั่งล้มละลาย หลังธนาคารกรุงไทยยอมให้ผ่อนชำระเป็นงวดจนครบจำนวนกว่า 1 ล้านบาท จำนวนที่เป็นหนี้สินอยู่


ภายหลังนักแสดงตลกรุ่นเก๋า ให้สัมภาษณ์พร้อมด้วย น.ส.ภัสราวรรณ ทรงพีระพัฒน์ ภรรยา อย่างมีอารมณ์ว่า ไม่เห็นด้วยที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทาวน์เฮ้าส์ และที่ดินนำไปขายทอดตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ขายที่ดินให้แก่บุคคลทั่วไปในราคาถูกมาก ทั้งที่ตนเป็นเจ้าของแต่ไม่ยอมบอกกล่าวแม้แต่น้อย


''ผมรับว่าเป็นหนี้จริงก็ต้องชดใช้ ตรงไหนยอมได้ก็ยอม ตอนนี้พยายามชดใช้หนี้คืนให้แก่ธนาคารอยู่แล้ว เหลือเงินที่ต้องคืนอีก 5 แสนกว่าบาท โดยวันที่ 26 ม.ค. 2553 กรมบังคับคดีได้นัดให้ผมไปพบ เพื่อชี้แจงเรื่องการชดใช้หนี้ให้แก่ธนาคารกรุงไทย ผมยังยืนยันว่าพร้อมจะชดใช้ให้อย่างแน่นอนแต่ทำไมธนาคารไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนำทาวน์เฮาส์ไปขายให้รู้ เหมือนที่เอาหมายศาลมาแปะหน้าบ้าน พอถามก็บอกว่าลงประกาศหนังสือพิมพ์แล้ว ตรงนี้ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไรเลย...แล้วเอาทาวน์เฮาส์ไปขายแค่แสนกว่าบาท ราคาแสนกว่าบาท คิดดูเอาเองแล้วกันว่าหากเป็นเจ้าของโดนเอาบ้านไปขายบ้างจะรู้สึกยังไง...''


ป๋าเทพยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ''ป๋าเองก็ไม่ได้คิดว่าจะไปโกงอะไรเขาหรอก เพียงแต่ว่าเราต้องการความเป็นธรรม ความเป็นธรรมมันต้องมีบ้าง ถ้าเกิดความเป็นธรรมไม่มีในแผ่นดินนี้ บ้านเราสักวันมันต้องหนักกว่านี้ ป๋าไม่ชอบเลยไอ้คนที่มันชอบเอาเปรียบคน เกลียดมากคนพวกนี้ นี่ขนาดเป็นป๋านะถ้าเป็นคนจนๆ ที่เขาโดนยึดทรัพย์โดนยึดที่ดิน ก็เพิ่งมาเข้าใจว่า อ๋อมันโดนอย่างนี้เองเหรอ ธรรมดาเราก็ไม่เคยถึงตรงนี้หรอก กฎหมายถ้าเป็นอย่างนี้ตลอดป๋าว่า แย่แน่บ้านเมืองต่อไปในอนาคตถ้าคุณไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายตรงนี้ คิดดูป๋ากู้มา 7 แสนกว่าบาท 10 ปีดอก เกือบ 3 ล้านที่เขาคิดในทีแรกอ่ะนะ ยังไม่ได้หักอะไร หักแล้วก็เหลือ 2 ล้านกว่าบาท วันนี้ป๋าก็เลยต้องมาเรียกความเป็นธรรมในวันนี้ ที่วันนี้ได้คุยกันเราก็ขอเขาผ่อนผัน เพราะเงินที่เราหามาได้ก็ไม่ได้เก็บไว้ใช้หนี้อย่างเดียว ผมก็มีลูกมีหลาน ผมทำมาหากินผมก็ต้องใช้โน่นใช้นี่บ้าง แน่นอนหลังจากที่เราพอเหลือเราก็ใช้หนี้ได้ ซึ่งตามปกติมันต้องอย่างนั้น นี่คุณมาดูผมทำเท่านี้คุณก็จะเอาเท่านี้หมดเลย ไอ้การพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งต่อไปผมจะเอาอะไรมาหมุนผมก็ทำไม่ได้และ ทำไมเขาต้องพิทักษ์ทรัพย์ผม ทำอย่างนี้ก็เหมือนตัดแขนตัดขาผม แล้วผมจะไปสู้กับเขายังไง แทนที่ระหว่างนี้เราน่าจะช่วยเหลือกัน ไม่ต้องมาทำกันถึงขนาดนี้ บางครั้งผมก็เหมือนคนจนตรอก มันไม่รู้จะทำยังไง ไอ้เงินป๋าว่ามันไม่เท่าไหร่ไง แต่เราไม่ชอบตรงที่ว่า เวลาจะขายบ้านทำไมไม่บอกกัน แล้วก็บอกว่าเราหายาก แต่เวลาหมายศาลมามันถูกต้องเหลือเกิน ทำไมมันเป็นอย่างนั้น ก็น่าจะมาคุยกับเราว่าค้างเท่านี้คุณจะส่งกี่งวดก็ว่าไป เราไหวขนาดไหนเราก็รู้กำลังเรา ตอนไปคุยครั้งแรกเขาบอกว่าต้องให้เป็นก้อน เราก็บอกเขาว่า เราหาเงินได้ก็จริง แต่เป็นก้อนๆ มันหายาก เพราะเราต้องใช้หนี้ ผมก็ขอเขาว่าผ่อนได้ไหม ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปโกงเขาอยู่แล้ว เขาก็บอกยังไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยมาถึงศาล''


นอกจากนี้ ตลกชื่อดังยังกล่าวถึงเรื่องรายได้ที่เกิดจากการจัดคอนเสิร์ตที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ว่ารายได้จากการขายตั๋วนั้นยังไม่ครอบคลุมกับรายได้ในส่วนของค่าโปรดักชั่น และค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ต้องรอรายได้จากการขายแผ่นบันทึกคอนเสิร์ตอีกทีว่าท้ายสุดแล้วหักลบจะมีกำไรหรือขาดทุน ป๋าเทพกล่าว


ส่วนภรรยา ''จุ๋ม-ภัสราวรรณ'' กล่าวว่า ตนเองยังติดใจในเรื่องการขายทรัพย์สินที่ตนไปกู้ว่าขายไปเมื่อไหร่ ใครเป็นคนซื้อ มีเกณฑ์วัดยังไงว่าราคาต้องเป็นเท่าไหร่ ตนเป็นลูกหนี้ก็ย่อมอยากรู้รายละเอียดเหล่านี้ แต่กลับได้รับคำตอบว่ามีการไปแปะไว้หน้าบ้าน หรือไม่ก็ประกาศทางหนังสือพิมพ์ ซึ่งตนไม่เคยเห็น เลยติดใจว่าน่าจะมีความโปร่งใสมากกว่านี้