@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 12

@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 12
สูตรเสน่หา 18/11/52
ตอนที่ 11 (ต่อจากวานนี้)

นายลมนึกถึงพี่สะใภ้พูดถึงอลิน ที่ไปลงทุนบริษัทอวตานถึงสิบล้าน อลินรวยมากและเป็นนางเอก ทิ้งห่างหมิง ตัวอิจฉา บ่มิไก๊ ถ้าลมได้ควงอลินเข้าบ้าน พี่ฟ้าคงปลื้มมากกว่านี้แน่นอน

"อลิน ทิพยดา...แล้วเราจะได้เจอกัน" วายุหรือนายลม ลูกเจ้าสัวกำลังคิดการร้ายกับอลิน

ขณะเดียวกัน...อนุชาเห็นท่าทางอลินกระดี๊กระด๊าจะไปหาครูกุ๊กอย่างร้อนรน เกิดอาการหวงก้างขึ้นมาอย่างเต็มที่ ด้วยข้อมูลคุณหญิงแม่ ถึงนั่งโต๊ะทำงานไม่ไหว ลุกขึ้นโทร.หาคนสนิท

"เพรียว...ผมต้องการเบอร์โทรศัพท์ที่จะติดต่อกับนายพสุ ถ้าได้แล้ว รีบโทร.บอกผมด่วน"

อนุชามองดูแฟ้มประวัติพสุที่แม่ให้มา เขาต้องจัดการเรื่องนี้ให้เนียนที่สุด...

ooooooo

ตอนที่ 12

หลังจากอลินลงมือทำพิซซ่ามากมายกว่า 50 ชิ้น เธอนำมาวางเรียงต่อหน้าโสภิตาและครูกุ๊ก โสภิตาชมว่าน่าทาน ครูกุ๊กกลับชมอีกแบบว่า อลินทำแล้วดูดี แต่รสชาติเป็นอีกเรื่อง...โสภิตาเห็นอลินหน้าง้ำ จึงต่อว่าพสุชอบว่าชอบแกล้งอลิน อลินได้ทียุโสภิตาให้ช่วยออกเสียงให้เธอด้วย

ครูกุ๊กจึงวางหมากต่อไปให้อลินพิสูจน์ว่าฝีมือเธอทำได้อร่อยแค่ไหน ด้วยการเอาพิซซ่าของอลินพากันหอบหิ้วไปวางขายในตลาดนัดหน้าซอยจอแจ โดยอ้างว่าขายที่ร้านเป้หวานทั้งวันก็ไม่หมด มาวางตลาดนัดคนเยอะดีกว่า หลังจากวางของเสร็จ ต่างก็ช่วยกันร้องเรียกลูกค้า ขายชิ้นละ 12 บาท คนผ่านไปมาบ้างก็บอกว่าแพง แต่อลินกลับบอกว่าเธอทำแทบตาย ขายถูกได้ไง แต่ครูกุ๊กยืนยันว่า ถ้าขายไม่ได้ แสดงว่าอลินทำไม่อร่อยไร้ฝีมือ

อลินสุดจะเจ็บปวด เดินไปมาแล้ว ก็ได้ยินเสียงจากโทรโข่ง พ่อค้าร้องขายของสารพัดชนิด บอกขายถูก ย้ำราคาถูกเหมือนให้ฟรี...

"ฉันขอเช่าที่พี่พูดนี่หนึ่งชั่วโมง...ฉันให้ 3 พัน...เอาไหม"

พ่อค้าเต้นเหยง ร้องเจี๊ยกเหมือนลิง ก่อนจะรับเงินแล้วยื่นโทรโข่งให้อลินอย่างไม่มีเสียงลอดจากปากอีกเลย...จากนั้นเดินมาหาพวกครูกุ๊ก อลินสั่งให้หลีกไป แล้วลากกล่องมาวางให้เข้าที่ จากนั้น ถอดหมวกถอดเสื้อคลุม สะบัดปลายผมสยายลงมา ดึงแว่นตาดำออก เหลือเสื้อกล้ามทั้งเท่ทั้งเซ็กซี่ยืนบนกล่อง พูดโทรโข่งโดยมีผ้าสีชมพูผูกตรงไมค์ไว้ดับกลิ่นปากเจ้าของเดิม แล้วเสียงเธอก็ดังลั่นขึ้น

"พ่อแม่พี่น้อง คอละคร แฟนหนังฟังทางนี้ อลิน ทิพยดา ตัวจริงเสียงจริง มายืนตรงนี้แล้วค่า ลินมีโอกาสทองมามอบให้ ทุกท่าน ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสสำคัญ สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา อย่ารอช้า รีบมาทางนี้ด่วนเลยค่ะ" ทั้งครูกุ๊กทั้งโสภิตาใบ้รับประทานไปครู่ใหญ่ พสุจึงอุทานอะไรออกมาเสียงขลุกขลัก...

"ฉันขายหมดภายในหนึ่งชั่วโมง ครูกุ๊กจะได้รู้ว่าฝีมือฉันเจ๋งแค่ไหน" อลินหันมาบอกพสุ แล้วยักคิ้วสองแผล็บให้อีก ครูกุ๊กเอานิ้วปาดเหงื่อ แล้วอดขำอย่างสนุกไปด้วยไม่ได้ เมื่ออลินร้องเรียกผู้คนที่ทยอยกันมา ให้มารีบซื้อหาเอาไปฝากทางบ้านด้วย

"พิซซ่าหน้าดารา ฝีมืออลินทำเองทุกชิ้น กินได้ทั้งครอบครัว สามีกิน อร่อยถึงภรรยา พ่อกิน ลูกอร่อย...เอ๊ย อร่อยทั้งพ่อลูก ลูกคนโตกิน อร่อยถึงคนสุดท้อง ของเขาดีจริงๆไม่อิงละคร...อยากรู้พิซซ่าดาราอร่อยด้วยรสชาติมหาวินาศแค่ไหน ต้องซื้อไปลอง...ชิ้นละ 15 บาทเท่านั้นค่ะ"

พสุร้องจ๊ากเมื่ออลินขึ้นราคาเป็น 15 บาท แต่อลินไม่สน แจกแจงของที่นำมาทำ ชีส ไส้กรอก แฮม เบค่อน ล้วนสั่งตรงส่งทางเครื่องบินด้วยมือแอร์โฮสเตสสาวสวย...

"เร่เข้ามาเลือกซื้อได้เลย มีไม่มากนะคะ มาขายวันนี้วันเดียว ราคาเดียว...ชิ้นละ 18 บาท"

"ไหนบอกว่าชิ้นละ 15 บาท" ลูกค้าผงะแล้วถาม

"ขึ้นราคาแล้วค่ะ ของดีมีน้อย จะให้อร่อยต้องแพงเป็นของแกล้ม...เอ้า ถ้าช้ากว่านี้ราคาขึ้นอีกนะคะ...เข้ามาเลยค่ะ พ่อแม่พี่น้อง ของดี ของถูก หมดแล้วหมดกัน วันหน้าไม่มีให้กินแล้วนะคะ"

อลินตอนนี้ดิ้นขายของจนตัวโยน ปากเปียกปากแฉะ ไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย พสุมองจนหายขำ แต่เกิดความรู้สึกใหม่ ขึ้นมาตงิดๆตรงประตูหัวใจ ทำไมถึงอุตริอยากจะแง้มรับลูกศิษย์คนนี้ขึ้นมาหมาดๆแล้ว จากนั้นจะรีบปิดประตูขังไว้ ให้แน่นหนาที่สุดด้วย...

ooooooo

เย็นมากแล้ว...ถาดพิซซ่าว่างเปล่า ผู้คนในตลาดนัดเริ่มบางตา โสภิตานับเงินต่อหน้าพสุ ขายได้ หนึ่งพันเจ็ดร้อยเก้าสิบบาท ขายได้มากกว่าที่คิด เพราะฝีมืออลินจริงๆ แล้วทั้งสองเอะใจว่าอลินหายไปไหน...

อลินไปอยู่ทางด้านหน้า กำลังถูกรุมล้อมจากแฟนคลับ มารุมขอลายเซ็น แม่อุ้มลูกจูงหลานตัวน้อยๆก็เบียดเข้ามาด้วย อลินยิ้มแย้มแก้มใส เซ็นให้อย่างเต็มใจจนมือเป็นระวิง...พสุเดินมาเห็น ต้องชะงัก อลินมองมา ยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข พสุโบกมือตอบอย่างเคอะเขิน อลินหันไปเปลี่ยนคู่สลับไป เมื่อแฟนๆขอถ่ายรูปกันตรึม...

จากนั้นทั้งสามคนก็ขับรถกลับ...ไปส่งโสภิตาที่ร้านของเธอ โสภิตากลับเข้าร้าน พสุกับอลินยืนกันอยู่ที่รถหน้าร้าน อลินส่งเช็คเงินสดให้พสุ บอกเป็นค่าสอนวันนี้ เธอเพิ่มให้อีก 20% ตอบแทนที่พามาขายขนมที่ตลาดนัด เธอมีความสุขมากที่ไม่ได้อยู่กับแฟนๆที่มาขอลายเซ็นนานแล้ว พสุบอกว่าวันนี้ เขาสอนให้ฟรี ไม่คิดเงิน อลินจึงต่อว่า เกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมา ทุกทีเห็นเขี้ยวลากดินแทบทะลุโลก เขาตอกกลับห้ามประชด อลินจึงรีบชมครูกุ๊กใจดีที่สุดในโลกเลย ทั้งโอ๋ยั่วให้ยิ้ม แล้วขอเปลี่ยนเป็นเลี้ยงข้าว พสุกลับผงะด้วยตกใจ

"เลี้ยงข้าวอีกแล้วเรอะ จะมาหลอกไปให้ใครด่าเล่นอีกล่ะ"

"แหม...ไม่หรอกน่า คราวนี้เลี้ยงจริงๆ ตอบแทนสำหรับ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งเรื่องสอนพิซซ่า พาไปตลาดนัด อ้อ แล้วพามารู้จักกับเพื่อนน่ารักอย่างคุณตา"

"คุณไม่ต้องเลี้ยงข้าวผมหรอก แต่คุณจำความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็พอ"

"ไม่ต้องห่วง...วันนี้ฉันทั้งสนุก มีความสุขมาก ฉันสัญญาจะไม่ลืม...โอเค้" อลินทำหน้าทะเล้นให้

ในรอยยิ้มทะเล้นนั้นมันตราตรึงน่าทะนุถนอมอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน พสุพยักหน้ายิ้มขวยเขิน แต่ต้องเตือนตัวเองว่า หัวใจเจ้าเอ๋ย เจ้าไม่ใช่ไอติมนะ จะเกิดละลายไปง่ายๆได้ไง...เฮ้อ

กว่าจะทำใจได้ อลินก็กลับไปแล้ว พสุกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน หารู้ไม่ว่าโสภิตาไปแอบมองมาจากในร้านนานแล้ว เห็นสีหน้าของพสุอิ่มเอิบอาบความหวานซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ สงสัยว่าจะมีใครมาจุดไฟใส่ความหวังให้เสียแล้ว

โสภิตาจึงเปรยขึ้นเมื่อพสุมานั่งลง ว่าคุณลินน่ารักดีนะ สนุกสดใส ร่าเริงดีแท้ พสุบอกว่าบ๊องมากกว่า โสภิตายืนยันว่า แต่เธอก็ทำให้ดินยิ้มได้ ทั้งๆที่นอกจากเวลาคุยกับปูเป้แล้ว ดินไม่เคยยิ้มหัวเราะกับใครมาก่อนเลย พสุยืนยันว่ามีก็แล้วกัน อย่าซักมาก แล้วพสุก็เสไปว่า เย็นมากแล้ว เขาอาสาไปรับปูเป้

จากโรงเรียนดีกว่า...ว่าแล้วรีบเผ่นหนีออกจากร้านไป...พสุกลับเดินคิดหนักถึงคำพูดของโสภิตา คิดแล้วอดยิ้มไม่ได้ แต่ หลอกตัวเองว่าไม่จริง ขืนเป็นแบบนั้น ก็บ้าแล้ว...

ooooooo

นายวายุหรือลม น้องต่างมารดาของนายดินพสุ ยังดิ้นรนที่จะหาเงินด้วยการติดปีกสีทองต่อไป เขาวางเส้นทางเดินว่าจะต้องไปใกล้ชิดกับดาราที่อุดมด้วยทรัพย์สมบัติ เพื่อจะหาทางตกถังข้าวสารให้ได้

พอเอาความคิดที่จะเปิดตัวเขาและร้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการที่พวกดาราจะมาเป็นลูกค้าที่ร้าน จะได้ฟื้นจากการขาดทุนเสียที หมิงฟังแล้วบอกเขาไม่ต้องไป หมิงจะพาเพื่อนๆมาอุดหนุนที่ร้านเอง ลมรีบห้าม พวกนี้ไม่ขอส่วนลดก็ขอของฟรีมากกว่า ขอที่ไม่สนิทกับหมิงจะดีกว่า ถ้าหมิงไม่พาเขาไปกองถ่าย เขาจะหาคนอื่นพาไปก็ได้ หมิงยิ่งระแวง ถ้านายลมมีอะไรแอบแฝง หมิงหรือจะยอมได้ ไม่เชื่อคอยดู...

ส่วนเพรียว เมื่อเจ้านายอนุชาขอให้หาเบอร์โทร.กุ๊กพสุให้ เธอพยายามหลายวัน เพิ่งนึกออกว่าคนที่จะช่วยได้คือทนายปฏิคม เพรียวรีบโทร.ไปหาเขาทันที ซึ่งก็ได้มาโดยไม่ยากนัก...

เช้าวันนี้...อลินโทร.มาหาพสุแต่เช้า ขณะที่ยังเพิ่งรู้สึกตัวบนที่นอน อลินร้องเสียงแหบแห้งมา ให้เขารีบช่วยเธอด้วย...พสุจึงจำต้องรีบแหกขี้ตาไปหาเธอที่คอนโดฯแต่เช้า แต่เมื่อไปถึง อลินก็แต่งตัว จะไปทำงานแล้ว เธอบอกว่าตื่นขึ้นมาก็เสียงแหบแห้ง แต่ต้องไปถ่ายละครตอนเช้านี้ด้วย พสุบอกเจ็บคอเพราะไปตะโกนขายของ อลินไม่ให้พูดมาก ให้ครูกุ๊กไปหายามาให้ แล้วรีบตามเอาไปให้ที่กองถ่าย เธอจะไม่ยอมพูดกับใครจนกว่าจะมีเสียงปกติ...ว่าแล้วอลินก็รีบออกจากห้องไป ไม่ฟังเสียงใครด้วย

พสุยืนงง ถามตัวเองว่า แล้วมันเรื่องอะไร ที่ต้องตามดูแลรับใช้แม่ดาราคนนี้ด้วย?

ooooooo

อนุชาไปหาโสภิตาที่ร้านเป้หวาน วางเช็คให้เธอ พร้อมบอกว่าเป็นค่าซ่อมแซมร้าน ให้ถือว่าเขารับผิดชอบแทนคุณแม่ของเขาก็แล้วกัน โสภิตาขอบคุณเขา แต่เธอรับเช็คไม่ได้ เพราะมันไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น

"เราเดินวนกับเส้นทางเดิมๆมานานแล้ว เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆดีกว่าค่ะ"

"ตาหมายถึงผู้ชายคนนั้นใช่ไหม" อนุชารุก

(อ่านต่อพรุ่งนี้)

@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 12