@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 19 /2

@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 19 /2
ตอนที่ 19 (ต่อจากวานนี้)

"ก็มันร้อนนี่ แล้วไอ้บริษัทบ้าก็ดันมางี่เง่าอีก..." พสุมองหน้า อลินชะงักรู้สึกตัว "เออๆ บริษัทเขาไม่ผิดหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ รถมันก็เสียกันได้ เขาก็ไม่ตั้งใจ ฉันรู้หรอกน่า ฉันผิดเองที่โวยวายเกินเหตุ อีคิวต่ำ ไม่ระงับอารมณ์ ฉันขอโทษ"

"รู้ตัวก็ดีแล้ว คราวหน้าจะได้ไม่ทำอีก แล้วเรื่องอาหารเลี้ยงแขกคืนนี้ไม่ต้องสั่งมานะ เดี๋ยวผมจะลงมือทำเอง"

"ทำเอง? แขกตั้งหลายร้อยคน ครูกุ๊กจะทำให้เหนื่อยทำไม"

"ผมอยากทำให้คุณท่านเป็นครั้งสุดท้าย เพราะตอนท่าน มีชีวิตอยู่ผมไม่ค่อยได้ทำอะไรให้ท่าน ถ้าอาหารคืนนี้จะทำ ให้แขกที่มามีความสุขและคิดถึงท่านได้ ผมอยากทำ"

อลินยิ้มชื่นชมครูกุ๊กคนดี แล้วกระตือรือร้นเสนอตัวช่วยเขาทำอาหาร แต่พอพสุมอบหมายงานแรกให้ล้างผักตั้งสามเข่งใหญ่ อลินโอดว่าทำไมมันเยอะแบบนี้ แต่เพื่อครูกุ๊กอันเป็นที่รัก อลินยอมมือเปื่อย...ต่อไปอลินต้องหั่นหอมหัวใหญ่ บ่นไปหั่นไป น้ำตาก็ไหลไป นงพะงามาเห็นก็อดสงสารไม่ได้ ต่อว่าลูกชายทำไมใช้งานคุณอลินหนักขนาดนี้ด้วย พสุจึงย้ำ

"ผมไม่ได้ใช้ เขาอาสาทำเอง"

"ใช่ค่ะ ลินอยากช่วยน่ะค่ะ ที่จริงครูกุ๊กไล่ลินกลับบ้านตั้งหลายรอบ แต่ลินไม่ยอมกลับเองค่ะ"

"โถแม่คุณ มีน้ำใจจริงๆ ไปๆ กลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้วค่ะ คุณลินเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ป้าก็ไม่รู้ นึกว่าดินเขาเป็นคนทำ ดูสิ มาใช้งานคุณลินได้ยังไง น่าตีนักเชียว" ว่าแล้วนงพะงาก็ฟาดมือที่แขนพสุหนึ่งเพียะ พสุร้องโอ๊ย ยืนยันว่าตนไม่ได้บังคับอลิน "ไม่ต้องพูดมากเลย รีบๆไปส่งคุณลินเขาที่รถเดี๋ยวนี้ ที่เหลือแม่กับอ้อนจัดการเอง"

อ้อนรู้งานรีบดันหลังอลินที่ทำอึกอัก ครั้นพสุจะไม่ไปส่งอลิน นงพะงาก็ไม่ยอม ดันพสุออกไปกับอลินจนได้ พสุเห็นอลินเดินสะบัดแขนขาอย่างสบายตัวก็อดแขวะไม่ได้ว่า ตอนไล่ให้กลับไม่กลับ พอทำงานหนักเข้าหน่อยรีบชิ่ง อลินเถียงว่า ไม่ได้ชิ่ง ถ้าคุณป้ากับอ้อนไม่คะยั้นคะยอ ก็ไม่กลับหรอก ฉันอยากอยู่ใกล้ๆครูกุ๊กจะตาย พูดพลางก็ส่งสายตาปิ๊งๆ จนพสุแอบเขิน จับอลินหันไป
ที่รถ

"โน่นรถ แล้วนั่นก็ทางออก รีบๆกลับไปได้แล้ว ไป"

"คำก็ไล่ สองคำก็ไล่ คอยดูนะ ถ้าฉันหายตัวไปจริงๆ แล้วจะรู้สึก" คำพูดอลินสะกิดใจพสุจนนิ่งไป แต่แล้วอลินก็หันมายิ้มแฉ่ง "แต่ฉันไม่ไปง่ายๆหรอก เพราะฉันจะต้องทำให้ครูกุ๊กยอมใจอ่อนแต่งงานกับฉันให้ได้"

"พูดออกมาได้ยังไง ไม่อายหรือไง"

"อาย...แต่จะพูด เพราะถ้าไม่พูดเดี๋ยวครูกุ๊กลืม...ฉันไปก่อนนะ แล้วจะรีบมาช่วยงานต่อ บ๊ายบาย ผู้ชายปากแข็ง" อลินสะบัดหางเสียงนิดๆ ออกแนวประชด แล้วขึ้นรถไป...พสุเก๊กหน้านิ่ง แต่พอรถอลินแล่นออกไป พสุก็หันหลังอมยิ้มมีความสุข

ooooooo

ที่บ้านบริบรรณ วายุมายืมเงินสิบล้านจากเมฆา แต่เมฆาไม่มีเพราะเงินที่ได้จากส่วนแบ่งอี่เอาเข้าบัญชีไปหมดแล้ว เมฆาจึงนำพระเครื่องออกมาให้วายุ บอกให้ยืมเอาไปให้คนอื่นเช่า ชุดนี้น่าจะได้สักสี่ห้าแสน วายุออกอาการหงุดหงิดเสียงดังไม่เอาสี่ห้าแสน จะเอาสิบล้าน ทันใดนั้นเสียงนภาถามดังมาว่ามีอะไรกัน ส่งเสียงเอะอะโวยวาย วายุไม่ยอมให้เมฆาได้พูด ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร
และชิงขอตัวไปรับหมิง แล้วค่อยเจอกันที่วัด

ตกเย็น โสภิตาแต่งดำเตรียมไปงานศพแม่ใหญ่ของพสุ อนุชาที่ยังป้วนเปี้ยนได้โอกาสอยู่ดูลูก เพราะคืนนี้เรียมมาอยู่เป็นเพื่อนปูเป้ไม่ได้ แถมอนุชายังวางตัวสามีแสนดี กำชับโสภิตาขับรถดีๆ ถึงวัดแล้วโทร.บอกเขาด้วย และก่อนจะออกจากวัดก็โทร.บอกเขาอีกที เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

โสภิตาพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วเดินออกจากห้อง แต่แอบยืนมองอนุชาลูบผมปูเป้บนเตียงก่อนหอมหน้าผากด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

ส่วนอลินแต่งตัวหรูเริดถือพัดลูกไม้สีดำมายืนต้อนรับแขกหน้าศาลา พอโสภิตามาถึง อลินก็เชื้อเชิญอย่างสนิทสนม ก่อนจะผายมือไปทางครัวเมื่อโสภิตาขอไปช่วยพสุดูแลเรื่องอาหาร หมิงมาพร้อมวายุเห็นอลินแล้วหมั่นไส้เต็มประดา วารินที่นั่งรวมกลุ่มกับพวกนภาก็ออกอาการเดียวกับหมิง หาว่าอลินไม่มีมารยาททำข้ามหน้าข้ามตา ทั้งที่เป็นคนนอกแท้ๆ แต่เมฆากับอี่เห็นเป็น
เรื่องดีที่มีคนมาช่วย นภาเสริมด้วยว่า อลินไม่ใช่คนนอก เพราะเขาประกาศแล้วว่าคบอยู่กับดิน พี่ถือว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา เหมือนกับหมิงที่เป็นแฟนลม วารินฟังแล้วปรี๊ด ตวัดเสียงว่าเข้าข้างกันเข้าไป ชื่นชมกันเหลือเกินกะอีแค่ดาราตกกระป๋อง ใครจะยอมรับ ใครจะปลื้มก็เชิญ แต่เธอรับไม่ได้

วารินลุกพรวดแยกตัวจากวงสนทนาไปนั่งเก้าอี้แถวหลังสุดด้วยความหงุดหงิด สามคนที่เหลือหันมองนงพะงาด้วยความเห็นใจ...ส่วนที่หน้าศาลา หมิงเพิ่งจะเยื้องย่างเข้ามา หลังพยายามข่มใจที่ต้องเจอศัตรูตัวฉกาจอย่างอลิน แต่แล้วแค่อลินเดินดักหน้าโชว์รอยยิ้มที่เหนือกว่า หมิงกลับทนไม่ไหว เปิดฉากประจานอลินก่อน และแช่งให้ขึ้นคาน แถมยังพาดพิงดูถูกพสุกับแม่ อลิ
นเลยโต้ตอบอย่างทนไม่ได้เหมือนกัน

ปฏิคมเห็นท่าจะเกิดมวยหญิงคู่พิเศษจึงรีบวิ่งไปตามพสุมาทำหน้าที่กรรมการก่อนผู้คนจะแตกตื่น...พสุเดินเร็วจี๋มาห้าม แล้วลากอลินออกไปต่อว่ากันมุมหนึ่ง

"คุณเป็นอะไร ไหนบอกว่าจะไม่อาละวาดแล้วไง"

"ก็มันจี๊ดนี่ ยัยหมิงมาเรียกครูกุ๊กว่าลูกคนครัว ลูกคนใช้ แล้วยังแช่งให้ฉันขึ้นคานอีก มันเลยปรี๊ด"

"เขาจะพูดอะไรก็ช่างเขาสิ คุณไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดสักหน่อย"

"หมายความว่า...ฉันจะไม่ขึ้นคานใช่ป่ะ หรือว่าครูกุ๊ก..."

"นี่...คิดไกลเกินไปแล้ว แล้วเมื่อกี๊ไปบอกเขาว่าเป็นแฟนผม ผมอนุญาตแล้วเหรอ"

"เอาน่า...ยอมรับไปเหอะ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นอยู่ดี" พสุคว้าพัดในมืออลินมาตีหัวอลินโป๊ก อลินสะดุ้งร้องลั่น "โอ๊ย มาตีฉันทำไมเนี่ย"

"ตีให้ตื่นจากความฝัน และถ้าอยากอยู่ในงานศพต่อไป ก็อยู่อย่างสงบ อย่าสร้างปัญหา" พสุสั่งห้ามแล้วก็เดินเข้างานไป อลินได้แต่ยืนหน้าเสีย กระทืบเท้าขัดใจ และน้อยใจว่าทำไมการง้อครูกุ๊กถึงได้ยากเย็นขนาดนี้

หมิงเลือกที่นั่งไกลกลุ่มญาติของวายุ เพราะแน่ใจว่าเดี๋ยวอลินต้องมานั่งแถวนั้น วารินที่งอนพวกนภามานั่งอยู่กับวายุ พอหมิงฟ้องว่าเมื่อกี๊อลินคุยข่มว่าแฟนมันกับแม่ได้มรดกร้อยกว่าล้าน รวมกันแล้วยังมากกว่าของลมตั้งสามเท่า วายุถูกแทงใจดำถึงลุกพรวดออกไปรอที่รถ ไม่อยากฟังเรื่องปวดหัว

"ลมนี่หมู่นี้เป็นอะไรไม่รู้ หงุดหงิดง่ายจริงๆ" วารินบ่นน้องชาย แล้วหันมาเม้าท์กับหมิงต่อ "นี่ เรื่องมรดกเนี่ย พี่ล่ะเจ็บใจจริงๆ ไอ้ดินได้เยอะกว่าลูกชายทุกคน นี่ถ้าน้านงรู้เรื่องที่คุณพ่อให้เปิดพินัยกรรมหลังจากแม่ใหญ่เสีย อาจจะแอบฆ่าแม่ใหญ่ให้ตายๆไปซะ จะได้รีบแบ่งมรดกเร็วๆ"

หมิงสะกิดใจนึกขึ้นมาได้ โพล่งขึ้น "น้านงรู้ค่ะ หมิง ได้ยินกับหู เขารู้เรื่องพินัยกรรมจริงๆค่ะ" วารินชะงักกึก ขมวดคิ้วครุ่นคิด...

วายุหรือนายลมตั้งใจจะหลบออกไปอยู่เงียบๆ กลับต้องเจอพวกนักเลงทวงหนี้ซัดจนจุกแอ่ก และข่มขู่ให้จ่ายหนี้สินที่ยังโอนให้ไม่ครบอีกหกล้าน ซึ่งเจ้านายให้เวลาอีกสองวัน ถ้าหามาให้ไม่ได้ คราวนี้ได้เจอของจริง...

โสภิตากลับจากงานศพมาเห็นอนุชานอนหลับบนเตียงข้างปูเป้ พอเธอขยับจะหันกลับออกไป มือปลาหมึกของอนุชาก็ คว้าแขนเธอหมับ อนุชาแสดงความเป็นห่วงด้วยการต่อว่าโสภิตา ทำไมไม่ยอมโทร.หาเขาตามที่สั่งไว้ โสภิตาตอบตรงๆว่ามันไม่ค่อยคุ้น ก่อนหน้านี้เวลาเธอไปไหนมาไหน ไม่เห็นจะมีคนสนใจ

"แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้วนะ ตามีผมที่คอยเป็นห่วง"

"ขอบคุณค่ะ แต่คุณเล็กไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ตาดูแลตัวเองได้"

"ก็ผมอยากห่วงนี่ อย่าห้ามได้มั้ย มีภรรยากับเขาทั้งคน จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง" อนุชาส่งสายตาออดอ้อน โสภิตาสะท้านจนต้องหลบ แล้วเปลี่ยนเรื่องว่าเขาตื่นก็ดีแล้ว เธอจะได้นอน อนุชาขยับเข้าชิดด้านในทันที "เอาสิครับ มานอนเลย ผมขยับให้ ยังเหลือที่อีกตั้งเยอะ นอนตรงนี้แหละ ผมไม่เบียดให้ตกเตียง ผมสัญญา"

อนุชาทำเป็นยิ้มเนียน แต่โสภิตาไม่เล่นด้วย พยักพเยิดเป็นสัญญาณให้เขาลงจากเตียง อนุชาเลยยิ้มแหะๆ ลุกจากเตียงจะลงไปนอนห้องครัว แต่ยังไม่วายเจ้าเล่ห์จะยื่นหน้ามาขโมยหอมแก้ม โสภิตารีบเอาฝ่ามือกางกั้น แล้วดันหน้าอนุชาออก พร้อมกับไล่ให้ไปนอน

"ขอหอมแก้มหน่อยก็ไม่ได้ เมื่อก่อนทำมากกว่านี้ยังไม่เห็นว่าอะไรเลย น่านะ นิดเดียวเอง น่านะ นะๆๆ ลูกหลับแล้วไม่รู้เรื่องหรอก"

"ไม่ได้ ไปนอนได้แล้ว...ไปเลย" โสภิตาดันอนุชาออกจากห้อง พอปิดประตูล็อกเรียบร้อยก็ได้ยินเสียงอนุชาตะโกนแจ้วๆ

"ฝันดีนะครับคุณภรรยา พรุ่งนี้เช้าเจอกัน"

โสภิตาไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุข

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น วารินพาเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้ามาในงานศพ สร้างความแปลกใจให้นภาและญาติทุกคน ส่วนวายุยังนอนไม่ตื่นอยู่ที่บ้าน แต่รู้จากหมิงที่มาเสนอหน้ารายงานหวังความดีความชอบ บอกว่าพี่น้ำให้ตำรวจมาอายัดศพแม่ใหญ่ เพราะฝีมือหมิงเอง

"คุณไปทำอะไร" วายุตวาดอย่างหัวเสีย

"ก็หมิงได้ยินแม่ไอ้ดินคุยกับคนใช้เรื่องเปิดพินัยกรรม ทำนองว่าอยากให้ลูกชายได้มรดกจะได้ไม่โดนนักข่าวด่าว่าไม่คู่ควรกับนังลิน"

"แค่เนี้ย คุณคิดว่าเหตุผลแค่นี้เนี่ยนะมันจะมากพอ

ที่จะทำให้คนฆ่าคนได้"

"อ้าว แล้วมันไม่ได้เหรอ"

"บ้าแล้ว เวรเอ๊ย ฉิบหายกันหมดแล้ว" วายุครางหน้าเครียด หมิงยังซื่อ ถามอีกว่าลมเป็นอะไร จะเครียดทำไม มันไม่เกี่ยวกับลมสักหน่อย "มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไง ในเมื่อคนที่อยู่ในพินัยกรรมก็ต้องเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมด รวมทั้งผมด้วย"

"อ้าว ก็ในเมื่อลมไม่ได้ทำ ลมจะเดือดร้อนทำไม"

"โว้ยยยยย...ไม่รู้เว้ย รู้แต่ว่าตอนนี้ซวย ซวย ซวยแน่ๆ" วายุโวยลั่นแล้วเดินปึงปังออกจากห้อง ปิดประตูใส่หมิงดังโครม หมิงยังเหวอรับประทาน บ่นอย่างเคืองๆ

"อารายของเขาเนี่ย จะช่วยแท้ๆ ไม่ขอบคุณสักคำ"

ooooooo
อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 19 /2
(อ่านต่อพรุ่งนี้)
เคดิต:ไทยรัฐออนไลน์