@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 20

@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 20
ตอนที่ 19 (ต่อจากวานนี้)

ทหารกรูเข้ามาล็อกกัญญาภัคและทีฑายุ วิชัยจะเข้าช่วย ไมยาดินรีบชักปืนจ่อหลังวิชัยให้กลับไปยืนรวมกับสันธิ แล้วทหารก็พากัญญาภัคและทีฑายุไปขังคุก โดยมีรามปุระกับไมยาดินตามประกบ ไมยาดินทำขึงขังสั่งทหาร

"ใครปล่อยสองคนนี้หลุดออกไปได้ โทษตายสถานเดียว" พูดจบไมยาดินก็ชำเลืองมองกัญญาภัคแวบหนึ่งก่อนกลับออกไป ขณะที่รามปุระยังยืนยิ้มเยาะทีฑายุและกัญญาภัคที่ถูกแยกขัง

"ไม่มีใครคิดจะล้มท่านโกญจนาทได้ด้วยสองมือเปล่า หรือต่อให้เอามาทั้งกองทัพก็เห็นแล้วว่ายังไงก็แพ้"

"คนเลวจะชนะได้ไม่นาน" กัญญาภัคคำราม

"นั่นน่ะสิ ยังไงก็อย่าเพิ่งรีบตายไปซะก่อน ทั้งลูกทั้งหลานเนรคุณ ท่านคงอยากเก็บไว้ทรมานให้สะใจก่อนส่งไปลงนรก" ว่าแล้วรามปุระเดินด้วยมาดกวนๆออกไป กัญญาภัคกับทีฑายุมองตามอย่างเจ็บใจ

ส่วนทาอูฉวยโอกาสที่ธราเทพเหม็นหน้าบัวบุศที่ชอบเข้าข้างทีฑายุมากกว่าโกญจนาท พารุกขมณีพี่เลี้ยงคนใหม่มาดูแลธราเทพแทนบัวบุศ แล้วจ้างรุกขมณีด้วยทองหยองให้เอานมและขนมผสมยาอันตรายชนิดหนึ่งให้ธราเทพกินจนหมด เพื่อธราเทพจะได้กลายเป็นเจ้าชายนิทรา แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะตกอยู่ในกำมือโกญจนาททั้งหมด

เมื่อแผนทุกอย่างสำเร็จ รุ่งขึ้นโกญจนาทไปปรากฏตัวที่บ้านนารียา ทำท่าจะบอกข่าวดีเรื่องของตนเองให้ศิศิรารับรู้ แต่นารียากับญาณีชิงด่าโกญจนาทเสียก่อน โกญจนาทไม่พอใจ ย้ำเตือนนารียาอย่าลืมว่าพ่อศิศิราเป็นคนสั่งฆ่าสามีของเธอ

"ฉันไม่เชื่อ บางทีฆาตกรใจชั่วมันอาจจะยืนอยู่ตรงหน้าฉันก็ได้"

โกญจนาทเงื้อมือด้วยความโกรธ แต่แล้วลดมือทำไม่ลง เมื่อนารียาเชิดหน้าสบสายตา

"เรามาเพื่อจะบอกเจ้าหญิงและข้าทาสบริวารทั้งหลาย ว่าตอนนี้ทุกชีวิตในปัญจารัตน์อยู่ในอุ้งมือของเรา"

ศิศิราใจหายวาบนึกถึงน้องชาย ถามคาดคั้นโกญจนาทว่าทำอะไรธราเทพ

"องค์ธราเทพยังปลอดภัยดี ไม่ถึงกับตาย แต่ก็มีลมหายใจรวยรินเต็มที หลังจากที่ได้มอบตราลัญจกรให้เราดูแลไพร่ฟ้าประชาชน"

"เลวที่สุด คนชั่วไม่มีวันที่จะได้ใหญ่คับฟ้า ทีฑายุต้องไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"

"ทีฑายุน่ะเหรอ ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลก มันก็ปกป้องเจ้าหญิงไม่ได้อีกแล้ว ที่มันจะทำได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือผลัดกันปลอบอกปลอบใจน้องสาวที่มอบกายถวายชีวิตให้ แต่ไม่ต้องห่วง เรากำลังพาเจ้าหญิงไปเยี่ยมสองคนนั่นในคุก"

พอโกญจนาทและทหารคุมตัวศิศิรากับญาณีเข้ามาถึงในวัง ปรากฏว่ากำลังเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย เมื่อประสันต์ ดรัณย์ และมาลข่านร่วมมือกับวิชัยช่วยทีฑายุและกัญญาภัค ออกจากคุก อีกทั้งไมยาดินก็รู้เห็นเป็นใจด้วยความรักที่มีต่อกัญญาภัค

โกญจนาทต่อสู้กับไมยาดินจนหลบหนีไปได้ แต่ก็เจอทีฑายุกับกัญญาภัคสกัดไว้อีก โกญจนาทจวนตัวจึงลำเลิกบุญคุณที่ชุบเลี้ยงทั้งคู่มากว่ายี่สิบปี กัญญาภัคไม่สนใจจะลั่นไกใส่โกญจนาท แต่ทีฑายุต้องการจับเป็น จึงปัดปืนกัญญาภัคหล่นลงพื้น โกญจนาทฉวยโอกาสนี้ยิงใส่ทีฑายุ กัญญาภัคตกใจ เข้าประคองทีฑายุที่ถูกยิงเฉียดสีข้าง

"ฉันจะกลับมาลากแกทั้งคู่ไปลงนรกพร้อมๆกัน" โกญจนาทประกาศแล้ววิ่งหลบออกไปอย่างรวดเร็ว กัญญาภัคจะตาม แต่ห่วงทีฑายุมากกว่า เมื่อมาณสิงห์รู้ว่าโกญจนาทหนีไปได้ จึงสั่งทหารออกตามล่าลากตัวกลับมาให้ได้

แต่ทั้งทหารและไมยาดินก็คว้าน้ำเหลว แถมไมยาดินยังถูกโกญจนาทยิงขาบาดเจ็บ ก่อนหนีลอยนวลขึ้นเรือเร็วออกไปทางนิราษิณ สินาตีรู้ข่าวโกญจนาทกำลังโดนตามล่า พอเจอหน้ากัญญาภัคจึงต่อว่าและตบหน้า ก่อนจะอธิบายเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรักโกญจนาท

"ฉันรักท่าน เพราะฉันรักตัวเองมากกว่า คิดดูสิ ไม่มีท่าน ความฝันของฉันพังทลายลงตรงหน้า ส่วนแก...ศิศิรามันกลับมาแล้ว เจ้าหญิงคั่นเวลาอย่างแกก็ต้องกระเด็นออกไป แกช่วยทีฑายุขับไล่ท่านจนสำเร็จ แล้วทีนี้ชีวิตแกกับฉันจะเป็นยังไง สุดท้ายเราต้องถูกลอยแพ...กัญญาภัค แกรู้ตัวหรือยัง ว่าแกกำลังจะเป็นหมาหัวเน่า"

"ไม่มีทาง ที่นี่คือที่ของเจ้าหญิงกัญญาภัค"

"ทีฑายุมันยอมรับแกมากกว่าน้องหรือยัง"

กัญญาภัคนิ่งไป รู้อยู่แก่ใจว่าทีฑายุทั้งรักและห่วงศิศิรา สินาตีเห็นท่าทางลูกก็จับไหล่เขย่ารุกเร่งเอาตัวรอด

"งั้นแกก็ต้องดิ้นเฮือกสุดท้ายเพื่อฉัน ฉันไม่อยากต้องหนีตายหัวซุกหัวซุน แกต้องทำให้เราได้อยู่ที่นี่ต่อไป"

เย็นนั้นกัญญาภัคกับสินาตีจึงวางแผนเรียกร้องความสงสารจากทีฑายุ โดยหลอกให้ญาณีหอบผ้าผ่อนกัญญาภัค ออกจากห้องศิศิรา แล้วโกหกทีฑายุว่าศิศิราเป็นคนสั่งขับไล่ ทำให้ทีฑายุกับศิศิรามีปากเสียงประชดประชันกันใหญ่ เพราะต่างคนต่างก็มีเรื่องราวหึงหวงอยู่แล้ว เมื่อทีฑายุปกป้องกัญญาภัค ศิศิราก็ออกรับแทนมาณสิงห์เหมือนกัน คนรอบข้างไม่ว่าจะเพื่อนๆทีฑายุหรือญาณี เห็นแล้วได้แต่พากันหนักใจ

จตารีก็เบื่อหน่ายเมื่อรู้จากทีฑายุว่าเกิดปัญหาเดิมๆขึ้นอีกแล้ว จตารีคับข้องใจ ทำไมน้องสาวคนเดียว ทีฑายุถึงปล่อยให้คอยสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น

"จะให้เราเอาใจศิศิราด้วยการไล่น้อง ไม่เลือดเย็นไปหน่อยเหรอ"

"แสดงว่าจะยอมแตกหักกับเจ้าหญิง

"บางทีอาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้ เพราะมาณสิงห์ก็รอปลอบใจเจ้าหญิงอยู่"

"เธอยอมเฉือนหัวใจตัวเองได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า" ทีฑายุหันหน้าหนีไม่ตอบ จตารีเข้าใจทันที "จะเป็นผู้ชายปากแข็งต่อไปก็ได้ แต่ฉันจะบอกให้ว่าความอดทนของผู้หญิงน่ะมีขีดจำกัด ถ้าฉันเป็นเจ้าหญิง ไม่ต้องรอเธอมาจัดการเลย กัญญาภัคน่ะกระเด็นพ้นวังไปตั้งนานแล้ว"

ทีฑายุฟังแล้วยิ่งหงุดหงิด ส่ายหัวเดินจากไป จตารีมองค้อนหมั่นไส้เต็มที ด้านกัญญาภัคเกิดความแค้นแน่นอกขึ้นมาอีก เมื่อรู้จากรักเร่ว่าทีฑายุไปหาจตารี จนต้องยืมมือไมยาดินไปจัดการจตารีอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไมยาดินถึงกับเผาหอคณิกาวอดวาย ทำให้จตารีเกือบตายและไร้ที่อยู่

ทีฑายุรู้เรื่องจากจตารีจึงต่อว่ากัญญาภัค แต่กัญญาภัคกลับจะโยนความผิดให้ศิศิรา อ้างว่าศิศิราก็เสียของรัก อาจจะสั่งลงมือก็ได้ จตารีไม่เชื่อ ซ้ำยังด่ากัญญาภัคโกหกตาใส ศิศิราที่ยืนฟังอยู่นานไม่อาจทนต่อไปได้จะขอตัว เพราะไม่อยากเป็นพยานความมักมากของใคร ทีฑายุรู้ดีว่าถูกด่ากระทบ แต่เวลานี้ไม่มีแก่ใจตอบโต้ ได้แต่ขออนุญาตศิศิราให้จตารีอยู่ที่นี่ เพราะเธอยังไม่มีที่ไป

ศิศิรายังไม่ทันจะว่ากระไร กัญญาภัคก็คัดค้านหัวชนฝา อ้างหวังดีกับวังนี้ ไม่อยากให้รอยด่างของจตารีมาเลอะเทอะพื้นวัง

"แต่เราอนุญาตให้จตารีอยู่ ในเมื่อเราไม่สามารถห้ามความมักมากของชายอย่างทีฑายุได้ ทางเดียวก็คือปล่อยให้เขาระเริงในกิเลสตัณหาจนถึงที่สุด" พูดจบศิศิราปรายตามองทุกคนแล้วหันหลังเดินออกไปอย่างไม่แคร์ แต่กัญญาภัคยังไม่ยอมให้จตารีเสนอหน้าในวัง บอกทีฑายุว่าจะให้จตารีไปอยู่ห้องคนใช้ที่บ้านของเธอ

"คงจะไม่ได้ เพราะเจ้าหญิงศิศิราเจ้าของวังอนุญาตให้ฉันอยู่ เจ้าหญิงจอมปลอมอย่างเธอก็อย่ามาเสนอหน้าไล่ฉัน" จตารีลอยหน้ายั่ว กัญญาภัคโกรธจะกรี๊ด ทีฑายุหันมาจ้องทันที

"พี่เคยขอแล้วว่าจตารีต้องไม่ใช่เหยื่อความโกรธของใคร"

"กัญญาไม่รู้เรื่อง"

"อย่าโทษคุณกัญญาเธอเลย ต้องขอบคุณซะด้วยซ้ำที่ทำให้หญิงมีราคีได้ดีดตัวเองเข้ามาเดินเชิดหน้าถึงในวัง ขอบพระทัยนะเพคะเจ้าหญิงกัญญาภัค" จตารีแกล้งย่อตัวลอยหน้ายั่ว กัญญาภัคกำมือแน่น แค้นแทบคลั่ง

จากนั้นไม่นาน กัญญาภัคส่งรักเร่มาแก้แค้นจตารี แต่กลายเป็นว่ารักเร่ถูกยำเละเทะด้วยน้ำมือจตารี และญาณีกับส้มเสี้ยวที่หมั่นไส้รักเร่มานานแล้ว ฝ่ายสินาตีก็เดือดดาลแทนลูกสาว ถึงกับมาต่อว่าดุด่าศิศิรา และอาจจะลงมือกับศิศิราถ้าจตารีไม่เข้ามาขวางเอาไว้

กัญญาภัคสุดเจ็บใจ เมื่อเห็นทั้งแม่และสาวใช้ของตนกระเจิงกลับมา...สินาตีกับรักเร่มั่นใจว่าศิศิราแผนสูงคิดเอาจตารีมาเป็นพวกถล่มเรา เพื่อจะเขี่ยเราออกไปจากที่นี่ให้ได้

"ไม่มีวัน กัญญาไม่ได้อยู่ที่นี่แค่เพราะเป็นน้องพี่ทีฑายุ กัญญาต่างหากที่เหมาะสมกับตำแหน่งราชินีเคียงคู่ ผู้ชายมีความสามารถ...ศิศิราต้องสำนึกว่าคนที่แก้ปัญหาให้

พี่ทีฑายุได้คือกัญญาเท่านั้น" กัญญาภัคประกาศแน่วแน่

แววตาเปล่งประกายความถือดี

ooooooo

ตอนที่ 20

ทีฑายุหนักใจอย่างยิ่งเมื่อแน่ใจว่าโกญจนาทหนีไปนิราษิณ ด้วยเกรงว่าโกญจนาทจะอาศัยตราลัญจกร แก้กฎหมายทำการค้ากับนิราษิณเอาประโยชน์เข้าตัวเอง มาณสิงห์จึงแนะนำให้ยกเลิกกฎหมาย แล้วประกาศออกไปเลยว่าโกญจนาทเป็นกบฏ ทีฑายุมั่นใจ ทำอย่างนั้นต้องเจอกับการต่อต้านจากคนที่โดนล้างสมอง จากคนที่เชื่อว่าโกญจนาทบริสุทธิ์

"เราต้องเปิดหลักฐานความชั่วชาติของมัน องค์กษัตริย์ไง ที่กำลังกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ก็ต้องเป็นมันนี่แหละทำ" กัญญาภัคโพล่งขึ้นมา ประสันต์ติงทันทีว่า ข่าวแบบนี้มีแต่จะทำ ให้ไอ้โกญจนาทหัวเราะ มาณสิงห์เลยย้อนถามอย่างหงุดหงิดว่า

"หรือจะรอให้โกญจนาทรวบรวมกำลังได้ แล้วกลับมาพร้อมแผนถล่มที่นี่อีกครั้ง"

"ทุกคนก็กำลังหาทางสกัดโกญจนาทอยู่" ทีฑายุสวนขึ้นมา

"หนทางที่จะจัดการโกญจนาทให้สิ้นซากได้มีแค่วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน" กัญญาภัคน้ำเสียงเชื่อมั่น แล้วจากนั้นกัญญาภัคก็เรียกไมยาดินมาพบเป็นการส่วนตัว สั่งไมยาดินไปลากตัวโกญจนาทกลับมาให้ได้

"เพราะเธออยากให้ทีฑายุเห็นว่าเธอเหนือกว่าเจ้าหญิง" ไมยาดินดักคอ

"มันก็เป็นเรื่องดีกับเราไม่ใช่เหรอ โดยเฉพาะเธอที่ยังมีข้อหาเป็นพวกโกญจนาทเป็นชนักปักหลังอยู่ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตนอกคุก ก็รีบหาทางลากตัวไอ้กบฏชั่วนั่นกลับมาให้เราที่นี่"

ขณะเดียวกันนั้น โกญจนาทซึ่งรู้ตัวดีว่าพวกทีฑายุต้องคิดตามล่าตนเองอยู่ ก็พยายามดิ้นสุดฤทธิ์ เขาปลุกปั่นราเชนทระอย่าปล่อยให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างทีฑายุกับกัญญาภัคกุมอำนาจเหนือปัญจารัตน์ เพราะผลประโยชน์ที่ราเชนทระควรจะได้อาจจะหลุดมือไป

"แต่ท่านก็เพิ่งจะถูกขับออกมาจากบ้านเมืองตัวเอง" สันชัยทหารคนสนิทของราเชนทระขัดขึ้น

"เพราะทีฑายุกำลังรวมหัวกับพวกอำนาจเก่าขัดขวางธุรกิจการลงทุนของเรา ถ้าไม่มีทีฑายุ ตอนนี้ท่านก็คงได้เขื่อนปัญจารัตน์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า"

"กล้ายกให้เราเชียวเหรอ โกญจนาท" ราเชนทระถามหยั่งเชิง

"เพราะเกล้ากระหม่อมรู้ว่า สิ่งที่ดีที่สุดควรจะอยู่ในมือผู้ใด ทีฑายุอาจจะเป็นภัยคุกคามในวันข้างหน้า เพราะความดื้อรั้นไม่ฟังใครเหมือนที่เคยบุกเข้านิราษิณมาแล้ว ไม่มีใครจะรู้จักทีฑายุเท่าเกล้ากระหม่อมที่ฟูมฟักเขามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ขอให้ทรงเชื่อสายตาของเกล้ากระหม่อมเถิดพระเจ้าค่ะ ว่าไม่มีทีฑายุเสีย คนนิราษิณจะปลอดภัย"

ราเชนทระนิ่งไป มองสบตาสันชัยอย่างชั่งใจ...

ทางด้านไมยาดินหลังรับคำสั่งจากกัญญาภัคเมื่อ

ตอนเย็น ตกค่ำเขาก็รีบเช่าเรือเร็วมุ่งสู่นิราษิณทันที ส่วนทีฑายุ และเพื่อนฝูง รวมทั้งมาณสิงห์ก็กำลังคิดอ่านจะเอาตัวโกญจนาทกลับมาได้อย่างไร จะขอเปิดเจรจากับราเชนทระส่งตัวกบฏ กลับมาก็ท่าจะยาก อาจเกิดผิดใจกันจนกลายเป็นสงคราม

ราเชนทระเองก็แผนสูง เตรียมสั่งสันชัย ถ้าทีฑายุส่งทูตมาเจรจา ให้บอกไปว่าตนจะแลกเปลี่ยนตัวโกญจนาทกับกัญญาภัคเท่านั้น

"ทีฑายุคงไม่ยอมให้น้องสาวมาที่นี่ โกญจนาทอาจจะเป็นชนวนสงครามนะพระเจ้าค่ะ"

"นั่นแหละที่เราต้องการ ไสหัวมันกลับไปสร้างความพินาศ ทีนี้พอปัญจารัตน์ระส่ำระสาย ก็ง่ายที่นิราษิณจะบุกยึด"

"แล้วจุดจบของคนขายชาติอย่างโกญจนาทล่ะพระเจ้าค่ะ"

"คนที่ทรยศได้แม้กับแผ่นดินเกิด ก็สมควรจะตายอย่างหาแผ่นดินฝังไม่ได้" ราเชนทระยิ้มเจ้าเล่ห์ สันชัยพอใจกับความฉลาดปราดเปรื่องของผู้เป็นนาย

ooooooo

ศิศิราดักพบทีฑายุแล้วเสนอตัวจะไปเจรจาเอาตัวกบฏโกญจนาทจากราเชนทระมาให้เอง โดยอ้างความเป็นเจ้าหญิงแห่งปัญจารัตน์ เธอควรจะได้ทำหน้าที่นี้ แต่ทีฑายุไม่ยอมให้ศิศิราออกไปเสี่ยง ศิศิรา จึงเอ่ยชื่อมาณสิงห์ ให้ตามอารักขาเธอก็ได้ ทีฑายุได้ยินชื่อนี้ก็ขุ่นมัวทันที หาว่าศิศิราจะไปเพราะแค่อยากออกนอกวังกับมาณสิงห์ ศิศิราโกรธจี๊ด ย้อนว่าความคิดของเธอไม่เคยลงที่ต่ำเหมือนทีฑายุ

"น้ำ...มันก็ไหลตกจากที่สูง มีเหรอที่ความรู้สึกมันจะเก็บกั้นไว้ได้ ในเมื่อแอบใกล้ชิดปลอบอกปลอบใจกันทุกวัน ทุกคืน ตอนไม่มีใครเห็น"

ศิศิราสุดทนกับวาจาดูถูก ฟาดหน้าทีฑายุเต็มแรง ทีฑายุเลยกระชากศิศิรามากอดจูบ มาณสิงห์กับกัญญาภัคยืนมองมาจากคนละทาง ต่างตะลึงไม่กล้าเข้ามา...ศิศิราดิ้นขัดขืนแล้วตบหน้าทีฑายุซ้ำอีกที

"อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องยอมให้ผู้ชายหลายรักอย่างเธอ"

"เรามีรักเดียว รักเดียวจากหัวใจ" น้ำเสียงทีฑายุหนักแน่น กัญญาภัคจ้องไปที่ศิศิราอย่างเกลียดชัง แล้วหันหลังเดินจากมาเพราะทนฟังทนดูต่อไปไม่ไหว เช่นเดียวกับมาณสิงห์ ที่เจ็บลึก รีบเดินออกไปอีกทาง จึงไม่ได้ยินคำพูดไร้เยื่อใยของศิศิรา

"เก็บไว้หลอกน้องสาวหรือเพื่อนผู้หญิงคนสนิทของเธอเถอะ เราเคยบอกแล้วว่า เราจะไม่เชื่อผู้ชายชื่อทีฑายุ" พูดขาดคำศิศิราก็วิ่งจากไป ทีฑายุได้แต่มองตาม สายตาเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธ

เมื่อคนอกหักมาเจอกันด้วยใบหน้าเคร่งเครียด มาณสิงห์ เป็นฝ่ายระเบิดอารมณ์ใส่กัญญาภัคขึ้นก่อน

"พี่ชายเธอมันเกิดมาเพื่อทำให้เจ้าหญิงร้องไห้"

"แล้วเธอจะมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม ถ้าพี่ทีฑายุคือชายชั่ว เธอก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษที่คอยซับน้ำตา"

"แต่ในใจเจ้าหญิง คิดถึงชื่อเดียว...คือไอ้ทีฑายุ"

กัญญาภัคเปลี่ยนท่าทีเดินมาแตะมือลงบนไหล่มาณสิงห์ แผ่วเบาเหมือนคนที่เข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี

"เพราะพี่ทีฑายุเขาใช้การกระทำควบคุมหัวใจอ่อนไหวของเจ้าหญิง ทำไมไม่ลองใช้วิธีดิบๆกับเจ้าหญิงดูบ้าง เผื่อบางทีปัญหาคาราคาซังจะได้ลงเอยกันสักที ไปซี ช้านักความรักอาจจะหลุดลอยไปตลอดกาล"

มาณสิงห์ถูกกระตุ้น นิ่งคิดแล้วเดินเร็วออกไป กัญญาภัค มองตามยิ้มๆ หวังให้มาณสิงห์ชนะใจศิศิราให้ได้...มาณสิงห์ ตามไปปลอบศิศิราที่นั่งร่ำไห้เพียงลำพัง แล้วขอโอกาสให้เขาบ้าง ถ้าศิศิราไม่ได้รักทีฑายุ เพราะในใจของเขามีศิศิราเพียงคนเดียว

"เราขอบใจความห่วงใยของเธอ" ศิศิราเอ่ยเรียบๆ

"ทรงไม่รักทีฑายุใช่มั้ย ในใจเจ้าหญิงไม่รักไม่มีเยื่อใย กับทีฑายุเลย ให้โอกาสกระหม่อมได้รับเกียรตินั้นเถิด เกียรติของผู้ชายที่เจ้าหญิงรัก บอกกระหม่อมเถอะว่าจะลืมทีฑายุ เจ้าหญิงไม่ได้รักทีฑายุเลย บอกกระหม่อมสิเจ้าหญิง บอกให้กระหม่อมชื่นใจเพียงนิด"

"เราโกหกเธอไม่ได้..." ศิศิราตัดใจพูดออกมา มาณสิงห์ หน้าเสีย "ถึงจะมีหลายอย่างที่เราไม่พอใจทีฑายุ ถึงจะถูกทำร้ายมากี่ครั้ง แต่ทีฑายุเหมือนดวงตะวันที่สาดแสงขับไล่ ความหนาวเย็นที่มาจากอำนาจมืดของโกญจนาท ถึงทีฑายุจะทำให้เราเสียใจแค่ไหน แต่เราก็เลิกรักทีฑายุไม่ได้"

มาณสิงห์ปวดร้าว จับมือศิศิราทุบลงที่อกของเขาอย่างแรง ศิศิราตกใจพยายามดึงมือออก แต่มาณสิงห์ไม่ยอม รำพันน้อยเนื้อต่ำใจ และคว้ามือศิศิราตบหน้าตนเองไม่ยั้ง จะให้ศิศิราพูดออกมาว่าไม่ได้รักทีฑายุ แม้ศิศิราขอร้องให้เขาหยุดทำร้ายตัวเอง มาณสิงห์ก็ไม่ฟัง กระทั่งศิศิราต้องตัดใจพูดความจริงออกมา

"เรารักทีฑายุ" มาณสิงห์ถึงผงะ "มาณสิงห์...เก็บความรักความปรารถนาดีที่มีให้เราไว้ เราจะจดจำมัน"

"แค่จดจำ แต่ไม่ได้รักเหมือนที่รักทีฑายุ มันทำร้ายเจ้าหญิง แต่เจ้าหญิงก็ยังรัก ทั้งๆที่กระหม่อมอยู่ใกล้รับใช้ เจ้าหญิงเสมอมา แม้กระทั่งชีวิตของกระหม่อมก็พลีให้ได้ แต่กลับเทียบไม่ได้กับความใกล้ของหัวใจที่แนบชิดทีฑายุ ทั้งๆที่มันชั่วช้ากับเจ้าหญิงสารพัด ตรงไหนพระเจ้าค่ะ คือความดีของกระหม่อมที่เจ้าหญิงจะเห็นได้บ้าง"

มาณสิงห์มองจ้องศิศิรา ศิศิราทนมองเห็นความผิดหวังของมาณสิงห์ไม่ได้ หันหลังวิ่งออกไป มาณสิงห์ทรุดลง น้ำตาคลอออกมาด้วยความหวังที่พังทลายลงในพริบตา

ศิศิราวิ่งเข้ามาร้องไห้สะอื้นด้วยความสงสารมาณสิงห์ กัญญาภัคที่เหมือนรออยู่ก่อนแล้วก้าวออกจากมุมหนึ่ง

"อย่ากลัวไปเลยศิศิรา...เจ้าหญิงผู้เพียบพร้อม ศิศิราแปลว่าน้ำค้าง ส่วนทีฑายุคือความยั่งยืนยาวนาน ต่อให้ใสบริสุทธิ์แค่ไหน น้ำค้างก็ไม่อาจสู้แสงตะวัน มีแต่จะระเหยไปในอากาศ เพราะฉะนั้นศิศิรากับทีฑายุก็ไม่มีวันจะอยู่ร่วมกันได้"

"นั่นคงเป็นความหวังสูงสุดของเธอ" ศิศิราตอบโต้ กัญญาภัคอ้อมมาด้านหลัง ศิศิราสัมผัสได้ถึงปลายแหลมของมีดที่จ่อหลัง ก่อนมันจะเลื่อนมาอยู่ที่อก แต่ศิศิราไม่หวั่น กำมือลงไปบนมือกัญญาภัค

"เอาสิ ถ้าอยากให้น้ำค้างอย่างฉันพ้นทางรักของเธอ แค่แทงลงมาตรงหัวใจนี่ หัวใจที่มีพี่ชายเธออยู่ข้างใน หัวใจดวงที่พี่ชายเธอเฝ้าทะนุถนอม รักสุดหัวใจ"

"ศิศิรา...เธอจะเป็นเจ้าหญิงของใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ เจ้าหญิงของพี่ทีฑายุ"

"คงจะไม่ได้ เพราะทีฑายุเองก็ไม่เคยยกย่องใครให้เป็นเจ้าหญิงในหัวใจ นอกจากชื่อ...ศิศิรา"

ศิศิราบิดมือแรงจนมีดหลุดจากมือกัญญาภัคหล่นลงพื้น แล้วหยิบมันปาลงปลายเท้ากัญญาภัค แสดงให้รู้ว่าไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไป กัญญาภัคโมโหหันรีหันขวางก่อนเดินจ้ำออกไป แล้วไปเอาเรื่องมาณสิงห์ที่กำลังจมอยู่กับความผิดหวัง

"นี่น่ะเหรอทหารกล้า ทำสงครามมาร้อยครั้ง เอาชนะใจผู้หญิงคนเดียวไม่ได้"

"แล้วเธอล่ะ มีปัญญาเอาชนะใจไอ้ทีฑายุมันมั่งมั้ย" มาณสิงห์สวนทันควันอย่างมีอารมณ์

"อย่างน้อย...ฉันก็ยังไม่เคยหยุดความพยายาม"

"พยายามมาเท่าไหร่ ทีฑายุก็ยังไม่เคยมองเธอเกินคำว่าน้องสาว"

"ถึงตอนนี้จะยัง แต่ถ้าเจอแผนขั้นเด็ดขาดของฉันเข้าไป แล้วศิศิรายังรักพี่ทีฑายุอยู่ได้อีกล่ะก้อ...มาณสิงห์ ผู้ชายอย่างเธอก็อย่าอยู่ให้อายหมาเลย ไปผูกคอตายซะ"

มาณสิงห์ฟังแล้วโกรธ แต่เถียงไม่ออก...

ooooooo


อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 20
(อ่านต่อพรุ่งนี้)