@^@..อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 1


@^@..อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 1
ตอนที่ 1

คัทลียา หรือ แคท หญิงสาวที่งดงามอ่อนหวาน... ด้วยรูปลักษณ์สวยสง่าและเป็นกุลสตรี ทำให้มีหนุ่มมาติดพันเธอมากมาย แคทกลับมีใจให้หนุ่มน้อยรุ่นน้องชื่อทินรัตน์ แต่เพราะความจำเป็นที่แม่ป่วยและบ้านกำลังจะโดนยึด บวกกับความทะเยอทะยานต้องการความเป็นอยู่ที่เลิศหรู แคทจึงเลือกที่จะแต่งงานกับนายเทพ เศรษฐีหนุ่มใหญ่ โดยที่ไม่รู้ว่านายเทพเป็นบิดาของทินรัตน์

แต่ก่อนจะกลับมาจดทะเบียนสมรสกับนายเทพ แคท ได้พาน้องชายไปเที่ยวทะเลกับทินรัตน์...ที่นี่เอง ทินรัตน์มีโอกาสได้ช่วยชีวิตแม่ลูกคู่หนึ่งที่กำลังจะจมน้ำ โดยไม่รู้ว่ามิ่งขวัญกับเด็กหญิงจอมขวัญคือเมียและลูกของคณิต นายธนาคารผู้ร่ำรวย จอมขวัญประทับใจความช่วยเหลือของทินรัตน์ ก่อนจากกันจึงขอถ่ายรูปคู่ไว้เป็นที่ระลึก

เมื่อแคทกลับมาจดทะเบียนสมรสกับนายเทพต่อหน้าคมคายแม่ของแคทที่กำลังป่วยหนัก พอพิธีการเสร็จเรียบร้อย คมคายก็สิ้นใจไปอย่างสงบในวันเดียวกันนี้ นายเทพจึงพาแคทกับน้องชายวัยรุ่นเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของตน

ทันทีที่ทินรัตน์เห็นภรรยาใหม่ของบิดา เขาตัวชาดิก ตะลึงพูดไม่ออก เช่นเดียวกับแคทที่นิ่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึง อัสนี หรือใหม่น้องชายของแคทจำทินรัตน์ได้ทำท่าจะทัก แต่นายเทพก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน

"คุณแคท นั่นทินรัตน์ ลูกชายผม...ทินรัตน์ นี่ผู้หญิงแสนดีที่พ่อรักที่สุด ที่บอกเอาไว้ว่าถ้าแกเห็นเธอแล้วต้องตะลึง"

"ครับ ผมตะลึงจริงๆ" ทินรัตน์เสียงแผ่ว

"คุณแคทเองก็ตะลึงที่เห็นลูกชายผมเหมือนกัน"

"เอ่อ...ค่ะ...คือไม่คิดว่าคุณเทพจะมีลูกโตเท่านี้"

"อายุสิบเก้า มีแฟนมาสามปีแล้ว ไหนเล่าที่บอกว่ากลับมาจากหัวหินจะพาแฟนมาแนะนำให้พ่อรู้จัก"

"เธอไม่มาแล้วครับพ่อ"

"อ้าว ไหนบอกว่ารักจริงไม่มีเปลี่ยนแปร เพราะเธอแสนดี"

"ผมกับเธอไม่มีทางรักกันอีกต่อไป...ยินดีด้วยนะครับคุณแคท"

แคทหน้าเจื่อน นายเทพไม่รู้อะไร ได้แต่บ่นกับแคทว่า

"ผมเตือนเขาแล้วว่ารักของเขามันรักแบบเด็กๆ ไม่จีรังยั่งยืน"

"ผมกับเธอคนนั้นจบสิ้นกันไป แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่มีคนใหม่ที่แสนดีมาแทนที่คนเดิมนะครับพ่อ สักวันผมต้องมี"

แคทเบือนหน้าซ่อนน้ำตา อัสนีมองหน้าพี่สาวสลับกับทินรัตน์อย่างงงๆ

ooooooo

ทินรัตน์อยู่ในบ้านอย่างไร้ความสุข เพราะรู้ตัวว่าเขาหลงรักหลงรูปของแม่เลี้ยงอย่างไม่อาจตัดใจได้ ที่สุดทินรัตน์ก็ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วกลับมารับช่วงทำงานต่อจากบิดา และคบหากับเสาวรสนานหลายปีจนมีการหมั้นหมายกัน ส่วนแคทก็มีลูกชายกับนายเทพหนึ่งคนคือขัตติยะหรือขวด

ส่วนมิ่งขวัญซึ่งเป็นภรรยาน้อยของคณิตก็ต้องหอบหิ้วจอมขวัญไปอยู่อเมริกาตามความต้องการของคณิต เพราะแม่ของคณิตและเมียหลวงผลักไสไม่ยอมรับสองแม่ลูก ครอบครัวของคณิตเป็นคนจีน คณิตมีลูกชายกับแน่งน้อยภรรยาหลวงถึงหกคน แน่งน้อยและลูกๆจึงเป็นคนโปรดของครอบครัว แต่ กับมิ่งขวัญและจอมขวัญ ทุกคนแสดงท่าทีชิงชังรังเกียจ บางครั้งถึงกับทุบตีทำร้าย

วันเวลาผ่านไปจนจอมขวัญโตเป็นสาวแรกรุ่นและเตรียมตัวกลับเมืองไทย คณิตจึงเตรียมรอรับลูกสาวอย่างจดจ่อ...

อัสนีกำลังเรียนระดับมหาวิทยาลัย ส่วนขัตติยะหลานชายเข้าสู่วัยรุ่น ขัตติยะติดอัสนีมากเป็นพิเศษ ทินรัตน์เองก็รักน้องชายต่างมารดาคนนี้มากแต่ด้วยงานจึงไม่ค่อยมีเวลา ดูแล ภาระจึงตกอยู่ที่อัสนีมากกว่าแคทซึ่งเป็นแม่ ด้วยวัยที่ห่างกันแค่สามปีและความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก ทำให้อัสนีรู้ว่าขัตติยะเป็นเกย์ แต่อัสนีก็เก็บงำเป็นความลับ และพยายามตักเตือนหลานชายในฐานะน้าคนหนึ่งที่หวังดี แม้จะรู้แก่ใจว่าขัตติยะรักตนในเชิงชู้สาว จนเมื่อนายเทพเสียชีวิต แคทถึงรู้เรื่องลูกชายเป็นเกย์ แคทดุด่าขัตติยะอย่างรับไม่ได้ และสั่งห้ามอย่ามาฉีกหน้าแม่ด้วยการวี้ดว้ายกระตู้วู้ในงานศพ

คณิตดีใจเมื่อจอมขวัญเดินทางกลับมาเมืองไทย แต่ก็หน้าเสียเมื่อจอมขวัญบอกว่าแม่มีความจำเป็นต้องแต่งงานกับฝรั่งชื่อทอม...สองพ่อลูกไม่ค่อยผูกพันกันนัก อีกทั้งจอมขวัญก็แสดงท่าทีไม่พอใจญาติของพ่อที่คอยตั้งแง่รังเกียจเธอ บางครั้งจึงทำตัวก้าวร้าวจนคณิตเหนื่อยใจ

งานศพนายเทพ คณิตพาจอมขวัญไปด้วย แต่จอมขวัญไม่ยอมเข้าไปในงาน เตร็ดเตร่อยู่ด้านนอก และเจอกับขัตติยะ

ที่กำลังร้องไห้รำพึงรำพันเสียใจเรื่องพ่อตาย และถูกแม่ดุด่ามาหยกๆ

"คุณพ่อ ทำไมต้องทิ้งขวดไปด้วย ไม่มีคุณพ่อแล้วจะมีใครรักขวดนอกจากน้าใหม่ แม่ใจร้าย คุณพี่ก็ใจหิน ขวดอยากตายตามคุณพ่อไปเหลือเกิน ฮือๆๆๆ"

"ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพ่อที่ทำให้ลูกรักได้มากจนถึงขนาดอยากตายตามแบบนี้" เสียงจอมขวัญดังขึ้น ขัตติยะหันขวับ ไปมองแล้วตวาดไม่ชอบใจ

"แจ๋...เกี่ยวอะไรด้วย ยัยชะนี"

"โห ดูทำท่าเข้าสิ ถามหน่อย หล่อนเป็นชีหรือว่าเป็นฮี หรือว่าเป็นไบ ได้ทั้งฮีทั้งชี"

"ยัยบ้า หล่อนอย่ามาทะลึ่งกล่าวหากันนะยะ"

"ทำไมต้องกล่าวหาหล่อนยะ ทำไมหล่อนต้องปกปิดความเป็นตัวตนของหล่อนด้วย หล่อนเป็นเกย์ แล้วมันไม่เก๋ตรงไหนยะ"

ขัตติยะหันมองจอมขวัญเต็มตา ชักสนใจเพราะดูท่าว่าจอมขวัญไม่รังเกียจตัวเอง

"แล้วหล่อนเป็นใคร"

"คนไร้ค่าที่มีพ่อมีแม่ แต่เหมือนไม่มี ขอบอกหล่อนนะยะ ถ้าพ่อฉันตาย ฉันคงไม่ร้องไห้อยากตายตามเหมือนหล่อนหรอกย่ะ"

"หล่อนเป็นเด็กมีปัญหา ว่างั้นเถอะ"

"อยากรู้จริงว่าใครเป็นคนตั้งคำนี้ขึ้นมา เด็กมีปัญหามันมาจากปัญหาของผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจเด็ก ไม่ให้ความรักความอบอุ่นเด็กเท่าที่ควรจะให้ เพราะห่วงใยความสุขของตัวเองมากกว่าความสุขของลูก"

"ถูกต้อง ผู้ใหญ่บางคนก็สร้างปัญหาให้เด็ก เพราะห่วงศักดิ์ศรีและหน้าตาของตัวเอง เขาอายที่มีลูกชายเป็นเกย์"

"แม่หล่อนละสิ"

ขัตติยะพยักหน้า ป้ายน้ำตา พูดพึมพำว่า "แม่เกลียดฉัน"

"แม่รักฉัน แต่รักน้อยกว่ารักตัวเอง" จอมขวัญเศร้าเหมือนกัน

"แม่กลัวฉันทำขายหน้า แม่กลัวใครจะรู้ว่ามีลูกเป็นเกย์"

"มีลูกเป็นเกย์ ดีกว่ามีลูกเป็นเกเรเกตุงนะ"

สองคนมองหน้ากันอย่างเป็นมิตร จากนั้นขัตติยะเดินนำจอมขวัญไปที่รถคันสวยของเขา

"ฉันจะพาหล่อนไปสนุก หล่อนอยากไปไหน"

"ไปไหนก็ได้ ฉันไปไหนไม่ถูกสักแห่ง"

"มาจากไหนน่ะ" ขัตติยะแปลกใจ

"มาจากบ้านแตกสาแหรกขาดน่ะสิ หล่อนจะสนใจทำไมว่าฉันเป็นใครมาจากไหน ฉันยินดีเป็นเพื่อนกับหล่อน ยินดีให้ความรักความอบอุ่นกับหล่อนในฐานะคนที่มีชีวิตขาดๆ แหว่งๆเหมือนกับหล่อน ว่าแต่หล่อนเถอะ คงรวยมากถึงมีรถสวยๆขับด้วย"

"รวยเงินแต่ไร้ความสุข มันก็เลยต้องทนทุกข์อยู่แบบนี้" ว่าแล้วสองคนก็ขึ้นรถหายไปด้วยกัน...

ooooooo

กลางดึก แคทหงุดหงิดเดินวนเวียนไปมารอคอยลูกชาย อัสนีเองก็ห่วงหลานนั่งรออยู่ด้วย

"นายขวดมันงี่เง่า พ่อตายทั้งคนมันยังหนีหน้าไม่มานั่งสวดศพพ่อ"

"แล้วใครกันครับที่ทำให้เขาต้องกระเจิงออกไปจากงานศพ พี่แคทครับ นายขวดอายุแค่สิบหก เขาเปราะบางอ่อนแอ น่าสงสาร เขาอยากให้พี่แคทยอมรับในความเป็นตัวตนของเขา"

"พี่จะยอมรับต่อเมื่อมันยอมเปลี่ยนตัวตนให้เป็นคนปกติ"

"นายขวดเป็นคนปกติครับ"

"มันผิดปกติ คุณเทพกับคุณทินไม่ควรใจอ่อนให้รถมันขับเลย เดี๋ยวก็ไปเที่ยวคบคนไม่ดี"

เวลานั้น จอมขวัญกับขัตติยะกำลังวาดลวดลายแดนซ์ กระจายอยู่ในผับ ขัตติยะมีความคิดอยากจะแปลงเพศแล้วแต่งหญิงให้สวยเหมือนจอมขวัญ แต่จอมขวัญท้วงให้คิดดีๆ เพราะอะไรที่มันตัดทิ้งไปแล้ว มันเอาคืนมาอีกไม่ได้ แต่ถ้าเขาอยากจะให้เธอเป็นแฟนตบตาแม่ก็ได้ เธอไม่ขัดข้อง ขัตติยะเลยชะงักเรื่องแปลงเพศ แล้วก็อดขอบใจเพื่อนใหม่คนนี้ไม่ได้

ooooooo

จนเช้าขัตติยะยังไม่กลับบ้าน แคทนั่งทุกข์ร้อน อัสนีปลอบพี่สาวไม่ต้องกลุ้มใจ เดี๋ยวเขาจะไปตามหาขัตติยะให้เอง

"ไม่ให้กลุ้มได้ยังไง พี่กลัวว่ามันจะไปมั่วเสพยาที่ไหน แล้วโดนจับ พี่กับคุณทินจะเอาหน้าไปมุดดินที่ไหน"

"ไว้ที่เดิมนั่นแหละครับ เพราะหน้าไม่สามารถไปกองที่ไหนได้...เฮ้อ ได้ยินพี่แคทพูดแล้วสะท้อนใจแทนนายขวด พี่แคท ไม่ได้ห่วงนายขวดเพราะกลัวเขาจะมีอันตราย แต่ห่วงเพราะกลัวเขาทำขายหน้าพี่กับคุณทิน"

ระหว่างนี้ ขัตติยะเดินหน้าอิดโรยเข้ามา แคทหันไปเห็นพุ่งพรวดไปตบหน้าลูกชายทันที ทินรัตน์เดินเข้ามาพร้อมเสาวรส แคทจึงปรับสีหน้ายิ้มแย้มทักทายทั้งคู่ และแสดงความเสียใจกับทินรัตน์ที่สูญเสียคุณพ่อ โดยที่เธอไม่ สามารถยื้อชีวิตท่านให้ทินรัตน์ทันกลับมาดูใจ

"ขอบคุณ ไม่เป็นไรครับ โชคดีที่ผมไม่ได้ไปไกล แค่ญี่ปุ่นนี่เอง โชคดีที่มีตั๋วกลับมาทันที แล้วนั่นขวดเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม"

ทินรัตน์เข้าไปโอบน้องชาย แต่ขัตติยะกลับโผไปกอดอัสนี ทินรัตน์เลยชะงัก

"ผมจะกลับตึกของผม พบกันเย็นนี้ที่วัดนะครับคุณแคท เชิญครับ เสาวรส" ทินรัตน์เดินออกไปพร้อมเสาวรส แคทมองตามด้วยความอิจฉา แล้วหันมาคำรามใส่ ขัตติยะเบาๆ

"ทำไมถึงต้องแสดงให้คุณพี่เขาเห็นว่าเรารักน้าใหม่ มากกว่าเขา ไม่เห็นหรือว่าคุณพี่ผิดหวัง"

"คุณพี่ผิดหวัง หรือคุณแม่ผิดหวังกันแน่ครับ ผิดหวังที่คู่หมั้นเขาไปรับกัน พี่แคทวาดภาพสร้างภาพคุณทินเอาไว้ เหมือนเสือสาง นายขวดถึงกลัวหงอ แม้แต่จะแสดงความรักความไว้เนื้อเชื่อใจ"

"ปกป้องกันดีนัก เกิดอะไรร้ายๆกับนายขวด เธอต้องรับผิดชอบนะนายใหม่"

"แม่ฮะ แม่ไม่ต้องกลัวหรอกฮะ ว่าผมจะทำให้แม่กับคุณพี่เสื่อมเสียหาย ผมมีแฟนแล้ว"

ทั้งน้าชายและแม่ได้ยินชัดเจน ถึงกับตะลึงงันไปด้วยกัน...

ooooooo

ด้านจอมขวัญที่เพิ่งกลับเข้าบ้านก็ถูกย่าดุด่าต่อหน้าคณิตและพี่ชายต่างมารดาทั้งหกคน จอมขวัญโมโหยอกย้อนคุณย่า แล้วยังยื่นข้อเสนอกับพ่อ ถ้าจะให้เธออยู่ด้วย ต้องไม่ใช่ที่นี่ เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้าน แต่มันเป็นคุก ผู้เป็นย่าถึงกับร้องลั่นอย่างรับไม่ได้ สั่ง คณิตส่งจอมขวัญกลับไปหาแม่ ที่นี่ไม่ต้อนรับเด็กก้าวร้าว แบบนี้ แต่คณิตไม่ทำตาม...ด้วยความรักลูกและสำนึกผิดต่อสิ่งที่ผ่านมาที่แทบไม่เคยเลี้ยงดูอุ้มชู คณิตแอบพาจอมขวัญไปดูคอนโดฯหรูกลางเมือง ตั้งใจจะซื้อให้อยู่สักห้อง...

หลังงานศพบิดา ทินรัตน์ตัดสินใจซื้อห้องชุดในคอนโดฯ แห่งหนึ่งให้ขัตติยะ แลกกับคำสัญญาของขัตติยะที่จะทำตัวดี จะไปเรียนกวดวิชาเพื่อจะเอ็นฯให้ติด

"แล้วก็...จะไม่ไปเที่ยวสำมะเลเทเมากับนายใหม่ด้วยรู้ไหม พี่ไม่อยากให้ขวดยึดเอานายใหม่เป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิต"

"ครับคุณพี่ คุณพี่คงไม่รู้หรอกว่าขวดพยายามจะเดินตามรอยคุณพี่ คุณพี่คือวีรบุรุษของขวด เพียงแต่ว่าการเป็นอย่างคุณพี่ มันยากเหลือเกิน"

"มันไม่ยากหรอก ขอเพียงขวดตั้งใจจริงเท่านั้น พยายามไปทีละเล็กทีละน้อย ทำได้ไหม"

"ครับคุณพี่"

"หรือว่าขวดอยากไปเรียนเมืองนอก พี่จะส่งไป"

"ยังก่อนครับคุณพี่"

"พี่ต้องไปดูงานที่เมืองนอกสักพัก ขวดดูแลแม่

ดูแลตัวเองดีๆนะ"

ขัตติยะรับปากและโผกอดพี่ชายรูปหล่อ ยิ่งพอได้ยินพี่ชายพูดประโยคต่อไป ขัตติยะถึงกับน้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งใจ

"คุณพ่อไปแล้ว ตอนนี้คนที่พี่รักที่สุดในโลกคือขวด"

ooooooo

ทินรัตน์เข้ามาอยู่บ้านคนละหลังกับแคท แต่ในรั้วเดียวกัน ส่วนเรื่องธุรกิจที่รับช่วงจากบิดา ทินรัตน์ ยังคงต้องเดินทางบ่อยๆ เช้าวันนี้ก็เช่นกัน พอแคทรู้ก็รีบมาสอบถามทินรัตน์ว่า คราวนี้จะไปนานแค่ไหน

"สักพักนึงครับ ดูแลตัวเองดีๆ ดูแลนายขวดดีๆนะครับ เขารับปากผมว่าถ้ามีคอนโดฯอยู่ใกล้ๆที่กวดวิชา เขาจะหมั่นไปกวดวิชา เพื่อเอ็นฯให้ติดให้ได้"

"ขอบคุณค่ะ ที่เมตตาพวกเรา"

"นายขวดเป็นน้องผม คุณแคทก็..." ชายหนุ่มนิ่ง ไม่อยากตอกย้ำคำว่าแม่เลี้ยง

"ก็ถ้าตอนนั้น เมื่อสิบหกปีก่อน คุณทินโตกว่านี้ เรียนจบแล้ว ทุกอย่างคงไม่ลงเอยอย่างนี้"

"ความสุขของพ่อ ผมยินดีและเต็มใจที่ลงเอยอย่างนี้"

"ทำไมไม่คิดถึงความสุขของตัวคุณทินเองบ้างคะ ในเมื่อเราสองคนยัง..." แคทส่งสายตาบอกรัก และยื่นมือมากุมมือทินรัตน์ไว้...ทินรัตน์ถอนใจ ค่อยๆดึงมือตัวเองออก

"ขอให้ผมและทุกคนมองภาพคุณแคทในภาพที่สวยงาม และฐานะที่ควรเคารพต่อไป ในฐานะภรรยาของพ่อเถอะครับ อีกอย่าง...ผมมีคู่หมั้นแล้ว"

แคทชะงัก แววตาสลดลงทันใด

ooooooo

วันเดียวกันนี้ จอมขวัญยิ้มแย้มมีความสุขที่ได้เข้าไปอยู่ห้องหรูในคอนโดฯที่พ่อซื้อให้ แต่ขณะที่ จอมขวัญกำลังจะคุยอวดขัตติยะที่โทร.มาเล่าเรื่องห้องชุดที่พี่ชายซื้อให้เหมือนกัน ทั้งย่าและพี่ชายต่าง มารดาของจอมขวัญก็พรวดพราดเข้ามาจนจอมขวัญตกใจ ย่ากระชากโทรศัพท์จากมือจอมขวัญโยนทิ้ง แล้วใส่อย่างฉุนเฉียว

"นึกแล้วว่าอาคณิตต้องทำงี่เง่าแบบนี้ นี่มันเงินกงสีชัดๆ อาหมวย ลื้อไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นี่ มีทางเลือกให้ลื้อสองทาง กลับไปหาแม่ลื้อ หรือไม่กลับไปอยู่ในระเบียบที่ย่ากำหนดไว้ ที่บ้านของครอบครัว"

"ทำตัวไม่สมกับเป็นคนในครอบครัวเรา"

"สักวันจะท้องไม่มีพ่อ"

"ไม่แคล้วไปเป็นเมียน้อยเขาเหมือนแม่ตัวเอง"

เสียงพี่ชายรุมด่าขรมไปหมด จอมขวัญโมโหจี๊ดชี้หน้ากราดทุกคน

"หยุดนะ หยุดด่าแม่กันได้แล้ว นึกหรือว่าหนูอยากอยู่ ร่วมตระกูลเพี้ยนๆนี่ ไม่ต้องกลัวว่าหนูจะไปอวดอ้างกับใครว่าเป็นลูกนายธนาคารใหญ่ แต่ชอบมีเมียน้อยทั่วบ้านทั่วเมือง"

ฉาด...ย่าตบหน้าจอมขวัญเต็มเหนี่ยว "เด็กอวดดี สามหาว"

"ผู้ใหญ่ใจร้าย แก่แล้วยังไม่ลดละเลิกอคติ..." แล้วชี้หน้าพี่ๆทุกคน "โตจนหมาเลียก้นไม่ถึง ยังไม่ยอมปลดแอกให้ตัวเอง" ด่าเสร็จจอมขวัญก็วิ่งออกจากห้องทันที

จอมขวัญวิ่งร้องไห้ออกไปตามถนน และขณะจะข้ามไปอีกฝั่งไม่ทันดูซ้ายขวาให้ดี จึงถูกรถของทินรัตน์ที่กำลังมุ่งหน้าไปสนามบินเฉี่ยวจนกระเป๋าสะพายกระเด็น จอมขวัญไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่โมโหมาก ร้องต่อว่าชายหนุ่มที่ก้าวลง จากรถ แล้ววิ่งไปหยิบกระเป๋าสะพายจ้ำอ้าวไปทันที โดยไม่รู้ว่า กระเป๋าสตางค์ใบเล็กหล่นอยู่ที่พื้น ทินรัตน์เก็บมันขึ้นมาเปิดดู แล้วต้องตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นรูปถ่ายตัวเขากับเด็กผู้หญิง ทินรัตน์มั่นใจว่าสาววัยรุ่นเมื่อกี้คือเด็กหญิงที่เขาเคย

ช่วยชีวิตในทะเล เขาทำท่าจะวิ่งตามเธอไป แต่คนขับรถรีบลงมาเตือน

"จะไปไหนครับคุณทิน จะไม่ทันขึ้นเครื่องนะครับ"

ชายหนุ่มเลยชะงัก มองตามไปอย่างแสนเสียดาย... จอมขวัญเดินหน้าตูมไปได้สักพักก็ควานหากระเป๋าสตางค์ พอรู้ว่ามันไม่อยู่แล้ว จอมขวัญเดินย้อนกลับไปที่เดิมกวาดตามองหา เป็นจังหวะที่สีนวลลงจากแท็กซี่พอดี สีนวลท่าทางเป็นมิตร ช่วยหากระเป๋าสตางค์ เมื่อไม่เจอสีนวลก็ถามจอมขวัญว่าจะไปไหน ตนมีเงิน จะพาไปส่งให้...

จอมขวัญมองสีนวลอย่างชั่งใจเล็กน้อยก่อนตกลง ไม่นานสองคนก็ไปพบขัตติยะที่ผับ แล้วจากนั้นขัตติยะก็พาจอมขวัญไปพบน้าใหม่ของเขาที่ห้องพักที่ทินรัตน์ซื้อให้

"หวัดดี นี่คงเป็นน้าใหม่ที่หล่อนบอกใช่ไหมขวด" จอมขวัญทักทาย

"ใช่ น้าใหม่ฮะ นี่จอมขวัญ เราสองคนตกลงเป็นแฟนกัน"

อัสนีหรือน้าใหม่อึ้งๆ มองสาวสวยตรงหน้าอย่างนึกไม่ถึง จอมขวัญเองก็จ้องอัสนีตาวาว ท่าทางจะตกหลุมรักคุณน้ารูปหล่อ ของขัตติยะเข้าแล้ว...

ooooooo

ทินรัตน์หายไปเป็นเดือน แคททนคิดถึงไม่ไหว โทร.ทางไกลไปหาแล้วอ้างว่านายขวดบ่นหาเขาทุกวัน เมื่อไหร่จะกลับมาสักที

"นายขวดเป็นยังไงบ้างครับ เขารักษาสัญญากับผมดีอยู่หรือเปล่า"

"ดีมั้งคะ ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีแฟน ไม่ไปไหน ขลุกอยู่แต่ ที่คอนโดฯ มีน้องใหม่ไปวนเวียนดูแลอยู่ตลอด ยังกับเงาตามตัว"

"นายขวดรักน้าชายมากกว่าพี่ชายอีกนะครับ"

"ไม่จริงหรอกค่ะ เขาเทิดทูนคุณทินจะตายไป แต่แค่ สนิทกับน้องใหม่เพราะไม่มีใคร ก็ดีนี่คะ เพราะน้องใหม่จะได้คอยดูแลนายขวด"

"ขอให้ดูแลจริงๆ ขออย่ากลายเป็นพากันไปเตลิดเปิดเปิงเสียผู้เสียคน"

"ฉันจะคอยสอบถามตรวจตราความเคลื่อนไหวพวกเขา ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางค่ะ"

"ขอบคุณครับคุณแคท แค่นี้นะครับ"

"แค่นี้หรือคะ ฉัน...เอ่อ...เป็นห่วง และก็รอให้คุณทิน กลับมานะคะ คุณทินเครียดและมีระเบียบกับชีวิตเกินไปหรือเปล่าคะ ทำไมไม่ทำตามความต้องการของตัวเองบ้างคะ" แคท หยอด แต่ทินรัตน์ตัดบทกะทันหัน

"เอาไว้ค่อยคุยกันนะครับ"

แคทจำต้องวางสายลงด้วยความน้อยใจ...วันรุ่งขึ้น แคท โทร.หาลูกชายแต่ไม่ติด จึงเปลี่ยนไปโทร.เข้าเครื่องอัสนีซึ่งอยู่ที่มหาวิทยาลัย และขัตติยะกับจอมขวัญแวะมาหาพอดี

"อย่ามาโกหกนะนายใหม่ อย่ามาช่วยกันปิดบัง ขวดมันหายหัวไปไหน มันหลบพี่ใช่ไหม มันต้องแอบไปทำอะไรเลวๆให้พี่กับคุณทินอับอายอยู่แน่ๆ"

"ระหว่างลูกตัวเองกับผู้ชายที่เป็นลูกเลี้ยง ทำไมถึงห่วงความรู้สึกคนหลังมากกว่า"

"อย่ามาช่วยกันปิดบังพี่ บอกมาว่านายขวดมันหายไปไหน"

"ไม่ได้ปิดบัง ไม่ได้หลบหนีไปไหนหรอกครับ ขวดเขาไปกับแฟนเขา พี่แคทครับ ผมไม่มีเวลาแล้วนะครับ จะเข้าเรียน พี่แคทไม่ต้องคั่งแค้นเดือดดิ้น นายขวดมันกำลัง

ทำตัวเป็นคนดีไปเรียนพิเศษกับแฟน ก็แค่นั้น"

"แน่ใจนะ"

"แน่ใจครับ แค่นี้นะครับ" อัสนีตัดสายหน้าตาเฉย...

ขัตติยะหน้าซีดหวาดกลัว

อ่านละครย่อเรื่องเพลิงสีรุ้ง ตอนที่ 1
(อ่านต่อพรุ่งนี้)