@^@.อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 6

@^@.อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 6
มงกุฎแสงจันทร์ 18/11/52
ตอนที่ 6 (ต่อจากวานนี้)

"แต่โลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ผู้นำไม่จำเป็นต้องเป็นมาจากกษัตริย์เสมอไป"

"กล้าเผยตัวแล้วสินะ จิ้งจอกอยากคลุมหนังราชสีห์"

"สุกฤตา...อย่าให้ต้องเตือนความจำบ่อยๆ ว่าพระองค์ กับลูกกำลังอยู่ในอันตราย"

"เอาชีวิตคนมาเป็นเครื่องต่อรอง วิธีของอันธพาลสันดานหยาบช้า"

"ก็ควรจะระวังอารมณ์คนสันดานหยาบช้าไว้หน่อย เพราะเมื่อไหร่ที่คนถ่อยรอไม่ไหว เลือดอาจจะนองพื้นวัง"

โกญจนาทเดินมายืนค้ำหัวสุกฤตาที่นั่งกราบพระกับพื้น สุกฤตาไม่แม้แต่เหลือบตาขึ้นมอง สายตาแน่วแน่จ้องไปที่องค์พระ

"เคยได้กลิ่นคาวเลือดไหมพระเจ้าค่ะ บ้างก็ทำให้ วิงเวียนคลื่นเหียน บ้างก็ปลุกเร้าให้กระหายอยากได้ความตายมาสังเวย ไม่ว่าหน้าไหน ไม่ว่าเป็นใคร"

"ประชาชนจะไม่ยอมให้คนชั่วแตะต้องราชวงศ์"

"แต่ถ้าประชาชนได้เห็นศพกองสุมอยู่ที่ลานหน้าวัง ประชาชนก็จะสรรเสริญพระองค์ว่าเป็นราชินีที่ทำให้ราชวงศ์ถึงคราวพินาศ"

สุกฤตาหันขวับจ้องโกญจนาทที่ยิ้มใจเย็น แล้วค่อยๆขยับเข้ามาใกล้

"อีกไม่นานเกียรติแห่งเทพสูงส่ง จะต้องถูกทำลายลงด้วยมือไพร่"

สุกฤตาคิดหาทางรอด ทำทีลุกขึ้นยืนแต่ซวนเซเหมือนจะล้ม โกญจนาทจึงคว้าแขนสุกฤตา ฉับพลันประตูหอพระก็เปิดผาง สันธิและวิชัยก้าวเข้ามาเห็นโกญจนาทจับแขนสุกฤตาที่ร้องขอความช่วยเหลือ วิชัยพุ่งพรวดเดียวกระชากโกญจนาทออกมาหักแขนไพล่หลัง พร้อมกับสั่งทหารที่อยู่ข้างนอกเข้ามาให้หมด

โกญจนาทดิ้นรน วิชัยยิ่งกดแรง เอาปืนจ่อหลัง ขณะที่ทหารทั้งหมดกรูเข้ามาล้อมไว้

"ผู้ใดแตะต้ององค์ราชินี มันมีโทษถึงตาย" วิชัยประกาศกร้าว

"ท่านไม่รู้กฎข้อร้ายแรงที่สุดหรือโกญจนาท เกียรติแห่งเทพสูงส่งจะไม่ถูกทำลายลงด้วยมือเดรัจฉาน" สุกฤตายิ้มเยาะ โกญจนาททั้งเจ็บทั้งแค้นที่เสียรู้สุกฤตาเข้าจนได้

หลังจากนั้นโกญจนาทก็ถูกตีตรวนโยนเข้าคุกเพื่อรอลงโทษยิงเป้าหลังการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการ แต่ไม่ทันข้ามคืน ไมยาดินก็นำกำลังทหารบุกมาช่วยโกญจนาทออกจากคุก และโกญจนาทก็จะไม่รอเวลาอีกแล้ว เขามาดหมายว่าต้องยึดครองบัลลังก์แสงจันทร์ให้ได้ภายในคืนนี้

แต่สันธิก็นำกำลังทหารฝ่ายราชินีต่อสู้จนบาดเจ็บล้มตายไปมาก ตัวสันธิเองก็บาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน ขณะที่

มาณสิงห์ยังต้องตรึงกำลังอารักขาศิศิราอยู่อีกทาง...โกญจนาทเข้าประชิดตัวสุกฤตาในท้องพระโรง ประกาศเจตนาชัดเจนว่าบัลลังก์แสงจันทร์เหมาะสมกับคนเข้มแข็งอย่างเขามากที่สุด ไม่ใช่กษัตริย์ที่อ่อนแอเอาแต่ห่วงประชาชน ซึ่งไม่มีทางทำให้ ประเทศแข็งแกร่งได้เลย

สุกฤตาสีหน้าแววตาไม่หวาดหวั่น แอบเลื่อนมีดที่ซ่อนไว้ออกจากแขนเสื้อ โดยที่โกญจนาทยังคงพล่าม พลางก็ขยับเข้ามาใกล้เหมือนจะแตะต้องเนื้อตัวเธอ

"สุกฤตา...ราชินีผู้งามเป็นหนึ่ง หากเลือดสองสายได้ผสาน บัลลังก์จะมั่นคง"

"เราคงไม่มีหน้าไปตอบบรรพบุรุษในสวรรค์ ว่าทำไมถึงปล่อยให้เดรัจฉานในคราบมนุษย์อาจเอื้อมมาปกครองบ้านเมือง" พูดขาดคำ สุกฤตาก็พุ่งมีดไปที่ท้องโกญจนาท แต่โกญจนาทใช้ข้อมือที่แข็งแรงกว่าจับมีดหยุดไว้ก่อนจะสัมผัสเนื้อของตน

"งั้นก็ฝากไปบอกผัวเธอด้วยว่า ฉันจะรีบแสดงความจงรักภักดี ด้วยการให้ครอบครัวเธอได้ไปพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง...ในนรก"

"คนโกงกระหายอำนาจอาจเอื้อมอย่างแกต้องไปชดใช้ กรรมที่อเวจีขุมสุดท้าย"

"นั่นมันหลังจากที่บัลลังก์นี้จะไม่ใช่ของราชวงศ์

จันทราภาอีกต่อไป"

โกญจนาทบิดข้อมือสุกฤตา ดึงมีดมาถือไว้ แล้วล็อกแขนสุกฤตาทันที

"ยิ้มสะ สุกฤตา ยิ้มดีใจกับฉันเป็นคนแรก ทันทีที่ราชวงศ์จันทราภาถูกล้มล้าง ก็จะเป็นศักราชใหม่ของราชวงศ์ เยาวราจีของฉัน เพราะผู้ใดได้อยู่ใต้มงกุฎแสงจันทร์ ผู้นั้นจะมีความสุขตลอดกาล"

โกญจนาทยิ้มเหี้ยม กดมีดที่ปักอกสุกฤตาสุดแรงก่อนจะถอยออกมา สุกฤตาไม่มีเสียงร้องทั้งที่เจ็บปวดแสนสาหัส เลือดในกายแดงฉานไหลเป็นทาง แต่เธอยังพยายามทรงตัวไปนั่งที่บัลลังก์ ที่สุดก็สิ้นลมหายใจอยู่บนบัลลังก์แสงจันทร์ นั่นเอง

ooooooo

ศิศิราที่หลบอยู่ในห้องรู้สึกเป็นห่วงแม่ เธอไม่ฟังเสียงห้ามของมาณสิงห์ วิ่งออกจากห้องตรงไปยังท้องพระโรง พอไปเห็นสภาพแม่บนบัลลังก์ ตกใจถึงกับกรีดร้องผวาไปกอดศพแม่ร้องไห้สั่นสะท้านไปทั้งตัว "แม่ขา...แม่...ใครทำแม่"

"องค์ราชินีหมดลมหายใจจะตอบคำถามอะไรแล้ว เจ้าหญิงศิศิรา" เสียงโกญจนาทดังขึ้นก่อนปรากฏตัวออกจากเงามืด มาณสิงห์รีบเข้ามาประกบศิศิรา แล้วชักปืนจะสังหารไอ้กบฏชั่วที่ลอบปลงพระชนม์องค์ราชินี แต่ไมยาดินไวกว่าพุ่งเข้ามาเอาปืนล็อกคอมาณสิงห์ พร้อมๆกับทหารของโกญจนาท นับสิบก็ตีวงล้อมเข้ามา มาณสิงห์ตะโกนให้เจ้าหญิงหนีไป ศิศิราตกใจหันรีหันขวาง

ทันใดนั้นเอง ทีฑายุโหนตัวเข้ามาทางหน้าต่าง จัดการทหารจนขาดใจตายด้วยปืนของมันเองไปหลายคน ขณะที่มาณสิงห์ ก็พยายามสลัดไมยาดินแต่ไม่สำเร็จ โกญจนาทคว้าตัวศิศิราแล้วเอาปืนจ่อหัว ต่อรองทีฑายุให้โยนปืนทิ้ง ถ้าไม่อยากเห็นเจ้าหญิงเป็นศพต่อไป ทีฑายุทำท่าลดปืน แต่กลับโยนเข้าหน้าโกญจนาทแทนที่จะโยนทิ้ง ทำให้โกญจนาทผงะปืนหลุดจากมือ ศิศิราฉวยโอกาสดิ้นหลุดจะวิ่งมาหาทีฑายุ แต่ไมยาดินก็สาดกระสุนเจาะน่องทีฑายุจนล้มหงายหลัง

ทีฑายุสั่งให้ศิศิราหนีไป แต่เธอโผเข้าหาเขาด้วยความเป็นห่วง ส่วนมาณสิงห์ถูกลูกน้องไมยาดินทำร้ายหน้าตาแยกยับ แล้วทั้งสามคนก็ถูกจับไปขังในคุกรวมกับญาณีและนางข้าหลวงอีกหลายคน ศิศิราเป็นห่วงน้องชาย ญาณีบอกว่าพวกมันไม่ได้ทำร้ายองค์ธราเทพ แต่คุมตัวเอาไว้

มาณสิงห์ที่หมดสติไปพักหนึ่ง พอฟื้นขึ้นมาก็คิดอ่านจะหาทางพาเจ้าหญิงออกไปให้เร็วที่สุดก่อนที่พวกมันจะลงมือทำอะไรมากกว่านี้ เช่นเดียวกับทีฑายุที่ยังไม่หมดหวัง ขอให้ศิศิราเข้มแข็งไว้ ยังไงเราก็ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ ศิศิรามองน่องทีฑายุที่มีผ้าพันห้ามเลือดไว้อย่างลวกๆ ทีฑายุเดาใจศิศิราออก รีบบอกเธอว่ากระสุนถากไปไม่ฝังใน ไม่เป็นอะไรมาก พรุ่งนี้เราจะออกไปเห็นแสงอาทิตย์ด้วยกัน...ศิศิรารู้สึกดีมีความหวังถึงกับยิ้มออกมาอย่างเชื่อมั่น

ooooooo

เช้ารุ่งขึ้น กัญญาภัคกับสินาตีเตรียมตัวเข้าวังด้วยความตื่นเต้นยินดี ที่บัดนี้บัลลังก์แสงจันทร์ ตกเป็นของโกญจนาทเรียบร้อยแล้ว...ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกกำลังฉลองความสำเร็จในท้องพระโรง อย่างมีความสุข ท่ามกลางทหารน้อยใหญ่ชื่นชมสอพลอจำนวนมาก...หารู้ไม่ว่า พวกทีฑายุกำลังพาศิศิราหนีออกจากคุก โดยการนำของดรัณย์ ประสันต์ และมาลข่าน ลอบเข้ามาช่วยเหลือ

เมื่อพ้นจากคุกมาแล้ว ศิศิราตรงไปยังห้องธราเทพ พร้อมด้วยทีฑายุและมาณสิงห์ ส่วนพวกดรัณย์แยกไปอีกห้องกับญาณี แต่สองกลุ่มก็ไม่มีใครเจอธราเทพ ทีฑายุมั่นใจว่าพวกมันคงย้ายที่คุมขังเจ้าชาย...ประสันต์เร่งทุกคนให้รีบไป ก่อนจะหมดโอกาส ตอนนี้พวกมันกำลังฉลองอยู่ในท้องพระโรง มาณสิงห์ จึงให้ทุกคนอ้อมไปข้างหลังเพื่อไม่ต้องผ่านท้องพระโรง แต่ศิศิรากลับวิ่งไปทางท้องพระโรง ทุกคนตกใจวิ่งตามไปทันที

ศิศิราวิ่งพรวดเข้ามา เป็นจังหวะที่โกญจนาทกำลังจะสวมมงกุฎแสงจันทร์ ศิศิราไม่ยอมเด็ดขาด ตรงเข้าแย่งมงกุฎในมือโกญจนาทแต่ไม่สำเร็จ ทันใดสองฝ่ายก็รบรากันอุตลุด พวกทีฑายุแม้จะมีคนน้อยกว่าแต่ทุกคนก็สู้ยิบตา

เมื่อเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย สินาตีต้องลากกัญญาภัคหลบออกไปก่อนจะโดนลูกหลง ทั้งที่กัญญาภัคไม่เต็มใจ

เพราะเป็นห่วงทีฑายุ...โกญจนาทไม่ยอมปล่อยมงกุฎหลุดมือ ขณะที่ศิศิราก็ตามแย่งไม่ลดละ โดยมีทีฑายุคอยช่วยเหลือ ส่วนมาณสิงห์และเพื่อนๆของทีฑายุก็ต่อสู้กับทหารของโกญจนาท อย่างไม่กลัวตาย รวมทั้งธนูเพลิงทหารคนสนิทของมาณสิงห์ที่ปรากฏตัว หลังจากทุกคนคิดว่าเขาตกผาตายไปแล้ว

ที่สุดทีฑายุก็ต้องกระชากศิศิราวิ่งหลบออกไป เพราะมองไม่เห็นทางรอดถ้าต้องสู้ต่อ ดรัณย์ ประสันต์ มาลข่าน และญาณีวิ่งตาม มาณสิงห์กับธนูเพลิงรั้งท้ายคอยยิงสกัดทหารของโกญจนาท กระทั่งพ้นออกไปตรงสนามด้านข้างท้องพระโรง ซึ่งมีรถจอดอยู่สองคัน ทีฑายุพาศิศิราขึ้นรถ ตามด้วยพวกดรัณย์และญาณี ส่วนมาณสิงห์กับธนูเพลิงยังต้องยิงสกัดพวกไมยาดิน ครั้นทีฑายุออกรถไปอย่างเร็ว มาณสิงห์กับธนูเพลิงจึงโดดขึ้นรถอีกคัน ขับตะลุยออกไปจนทหารของโกญจนาทแตกกระเจิง

โกญจนาทโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อรู้ว่าทุกคนหนีรอดไปได้ แล้วสั่งเฉียบต่อหน้ารามปุระและไมยาดิน

"ไม่ว่าจะหนีไปถึงไหน ลากพวกมันกลับมาตายตรงหน้าเราทุกคน!"

ooooooo
@^@.อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 6
มงกุฎแสงจันทร์ 18/11/52
เคดิต ไทยรัฐ
(อ่านต่อพรุ่งนี้)