@^@..อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 7

อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 7

ตอนที่ 7 (ต่อจากวานนี้)

ขณะทินรัตน์กำลังหันกลับออกจากห้อง จอมขวัญสะลึมสะลือเรียกใหม่หลายครั้ง ทินรัตน์บ่นไม่ชอบใจว่าหายใจเข้าออกเป็นไอ้ใหม่ คงผิดหวังที่มันไม่ยอมนอนกกนอนกอด... จอมขวัญลืมตาเห็นหลังไวๆ พอเดินสะโหลสะเหลออกไปหน้าห้อง ก็เห็นเขาผลุบเข้าลิฟต์ลงไปแล้ว จอมขวัญได้แต่คิดว่า เพราะเธอลืมล็อกห้อง ใหม่เลยเล่นตลก กลับไปแล้วยังแอบเข้ามาแกล้งกันอีก

ออกจากคอนโดฯ แทนที่จะกลับบ้าน ทินรัตน์กลับไปโผล่ที่คลินิกหมออติ สั่งการให้เขาไปดูแผลจอมขวัญว่าจะฉีดยากันบาดทะยักได้หรือเปล่า จะเป็นอันตรายอะไรกับเด็กในท้องไหม อติเห็นความร้อนรนของเพื่อน จึงดักคอเพื่อจับพิรุธ

"พรุ่งนี้เช้าคงไม่สายเกินไปหรอกน่าที่ฉันจะไปดูอาการ เด็กนั่น ขืนไปตอนนี้คนแถวนั้นจะครหาว่าไปลักหลับเขา...เอ แล้วนายไปทำไมตอนดึกๆดื่นๆ"

"ก็...ก็บอกแล้วไงว่าไปดูหลาน อย่ามาพูดมากน่าหมอ" ทินรัตน์อึกอักแก้ตัว อติอมยิ้มรู้ทัน...

แล้วเช้าวันใหม่ อติก็เตรียมตัวไปพบจอมขวัญที่

คอนโดฯ ในขณะที่จอมขวัญก็เตรียมจะออกไปทำงานกับสีนวลและป๋าที่เอารถมารอรับ สองฝ่ายเลยมาจ๊ะเอ๋กันหน้าคอนโดฯ จอมขวัญบอกหมออติว่าแผลห่างหัวใจ ไม่ถึงตายหรอก ว่าแล้วก็ขอตัวทันที เพราะมีธุระต้องไปทำ

ทินรัตน์เลี้ยวรถเข้ามาโดยไม่รู้ว่ารถที่สวนออกไปมีจอมขวัญนั่งอยู่ด้วย พอจอดรถรู้จากอติว่าจอมขวัญนั่งหน้าแฉล้มออกไปโน่นแล้ว ทินรัตน์ไม่พูดพล่าม หักรถกลับทันที จนอติต้องกระโดดถอยหนีแทบไม่ทัน...

ก่อนหน้าที่จอมขวัญจะลงจากห้อง เธอโทร.ไปต่อว่าอัสนีว่าเมื่อคืนเขาย้อนกลับมาอุ้มเธอจากระเบียงเข้าห้องนอน แล้วก็ย่องหายไปดื้อๆ ทำเอาอัสนีถึงกับนั่งกุมหัวงงงวยอยู่พักหนึ่ง กว่าจะฟันธงว่าต้องเป็นทินรัตน์ ไอ้เฒ่าหัวงูนั่นแน่ๆ

เวลานี้เอง เฒ่าหัวงูที่อัสนีพูดถึงกำลังขับรถจี้ตูดรถป๋าบนท้องถนน พร้อมกับกดแตรกระหน่ำจนป๋าตกใจว่าไอ้บ้านั่นเมายามาจากไหน หรือว่ามันรู้จักกับใคร สีนวลกับจอมขวัญมองไปแล้วสะดุ้งวาบ บอกป๋าเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้จัก แล้วจอมขวัญก็ยุให้สีนวลโทร.แจ้ง 191 ป๋าเห็นดีด้วยว่าคนพวกนี้ ต้องจัดการให้เข็ด

ทินรัตน์ขับรถตามจี้ไปจนถึงโรงถ่าย รถป๋าแล่นหายเข้าไปข้างใน แต่รถทินรัตน์ถูกยามและตำรวจมาประกบ ตำรวจขอตรวจค้นอาวุธ เพราะคนในรถคันนั้นแจ้งว่าเขาขับรถไล่ตาม ส่วนยามก็ไม่ยอมให้เข้าข้างในเด็ดขาด เพราะที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคล ฝ่าฝืนถือว่าบุกรุกสถานที่ ทินรัตน์เถียงไม่ออก ได้ แต่ฮึดฮัดขัดใจ

ส่วนที่บ้านแคท อัสนีหน้าตาขึงขังลงมาถามสารภีที่กำลังเสิร์ฟกาแฟให้แคทว่า เห็นผู้ยิ่งใหญ่บ้านโน้นไหม สารภีบอกคุณทินไปแล้ว ว่าแต่คุณใหม่หน้าตาอิดโรยมาก จะรับอะไรดี อัสนีสวนทันทีว่าลับมีดไง จะเอาไปฆ่าคน สารภีตกใจร้องว้าย ขณะที่แคทสงสัยว่ามีอะไร รีบลุกตามไปคาดคั้นน้องชาย ทำไมถึงอยากจะฆ่าทินรัตน์ อัสนีกลับยอกย้อนให้ไปถามเขาเอง ถ้าเขากล้าพูดความจริง พี่แคทคงจะได้รู้...ยิ่งฟังแคทยิ่งผวา คิดว่าน่าจะเกี่ยวโยงกับจอมขวัญ จึงขอร้องน้องชายบอกมา ขอให้เห็นแก่เราสองคน เพราะพี่เคยบอกแล้วว่าจะยกเด็กนั่นให้น้อง น้องต้องดึงมันไปจากคุณทิน เพื่อเรา...

"เพื่อพี่แคทต่างหาก...แต่ก่อนแต่ไรพี่แคทขยะแขยงจอมขวัญ กลัวจะมาแปดเปื้อนผม แล้วนี่อะไร พยายามผลักไส ให้ผมไปดึงเธอมาอิงแอบ ผีขุมที่ไหนมันมาเปลี่ยนใจพี่แคทให้ยอมรับจอมขวัญเป็นน้องสะใภ้"

"ก็...เอ่อ...คนเรามันดูภายนอกไม่รู้หรอก บางทีความจริงจอมขวัญอาจไม่ได้มีพื้นเพต่ำต้อยอย่างที่เราคิดก็ได้"

"พี่แคทคิดจะได้คุณทินผู้วิเศษไว้ในกำมือ แล้วพยายามผลักไสผมไปให้จอมขวัญ เศษขยะในสายตาของพี่แคท อย่ามาปั้นเรื่องหลอกให้ผมงมงาย ไม่ว่าจอมขวัญจะพื้นเพอะไรยังไง ผมก็ไม่เคยปฏิเสธเธอ มีแต่เธอเท่านั้นที่ปฏิเสธผม เพราะเธอไม่ได้รักผม เธอมีคนรักแล้ว รู้เอาไว้ด้วย"

แคทผงะ อยากรู้ว่าเขาคนนั้นคือใคร อัสนีบอกไม่รู้ แคทกลับเดาว่าเป็นทินรัตน์ อัสนีเลยผสมโรง เท่านั้นเองแคท ถึงกับร้อนรนราวถูกผีเข้า ฉุดกระชากอัสนี ขอร้องอย่าให้จอมขวัญมายุ่งกับทินรัตน์

"จอมขวัญเขาอยู่กับที่ของเขา แต่คนที่รนไปหาที่ก็คือคุณทิน ลองถามเขาสิครับ ว่าเมื่อคืนผีสางตนไหนแอบไปลักอุ้มจอมขวัญตอนเธอหลับจากระเบียงไปถึงเตียงนอน นี่ถ้าเขาไม่ติดคิดว่าเธอท้อง คิดเอาเถิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น" อัสนีตอกหน้า แล้วเดินหนีทันที แคทยืนตะลึงเหมือนช็อก สารภีพลอยตื่นตระหนกไปด้วย และสงสัยว่าจอมขวัญเป็นใคร?

ฝ่ายเสาวรสที่ผิดหวังมากมายในการกระทำของทินรัตน์ เธอตัดสินใจถอดแหวนหมั้นใส่กล่อง เมื่อสรวงสังเกตเห็นนิ้วลูกสาวว่างเปล่า ถามลูกก็ตอบสั้นๆว่าถอดเก็บไว้ สรวงจึงให้แง่คิดเอาไปไตร่ตรองว่า คนเรารักกัน ถ้ามีปัญหากัน ฝ่ายหนึ่งผิดโดยที่อีกฝ่ายไม่ผิด เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่มาเคลียร์ แปลว่ามันตายไปแล้ว หรือไม่มันก็ไม่แคร์เราแล้ว...เสาวรสได้ฟังถึงกับนิ่งอึ้ง น้ำตาร่วงพรู

ooooooo

หลังจากตามเล่นงานจอมขวัญไม่ได้ตามใจนึก ทินรัตน์ก็เรียกคนรถของตัวเองมาใช้งาน ให้เอาของสามอย่างพร้อมการ์ดสามใบไปให้จอมขวัญ เสาวรส และแคท แต่ระหว่างเดินทางคนรถเกิดสับสนและเอาไปส่งผิดคนสลับกันไปหมด

จอมขวัญได้ดอกไม้พร้อมการ์ดข้อความที่ทินรัตน์ ตั้งใจให้แคท "ขอโทษด้วยเมื่อคืนที่ผมทำอะไรไม่เหมาะสมกับคุณ ยกโทษให้ผมด้วย ที่ล่วงเกินทั้งที่ไม่ควรทำ...ทินรัตน์" อ่านจบจอมขวัญนิ่งคิด แล้วเธอก็ยิ้มออกมา แน่ใจว่าคนที่อุ้มเธอจากระเบียงเข้าห้องนอนก็คือเขานี่เอง ถึงได้สำนึกผิดแบบนี้

ส่วนเสาวรสได้ช็อกโกแลตพร้อมการ์ดข้อความที่หยาบคายสุดๆ เพราะมันคือการ์ดที่ทินรัตน์ตั้งใจให้จอมขวัญ "หายใจเข้าหายใจออกเป็นไอ้ใหม่ อยากนอนกับไอ้ใหม่มันนักหรือ...อยากนอนกับใครก็เชิญ รู้จักป้องกันตัวเอาไว้บ้าง น่าไม่อายจริงๆ...ทินรัตน์"

เสาวรสอ่านจบหน้าซีดแล้วซีดอีก สรวงมองลูกสาวที่มือสั่นทำการ์ดตกพื้น จะหยิบขึ้นมาก็พอดีอัสนีเดินเข้ามาหยิบมันคืนให้เสาวรสเสียก่อน...เสาวรสเรียกชื่อใหม่ ทำให้สรวงมองชายหนุ่มอย่างพิจารณา ก่อนถามเสาวรสว่า เขาคือคนที่ลูกไปกินข้าวด้วยเมื่อคืนใช่ไหม เสาวรสไม่ทันตอบ อัสนีรีบยกมือไหว้สรวงทันที แล้วก็หันกลับมาสนใจเสาวรสที่สีหน้าไม่สู้ดี สงสัยว่าการ์ดใบนี้จะเป็นของทินรัตน์ เสาวรสจึงยื่นการ์ดให้เขา

อัสนีอ่านข้อความนั้นแล้วรู้สึกโกรธแทนเสาวรส ทำท่าเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ เสาวรสเลยต้องลากเขาออกไปพ้นสายตาพ่อของเธอ...

ด้านแคทเมื่อได้รับของและการ์ด ของในกล่องไม่ถูกใจแคท แต่ข้อความที่การ์ดถูกใจแคทสุดๆ ถึงกับอ่านทวนแล้วทวนอีกด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ "ผมขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ผมตัดสินใจแล้ว จะไม่ยอมให้อะไรมารั้งรอเราไว้อีก เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุดนะครับ...ทินรัตน์"

แคทเป็นปลื้มแทบจะกระโดดโลดเต้น หารู้ไม่ว่าการ์ดนี้ ทินรัตน์ตั้งใจส่งถึงเสาวรสคู่หมั้นของเขาต่างหาก...

ส่วนคนรถของทินรัตน์ หลังจากจัดส่งของเรียบร้อยก็กลับมานั่งเม้าท์เจ้านายให้สารภีฟัง ก็ด้วยเรื่องสิ่งของที่จัดส่งไปนั่นแหละ พูดไปพูดมาชักจะงงๆ แล้วก็แตกตื่นตกใจว่าตนส่งของผิดคนแหงๆ สารภีเลยซักเป็นการใหญ่ว่าของมีอะไรบ้าง?

ขณะเดียวกันนั้นจอมขวัญถ่ายแบบเสร็จแล้ว แต่ต้องไปต่อที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพราะป๋าจะเลี้ยงฉลองให้ แต่ความจริง ป๋าต้องการจะรวบรัดเพราะพิศวาสจอมขวัญต่างหาก จอมขวัญเอง ก็ไม่ค่อยไว้ใจ จึงหนีบเอาสีนวลติดตัวแจ แต่แล้วสีนวลกลับเห็นแก่ป๋า เปิดทางให้สองคนอยู่ในห้องที่มิดชิดสองต่อสอง ส่วนตัวเองหลบออกไปรออยู่ด้านนอก อ้างกับจอมขวัญว่าจะออกไปคอยพรรคพวกที่กำลังจะมาสมทบ

แล้วป๋าก็เริ่มแทะโลมจอมขวัญ จัดเงินให้ห้าหมื่น ทั้งที่ค่าจ้างงานชิ้นนี้แค่หมื่นห้า แล้วต่อไปป๋ายังจะปั้นหนูให้เป็นดารานางแบบระดับแถวหน้าของเมืองไทย แต่จอมขวัญขยะแขยงไม่เล่นด้วย ตบหน้าป๋าด้วยกุหลาบที่ทินรัตน์ส่งมา ป๋าเลยหน้าแหกเลือดซิบเพราะหนามกุหลาบ

จอมขวัญฉวยโอกาสที่ป๋าร้องโอดโอยวิ่งไปเปิดประตู แต่ต้องผงะเมื่อเห็นคณิตโอบเด็กสาวผ่านมา จอมขวัญจำเป็นต้องหันหน้ากลับกลัวพ่อจะเห็น ป๋านึกว่าเธอเปลี่ยนใจจึงจู่โจมเข้ากอด จอมขวัญไม่มีทางเลือกต้องซบหน้ากับอกป๋า เมื่อได้ยินคณิตทักป๋าอย่างสนิทสนม

ปรากฏว่าคณิตกับป๋าเป็นเพื่อนประเภทหัวงูด้วยกันนี่เอง สองคนทักทายกันไม่กี่ประโยค คณิตก็โอบเด็กสาวผละไป ส่วนป๋าก็ตะครุบจอมขวัญเข้าห้องแล้วจะลวนลามรังแก จอมขวัญดิ้นรนขัดขืน ปากก็บอกว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว

ทินรัตน์ที่แอบสะกดรอยตามจอมขวัญมาแต่แรก เขาเดินเมียงมองทางโน้นทางนี้ในร้านอาหาร จนมาเห็นสีนวลทำลับๆล่อๆอยู่มุมหนึ่ง แต่เขาไม่สนใจเดินเรื่อยไปอีก จนไปเห็นคณิตกำลังหัวเราะร่วนขณะเดินโอบเด็กสาว

"นี่นะหรือผู้ชายที่คุณแคทคิดจะยึดเอาไว้เป็นที่พึ่งพิงยามแก่เฒ่า...งี่เง่า" ทินรัตน์พึมพำอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ ยิ่งเกลียดคณิตเข้าไส้ แล้วเดินจากไป โดยที่คณิตไม่เห็นเขา

ผ่านห้องที่ทางร้านจัดเป็นส่วนตัว ทินรัตน์พยายามเงี่ยหูฟัง แล้วก็ไปสะดุดกับห้องหนึ่งที่มีเสียงผู้หญิงโวยวาย และเสียงผู้ชายหาว่าจอมขวัญโก่งค่าตัว...ได้ยินชื่อจอมขวัญ ทินรัตน์ถึงกับกระโดดถีบประตูห้องอย่างแรง แล้วตะบันหน้าป๋าจนปากแตก ก่อนจะดึงจอมขวัญออกจากห้องไป ป๋าร้องลั่นเรียกไอ้แมงดา ผู้คนแถวนั้นต่างพากันโผล่มาดู รวมทั้งคณิตด้วย ป๋าบอกคณิตว่าไอ้แมงดามันมาดึงตัวอีหนูของตนไป

คณิตมองตามมือป๋าที่ชี้ไป แล้วถึงกับครางชื่อลูกสาวออกมา...แต่คณิตไม่เห็นหน้าผู้ชายที่ดึงลูกสาวไปขึ้นรถขับฉิวออกไป จำได้แต่ยี่ห้อและสีรถเท่านั้น

ooooooo
อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 7
ตอนที่ 7 (ต่อจากวานนี้)

เสาวรสรู้สึกสบายใจขึ้นหลังจากอัสนีพาเธอไปพายเรือดูหิ่งห้อย และดูเหมือนความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเริ่มแน่นแฟ้นสนิทสนมกันมากขึ้นด้วย ช่วงหนึ่งขณะนั่งเรือเสาวรสตกใจกับนกที่บินโฉบมาใกล้เธอ ความตกใจทำให้เธอลุกพรวดขึ้นจนเรือโคลงและล่มในที่สุด

เสาวรสว่ายน้ำเป็น แต่เพราะความตกใจกลัวเธอเผลอตัวรัดคออัสนีแน่นจนเขาแทบหมดแรงหายใจไม่ออก กระทั่งเห็นเขาจะจมน้ำต่อหน้า เธอจึงเป็นฝ่ายพาเขาเข้าฝั่ง ปลอดภัยด้วยกันทั้งคู่

ส่วนที่บ้านทินรัตน์ แคทเพิ่งรู้จากสารภีว่าคนรถสับสนจนส่งของและการ์ดของทินรัตน์ผิดคน แต่แคทรู้ก็ทำเหมือนไม่รู้ และห้ามสารภีบอกทินรัตน์ด้วย...แคททึกทักเอาตามการ์ดที่ได้รับ หมายมั่นปั้นมือว่าจะรวบรัดทินรัตน์ให้ได้ ขณะแคท กำลังนั่งวาดฝันอยู่นี่เอง คณิตก็เดินดุ่มเข้ามาถึงตัว แคทตกใจรีบลุกขึ้นปั้นยิ้มต้อนรับ ทั้งที่ลึกๆแอบเหม็นเบื่อ

"ขอโทษด้วยที่ผลีผลามเข้ามาเงียบๆ ไม่รอให้ใครพาเข้ามา คือผมร้อนใจมากครับ"

"เชิญนั่งก่อนค่ะ"

"คุณแคททราบไหมครับว่าวันนี้ผมพบใคร"

สารภีหันขวับตะแคงหูฟังทันที แคทจึงจ้องตาเขียวใส่ ไล่สารภีไปจัดกาแฟกับผลไม้ไปที่ห้องนั่งเล่น...แล้วแคทก็ตระหนกตกใจเมื่อได้ยินคณิตบอกว่าเขาเจอลูกสาวกำลังจะโดนไอ้เสี่ยป๋าบ้ากามเคลม แต่แกหนีรอดไปได้

"โถ...โชคดีนะคะ" แคทปากไม่ตรงกับใจ

"อาจโชคร้ายก็ได้ครับ เพราะไอ้เสี่ยป๋ามันบอกว่าแกไปกับแมงดา"

"อะไรนะคะ แมงดาหรือคะ"

"ผมเลยเล่นงานไอ้เสี่ยป๋าซะย่ำแย่"

"อย่าเพิ่งใจร้อนสิคะ บางทีที่แกไปด้วยอาจไม่ใช่...เอ้อ ผู้ชายอย่างว่า แต่อาจเป็นแฟนแกก็ได้ค่ะ"

"อาจจริงก็ได้เพราะผมวิ่งไล่กวดมันมา มันพุ่งรถ

ออกไปพอดี เห็นท้ายรถไวๆยี่ห้อหรูราคาแพง แมงดาถ้าจะมีก็ต้องค้ายากันแล้ว"

แคทสนใจซักว่ารถยี่ห้ออะไร สีอะไร คณิตจำแม่นตอบอย่างรวดเร็ว...แคทได้ฟังถึงกับแอบพึมพำว่าคุณทิน...แต่คณิตไม่ทันสังเกต มัวบ่นเสียดายที่มองเลขทะเบียนรถไม่ทัน

ooooooo

ตอนที่ 8

จอมขวัญนั่งซุกตัวเงียบอยู่ในรถทินรัตน์ที่กำลังแล่นบนท้องถนน ทินรัตน์ยังโกรธไม่หายหันมองแล้วตะคอกใส่อย่างหมั่นไส้

"ฉันอุตส่าห์ส่งการ์ดมาเตือนสติ ไม่ได้อ่านหรือยังไง"

จอมขวัญนึกถึงข้อความในการ์ดแล้วงงๆ แต่ก็ตอบห้วนๆว่าอ่าน

"แล้วไง ไม่สำนึกในข้อความที่ตักเตือนนั่นบ้างหรือยังไง"

"ทำไมต้องสำนึก ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร คุณต่างหากเล่าที่ต้องสำนึก เพราะเมื่อคืนมาแอบล่วงเกินฉัน อุ้มฉันไปไว้บนเตียงในห้องนอน"

ทินรัตน์ตกใจเบรกรถอย่างกะทันหันจนจอมขวัญหัวทิ่มหัวตำ...เขานึกถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำต่างๆนานาใส่จอมขวัญแบบแอบเผลอพึงพอใจ ก็รู้สึกอายๆแต่ยังเก๊กฟอร์มข่ม

"นี่เธอไม่ได้หลับ แต่แกล้งหลับ เธอแกล้งทำให้ฉันคิดว่าเธอกำลังแย่แล้วมาอ่อยฉัน มารยาสาไถย ร้ายกาจไม่มีอะไรเปรียบ"

"นี่คุณเป็นบ้าอะไร ไปกินฮอร์โมนตุ๊ดมาหรือไง ทำท่าเหมือนกำลังจะเป็นตุ๊ดวัยทองคุ้มดีคุ้มร้าย ถ้าคุณไม่สำนึกแล้วคุณส่ง..." จอมขวัญยังพูดไม่ทันจบทินรัตน์ก็กระชากเธอเข้าหา

"อยากโดนดีนักใช่ไหม พลาดโอกาสจากไอ้หัวงูแก๊งนั้นไปแล้วคงผิดหวัง ฉันจะช่วยให้สมหวังเอง"

จอมขวัญกำลังจะด่าแต่ถูกทินรัตน์ประกบปากเสียก่อน แรกๆจอมขวัญดิ้นขลุกๆ แต่ครู่เดียวก็โอนอ่อน ขณะที่ทินรัตน์ ก็ชักติดใจ แต่ทันใดเสียงแตรรถดังลั่น ทำให้สองคนสะดุ้งผละจากกันทันที แล้วจอมขวัญก็ฉวยโอกาสเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็ว วิ่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหนีไปต่อหน้าต่อตาทินรัตน์...

คณิตยังนั่งหน้าตากลัดกลุ้มอยู่กับแคทในบ้านของเธอ แคททำเหมือนปลอบโยนแต่ในใจคลุ้มคลั่ง แน่ใจว่าทินรัตน์ พาจอมขวัญหนีไปจากเงื้อมมือไอ้หัวงู

"อย่าคิดมากไปเลยค่ะ คงไม่มีอะไรหรอก แกคงเอาตัวรอดได้"

"โธ่ ผู้หญิงสาวสวยขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนมันจะปล่อยเอาไว้ให้หลุดลอย ลูกสาวผมที่เห็นในรูปน่ะ ยังสวยน้อยกว่าตัวจริง ใครเห็นใครเหลียวมองทั้งนั้น"

"ฉันทราบดีค่ะ ความสวยที่มากเท่าไหร่มันคืออันตรายที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นของผู้หญิง ของแบบนี้มันร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย คิดซะว่าแกมีสายเลือดดีๆของคุณอยู่ด้วย"

"ถ้าลูกสาวผมจะเสียหายไปแล้วกับไอ้เจ้าของรถคันหรูนั่น ก็ขอให้มันจริงใจจริงจังกับลูกสาวผม และขอให้เป็นมันคนเดียวเท่านั้น"

"อะไรๆมันก็คิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ" แคทขุ่นเคืองเริ่มพูดแปลกๆ พอเห็นคณิตนิ่วหน้า แคทก็ชิงบ่นว่าปวดหัว ร้องเรียกสารภีมาทันใด คณิตเลยต้องรักษามารยาท ขอตัวกลับไปก่อน เพื่อที่แคทจะได้พักผ่อน แต่พอคณิตคล้อยหลัง แคทก็รีบร้อนออกจากบ้านทันที

อัสนีกับเสาวรสในสภาพเปียกปอนกำลังจะกลับบ้าน แต่อัสนีฉุกคิดว่า ถ้าเสาวรสกลับไปสภาพแบบนี้คงไม่ดีแน่ จึงตกลงกันว่าจะแวะไปหาจอมขวัญที่ห้อง ยืมเสื้อผ้าให้เสาวรสเปลี่ยน ส่วนเขาเองก็จะเอาเสื้อผ้าของขวดใส่

แต่ขณะนั้นจอมขวัญซึ่งหนีลงจากรถทินรัตน์ไม่ได้กลับไปที่ห้อง เธอไปหาสีนวลยังที่พักแห่งใหม่ สีนวลเพิ่งย้ายมาอยู่ ที่นี่ได้ไม่นาน...พอเห็นจอมขวัญเล่าเหตุการณ์ระทึกใจที่จะถูกป๋าปล้ำด้วยท่าทางหวาดกลัวสุดๆ สีนวลสงสารเพื่อนจับใจ และแอบด่าตัวเองไม่น่ารู้เห็นเป็นใจกับป๋าเลย...

ทินรัตน์และแคทใจตรงกัน ทั้งคู่มาโผล่ที่ห้องพักจอมขวัญแทบจะพร้อมกัน แคทหยั่งเชิงดูท่าทีทินรัตน์ ถามเขาว่ามาจากไหน ทินรันต์บอกว่าเพิ่งไปพบลูกค้ามา แคทรู้ทันทีว่าเขาโกหกแต่ก็นิ่งไว้ ไม่พูดเรื่องที่รู้มาจากคณิต...แคทฉวยโอกาสอุบอิบเรื่องการ์ด กล่าวขอบคุณเขาพร้อมกับหยิบการ์ดออกมายืนยัน ทินรัตน์ตกใจตั้งแต่เห็นซอง มันเป็นของเสาวรสแต่กลับมาอยู่ที่แคท

"เมื่อวานนี้ฉันน้อยใจมากนะคะ ที่คุณทินเงียบหายไป ที่แท้คุณทินยังหาวิธีบอกเรื่องดีๆแบบนี้กับฉันยังไม่ได้ ขอบคุณจริงๆค่ะ"

ทินรัตน์หน้าซีดพูดไม่ออก แคทไม่สนใจ เบียดตัวชิดและซุกศีรษะกับอกเขา แล้วพยายามหาทางต้อนเขาต่อไป ทินรัตน์ ก็พยายามหาทางออก แต่ดูเหมือนจะตีบตันจนปัญญา

"ที่แท้คุณทินก็ใจร้อนไม่น้อยนะคะ ฉันตั้งตัวไม่ติดเลยค่ะ หาอะไรดื่มฉลองกันนะคะ"

ทินรัตน์มัวแต่อึกๆอักๆ แคทเดินไปเทพั้นช์สองแก้ว แล้วแกล้งเดินเฉียดสวิตช์ไฟแอบปิดหน้าตาเฉย แต่ทำเป็นร้องตกใจว่าไฟดับ...จากนั้นก็จู่โจมทินรัตน์ไม่ให้ตั้งตัว กอดรัดเขาไว้แน่น

"ขอบคุณอีกครั้งที่ยอมให้ฉันได้พึ่งพิงไปจนตายจากกัน ความจริงแค่คุณทินยอมให้ฉันได้อยู่ในบ้านตลอดไป ฉันขอเป็นแค่อะไรสักอย่างที่ยังพออยู่ในสายตาของคุณทิน โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาจัดพิธีแต่งงานให้สังคมรับรู้หรอกค่ะ...คุณทินขา ฉันมีความสุขเหลือเกิน คุณทินรู้สึกอย่างฉันหรือเปล่าคะ"

จอมขวัญที่ตั้งใจย้อนกลับมาเอาเสื้อผ้า แง้มประตูเข้ามาได้ยินเสียงแคทชัดเจน และมองผ่านความสลัวเห็นสองคนกำลังนัวเนีย...จอมขวัญน้ำตาคลอถอยออกมา แล้วงับประตูอย่างเบามือ พอลงมาขึ้นรถแท็กซี่ที่ให้จอดรอ จอมขวัญก็งึมงำสมน้ำหน้าตัวเอง

"จอมขวัญ...เธอมันหน้าโง่ แค่เขาเขียนจดหมายมาขอโทษก็รีบคิดเข้าข้างตัวเอง"

ขณะแท็กซี่แล่นออกไป รถของอัสนีที่มีเสาวรสนั่งมาด้วยก็สวนเข้ามาจอด สองคนลงรถอย่างรีบร้อน ไม่ทันสังเกตว่ารถทินรัตน์จอดถัดไป

ภายในห้องแคทยังคงนัวเนียยั่วยวนและจะฉวยโอกาสมัดมือชกทินรัตน์ให้ได้ในคืนนี้ แรกๆทินรัตน์ก็ต่อต้าน แต่นานเข้าเริ่มเคลิ้มคล้อยตามจนอุ้มแคทเข้าไปในห้องนอน แคทยิ้มสมใจ แต่แล้วความฝันของแคทก็ดับวูบ เมื่อทินรัตน์เห็นรูปจอมขวัญบนหัวเตียง เขาได้สติกลับคืนดึงตัวออกจากอ้อมกอดแคท บอกว่าเขาทำแบบนี้ไม่ได้ มันเท่ากับดูถูกพ่อ ทรยศหักหลังพ่อ

"ผมเสียใจ...ผมขอโทษ เรากำลังทำผิด"

"ท่านตายไปแล้ว ท่านไม่รับรู้อะไรแล้วนะคะ"

"แต่ผมยังอยู่ ผมรู้อยู่แก่ใจ ผมละอายแก่ใจ ผมจะไม่ทำอะไรที่เป็นการดูถูกพ่อ ทั้งในยามที่ท่านยังอยู่และจากไปแล้ว"

"โธ่คุณทิน...อย่าทำกับแคทอย่างนี้สิคะ"

"ผมจะออกไปรอคุณแคทข้างนอกนะครับ" ทินรัตน์ ผลุนผลันออกไปทันที ทิ้งแคทนั่งอารมณ์ค้าง ทั้งเสียดายทั้งเจ็บใจ หันไปคว้ารูปจอมขวัญเขวี้ยงแตกกระจาย

ทินรัตน์พ้นออกมาจากห้องนอนในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ทันใดไฟก็สว่างจ้าด้วยมือของอัสนี...ต่างฝ่ายต่างตะลึงมองกันไปมา แล้วอัสนีก็ระเบิดเสียงถามทินรัตน์ว่า

"นี่คุณทำอะไรขวัญ ขวัญอยู่ในห้องใช่ไหม เลวมาก"

ทินรัตน์พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ทำให้อัสนียิ่งมั่นใจ ปราดเข้ามาชกทินรัตน์จนเซ เสาวรสตกใจร้องห้ามเสียงหลง ทินรัตน์ เริ่มมองสองคนที่เปียกปอน เลยพาลกลับใส่อัสนี

"ไอ้ใหม่ แกนั่นแหละพาคุณรสไปไหนมา ดูสิเสื้อผ้าเปียกปอน แกเลวมาก"

"ฉันเองค่ะ ที่ขอให้ใหม่พาไป" เสาวรสออกรับแทน ทินรัตน์ยิ่งโกรธ พุ่งเข้าชกอัสนี...สองคนซัดกันไปด่ากันไป แคทอยู่ในห้องได้ยินชัด แสยะยิ้มสะใจ

"ตัวเองคิดแต่เรื่องแบบนี้ เลยมองว่าคนอื่นคิดแบบนี้เหมือนตัวเอง"

"งั้นก็บอกมาสิว่าทำไมเปียกปอนแบบนี้ คิดจะมาต่อกันที่นี่ใช่มั้ย"

"ดูถูกกันเกินไปแล้ว" เสาวรสตบหน้าทินรัตน์อย่างสุดทน อัสนีเองก็โกรธจัด ให้ทินรัตน์ขอโทษเสาวรสเดี๋ยวนี้ ทินรัตน์ กลับจะให้อัสนีมากราบเท้าขอโทษเขา "พอที หยุดทั้งสองคน ได้ยินมั้ย"

เมื่อไม่มีใครฟัง เสาวรสจึงไปหยิบมีดสองเล่มมายื่นตรงหน้าทั้งคู่ เชิญฆ่ากันให้ตาย เธอจะกลับ...สองคนหยุดวางมวยทันที ทินรัตน์รั้งเสาวรสไว้ ยืนยันว่าจอมขวัญไม่ได้อยู่ที่นี่ อัสนีสวนทันทีว่าไม่เชื่อ

"ฉันไม่ได้โกหก" ทินรัตน์เน้น

"แปลว่าคุณทินนึกสนุกเข้าไปดึงเสื้อผ้าให้มันหลุดลุ่ยเล่นหรือคะ"

"บ้าน่ะสิ...ฟังนะ ถ้าผมก้าวเข้าไปในห้อง แล้วผมเห็นจอมขวัญอยู่ข้างใน ผมจะฆ่าคุณซะ"

"อย่าเข้าไปนะ" ทินรัตน์รีบห้ามอัสนี

"หมายความว่ายังไง คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมไม่ให้ เข้าไปดูจอมขวัญ"

"นั่นสิคะ ทำไมต้องห้ามไม่ให้ใหม่เข้าไปด้วย เลือกเอาค่ะ ถ้าไม่ให้ใหม่เข้าไป ก็เปลี่ยนเป็นให้ฉันเข้าไปเอง" เสาวรสสรุป...ทินรัตน์คิดรวดเร็ว ให้อัสนีเจอแคทยังจะดีกว่าให้เสาวรสเข้าไปเจอ

"รับรองว่าจอมขวัญไม่ได้อยู่ที่นี่ ใหม่...แกอยากเข้าไปก็เชิญ คุณรสครับผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ" พูดจบทินรัตน์ ก็ดึงเสาวรสออกไปทันที

อัสนีผงะเมื่อโผล่เข้ามาเห็นพี่สาวตัวเองในห้องนอน ส่วนแคทแวบแรกผิดหวัง เพราะหมายใจจะให้เป็นเสาวรสที่เข้ามา แต่พริบตาเดียวแคทก็ผุดรอยยิ้มสะใจ สั่งให้น้องชายหลีกทาง พี่จะออกไปพบเสาวรส

"หยุดนะ อย่าออกไปเด็ดขาด นี่มันเรื่องชั่วร้ายที่สุดที่ผมเคยพบมา" อัสนีกางกั้น

"มันจะเป็นเรื่องชั่วร้ายที่สุดมากกว่านี้ ถ้าเธอพบว่าคนที่อยู่ในห้องนี้คือจอมขวัญ"

"ในที่สุดคนที่ผมคิดว่าหยิ่งทระนงในกรอบประเพณีอันดีงามอย่างคุณทินก็ทำให้ผมหมดศรัทธาจนได้ เขาทำได้ยังไงกับเมียของพ่อตัวเองแบบนี้"

แคทยิ้มสมใจที่น้องชายเข้าใจผิด "เพราะเขารักพี่ เขารอวันที่จะสมหวังกับพี่มาสิบเก้าปี"

"ทำไมต้องมาสมหวังบนเตียงของขวดมัน ป่านนี้มันคงสาปแช่งทั้งแม่ทั้งพี่ชายตัวเองยับไปแล้ว"

"พี่ไม่สนใจ เธอรู้เรื่องนี้ก็ดีแล้ว จะได้ยอมรับความจริงว่าเขากับพี่มีความสัมพันธ์กันยังไง แม่เสาวรสกับแม่จอมขวัญของเธอมันก็แค่ฝันลมๆแล้งๆกันไป"

"ผมจะไปรอข้างนอก ไม่อยากเห็นพี่ที่ผมเคารพรักเหมือนแม่คนหนึ่งในสภาพผู้หญิงไร้ยางอายอุจาดตาอย่างนี้" อัสนีเดินปึงปังออกไป แคทยิ้มกริ่มพอใจกับผลงานตัวเอง ที่อุตส่าห์ปลดเสื้อผ้าจนหวาบหวาม แต่เท่านี้ยังไม่พอ อีกครู่เดียวแคทยังเอาการ์ดของทินรัตน์มาให้อัสนีเห็นกับตา

อัสนีอ่านข้อความในการ์ดแล้วนั่งมึนไปชั่วขณะ...

"เห็นแก่ตัวหน้าด้านๆ เขาช่างกล้าขอพี่แคทแต่งงานทั้งที่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว ผมไม่ยอมให้พี่แคททำร้ายจิตใจคุณรสเด็ดขาด"

"เธอจะว่ายังไงก็ช่าง พี่สาวคนนี้ของเธอก็มีน้ำใจและสะกดคำว่าเสียสละเป็น พี่พอใจในสิ่งที่ได้รับแล้ว คุณทินจะไปแต่งงานกับคุณรสจะเชิดหน้าชูตากันแบบไหนพี่ไม่สนใจ ขอเพียง มีพี่ในสายตาและในหัวใจก็เพียงพอ"

"เพราะพี่แคทสนใจจะเป็นหอกข้างแคร่ของคุณรส นี่มันยิ่งร้ายหนักเข้าไปใหญ่ ผมขอแนะนำเงินทองพี่แคทก็มีมากมาย เกียตริยศชื่อเสียงก็สั่งสมมานานพอสมควร ออกไปอยู่ที่อื่นซะ อย่าอยู่ที่บ้านนั้นอีกต่อไปเลย"

"คุณทินเขาไม่ยอมน่ะสิ เขาบอกว่าอำนาจสิทธิ์ขาดในบ้านนั้นเขายกให้พี่ทั้งหมดตลอดไป...น่าสงสารคนโง่อย่างเสาวรส"

"ความโง่อย่างมากก็ทำให้น่าเบื่อหน่าย แต่ความเห็นแก่ตัวนี่สิ มันเป็นต้นเหตุของหายนะ หยุดหายนะที่กำลังเดินเข้ามาหาเถอะครับพี่แคท"

"นี่คือความสุขไม่ใช่หายนะ" แคทดึงดัน อัสนีโกรธจนพูดไม่ออก...

ooooooo

ทินรัตน์แปลกใจที่ไม่เห็นแหวนหมั้นที่นิ้วเสาวรส พอเขาถามเธอก็ตอบเหมือนไร้เยื่อใย

"ถอดเก็บไว้ที่บ้าน ถ้าทราบว่าวันนี้จะพบกัน ฉันคงเอามาคืนให้"

"อย่าทำอย่างนั้นนะครับ ฟังผมสักนิด ฟังผมพูดเรื่องที่ผมอยากจะพูดให้จบนะครับ...เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด"

"รสรอคำพูดนี้มาห้าปีกว่า แต่พอคำพูดนี้มาถึงจริงๆ รสกลับไม่ต้องการได้ยิน"

"คุณรส...ทำไมพูดแบบนั้น"

"คุณทินถามตัวเองดีกว่าค่ะ ว่าทำไมรสถึงพูดแบบนี้"

"ที่ผ่านมาผมเป็นคู่หมั้นที่แย่มาก แต่ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำตัวเฉื่อยชาอ้ำอึ้งอีกแล้วนะครับ เดือนหน้าแต่งงานกันนะครับ"

"ยังหรอกค่ะ คุณทินใช้เวลาพิจารณาหัวใจตัวเองให้ ถ่องแท้ก่อนเถอะค่ะ รสอาจเซ่ออาจโง่เรื่องความรักจนดูน่าเบื่อน่ารำคาญ ผิดกับผู้หญิงบางคนที่คุณทินเคยคบหา แต่สิ่งที่เหมือนกันของรสกับผู้หญิงบางคนที่ว่านั่นคือไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ตัวไปทางหัวใจไปทาง"

"คุณรส..."

"รสพูดผิดหรือคะ"

ทินรัตน์นิ่งอึ้งไปทันที...ข้างฝ่ายอัสนี หลังจากแคท กลับไปแล้ว เขายังนั่งรอจอมขวัญต่อไป ลองสำรวจเสื้อผ้าข้าวของก็ยังอยู่ครบ แต่รอจนเช้าก็ไม่เห็นโผล่...

จอมขวัญตัดสินใจแล้วเหมือนกันว่าเธอจะไม่กลับไปที่ห้องนั้นอีก สีนวลดีใจนึกว่าจอมขวัญจะอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่สีนวลก็ดีใจเก้อ เพราะจอมขวัญจะออกไปอยู่ตามลำพัง ฝากสีนวลช่วยหางานให้เธอเยอะๆ จะหักเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ก็หักไป แต่ขออย่าให้ใครรู้ที่มาที่ไปของเธอ

"โอเค แต่ทำไมต้องดิ้นรนไปอยู่คนเดียว"

"อยากมีโลกส่วนตัวเงียบๆ"

"ตกลง...แต่แบบจำใจนะ หน้าตัวเองเด่นซะขนาดนี้ คิดเหรอว่าไม่มีใครจำได้"

"ช่างมันปะไร ตั้งชื่อใหม่ออกแนวลูกครึ่งๆให้หน่อย แล้วนั่งยันนอนยันยืนยันว่าคนละคน"

"โอเค...เจนนี่"

จอมขวัญยิ้มพอใจกับชื่อใหม่ สีหน้าและแววตาของเธอมุ่งมั่นมาก

ooooooo

วันเดียวกัน ทินรัตน์กับคณิตต่างก็เรียกนักสืบมาพบ...ทินรัตน์เรียกนักสืบมาถามเรื่องสีนวลที่สั่งการไป นักสืบบอกว่าสีนวลเพิ่งย้ายออกจากห้องเช่าเมื่ออาทิตย์ ก่อน และคนที่นั่นไม่มีใครรู้ว่าหล่อนไปอยู่ที่ไหน ทินรัตน์จึงให้ตามต่อไป มั่นใจว่าสักวันต้องเจอ

ส่วนคณิตเรียกนักสืบมาสั่งให้สืบหารถของผู้ชายที่พาจอมขวัญหนีไปต่อหน้า ซึ่งคณิตมีข้อมูลให้แค่ยี่ห้อและสีของรถ แต่ก็คิดว่ารถแบบนี้สีนี้ไม่น่าจะมีเป็นร้อยคันในเมืองไทย ตามหาเจอแล้วสืบให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของ

"ถ้ามีซักห้าคนที่เป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ล่ะครับ"

"ไม่เป็นไร เราจะเอามาตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นคนไหน"

"ครับผม" นักสืบถอยกลับออกไป สวนกับแคทที่ก้าวเข้ามา แคทมองสำรวจเขาถี่ถ้วนก่อนหันกลับมาถามคณิตว่า

"นักสืบหรือคะ"

"ใช่ครับ ผมสั่งให้ตามหารถที่ผมบอกคุณแคท ให้เขาหาว่าใครเป็นเจ้าของรถนั่น" แคทใจกระตุก ออกปากว่าตามกันขนาดนั้นเลยหรือ "ลูกสาวผมทั้งคน ผมต้องตามทุกรูปแบบ ถ้าพบลูกสาวแล้วรู้ว่าโดนใครทำร้าย แม้แค่ทำร้ายจิตใจ ผมก็จะฆ่ามันซะ"

"เอ่อ...ดูเหมือนคุณกำลังเครียด"

"ผมขอโทษด้วยที่เชิญคุณแคทมาแล้วเครียดให้เห็น ทุกวันนี้ก็เครียดเรื่องลูกสาวเรื่องเดียวเท่านั้น นี่ครับ บ้านแบบใหม่ที่ผมให้คนเขียนแบบทำมาให้เลือกอีก"

คณิตส่งแบบบ้านมาให้ดู แคททำเป็นเลือกๆในใจไม่สบายใจเรื่องนักสืบ กลัวเจอรถของทินรัตน์...

ทางด้านอัสนีก็ใจคอไม่ดี หลังฟังเสาวรสเล่าว่าเมื่อคืนทินรัตน์ขอเธอแต่งงาน และต้องการแต่งให้เร็วที่สุดด้วย แต่เธอบอกให้เขากลับไปพิจารณาความพร้อมของตัวเขาเองก่อน...

จากนั้นเสาวรสก็ถามอัสนีว่า คนที่อยู่ในห้องเมื่อคืนไม่ใช่ จอมขวัญใช่ไหม อัสนีตอบรับทั้งที่ลำบากใจ เสาวรสนิ่งไปนิดก่อนแสดงความยินดีกับอัสนี หวังว่าเขาคงจะสบายใจแล้ว อัสนีกลับถอนใจ แล้วถามหยั่งท่าทีเสาวรสว่า ไม่อยากทราบหรือว่าใครอยู่ในห้องนั้น

"ฉันไม่อยากรู้ ไม่สนใจ ฉันสนใจว่าจอมขวัญเป็นยังไงบ้างมากกว่า"

"ขวัญไม่ได้กลับมาที่ห้อง คงไปนอนกับเพื่อนสนิท เดี๋ยวก็กลับมาเอง"

"ใหม่ อย่าว่าฉันเซ้าซี้นะ ใหม่คิดว่าถ้าฉันแต่งงานกับคุณทิน ชีวิตคู่ของฉันกับคุณทินมันจะล่มสลายไหม"

อัสนีรู้สึกหวาดวิตกเพราะรู้เรื่องพี่สาวอยู่เต็มอก แต่ก็สัญญาจะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ชีวิตคู่ของเสาวรสล่มสลาย

"ขอบใจใหม่ ขอบใจจริงๆ ใหม่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันมี"

"ผมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ขวัญเคยมีด้วยเหมือนกัน แต่ผมไม่เคยเป็นแฟนที่ดีที่สุดของใครสักคน"

"หล่อเลือกได้อย่างใหม่ มีแต่ใครๆอยากได้เป็นแฟนทั้งนั้น"

"ขอบคุณครับ ที่ให้ความมั่นใจ"

ต่างคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันด้วยมิตรภาพอันดี

ooooooo
อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 7
(อ่านต่อพรุ่งนี้)