@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 11
ตอนที่ 11 (ต่อจากวานนี้)
ขณะเดินตามกันออกมา ส้มเสี้ยวบอกญาณีว่าตนนึกได้แล้วว่ากำไลของตนหายตอนตบตีกับรักเร่ ฉะนั้นคนที่อยู่ เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องเป็นกัญญาภัคแน่นอน และงานนี้ตนก็ไม่ยอมโดนตบฟรีๆด้วย ญาณีฟังแล้วคันไม้คันมือไม่น้อย แต่คิดว่างานนี้ปล่อยให้ส้มเสี้ยวลงมือแทนดีกว่า
ส้มเสี้ยวตามไปเอาเรื่องรักเร่ด้วยการละเลงขี้ช้างใส่หน้าเละเทะ ก่อนจะเอาหญ้ายัดปากจนรักเร่ดิ้นพราด จตารียืนมองอยู่แต่แรกได้ยินทุกคำที่ส้มเสี้ยวคาดคั้นเอาเรื่องรักเร่ จึงเข้ามาดึงรักเร่ขึ้นมา แล้วกางเล็บข่วนหน้าจนรักเร่ร้องลั่นเลือดซิบ ส้มเสี้ยวเห็นความโหดของจตารีก็รีบเดินหนี ขณะที่จตารีหันขวับกลับไปทางห้องที่เพิ่งออกมา
จตารีกลับเข้ามาเผชิญหน้ากับศิศิรา ทีฑายุ และกัญญาภัคอีกครั้ง แต่ไม่ทันจตารีจะพูดอะไร กัญญาภัคก็ชิงด่าเธอด้วยถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม
"ผิวเธอคงหยาบกร้านกระด้างจนไม่รู้จักมารยาทชั้นสูง ถึงได้แบกหน้ากล้ายืนอยู่ในวังนี้อีก"
"ฉันมาพบเจ้าหญิง" จตารีจะก้าวเข้ามาใกล้ แต่ศิศิราเอ่ยเสียงต่ำแสดงความไม่พอใจ
"ทีฑายุ...บอกผู้หญิงของเธอด้วย ในวังมีอีกหลายที่ที่เขาจะเดินอวดเรือนร่าง แต่ไม่ใช่ในห้องปักไหมของแม่เรา"
"เจ้าหญิงคงรังเกียจหญิงผู้มีอาชีพพลีกายและเรือนร่างให้ความสุขสมกับชายไม่เลือกชั้นวรรณะ" กัญญาภัคยิ้มหยัน
"ถึงหญิงอย่างฉันจะเป็นรอยด่างที่น่ารังเกียจ แต่ฉันก็รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป...ฉันจะมาขอโทษเจ้าหญิงที่ล่วงเกินโดยไม่ฟังเหตุผล แต่ส่วนคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง คงไม่ต้องให้หญิงปัญญาต่ำขายร่างกายอย่างฉันชี้หน้าหรอกว่ามันเป็นใคร เพราะคนแบบนี้ความชั่วมันฝังใน" จตารีจิกตาใส่กัญญาภัคก่อนจะหันมาก้มศีรษะให้ศิศิราแล้วถอยออกไป ศิศิรายิ้มเข้าใจ แต่แกล้งถาม
กัญญาภัคว่าที่จตารีพูดหมายถึงใคร รู้หรือเปล่า
กัญญาภัคหน้าเจื่อนเมื่อหันมาเห็นแววตาดุๆของทีฑายุ พลางก็ชำเลืองมองศิศิราที่เดินเชิดออกไป
"ดอกไม้กลีบช้ำอย่างจตารีไม่มีศักดิ์ศรีให้ใครเชื่อถือนะคะ หรือว่าพี่ทีฑายุจะเชื่อคำพูดนางบำเรอมากกว่าน้อง" กัญญาภัคพยายามแก้ตัว
"จตารีไม่ได้อยู่ในฐานะที่เธอยัดเยียดให้เขา ขอให้ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จตารีจะถูกกลั่นแกล้งโดยไม่มีความผิด" ทีฑายุเอ่ยเสียงแข็งแล้วเดินหน้าตึงออกไปอีกคน กัญญาภัคโมโหระบายอารมณ์กับกองผ้าซะกระจุยกระจาย และพึมพำด้วยความเจ็บแค้น
"ไม่มีครั้งสุดท้ายสำหรับผู้หญิงหน้าไหนที่มาแย่งความรักของพี่ทีฑายุ"
ศิศิราออกไปร้องไห้ที่ปางช้างใกล้วัง มาณสิงห์เดินมาเห็นน้ำตาศิศิรา ในใจเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน และรู้ดีว่าใครที่ทำให้เจ้าหญิงของเขาทุกข์ระทมถึงเพียงนี้ มาณสิงห์หันกลับไปเอาเรื่องทีฑายุ แต่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมจึงเกิดต่อสู้กัน โกญจนาทโผล่มาเห็น ตวาดมาณสิงห์อย่างดุดัน แต่มาณสิงห์หาได้เกรงกลัว ชักปืนออกมาหมายฆ่าทั้งลุงทั้งหลาน
"เอาเลยมาณสิงห์ หัวใจฉันอยู่ตรงนี้" โกญจนาทแอ่นอกท้าทาย มาณสิงห์แตะไกปืน แต่พริบตานั้นเอง สันธิเดินเข้ามาร้องห้ามมาณสิงห์ เตือนให้รู้ว่าฆ่าผู้สำเร็จราชการก็เท่ากับฆ่าองค์กษัตริย์ มาณสิงห์ชะงัก มองโกญจนาทที่หัวเราะหยัน
"นี่เหรอลูกชายของแม่ทัพสันธิ กร่างถึงขนาดควงปืนจะยิงตัวแทนประมุขแห่งปัญจารัตน์ หมดสิ้นแล้วเกียรติแห่งองครักษ์ ทำตัวเลวยิ่งกว่ากุ๊ยข้างถนน"
มาณสิงห์สุดทนจะพุ่งเข้าใส่โกญจนาท สันธิรีบสกัด รวบตัวลูกชายลากออกไป
"ฉันรู้แล้วว่าสิ่งที่แกมีไม่เท่ามาณสิงห์ คือลมหายใจเข้าออกที่มีเพื่อหญิงเดียว แต่สำหรับการแต่งงานเพื่อความมั่นคงของฉัน แกไม่จำเป็นต้องมีหัวใจ...ทำให้เจ้าหญิงยอมแต่งงานซะ ก่อนที่แกจะแพ้มาณสิงห์ผู้น่าสงสาร"
ทีฑายุนิ่งฟังทั้งๆที่ในใจพลุ่งพล่านเมื่อถูกเปรียบเทียบกับมาณสิงห์...ส่วนมาณสิงห์ถูกสันธิลากตัวไปในค่ายทหาร แล้วต่อว่าอย่างฉุนเฉียว
"ความบ้าคลั่งของแกจะทำให้แผนกอบกู้บัลลังก์ของเจ้าหญิงพังพินาศ"
"โกญจนาทมันปลดพ่อไม่ได้"
สันธิโมโหตบหน้ามาณสิงห์ดังฉาด "มันทำแน่ มันทำได้ถึงขั้นสั่งฆ่า ถ้าเราตาย เจ้าหญิงจะเหลือใคร"
มาณสิงห์พูดไม่ออก สันธิหันกลับไปด้วยความโมโห วิชัยที่ยืนมองอยู่แต่แรก เอ่ยสั่งสอนมาณสิงห์
"ใช้สติกับเหตุผลซะบ้าง ทุกวินาทีต่อไปนี้ เราต้องคิดก่อนทำ เพราะคนที่จะรับเคราะห์แทนทุกคนคือเจ้าหญิงศิศิรา"
ครั้นวิชัยคล้อยหลังไป มาณสิงห์ก็ยกเก้าอี้เหวี่ยงไปสุดมุมห้องระบายความโกรธ ธนูเพลิงเดินเข้ามาหยุดมองนายของตนเงียบๆ
"ถ้าฉันยังปล่อยพวกมันไว้ น้ำตาเจ้าหญิงจะไม่หยุดไหล ชีวิตเจ้าหญิงจะถูกย่ำยีอย่างหยาบช้า ทารุณ ฉันยอมไม่ได้... ธนูเพลิง ฉันยอมให้ทีฑายุมันข่มเหงเจ้าหญิงไม่ได้อีกแล้ว"
แววตามาณสิงห์วาบขึ้นด้วยแผนการณ์ที่มาจากความเจ็บแค้นเต็มหัวใจ
ooooooo
ตกกลางคืน ทีฑายุเข้ามาเย้ยศิศิราถึงในห้องนอน ด้วยเรื่องมาณสิงห์องค์รักษ์ผู้ภักดี สงสัยคราวนี้จะไม่รอด โทษประหาร ศิศิราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอตอนนี้ห่วงเรื่องที่โกญจนาทจะสั่งปลดแม่ทัพสันธิมากกว่า จึงต่อรองทีฑายุว่า ถ้าเขายับยั้งการปลดแม่ทัพสันธิได้ เขาจะพาจตารีเข้ามาในวังได้ทุกเวลา
"ไม่ใช่ข้อแลกเปลี่ยน เพราะอะไรที่เป็นความพอใจของผม เจ้าหญิงไม่มีสิทธิ์หึง หวง ห้าม"
"หัดมีความเกรงใจกันบ้าง"
"ในฐานะอะไร สามีภรรยาหรือเปล่า" ทีฑายุรุกคืบเข้าหา ศิศิราจะถอยหนี แต่ทีฑายุรวบตัวเธออย่างรวดเร็ว "เจ้าหญิงน่าจะขอบใจมากกว่า ที่ผมอุตส่าห์พาจตารีมาสอนเสน่ห์มัดใจสามีก่อนวันวิวาห์ ถามจตารีสิว่าผมชอบให้เอาใจแบบไหน"
ศิศิราสะบัดสุดแรง วิ่งไปคว้ามีดที่ซ่อนใต้หมอนออกมาแทงทีฑายุ แต่ทีฑายุตาไว คว้าหมอนอิงมาบังทันท่วงที แล้วปัดจนมีดหล่นกระเด็น
"เราไม่เคยคิดจะทนอยู่กับเธอสักนาทีเดียว" ศิศิราประกาศกร้าว
"หัดทนซะ เพราะเรากำลังจะต้องอยู่ด้วยกันทุกวินาที สองต่อสอง แบบไร้องครักษ์มาเกะกะกวนสายตากวนอารมณ์" ทีฑายุยิ้มเยาะมุมปาก ศิศิรามองตอบโต้ด้วยความเกลียดชัง
ทางด้านมาณสิงห์ เขากำลังสั่งการบางอย่างแก่ธนูเพลิง... สิ่งเดียวที่มาณสิงห์ต้องการคือความตายของพวกโกญจนาททุกคน!
ooooooo
เช้ารุ่งขึ้น กัญญาภัคแอบฟังแม่ทักท้วงโกญจนาท เรื่องจะปลดแม่ทัพสันธิ เพราะสินาตีเกรงว่าพวกลูกน้องสันธิจะคิดจับอาวุธเป็นกบฏขึ้นมา
"ขืนมัวแต่กลัวเรื่องขี้ผงใต้เท้าเหมือนเธอ ฉันคงไม่มีวันได้ก้าวขึ้นไปยืนบนบัลลังก์แสงจันทร์"
"แต่เราก็แค่ได้ยืนตรงนั้นโดยยังไม่มีการสถาปนา ยังไม่มีการประกาศให้คนทั้งแผ่นดินรู้ว่าเราคือกษัตริย์และราชินีแห่งราชวงศ์ใหม่ ไหนล่ะคะ แผนกลืนสายเลือดที่ท่านหวังใช้งานทีฑายุหลานชายคนโปรด"
"ทีฑายุกำลังจะแต่งงานกับศิศิรา"
"เมื่อไหร่ รอนานเหลือเกินนะคะ กะแค่บังคับเจ้าหญิงคนนึงให้ยอมเป็นเมีย หรือว่าฉันต้องรอเก้อ ที่จะได้เป็นราชินีเคียงคู่กษัตริย์โกญจนาท"
โกญจนาทขุ่นใจแต่ไม่อยากต่อปากต่อคำ เดินออกไป กัญญาภัคก้าวออกมาจากอีกมุม ตรงเข้ามาหาสินาตี
"มองไม่ออกเลยเหรอแม่ ว่าโกญจนาทมันหลอกให้เราฝันไปวันๆ ทั้งๆที่มันเตรียมการจะเป็นใหญ่ผ่านการแต่งงานของพี่ทีฑายุกับศิศิรา"
"เขาจะไม่หักหลังฉัน"
"งั้นก็เชิญแม่อยู่กับความฝันลมๆแล้งๆต่อไป" กัญญาภัคจะผละไป สินาตีรั้งแขนลูกสาวไว้
"ฉันได้ข่าวว่าแกกับไมยาดินแอบคุยกันบ่อยๆ"
"ทำไมล่ะคะ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่ไม่อยากคุยกับกัญญา"
"ไมยาดินน่ะ มันแค่ทหารลูกน้องพ่อ"
"นั่นไง ลูกน้องมีหน้าที่รับใช้ แล้วกัญญาก็มั่นใจว่า เลือกใช้คนไม่ผิด" กัญญาภัคทิ้งทายยิ้มๆ สินาตีมองตามลูกสาว ด้วยความสงสัย แล้วกัญญาภัคก็ไปหยอดความหวังให้ไมยาดินคิดฝันใหญ่โต ถ้าเธอเป็นโกญจนาท หลังปลดแม่ทัพสันธิวันนี้แล้ว เธอจะไม่มีรอสักนิดที่จะแต่งตั้งไมยาดินให้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพคู่ใจ...
เพราะรู้ว่าวันนี้โกญจนาทจะสั่งปลดสันธิแล้วแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่ ศิศิราวุ่นวายใจอย่างยิ่ง ต่างจากมาณสิงห์ที่ดูนิ่ง สงบมาก แถมยังบอกให้ศิศิราวางใจ วันนี้จะไม่ใช่วันที่พวกมันยิ้มแย้ม
"มาณสิงห์...คิดอะไรอยู่"
"มิบังควรที่น้ำตาของเจ้าหญิงจะตกต้องลงอาบแก้มอีก มิบังควรที่เจ้าหญิงจะต้องทุกข์ทนเพราะจิตใจที่งดงาม"
"เราอยากให้มาณสิงห์ห่วงตัวเองบ้าง"
"สำหรับกระหม่อม ศิศิราจะเป็นชื่อเดียวที่ต้องทะนุ ถนอมให้ยิ่งกว่าชีวิต จะเป็นชื่อเดียวที่อยู่ในหัวใจมาณสิงห์ตราบ สิ้นลมหายใจ กระหม่อมขอเป็นคนรักษาน้ำค้างหยดนี้ให้ บริสุทธิ์...เสมอไป"
ขณะเดียวกันนั้น ธนูเพลิงปลอมตัวเป็นชาวบ้านแบกกล่องเครื่องดนตรีเข้ามาในวัง บอกกับทหารยามว่าเขาเอาเชลโลมาส่งคุณทีฑายุ รักเร่เดินมาเห็นธนูเพลิง มองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าธนูเพลิงคือลูกน้องของมาณสิงห์...รักเร่วิ่งตามธนูเพลิงไปเร็วจี๋ ธนูเพลิงเลยต้องจับรักเร่ไปขังในห้องหนึ่ง ก่อนรักเร่จะโวยวายจนเสียแผน
จากนั้นธนูเพลิงรีบแบกกล่องเข้าไปในห้องดนตรีซึ่งมาณสิงห์รออยู่...รอจะให้รางวัลไอ้เสี้ยนหนามแผ่นดินที่คิดจะอยู่เหนือบัลลังก์ ด้วยระเบิดที่บรรจุอยู่ในกล่องที่สั่งให้ธนูเพลิงจัดหามา
"นายครับ ระเบิดขนาดนี้ นายจะเอาเข้าไปในท้องพระโรง ได้ยังไง" ธนูเพลิงถามด้วยสีหน้าหนักใจ มาณสิงห์ไม่ตอบ แต่แววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว...
ooooooo
ตอนที่ 12
ภายในท้องพระโรง โกญจนาทกำลังรอเวลาที่ทุกคนมาพร้อมหน้าเพื่อจะสั่งปลดแม่ทัพสันธิ แล้วแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่ในคราวเดียวกัน แต่เพียงแค่ โกญจนาทเปิดฉาก วิชัยก็คัดค้านสุดตัว...ขณะเดียวกัน ทีฑายุกับเพื่อนทั้งสามคนกำลังจะพาธราเทพมายังท้องพระโรง แต่หลอกธราเทพว่าจะพาไปพบศิศิรา
ส่วนมาณสิงห์กับธนูเพลิงที่เตรียมการสังหารหมู่ ให้หมดสิ้น มาณสิงห์ถึงขนาดยอมพลีชีพ เอาระเบิดมัดติดไว้กับตัวภายในเสื้อที่สวมใส่ โดยไม่ลืมกำชับศิศิรา ห้ามเข้าไปในท้องพระโรงเด็ดขาด แต่แผนของมาณสิงห์ทำท่าจะมีอุปสรรคเสียแล้ว เมื่อประสันต์เห็นธนูเพลิงวิ่งลับๆล่อๆมุมหนึ่งในวัง แล้วตามไปรวบตัวธนูเพลิงมาคาดคั้นต่อหน้าทีฑายุว่า มาณสิงห์ กำลังจะทำ
อะไรให้เจ้าหญิง
ขณะเดียวกัน กัญญาภัคตามหารักเร่ไม่พบ กระทั่งเดินมาเจอไมยาดินที่กำลังจะไปท้องพระโรง กัญญาภัคจึงวานไมยาดินช่วยตามหารักเร่ แต่ไมยาดินกำลังรีบ จึงเรียกทหารมาช่วยแทน ครู่ต่อมาทหารก็ค้นหาไปจนพบรักเร่ที่ถูกมัดไว้ในห้องหนึ่ง พอรู้จากรักเร่ว่าธนูเพลิงแบกกล่องเชลโลเข้ามาในวัง กัญญาภัครีบมุ่งหน้าไปห้องดนตรี แล้วไปเห็นเศษสายไฟ กัญญาภัคหยิบมัน
ขึ้นมาพิจารณา อึดใจเดียวเธอก็ครางออกมา
"ระเบิด...มาณสิงห์จะใช้ระเบิด" กัญญาภัคจะวิ่งออกไป แต่แล้วหยุดชะงักอย่างนึกได้ "ถึงเวลาตายของแกแล้วโกญจนาท ฉันจะถือว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ แล้วก็รอดูตอนซากศพแกกองเกลื่อนหน้าบัลลังก์ ตายไปพร้อมๆกับไอ้คนดีอย่างมาณสิงห์"
กัญญาภัคยิ้มมีความสุข เดินเข้าไปในห้องหนึ่ง หยิบรูปโกญจนาทที่ผนังเหวี่ยงลงพื้น แล้วตามกระทืบซ้ำอย่างสะใจ
"หมดเวลาของแกแล้ว ไอ้พ่อเลี้ยงเจ้าเล่ห์ บัลลังก์ แสงจันทร์ต้องเป็นของฉันกับพี่ทีฑายุ"
จังหวะนี้เอง ไมยาดินนำทหารเดินสำรวจความเรียบร้อย ก่อนถึงท้องพระโรง ไมยาดินมองเข้าไปเห็นกัญญาภัคในห้อง จึงตรงดิ่งเข้าไปทัก กัญญาภัคตกใจชักเท้าออกทันที รีบก้มลงหยิบรูปขึ้นมา
"เธอเหยียบรูปท่านโกญจนาททำไม"
"ลื่น...ยั้งไม่อยู่ เมื่อกี๊ญาณีเข้ามาฟาดหัวฟาดหางจนรูปท่านโกญจนาทหล่นลงมา เราทนไม่ได้ ทนไม่ได้จริงๆที่เกียรติ ของท่านจะถูกน้ำมือนางข้าหลวงกระชากลงมาให้ต่ำติดพื้น"
ไมยาดินเชื่อสนิท เข้ามาช่วยหยิบรูปนั้นไปตั้งไว้บนเก้าอี้ กัญญาภัคลอบผ่อนลมหายใจ แต่แล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อไมยาดินหันมาบอกให้รีบไปที่ท้องพระโรงด้วยกัน กัญญาภัคอึกอักเพราะนึกถึงระเบิด
"ไปท้องพระโรง...ไม่ดีกว่า เราไม่มีหน้าที่ตรงนั้น"
"ต้องไป กำลังจะมีเหตุการณ์สำคัญ ที่ชี้ชะตาว่าใครจะ อยู่ ใครจะไป"
กัญญาภัคฝืนยิ้มฝืดๆ เพื่อไม่ให้ไมยาดินสงสัย ก่อนจำใจก้าวเดินตามเขาไปอย่างเชื่องช้า พอไมยาดินหันมาเร่ง กัญญา ภัคจึงแกล้งเหยียบชายกระโปรงล้มลง แล้วอ้างว่าข้อเท้าแพลง คงเดินไปถึงท้องพระโรงไม่ไหว
"ไปเอาเก้าอี้มาแบกคุณกัญญาภัค...เร็ว" ไมยาดินสั่งทหาร กัญญาภัคสวนทันทีว่าไม่ต้อง แล้วก้มหน้าซ่อนความ เครียด ใจระทึกคิดหาทางเลี่ยงการไปท้องพระโรง...
เวลานั้น ทีฑายุกับดรัณย์ตามรวบตัวมาณสิงห์ได้แล้ว ทีฑายุตกใจสุดๆ เมื่อพบว่ามีระเบิดติดอยู่กับลำตัวมาณสิงห์
"คิดจะสละชีวิตเพื่อบัลลังก์ เมื่อไหร่แกจะฉลาดขึ้นมาบ้าง"
"ฉันยอมเป็นคนโง่ที่สุด ดีกว่าฉลาดแกมโกงอย่างพวกกบฏอัปรีย์"
ทีฑายุศอกเข้าปลายคางมาณสิงห์ ศิศิราวิ่งผ่านมาเห็นมาณสิงห์ถูกทำร้าย เธอร้องเรียกมาณสิงห์ด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วผงะตกใจ เมื่อเข้ามาใกล้เห็นระเบิดติดกับตัวมาณสิงห์
"เลือกมาศิศิรา จะให้คนรักตายแบบไหน" ทีฑายุล็อกคอมาณสิงห์เงยขึ้นอย่างแรง "เจ้าหญิงต้องเลือก...เดี๋ยวนี้"
"ปล่อยเขา...ทีฑายุ"
"ปล่อยให้มันเข้าไประเบิดทุกคนในห้อง แม้กระทั่งเจ้าชายธราเทพให้เป็นศพด้วยใช่มั้ย"
ศิศิราหันไปอีกทาง เห็นประสันต์กับมาลข่านพาธราเทพกับบัวบุศเข้ามา ศิศิราขยับจะไปหาน้อง แต่ถูกทีฑายุกระชากไว้ มาณสิงห์จะลุกไปช่วยศิศิรา ดรัณย์เลยประเคนหมัดเข้าหน้าจนหงายไปอีก พี่เลี้ยงบัวบุศตกใจกอดเจ้าชายธราเทพไว้อย่างปกป้อง
ดรัณย์ล็อกมาณสิงห์จนดิ้นไม่หลุด ขณะที่ทีฑายุกระชากข้อมือศิศิรา แล้วสั่งเฉียบ
"อย่าคิดจะอ้อนวอนอะไรอีก เข้าไปในห้อง แล้วบอกกับทุกคนว่าเราจะแต่งงานกัน"
"อย่าฟังมัน เจ้าหญิง" มาณสิงห์พยายามสะบัด แต่ ดรัณย์ไม่ปล่อยหลุดมือ ทั้งเตะศอกอัดเข้าไปอีกหลายที
"หรืออยากให้มันเข้าไปรับผิดต่อหน้าลุงโกญจนาทในสภาพนี้ เลือกมาศิศิรา จะให้มาณสิงห์ถูกยิงเป้าทั้งๆที่มีระเบิด ติดตัว หรือจะแต่งงานกับเรา"
ศิศิราน้ำตาร่วงพรู มองมาณสิงห์อย่างลังเล
"ขอให้ผมตายอย่างมีเกียรติ ที่ได้ใช้ลมหายใจเพื่อเจ้าหญิงเถอะครับ" มาณสิงห์เปล่งวาจา แววตาวิงวอน ไม่กลัวตาย...
อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 11
(อ่านต่อพรุ่งนี้)