@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 15-17

@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 15-17
ตอนที่ 15 (ต่อจากวานนี้)

โกญจนาทถูกคุมขังในห้องกว้างและสะอาด มีทั้งน้ำและอาหารอย่างดี ไม่มีโซ่ตรวนแต่มีทหารถือปืนคุมอยู่รอบห้องนับสิบคน...ทีฑายุเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าโกญจนาท

"เพราะกษัตริย์ธราเทพมีเมตตา ลุงถึงไม่ต้องลำบากในคุกเหมือนคนอื่น"

"เด็กยังมีจิตใจสูงกว่าคนอย่างแกกับกัญญาภัค แกเปลี่ยนไปยืนข้างศัตรู แล้วกัญญาภัคก็ยังแอบไปนิราษิณเพื่อช่วยแก...แกสองคนเนรคุณฉันทั้งคู่"

"เรายอมเนรคุณต่อคนชุบเลี้ยง แต่ไม่ใช่คนเนรคุณต่อบ้านเมือง ทุกคนกำลังทำเพื่อแผ่นดินเกิด"

"ฉันก็ทำ ทำในวิถีทางของฉัน ฉันคือคนที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงปัญจารัตน์ให้เป็นดินแดนแห่งความร่ำรวยและโอกาส"

"โอกาสของลุงคนเดียว แต่ไม่ใช่ของทั้งหมด ที่ลุงยืนอยู่ได้มาจนถึงวินาทีนี้ ก็เพราะว่ามีราชวงศ์นี้ให้แผ่นดิน ให้ความ ร่มเย็น เราเคยอยู่อย่างสงบจนลุงใช้เงินทำลายจิตใจชาวบ้าน"

"ฉันทำให้คนหูตาสว่าง ทำให้ทุกคนมีกิน มีความเจริญ พวกแกต่างหากที่กำลังรวมหัวกันเข้าข้าง คนที่นั่งเสวยสุขอย่างเดียว"

"กษัตริย์ไม่ได้นั่งเสวยสุข แต่กษัตริย์คือคนที่ทำงานหนักที่สุดเพื่อประชาชน ต่างกับลุง ลุงเป็นตัวอย่างให้ผมเห็นว่า คนโลภที่มีอำนาจแล้วยังขาดศีลธรรม ขาดคุณธรรม...มันน่ากลัวแค่ไหน ถ้าลุงหยุดคิด หยุดฝันถึงอำนาจเกินตัว ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเก่า แต่ลุงก็จะไม่ลำบากไปกว่าตอนนี้ เพราะคนที่มีคุณธรรมที่สุดและปรานีลุงที่สุด ก็คือศิศิรากับธราเทพ สองพี่น้องที่ลุงฆ่าพ่อแม่ของเขา"
ทีฑายุลงท้ายได้แสบสันแล้วหันกลับออกไปทันที โกญจนาทมองตาม ก่อนจะงึมงำผ่านลำคอด้วยความแค้นที่อัดแน่นในอก

"ฉันเอาชีวิตพ่อแม่มันได้...ฉันก็เอาลมหายใจพวกมันมาเป็นของฉันได้เหมือนกัน"

ooooooo

ตอนที่ 16

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ความคิดและท่าทีของศิศิราที่มีต่อทีฑายุเปลี่ยนไปจากเดิม ศิศิราขอบใจทีฑายุที่ทำทุกอย่างเพื่อบัลลังก์ของธราเทพ แม้ ทีฑายุจะท้วงติงว่าอย่ามองเขาในแง่ดีนัก เธอควรจะระแวงเขาที่สุด ถ้าเขาเป็นคนที่สั่งจับลุงตัวเองได้...

"เพราะเธอยอมรับความเกลียดเอาไว้คนเดียว" ศิศิรายิ้มให้ทีฑายุอย่างเข้าใจ ทีฑายุได้ทีกระเซ้าว่า กำลังจะสารภาพว่ารักตนหรือเปล่า ศิศิราคอตั้งหน้าเชิดทันที ย้ำว่าเธอมีแค่คำขอบใจ ส่วนคำสารภาพรักขอให้เขาไปหาจากผู้หญิงคนอื่น

ทีฑายุยิ้มหวานพอใจที่ศิศิราแง่งอนเพราะหึงหวง เขาดึงเธอมากอดนัวเนียแล้วอุ้มหายเข้าไปในห้องทันทีที่ศิศิรา

บอกอย่างเอียงอายว่า น้องธราเทพอยู่แถวนี้

อีกมุมของวัง กัญญาภัคขอบใจมาณสิงห์ที่ปล่อยตัวแม่ของเธอ มาณสิงห์ย้ำว่าเป็นการตอบแทนที่กัญญาภัคบอกที่ซ่อนโกญจนาท สินาตีได้ยินแล้วตรงรี่เข้าอาละวาดฟาดกัญญาภัคด้วยความโกรธเคือง "แกรู้ได้ยังไงว่าท่านไปอยู่กับนังนารียา"

มาณสิงห์ต้องรวบตัวสินาตีที่ร่ำร้องจะฆ่านารียา กัญญาภัคกลับแนะนำให้แม่ไปฆ่าตัวต้นเหตุอย่างโกญจนาทจะดีกว่า เพราะโกญจนาทหลบไปบ้านทีฑายุแล้วจับนารียาเป็นตัวประกัน

"ฉันเกลียดมัน...เอาตัวนารียามาให้ฉัน เอาตัวมันมา"

"หยุดคลั่งได้แล้วแม่...เอาแม่ฉันกลับไปที่บ้านให้ทหารเฝ้าไว้"

มาณสิงห์ส่งสัญญาณให้ทหาร ทหารจึงมาดึงสินาตีออกไป จากนั้นกัญญาภัคก็เรียกร้องสิ่งตอบแทบที่เธอลงทุนทำไปทั้งหมดจากมาณสิงห์ เธอต้องการให้เนรเทศโกญจนาทไปจากปัญจารัตน์ มาณสิงห์ตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าผู้หญิงสวยๆที่ยืนตรงหน้าเขาจะเลือดเย็นถึงเพียงนี้

ครู่ต่อมา กัญญาภัคทำทีเข้าไปเยี่ยมโกญจนาทในห้องคุมขังด้วยความเห็นใจ...คนอย่างโกญจนาทมีหรือจะไม่รู้ทัน บอกกัญญาภัคให้พูดความจริงมาดีกว่า กัญญาภัคชะงัก แต่

ยังฝืนยิ้ม

"คงไม่มีลูกคนไหนอยากเห็นสภาพคนที่มีบุญคุณ... ถูกจองจำ"

"ฉันนึกว่าแกกำลังดีใจ แล้วก็วาดฝันว่าจะเป็นผู้หญิงที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์"

"กัญญาไม่ใช่เจ้าหญิงนะคะ"

"แล้วที่แกเที่ยวระรานศิศิรา ไม่ใช่เพราะว่าอยากนั่งบัลลังก์คู่พี่ชายต่างสายเลือดหรอกเหรอ"

กัญญาภัคโดนจี้จุดแต่ก็ยังตั้งสติ ไม่ยอมปล่อยให้ โกญจนาทหยั่งท่าที

"ถ้าท่านไม่อคติกับกัญญา ท่านจะเห็นว่าทุกอย่างที่กัญญาทำคือประโยชน์ของท่าน"

"กระทั่งเรื่องที่แอบไปหากษัตริย์ราเชนทระ"

"ดูเหมือนว่ากัญญาช่วยพี่ทีฑายุใช่มั้ยคะ แต่ท่านคิดดีๆสิคะว่ากัญญาช่วยใครกันแน่ กัญญาเป็นลูกสาวท่าน ถ้าท่าน จะยกกัญญาให้ใครสักคน สิ่งที่ท่านจะได้คืนคงไม่ใช่แค่สินสอดทองหมั้น แต่มันควรจะเป็นแคว้นสักแคว้นที่เหมาะสมกับผู้นำที่ไม่เคยก้มหัวกลัวเกรงใครอย่างท่าน"

โกญจนาทมีสีหน้าครุ่นคิดลังเล...ยังความสมใจให้กับกัญญาภัคที่อุตส่าห์เค้นถ้อยคำโป้ปดผ่านออกมาจากแววตาจริงใจ...

ด้านวิชัย เมื่อมีโอกาสคุยกับทีฑายุตามลำพัง วิชัยเห็นด้วยกับเรื่องที่จะเนรเทศโกญจนาทออกไปจากปัญจารัตน์ แต่เรื่องผู้สำเร็จราชการควรเป็น...

"เราขอเสนอ...ศิศิรา" ทีฑายุแทรกขึ้นมาจนวิชัยชะงัก แล้วเผลอเรียก "นายน้อย" ทีฑายุสีหน้าระแวงหันมองรอบตัวก่อนติงวิชัยว่า "ท่านไม่ควรเรียกเราอย่างนี้คนอื่นอาจจะได้ยิน"

"แต่ท่านคือนายน้อยของผม...กุทที พ่อนายน้อยเคยช่วยชีวิตผมกับครอบครัว คนอย่างผมบุญคุณต้องทดแทนไปจนกว่าจะสิ้นชีพ นายน้อยทำทุกอย่างเพื่อทวงคืนบัลลังก์ ให้เจ้าหญิง ยอมให้โกญจนาทมันบงการสารพัด จนมันคิดว่าจูงจมูกนายน้อยได้ จนถึงตอนนี้มันก็ได้รู้แล้วว่านายน้อยเป็นเสือซ่อนเล็บ ที่กล้าต่อสู้กับราชสีห์เฒ่า แล้วทำไมนายน้อยถึงไม่ใช้ความสามารถของตัวเองปกครองแผ่นดิน"

"เราต้องการเป็นแค่เสาค้ำจุนบัลลังก์ เราต้องการแค่นั้น...วิชัย"
ตอนที่ 16

"เพราะนายน้อยรักเจ้าหญิงต่างหาก"

"เราจะรักลูกของคนที่สั่งฆ่าพ่อเราได้ยังไง"

"การตายของท่านกุททีมีเงื่อนงำ"

"แต่เราเชื่อว่าสิ่งนึงที่ลุงไม่ได้โกหก...คือพ่อศิศิราสั่งฆ่าพ่อเรา ทุกครั้งที่เราเห็นบัลลังก์แสงจันทร์ เราเห็นภาพคนที่ฆ่าพ่อเราเคยนั่งอยู่ตรงนั้น แต่เขาก็เป็นคนเดียวกับที่ทำให้ ทั้งแผ่นดินนี้มีความสงบสุข...สำหรับเรา เรื่องของแผ่นดินต้องอยู่เหนือความเจ็บปวด ความแค้น และอยู่เหนือแม้กระทั่งหัวใจตัวเอง"

วิชัยฟังแล้วรู้สึกเป็นปลื้มชื่นชมนายน้อยของตนยิ่งขึ้นไปอีก

ooooooo

เพราะห่วงความรู้สึกของธราเทพที่ยังเด็กเกินกว่าจะต้องมารับรู้เรื่องแย่งชิงของผู้ใหญ่ ศิศิราจึงยังไม่ บอกเรื่องเนรเทศโกญจนาทให้น้องชายรู้ แต่เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูชาวบ้านที่เคยได้รับแจกเงินจากโกญจนาท ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ลุกฮือต่อต้านทันที ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารกับชาวบ้าน โชคดีไม่มีใครล้มตาย เพราะทีฑายุไม่ยอมให้ทหารยิงชาวบ้าน

กัญญาภัคขัดใจเป็นที่สุดเมื่อโกญจนาทถูกนำตัวกลับเข้าวังมาขังตามเดิม แทนที่จะถูกเนรเทศไปพ้นปัญจารัตน์ แต่ถึงแม้จะถูกคุมขัง โกญจนาทก็ยังเป็นคนสำคัญของธราเทพเหมือนเดิม ธราเทพลงมาคลุกคลีกับโกญจนาท ให้สอนยิงธนู และยกย่องโกญจนาทเป็นครู แถมโกญจนาทเองก็ยอมเจ็บตัวเพื่อปกป้องธราเทพขณะซ้อมยิงธนู

ศิศิรากับทีฑายุรู้ทันโกญจนาทว่าแสร้งทำดีหลอกเด็กและตบตาพวกเราทุกคน รวมทั้งชาวบ้านที่โกญจนาทนำเงินไปหว่านไว้ และตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นก็กำลังต่อต้านไม่ยอมรับทีฑายุกับเจ้าหญิงศิศิรา แล้วอาจจะบานปลายกลายเป็นจลาจลกลางเมือง

ศิศิราหนักใจกับเรื่องนี้มาก จะไปตามทีฑายุมาช่วยพูดกับธราเทพให้เข้าใจตัวตนแท้จริงของโกญจนาท ซึ่งเธอมั่นใจว่าไม่มีใครทำได้นอกจากทีฑายุ แต่มาณสิงห์ไม่อยากให้ศิศิราออกจากวังเพราะนอกวังอันตรายมาก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทัดทานศิศิราได้

ทีฑายุอยู่ที่หอคณิกากำลังวางแผนกับเพื่อนๆว่าจะแก้ปัญหาเรื่องชาวบ้านกันอย่างไร แต่ขณะที่ศิศิรามาถึง พวกประสันต์ได้ออกไปสังเกตการณ์แล้วให้ทีฑายุรออยู่ที่นี่ ศิศิรา จึงมาเห็นทีฑายุอยู่กับจตารีสองต่ออย่างสนิทชิดใกล้

ศิศิรากลับวังด้วยความเสียใจ โดยที่จตารีกับทีฑายุไม่เห็นเธอ แต่จตารีเห็นมาณสิงห์ ครู่ต่อมาทีฑายุจึงรีบกลับวังเพื่อจะอธิบายให้ศิศิราเข้าใจ แต่กลับมาเจอกัญญาภัคจอมแผนการนอนร้องครวญครางหลังจากลงทุนให้รักเร่เอากรรไกรแทงไหล่เธอจนได้เลือด

ทีฑายุหลงเชื่อคำพูดกัญญาภัคที่ว่าเธอมัวแต่ห่วงก้มดูผ้าที่ปักให้เจ้าหญิง เลยไม่ทันระวังมุมเสาที่หักอยู่ ทีฑายุอุ้มกัญญาภัคเข้ามาในห้องนอนศิศิราซึ่งใกล้สุด แล้วทำแผลให้ด้วยความเป็นห่วง ทันใดนั้นเองศิศิรากลับเข้ามาเห็น ศิศิราเข้าใจผิดคิดว่าสองคนกำลังทำบัดสีบนเตียงของเธอ จึงต่อว่าทั้งสองคนก่อนสะบัดออกไปด้วยความโกรธ ส่วนมาณสิงห์ซึ่งรู้แผนการของกัญญาภัคก็ไม่พูดอะไรสักคำ นอกจากพอใจอยู่ลึกๆที่ทีฑายุ ถูกศิศิราเกลียดชังยิ่งขึ้นไปอีก

ศิศิราเดินแกมวิ่งออกมาเจอโกญจนาท เธอตกใจและไม่เข้าใจว่าโกญจนาทออกจากห้องคุมขังได้อย่างไร กระทั่งมาณสิงห์ไปดูที่ห้องคุมขังก็พบว่ามีคนเอายานอนหลับใส่ให้ทหารยามกินจนโกญจนาทลอยนวลออกไปได้ มาณสิงห์จึงสั่งทหารตามจับตัวโกญจนาทให้ได้

โกญจนาทยื่นข้อเสนอกับศิศิราว่า ทางเดียวที่จะรักษาบ้านเมืองและรักษาลมหายใจของตัวเองกับน้องชายไว้ได้ก็คือ ศิศิราต้องไปบอกให้ธราเทพสละราชบัลลังก์ ศิศิราทั้งกลัวทั้งกดดัน กรีดร้องจนหมดสติ เป็นเวลาที่มาณสิงห์ระดมกำลังทหารผ่านมา โกญจนาทจึงเร้นกายหายไปในความมืดทันที

ญาณีตัดสินใจพาศิศิราหลบไปพักที่บ้านนารียาตั้งแต่ เมื่อคืน มาณสิงห์แม้ไม่เห็นด้วยแต่ก็ขัดญาณีไม่ได้ เพราะญาณียืนยันว่าเธอไม่อยากให้เจ้าหญิงกลับไปเจอภาพทุเรศของทีฑายุกับกัญญาภัคอีก แล้วยังโกญจนาทอีกคนที่ใครก็แตะต้องไม่ได้

"เธอกลับไปดูแลเจ้าชายธราเทพแทนเจ้าหญิงก่อน ทางนี้มีฉัน ไม่ต้องห่วง...เจ้าหญิงกำลังทุกข์เรื่องรักษาบ้านเมือง หวังว่าเธอคงไม่ใช้โอกาสนี้ซ้ำเติมหัวใจเจ้าหญิงด้วยการแยกเจ้าหญิงกับทีฑายุ" ญาณีทิ้งท้ายก่อนจะกลับเข้าบ้านนารียาไป มาณสิงห์ฮึดฮัดเถียงไม่ออกเพราะตัวเองร่วมมือกับกัญญาภัคเพื่อแยกทีฑายุกับศิศิราจริงๆ

ทีฑายุรีบร้อนมาถึงบ้านเกือบจะชนมาณสิงห์ที่เพิ่งเดินออกมา...ทีฑายุไม่ชอบใจ กระชากเสียงถามมาณสิงห์ว่า "แกมาทำไม"

"กลัวว่าฉันจะใช้บ้านของแกปลอบใจเจ้าหญิงสอง

ต่อสองเหรอ"

"ออกไป"

"วันนี้ฉันไปแน่ แต่ฉันจะได้กลับมาเหยียบที่นี่อีก แล้วคนที่จะต้องไปจากชีวิตเจ้าหญิงจริงๆ ต้องไม่ใช่ฉัน" มาณสิงห์ เดินออกไปพร้อมรอยยิ้ม

ส่วนทีฑายุรีบเข้าบ้าน บอกแม่ว่าตนมีเรื่องต้องอธิบายกับศิศิรา นารียาจึงต้อนญาณีออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทีฑายุได้ปรับความเข้าใจกับเจ้าหญิง...แต่ไม่ว่าทีฑายุจะพูดความจริงอย่างไรทั้งเรื่องจตารีและกัญญาภัค ศิศิราก็เอาแต่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ใดๆทั้งสิ้น แววตาเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ไม่ยอมหันหน้ามาหาทีฑายุ จนทีฑายุต้องถอยออกมา

"แม่จะดูแลเจ้าหญิงให้เอง" นารียาเอ่ยกับลูกชายที่เดินหน้าหมองออกมา

"ผมต้องรีบกลับไปดูเรื่องลุงกับเจ้าชายธราเทพ"

"เชิญเลยค่ะ" ญาณีกระแทกเสียงน้อยๆก่อนผลุบเข้าไปหาศิศิรา คะยั้นคะยอให้ทานอะไรสักหน่อย เสร็จแล้วจะได้ออกไปเดินเล่นกัน ญาณีเห็นมีชิงช้าให้นั่งเล่นที่ริมน้ำ

ศิศิรานอนนิ่งไม่พูดจาไม่ตอบโต้ มีเพียงน้ำตาไหลซึมออกมา ญาณีเห็นแล้วกลุ้มใจ กลับออกมาบ่นให้นารียาฟัง พลางก็คาดเดาว่า "หรือพระองค์จะช็อก"

"คงทั้งเครียด ผิดหวัง แล้วก็กดดัน รออีกสักพักน่าจะดีขึ้น"

"นี่มันกรรมเวรอะไร เจ้าชายก็เจ็บตัวตอนซ้อมยิงธนู เจ้าหญิงก็ช็อกจนไม่พูดอะไรเลย บ้านเมืองก็ปั่นป่วน สาธุ...ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงกว่านี้เลย"

นารียาฟังญาณีแล้วรู้สึกใจคอไม่ดีเหมือนกัน

ooooooo

กัญญาภัคแสร้งเห็นใจทีฑายุที่กลับมาพร้อมกับความผิดหวังที่ศิศิราไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น

"ให้กัญญาไปอธิบายกับเจ้าหญิงเองดีกว่า"

"ยังไม่ต้อง กัญญามีเรื่องอื่นหรือเปล่า ถึงมารอพี่ตรงนี้"

"มีค่ะ กษัตริย์ธราเทพเรียกให้โกญจนาทเข้าเฝ้า"

ทีฑายุเดินลิ่วไปห้องธราเทพทันที กัญญาภัคก้าวตามร้อนใจไม่แพ้กัน...โกญจนาทกำลังเล่าประวัติศาสตร์บ้านเมืองให้ ธราเทพฟังอย่างออกรส เมื่อทีฑายุกับกัญญาภัคเข้ามา ธราเทพ ที่กำลังสนุกจึงไม่ยอมให้ทั้งคู่ขัดจังหวะ โกญจนาทถึงกับลอบยิ้มเย้ยทีฑายุด้วยความสะใจ ทีฑายุไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากถอยออกมาพร้อมกัญญาภัค

"โกญจนาทกำลังหลอกล่อองค์ธราเทพ แล้วอย่างนี้เราจะขับไล่เขาออกไปได้ยังไง"

"กัญญาไปคอยดูแลองค์ธราเทพแทนพี่หน่อยได้มั้ย"

"บัวบุศก็ดูแลอยู่แล้วนี่คะ"

"พี่ไม่อยากให้ลุงพูดอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง"

"ทำไมเราถึงไม่พูดความจริงกับองค์ธราเทพไปซะเลย"

"จิตใจเด็กละเอียดอ่อนมากนะกัญญา ความผิดหวังเพียงนิดเดียวอาจเป็นปมในใจไปชั่วชีวิต"

"งั้นพี่ทีฑายุไปประชุมเถอะค่ะ กัญญาจะจัดการเรื่องนี้ให้"

ทีฑายุหันหลังจากไป กัญญาภัคยิ้มมั่นใจ แววตาร้ายกาจกับแผนที่คิดออก จากนั้นไม่นานกัญญาภัคพร้อมด้วยรักเร่ก็ไปโผล่ที่บ้านนารียา

"เจ้าหญิงเป็นอะไรนักหนาถึงไม่เสด็จกลับวัง ทำไมต้องคอยให้พี่ทีฑายุวิ่งไปวิ่งมา" กัญญาภัคเดินมามองศิศิราที่นั่งเฉย รักเร่ก้มมองแล้วมองอีกก่อนเอ่ยขึ้น "หรือว่าเป็นบ้าไปแล้ว"

ศิศิราไม่พูดไม่ตอบ แต่พอกัญญาภัคจะดึงแขน ศิศิรา ก็ชิงผลักกัญญาภัคจนล้ม ญาณีหัวเราะสะใจ รักเร่เลยจะอาละวาด นารียาจึงปรามทั้งนายทั้งบ่าวหัดมีมารยาทและความเกรงใจเสียบ้าง

"กัญญามาธุระของพี่ทีฑายุ พี่ทีฑายุต้องการให้เจ้าหญิงกลับวัง"

"เจ้าหญิงจะไม่กลับไปเห็นภาพอุจาดตา" ญาณีสวนทันที

"จิตใจเปราะบางเหลือเกิน" กัญญาภัคยิ้มเยาะ

"ถ้าหมดธุระแล้วก็พากันกลับไปเถอะ ขอละนะ ที่นี่จะเป็นที่สงบที่สุดของเจ้าหญิง" นารียาตัดบท กัญญากัคกับรักเร่เลยไม่กล้าตอแยศิศิราอีก

ขณะเดียวกันนั้น ทีฑายุกำลังประชุมกับสันธิและวิชัย โดยมีมาณสิงห์ร่วมฟังอยู่ด้วย วิชัยบอกว่าเราควบคุมเหตุการณ์ ส่วนใหญ่ไว้ได้แล้ว แต่สันธิห่วงก็คือ เราเนรเทศโกญจนาทออกไปไม่ได้ เพราะถ้าประชาชนรู้ก็จะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านอีก

"ถ้าให้อยู่ในวังก็เท่ากับเราต้องระวังทุกฝีก้าว" มาณสิงห์ หนักใจ แต่ทีฑายุหนักใจกว่า บอกทุกคนว่าตอนนี้องค์ธราเทพอยู่กับโกญจนาท ไม่มีใครพาเข้าไป เป็นรับสั่งของพระองค์เอง "พอถึงคราวคับขันก็เอาหลังพิงราชวงศ์ เลวบัดซบ" มาณสิงห์คำรามด้วยความแค้น

"รีบไปเอามันออกมาอย่างละมุนละม่อมที่สุด อย่าให้ องค์ธราเทพตกใจ" สันธิพูดจบก็เดินตามวิชัยออกไป มาณสิงห์ ยังไม่ขยับ กลับมองทีฑายุพลางยิ้มเยาะในทีเรื่องศิศิรา ทีฑายุ เห็นแล้วขุ่นใจเป็นบ้า

เมื่อวิชัยกับสันธิไปถึงห้องธราเทพ สองคนไม่กล้าทำอะไร เพราะธราเทพหลับซบอกโกญจนาท หลังฟังนิทานประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองจบลง...โกญจนาทมองสองทหารผู้จงรักภักดี แล้วยิ้มให้อย่างเหนือกว่า

เย็นนั้น มาณสิงห์ไปรายงานศิศิราว่าเหตุการณ์ทุกอย่างสงบแล้ว ธราเทพเรียนหนังสือแล้วก็เล่นดนตรี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ศิศิรารับฟังแต่ยังไม่พูดอะไรเหมือนเคย ทำให้มาณสิงห์ชักจะใจคอไม่ดี...ทางด้านสินาตี เมื่อเกิดรบเร้ากัญญาภัคว่าอยากจะเข้าไปเยี่ยมโกญจนาท กัญญาภัคเลยย้อนถามเข้าให้ว่า จะไปเยี่ยมมันทำไม หาทางให้มันออกไปจากปัญจารัตน์น่าจะดีกว่า

"กัญญา ถึงแกไม่รักท่าน แต่แกก็น่าจะช่วยให้แม่ไปเยี่ยมท่านหน่อย"

"แม่ฟังกัญญานะ ตัดใจจากโกญจนาทซะ"

"แกอย่ามาสั่งฉัน ตราบใดที่แกก็ยังตัดใจจากไอ้ทีฑายุไม่ได้ แกกำลังรักสามีของเจ้าหญิง"

"พี่ทีฑายุเป็นของกัญญามาก่อน"

"แต่ทีฑายุมันก็เป็นลูกของนังนารียา คนที่ฉันเกลียด พี่ชายกับน้องสาวคนละสายเลือด ยังไงก็สู้สามีภรรยาที่แต่งงานกันอย่างถูกต้องไม่ได้"

"กัญญาบอกให้หยุดพูด" ทั้งลูกทั้งแม่ต่างโมโหใส่กัน ...สินาตีจับไหล่ลูกสาวเขย่า เตือนสติ

"เลิกคิด เลิกหวังกับไอ้ทีฑายุได้แล้ว มันไม่ได้รักแก ได้ยินมั้ย มันรักศิศิรา"

"ไม่จริง แม่โกหก เพ้อเจ้อ อย่าพูดให้กัญญาได้ยินอีกนะ...พี่ทีฑายุรักกัญญา ได้ยินมั้ย พี่ทีฑายุรักกัญญา" กัญญาภัคสะอื้นเสียงสั่นเครือ สินาตีนิ่งมองอย่างเวทนา...

เวลานั้นทีฑายุกำลังยืนยันกับศิศิราว่ากัญญาภัคเป็นน้องสาว เราโตมาด้วยกัน หลายครั้งที่ตนถูกสินาตีต่อว่าที่เป็นคนมาอาศัย แต่กัญญาจะแอบเอาของกินดีๆมาให้ตนเสมอ ตนไม่เคยเห็นกัญญาภัคเป็นอย่างอื่น และตนก็เคยสัญญาว่าจะดูแลน้องสาวคนนี้...

เห็นศิศิรานั่งฟัง ทีฑายุยิ้มใจชื้น แต่แล้วศิศิราดึงมือออกลุกเดินไปอย่างเฉยเมย ทีฑายุถึงกับคอตกผิดหวัง

"เจ้าหญิงไม่พูดกับใครเลยลูก พระองค์คงเจออะไรที่ทำร้ายจิตใจมาอย่างรุนแรง"

"ไม่พูด..." ทีฑายุเงยหน้ามองแม่ แล้วหันไปทุบเสา ระบายความอัดอั้น

"มาลงโทษตัวเองตอนนี้ก็ไม่ทำให้เจ้าหญิงรู้สึกดีขึ้น"

"ผมต้องทำยังไง ศิศิราต้องพูดนะแม่ ศิศิราต้องพูดกับผม" ทีฑายุรำพึงด้วยความเสียใจ นารียาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่แตะไหล่ปลอบใจลูก

ooooooo

ตอนที่ 17

แล้วโกญจนาทก็พึ่งพิงธราเทพจนทำให้ตัวเอง ได้ออกมาอยู่นอกคุก แม้จะเป็นการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อรอการสอบสวนข้อหากบฏอย่างที่วิชัยบอกใครต่อใคร แต่โกญจนาทก็มั่นใจว่าการออกมาครั้งนี้ของตนจะไม่มีทางกลับเข้าไปอีกอย่างแน่นอน อีกทั้งไมยาดิน รามปุระ และทาอูก็ได้รับสิทธิ์การปล่อยตัวนี้ ด้วยเช่นกัน จนกว่าจะมีการตัดสินเรื่องทั้งหมด

สินาตียิ้มร่าดีใจเมื่อโกญจนาทได้กลับมาอยู่บ้าน ถึงแม้จะถูกกักบริเวณอยู่แต่ในบ้าน โดยมีคนของสันธิสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหว แต่โกญจนาทก็ยังดิ้นรนวางแผนกับสมุนอยู่เงียบๆ ไมยาดินเมื่อได้รับอิสระก็รีบดักพบกัญญาภัคด้วยความคิดถึง กัญญาภัคไม่เคยมีใจสักนิดแต่ต้องแสร้งตบตาไมยาดินต่อไป เพราะเธอพยายามจะดึงไมยาดินมาอยู่ข้างเดียวกัน เพื่อกำจัดโกญจนาทให้จงได้ แต่สินาตีเฝ้ามองความใกล้ชิดระหว่างกัญญาภัคกับไมยาดินอย่างไม่พอใจ

โกญจนาทมีแผนจะยึดดินแดนแถวเขื่อนที่ติดกับนิราษิณ ขณะเดียวกันกัญญาภัคก็กำลังจ้องอยากได้ที่ดินตรงนี้ เย็นนั้นเธอจึงชวนไมยาดินไปนั่งเรือเล่นที่เขื่อน แล้วทำพูดทีเล่นทีจริงว่า

"ปัญจารัตน์มั่งคั่งด้วยเขื่อนผลิตกระแสไฟ นิราษิณเองก็คงอยากมีเหมือนเรา ถ้าใครได้เป็นเจ้าของเขื่อน ก็เท่ากับยึดครองปัญจารัตน์ได้ทั้งหมด ไมยาดินทำให้ทั้งหมดนี่เป็นของกัญญาได้มั้ย"

"ได้สิ" ไมยาดินพูดจบก็วักน้ำขึ้นมา "เราให้เธอ"

"ไม่ใช่สิ ไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่ปลา ไม่ใช่แค่ทะเลสาบ เราต้องการที่ตรงนี้ทั้งหมด ไมยาดินทำให้มันเป็นของเราได้มั้ย"

"เขื่อนไม่ใช่สมบัติของประชาชนคนใดคนหนึ่ง มันคือสมบัติของแผ่นดิน"

กัญญาภัคชะงักกับสีหน้าเคร่งเครียดของไมยาดินเธอแกล้งวักน้ำสาดเขา หัวเราะเสียงใส

"ซีเรียสไปได้ กัญญาแค่ลองใจไมยาดินเท่านั้นแหละ ว่าจะหาทุกอย่างที่กัญญาอยากได้จริงๆหรือเปล่า"

ไมยาดินค่อยยิ้มออก พายเรือต่อไปท่ามกลางบรรยากาศ สดชื่น แต่กัญญาภัคเหยียดยิ้ม เบือนหน้าหันไปมองความยิ่งใหญ่ของเขื่อนด้วยสายตามีเป้าหมาย เมื่อกัญญาภัคกลับเข้าบ้าน ไมยาดินยังตามมาส่ง ทั้งจับมืออ้อล้อไม่อยากจาก แต่พลันต้องรีบปล่อยเพราะโกญจนาทเดินออกมาจ้องสายตาคมกริบ

"มีนายใหม่อีกคนแล้วหรือ ไมยาดิน"

"กัญญากำลังถามไมยาดินถึงตอนที่ถูกขังน่ะค่ะ"

"มีอะไรที่แกต้องรู้"

กัญญาภัคคิดไม่ทัน ไมยาดินรีบอธิบายแก้ให้ "ตอนที่อยู่ในคุก กัญญาภัคหาทางช่วยเราครับ"

"ถ้ากัญญารื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วทำให้ท่านไม่สบายใจ กัญญาขอโทษค่ะ"

"กลับไปได้แล้ว" โกญจนาทสั่ง ไมยาดินก้มหัวก่อนเดินออกไปเงียบๆ "แม่แกไม่อยากเห็นไมยาดินที่นี่อีก แต่ไมยาดินเป็นคนของฉัน แล้วมันก็ทำประโยชน์ได้มากกว่าแกหลายเท่า จำใส่สมองแกไว้ เมื่อไหร่ที่เกิดเรื่องงามหน้าที่นี่ แกคือคนแรกที่ฉันจะไม่เลี้ยงไว้" โกญจนาทน้ำเสียงดุดัน แล้วหันกลับเข้าบ้าน กัญญาภัคมองตาม แววตากระด้างขึ้นทันที

"แกต่างหากที่ต้องอ้อนวอนขอชีวิตจากฉัน"

กัญญาภัคไม่เข้าบ้าน มุ่งหน้าไปพบทีฑายุในวัง แล้วทำออดอ้อนอย่างหวาดผวาว่า ที่บ้านมีแต่ทหารจับตาดูโกญจนาทอยู่ เธอกลัวมาก ถ้าเกิดโกญจนาทคิดหนี เธอคงโดนลูกหลงไปด้วย

"ลุงคิดจะหนีไปไหน"

"กัญญาไม่ทราบ แต่พี่ทีฑายุก็รู้นิสัยท่าน นิ่งไม่ได้ หมายความว่ายอมแพ้"

"พี่อยากให้กัญญาอยู่ใกล้ลุงไว้ พี่เข้าใจว่ามันอันตราย แต่ถ้าเราปล่อยให้ลุงคลาดสายตา..."

"แผ่นดินก็ไม่มีวันสงบสุข พี่ทีฑายุกับเจ้าหญิงก็คง ไม่ได้ใช้ชีวิตคู่กันสักที...ได้ค่ะ กัญญาจะกลับไปที่บ้าน ทั้งๆพี่ ทีฑายุกำลังขอให้น้องเอาชีวิตไปเสี่ยง"

"กัญญา ฟังพี่ก่อน"

"ชีวิตกัญญา...สละได้เพื่อความสุขของพี่"

ทีฑายุจะคว้ามือ แต่กัญญาภัคหันหลังวิ่งออกไปแล้วแกล้งกลิ้งตกบันได ร้องโอดโอยทั้งที่ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย ทีฑายุตกใจรีบอุ้มกัญญาภัคเข้าห้องเจ้าหญิงเพื่อปฐมพยาบาล กัญญาภัคยิ้มสมใจ แต่อีกครู่ได้ยินทีฑายุบอกว่าพี่จะไปนอนที่อื่น กัญญาภัคขัดใจแทบจะกรี๊ด

มาณสิงห์เดินผ่านมาเห็นทีฑายุออกจากห้องเจ้าหญิงก็นิ่วหน้ามองสงสัย...มาณสิงห์เปิดประตูเข้าไปเห็นกัญญาภัค นอนบนเตียงเจ้าหญิง รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง

"บังอาจ ใฝ่สูงไม่สิ้นสุด มาทำอะไรบนเตียงเจ้าหญิงอีก"

"พี่ทีฑายุให้ฉันมานอนที่นี่"

มาณสิงห์ไม่สนตรงเข้ามากระชากแขนกัญญาภัค ไล่ให้ออกไปจากห้องนี้ กัญญาภัคแกล้งเซปะทะอกมาณสิงห์ ทันที แล้วเอามือโอบรอบคอเขาไว้

"ไปไม่ได้ เจ็บขา...คงคิดว่าเรากำลังจะเข้ามาครอบครองทุกอย่างของเจ้าหญิงล่ะสิ"

กัญญาภัคทอดสายตาหวานฉ่ำ มาณสิงห์ปลดมือหญิงสาวออกแล้วผลักลงบนเตียง กัญญาภัคแกล้งร้องราวกับเจ็บขาจะเป็นจะตาย มาณสิงห์ตกใจเข้ามาดูแลอย่างรู้สึกผิด

"สุภาพบุรุษอย่างนี้นี่เอง ถึงเป็นที่รักของเจ้าหญิง"

มาณสิงห์สบตาหยาดเยิ้มของกัญญาภัคในระยะใกล้ แล้วรีบดึงตัวออกห่าง "หวังว่าคราวนี้คงเจ็บจริง ไม่ใช่แกล้งเจ็บ เพื่อเรียกร้องความสนใจ"

"แล้วมันไม่ดีกับเธอด้วยเหรอ ถ้าเราจะอยู่ที่นี่ให้พี่ทีฑายุดูแล แล้วเธอก็ไปคอยประคบประหงมจิตใจว้าเหว่ของเจ้าหญิง"

"แต่ถึงยังไง ห้องนี้ก็เป็นของเจ้าหญิงศิศิรา หายเมื่อไหร่ ก็รีบออกไปซะ"

มาณสิงห์หันหลังเดินเร็วออกไปทันที กัญญาภัคยิ้มพราย เอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ พร้อมกับประกาศความเป็นเจ้าของ

"แกไม่มีวันได้กลับมานอนที่เตียงนี้อีกแล้วศิศิรา ทุกอย่างในห้องนี้ต้องเป็นของฉัน ทั้งเตียง ทั้งพี่ทีฑายุ"

ooooooo

เมื่อคืนทีฑายุไปนอนที่หอคณิกาของจตารี เช้าขึ้นถึงกลับมาดูกัญญาภัค กำชับไม่ให้ขยับเขยื้อนมากนัก ควรอยู่แต่ในห้อง จะได้หายเร็วๆ แต่กัญญา-ภัคบอกเบื่อ อยากให้พี่พาเธอไปนั่งรถเล่น

"พี่ต้องไปประชุม แต่กลัวกัญญาเหงา เลยหาคนมาอยู่เป็นเพื่อน"

กัญญาภัคแปลกใจว่าใคร แล้วก็เห็นส้มเสี้ยวเดินหน้าบูดเข้ามา ทีฑายุรีบสั่งส้มเสี้ยว ถ้าคุณกัญญาต้องการอะไร ก็รีบหามาให้

"แค่คนเดียวคงไม่ทันใจ กัญญาขอรักเร่มาอยู่ด้วยแล้วกันค่ะ"

ส้มเสี้ยวรู้ดีว่ากัญญาภัคคิดจะแกล้งตน แต่คนอย่างส้มเสี้ยวไม่เคยกลัวใคร ท้าเหย็งๆหลังจากทีฑายุกลับออกไปแล้ว แถมยังแกล้งกัญญาภัคจนโกรธหน้าดำหน้าแดง

ทีฑายุไปที่ค่ายทหาร กางแผนที่แคว้นปัญจารัตน์ ปรึกษาหารือกับสันธิและวิชัยเกี่ยวกับช่องทางการหนีของโกญจนาท

"กำลังทหารอยู่รอบบ้านตลอดเวลา ไม่มีทางรอดสายตา ชายแดนทุกด่านก็มีแต่ทหารของเรา"

"ตรงนี้...พื้นที่ 10 กิโลเมตรเหนือเขื่อน มีแม่น้ำสายใหญ่ เชื่อมต่อกับนิราษิณ เกาะแก่งมากมาย เหมาะสำหรับเป็นทางหลบหนี" สันธิชี้บนแผนที่

"เรามีกองกำลังพิเศษที่ควบคุมบริเวณเหนือเขื่อนอยู่แล้ว" ทีฑายุมั่นใจ แต่สันธิท้วงว่า

"พื้นที่กว้าง มีผลประโยชน์ทั้งป่าไม้ เหมืองแร่ และแหล่งน้ำ ขุมทรัพย์ใหญ่ของปัญจารัตน์ กองกำลังเรามีไม่ทั่วถึงเท่ากับชาวบ้านที่เราให้เขาดูแลพื้นที่"

"งั้นส่งคนเข้าไป อย่าให้ชาวบ้านพวกนั้นโดนมอมเมาด้วยเงินจนตกเป็นเครื่องมือของโกญจนาท" ทีฑายุเอ่ยเตือน ด้วยน้ำเสียงกังวล...

ทางด้านโกญจนาทก็กำลังวางแผนกับทหารคู่ใจทั้งสามคน แต่จู่ๆสินาตีพรวดพราดเข้ามาบ่นเรื่องกัญญาภัคเข้าวังไปตั้งแต่เมื่อคืน ป่านนี้ยังไม่กลับออกมา

"เข้าไปหาใคร" โกญจนาทถาม

"ก็มีคนเดียว ทีฑายุ"

"จริงสินะ พักนี้ลูกสาวคนสวยของเราสนิทชิดเชื้อกับสามีเจ้าหญิงเหลือเกิน ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรกันอยู่"

"กัญญาภัคไม่มีวันทรยศท่าน" ไมยาดินโพล่งขึ้น

"งั้นเหรอ อะไรในตัวลูกสาวฉันที่ทำให้แกมั่นใจ"

"กัญญาภัคฉลาด เขารู้ว่าแผ่นดินนี้กำลังจะเป็นของใคร"

โกญจนาทหัวเราะใจเย็น แตะมือลงที่บ่าไมยาดินอย่างสนิทสนม "แกก็ฉลาดที่รู้ว่าต้องจงรักภักดีกับใคร ฉันมีงานให้แกทำ เงียบและลับที่สุด เหมาะกับคนมีฝีมืออย่างแก"

สินาตีมองค้อนหมั่นไส้เมื่อเห็นไมยาดินยิ้มยืดที่ได้รับคำชม

ooooooo

(อ่านต่อพรุ่งนี้)