ตอนที่ 20 (ต่อจากวานนี้)
อนุชาตื่นตั้งแต่ตีห้ามาทำความสะอาดร้านเพื่อเอาใจโสภิตา แต่กลายเป็นว่าวันนี้โสภิตาปิดร้าน เพราะเธอต้องออกไปทำงานที่บริษัทอวตานกับอลิน อนุชาแปลกใจไม่รู้มาก่อน จากนั้นก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไปด้วยกัน
เมื่อโสภิตาไปถึง อลินจึงแนะนำต่อหน้าพนักงานทั้งหลาย
"ฉันขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับผู้ช่วยด้านการผลิตอาหารของบริษัท...คุณโสภิตา"
โสภิตานั่งข้างอลิน ตรงข้ามกับอนุชา เธอยิ้มให้ทุกคน แต่ทีมงานยังมองกันงงๆ โดยเฉพาะอนุชายังมึนๆ
"คุณตาจะเป็นคนคิดเมนู และธีมของรายการในแต่ละ สัปดาห์แทนฉัน ถ้าอยากรู้ว่าเทปหน้าจะถ่ายอะไร ถามที่คุณตาได้เลย และถ้าคุณตาอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็สั่งนายอนุชาได้เลยนะคะ"
อนุชาแอบสะดุ้งเล็กน้อย อลินทิ้งหางตาอย่างเคืองแค้น ขณะที่โสภิตาตอบรับคำเดียว อลินจึงว่าต่อ
"คุณตาจะเริ่มทำงานตั้งแต่เทปหน้าเป็นต้นไป ใครมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
เพรียวแอบบ่นว่าใครจะกล้า อลินหันขวับ ถามทันทีว่าบ่นอะไร เพรียวทำเลิ่กลั่กปฏิเสธ อลินจึงหันกลับมาสรุป
"เรื่องสุดท้ายที่ฉันจะแจ้งให้ทุกคนได้ทราบก็คือ ตั้งแต่เทปหน้าเป็นต้นไป ฉันจะมีพิธีกรใหม่เพิ่มเข้ามาในรายการอีกหนึ่งคน"
"ใครครับ" อนุชาถามพรวด พอคำตอบคือปูเป้ อนุชายิ่งอึ้งกิมกี่...
โสภิตาตามมาท้วงอลินในห้องทำงานเรื่องจะเอาปูเป้ มาเป็นพิธีกร เพราะแกยังเด็กมาก อลินกลับยืนยันคำเดิม เพราะปูเป้เป็นเด็กที่ฉลาดมาก แต่โสภิตายังไม่มั่นใจ
"เอ่อ...คุณลินว่า...มันจะดีเหรอคะ"
"ดีสิคะ เพราะตอนนี้รายการลินมีผลิตภัณฑ์เด็กติดต่อเข้ามาเยอะมาก ลินตั้งใจว่าจะเพิ่มช่วงสอนเด็กทำอาหาร และคนที่จะมาช่วยลินสอนเด็กๆก็คือปูเป้ ลินมั่นใจว่าปูเป้ทำได้ และทำได้ดีด้วยค่ะ"
"ถ้าคุณลินเห็นว่าปูเป้พอจะทำได้...ตาก็...ยินดีค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"เอ่อ คุณตาคะ ลินยังมีอีกเรื่องที่อยากให้คุณตาช่วยค่ะ"
"เรื่องอะไรคะ"
"ลินอยากให้ดินมาเป็นคนดูแลปูเป้ที่กองถ่ายค่ะ" อลินพูดแล้วอมยิ้ม แววตาแอบเจ้าเล่ห์...
ooooooo
พสุกับนงพะงาต้องรีบมาที่เรือนใหญ่ หลังจากอ้อนไปตามตามคำเชิญของนภา เพื่อร่วมรับฟังตำรวจชี้แจงผลการชันสูตรพลิกศพแม่ใหญ่
"ผลการชันสูตรศพพบว่าผู้ตายเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ และมีร่องรอยการโดนกดทับอย่างแรงบนใบหน้า จึงไม่ใช่การตายธรรมดา เป็นไปได้ที่ผู้เสียชีวิตจะโดนฆาตกรรม"
ทุกคนช็อกมองกันเลิ่กลั่ก นงพะงายังนิ่ง พสุกัดฟันกรอด วายุหน้าเครียด แต่วารินยิ้มย่อง เอ่ยขึ้นทันที
"ผิดคำซะที่ไหน คราวนี้จะขอบใจน้ำได้หรือยัง ที่ไม่ปล่อยให้ฆาตกรลอยนวล"
"แล้วผมจะให้ตำรวจเข้ามาเก็บหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติม"
"ขอบใจต้อมมากนะที่ช่วยเร่งเปิดคดีให้ ถ้ารู้ตัวคนทำเมื่อไหร่ รีบบอกน้ำเป็นคนแรกเลยนะ น้ำอยากจะรู้ว่าไอ้คนใจไม้ ไส้ระกำฆ่าได้แม้กระทั่งคนแก่ที่นอนอยู่บนเตียง หน้าตามันเป็นยังไง"
นงพะงายังนั่งนิ่ง แต่พสุใจเต้นเร่าๆ อยากจะขัดเต็มประดา ส่วนวายุนั่งหน้าเครียด มือจิกโซฟาอย่างลืมตัว...พอต้อมนายตำรวจซึ่งเป็นเพื่อนของวารินเดินเลี่ยงออกไป อี่ก็หันมาทางนภา
"พี่ฟ้าคะ อี่กับพี่เมฆจะขอจ้างทนายไว้ป้องกันตัวนะคะ เกิดสอบไปสอบมาอี่กลายเป็นฆาตกร อี่ไม่ยอมนะคะ"
"ใช่ๆ" เมฆาเห็นด้วย "ผมว่าไม่ใช่แค่ผมกับอี่ แต่ทุกคนน่าจะมีทนาย เพราะทุกคนก็เป็นผู้ต้องสงสัยเท่าๆกัน"
"ไม่เท่าค่ะ เพราะคืนนั้นน้ำไปค้างบ้านเพื่อน เพราะ ฉะนั้นไม่ว่ายังไงน้ำก็ไม่เกี่ยว เพราะน้ำไม่อยู่"
"แต่น้องลมอยู่นะคะ อี่ได้ยินเสียงรถลมเข้ามาตอนกลางคืน แต่สักพักก็ขับออกไป อี่จำแม่นเลยค่ะ"
วายุชะงักกึก หน้าเสีย...วารินไม่ยอมลุกขึ้นเถียงแทน
"ถ้าลมเข้ามาในบ้านแค่แป๊บเดียวแล้วน่าสงสัย คนที่ดูแลแม่ใหญ่ตลอดทั้งคืน และเป็นคนแรกที่เจอศพก็ต้องน่าสงสัยที่สุด" วารินหันมาทางนงพะงา พสุกัดฟันแน่นหน้าแดงก่ำ นงพะงายังนิ่งด้วยความหนักแน่น
"พอกันได้แล้ว ถ้ายังไม่มีหลักฐานอะไร ก็อย่าพูดเลยดีกว่า" นภาตัดบท วารินสะบัดหน้าพรืดอย่างเคืองๆ ส่วนนายลมลุกพรวดขึ้น
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว ที่ร้านมีงานต้องทำ" วายุ พูดจบก็เดินจ้ำออกไป พอพ้นจากทุกคนก็หยุดยืนหน้าเครียด แทบจะหมดแรง ไม่รู้จะหาทางออกจากปัญหายังไง
ผิดกับหมิงที่ยิ้มร่าอยู่ในกองถ่ายละคร เพราะวารินโทร.มารายงานผล
สะใจจริงๆ นี่ถ้านักข่าวรู้ว่านังลินมีแม่ผัวเป็นฆาตกร คงจะรีบจุดพลุ เตรียมเพิ่มยอดพิมพ์ตีข่าวกันกระจาย ยิ่งคิดยิ่งสะใจ พี่น้ำไม่ต้องห่วงนะคะ หมิงจะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ครอบครัวพี่น้ำเองค่ะ เตรียมดูความหายนะของนังอลินและไอ้ลูกคนใช้ได้เลย"
หมิงวางสายพร้อมกับจิกหางตาสะใจ "นังอลิน...คนอย่างแกมันต้องเจออย่างฉัน"
ooooooo
ครั้นอลินรู้จากโสภิตาว่านงพะงาเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าแม่ใหญ่ก็ตกใจอย่างมาก แล้วอดรนทนอยู่เฉยไม่ได้ บอกโสภิตาว่าภาวะแบบนี้เธอต้องไปอยู่เคียงข้างครูกุ๊ก
"คุณตา ลินฝากงานที่บริษัทด้วยนะคะ" โสภิตาเหวอ "ประชุมตอนบ่ายคุณตาก็ดำเนินการประชุมแทนลินไปเลยนะคะ ลินไปหาครูกุ๊กก่อนนะคะ ไปแล้วค่ะ"
อลินพรวดพราดออกไปเลย ระหว่างวิ่งออกไปก็รีบกดโทร.ด่วนหาปฏิคม แล้วใส่ไม่ยั้ง
"นายตัวเปี๊ยก ไม่ว่านายทำอะไรอยู่ หยุดทุกสิ่งอย่าง แล้ว ไปเจอฉันที่บ้านครูกุ๊กเดี๋ยวนี้ แค่นี้นะ" อลินเดินลิ่วออกไปที่รถ อนุชาเห็นแล้วแปลกใจ เข้ามาถามโสภิตาที่ยังนั่งเหวอๆ งงๆ
"ตา คุณลินเขาไปไหน"
"เอ่อ...ไปบ้านดินค่ะ"
"อ้าว แล้วตอนบ่ายใครจะดำเนินการประชุม"
โสภิตาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวเอง...ด้านอลินที่อุตส่าห์เป็นห่วงพสุแทบจะบินไปหา พอไปถึงกลับเจอประโยคนี้ของพสุเข้าเต็มรัก ถึงกับสะอึกอึ้งไปเลย
"ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ"
ปฏิคมยืนอยู่ข้างอลิน ถึงกับหันมามองอลินด้วยความเห็นใจ ถึงแม้ลึกๆจะไม่สนับสนุน แต่ก็อดสงสารไม่ได้ เช่นเดียวกับนงพะงาที่ไม่ชอบใจคำพูดของลูกชาย
"ดิน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ คุณลินอุตส่าห์มาช่วยด้วยความหวังดี"
"แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว ผมไม่อยากให้คนนอกมายุ่งวุ่นวาย"
"แต่ฉันไม่ใช่คนนอกนะ"
"ทำไมจะไม่ใช่ ในเมื่อคุณกับผมไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"ดิน..." นงพะงาปรามเสียงเขียว
"มันเป็นความจริงครับแม่ ความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ ชีวิตผมมีปัญหามากพอแล้ว ผมไม่อยากเพิ่มปัญหาให้ตัวเอง คุณอยู่ก็ช่วยอะไรผมไม่ได้ ดีไม่ดีจะทำให้เรื่องมันยิ่งแย่ลงไปอีก คุณกลับไปซะเถอะ ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ"
อลินหน้าเสีย ใจเต้นระส่ำ อยู่ๆเหมือนมีก้อนสะอื้นหนักๆมาทับที่หน้าอก ขอบตาร้อนผ่าวน้ำตาพร้อมจะไหล ปฏิคมรู้สึกเห็นใจอลินอย่างแรง
"ดิน...ฉันว่าบางทีหลายคนช่วยกันคิด มันอาจจะได้ ทางออกนะเว้ย"
"นั่นสิดิน....ดินพูดแรงเกินไปแล้ว"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า...ครูกุ๊กพูดถูกแล้ว ลินเป็นตัวปัญหา อยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ลินขอโทษนะคะ ที่มารบกวน" อลินพยายามกลั้นน้ำตา แล้วค่อยๆหันหลังให้พสุ ปาดน้ำตาที่หยดลงมา ก่อนเดินออกจากบ้านไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย พสุเห็นแล้วผวานิดๆ อยากจะเปลี่ยนใจถอนคำพูด แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างมาห้ามไว้...พสุเบือนหน้าหนีพยายามตัดใจ ปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้
เมื่ออลินไปแล้วจริงๆ พสุก็หลบไปนั่งเครียด ไม่ได้ สบายไปกว่าอลิน...นงพะงาเดินเข้ามาดักคออย่างรู้ทัน
"ถ้าดินเป็นห่วง กลัวว่าคุณลินจะเดือดร้อนเพราะเรื่องของเรา พูดกับเขาดีๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดแรงขนาดนั้น"
"เอ่อ...ผม...ผมไม่ได้เป็นห่วง"
"ถ้าไม่ห่วงแล้วจะมานั่งเครียดอยู่นี่ทำไม แม่ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมดินใจดำแบบนี้"
"อ้าว แม่มาว่าผมทำไมครับ"
"ก็จริงนี่ พวกผู้ชายก็เป็นแบบนี้ ใจร้ายใจดำกับผู้หญิง"
ปฏิคมเยี่ยมหน้ามาทันที "แต่ผมไม่เกี่ยวนะครับ ผมไม่เคยใจร้ายกับผู้หญิง"
"เดี๋ยวก่อน...นี่มันอะไรกัน อยู่ๆทำไมผมกลายเป็นคนผิดไปเฉยเลย"
"ใช่ ทั้งผิด ทั้งใจร้าย พูดไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่น คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง"
"แต่ที่ผมไม่อยากให้เขามายุ่งกับเรื่องนี้ เพราะผมไม่อยากให้เขาเดือดร้อน"
"นั่นไง...ยอมรับมาจนได้ว่าเป็นห่วง น่าตีนักเชียว เรารีบไปขอโทษคุณลินเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วก็ตบปากตัวเองที่พูดไม่ดีออกไปตั้งเยอะแยะ"
"ทำไมผมต้องไปขอโทษด้วย"
"นี่ไอ้ดิน...ที่ผ่านมาถึงฉันจะไม่เห็นด้วยกับการที่คุณลินเขาพยายามจะกุ๊กกิ๊กกับแก และไม่อยากให้แกกุ๊กกิ๊กกับคุณลิน แต่ครั้งนี้ฉันว่าแกพูดแรงไปว่ะ แกจะให้เขาช่วยหรือไม่ช่วยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้...ฉันว่าแกควรจะไปขอโทษคุณลิน"
พสุไม่พูดอะไร แต่ชะงักไปอย่างครุ่นคิด...
@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 20
(อ่านต่อพรุ่งนี้)