@^@..อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 3-4

@^@..อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 3-4
ตอนที่ 3 (ต่อจากวานนี้)

ตะวันไปถึงเชียงใหม่ตอนเย็น แขไขดีใจมากกอดลูกไว้อย่างห่วงหา เมื่อคลายกอด ตะวันมองหน้าแม่อย่างพินิจพิจารณา ถามตรงๆว่า แม่รู้จักผู้หญิงคนที่เหมือนกับตนใช่ไหม ทำเอาแขไขหนาวเยือกตอบไม่เต็มเสียงว่า "ไม่ แม่ไม่รู้จัก"

"ชื่อของผู้หญิงคนนั้นกับตะวันก็คล้ายกัน เหมือนตั้งมาคู่กัน ปาณิศา ปาลิตา ปาลิตา ปัญญารักษ์"

แขไขปฏิเสธใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวว่าแม่ไม่รู้จัก ครั้นตะวันเซ้าซี้ถามมากเข้า จากกลัวเลยกลายเป็นโกรธ ยืนยันเสียงแข็งว่า "ไม่รู้จัก แม่มีตะวันคนเดียวจะมาเซ้าซี้ถามให้ได้อะไรขึ้นมา"

ขณะสองแม่ลูกกำลังคุยกันนั่นเอง ชาวบ้านก็วิ่งมาบอกว่าโอภาสถูกรถชนอยู่โรงพยาบาล ทั้งสองตกใจจนลืมเรื่องที่คุยกันอยู่ รีบไปโรงพยาบาลทันที

ความแตกเมื่อโอกาสต้องการเลือด ตะวันขอบริจาคเลือดให้พ่อ แต่ปรากฏว่าให้ไม่ได้เพราะเป็นเลือดคนละกรุ๊ปกัน ซ้ำยังไม่ใช่กรุ๊ปเดียวกับแขไขด้วย ทำให้ตะวันยิ่งคิดหนักถามแม่ว่ามีเรื่องอะไรที่แม่ยังปิดบังตนอีกไหม

ถึงเวลานี้ แขไขได้แต่ร้องไห้ด้วยความอัดอั้นใจ

ooooooo

นับวันฟ้าก็กลายเป็นคนเงียบขรึมยิ่งขึ้น จนเย็นนี้วิภูถามว่าลูกคิดอะไรอยู่หรือ ทำไมหน้าเศร้าจัง ไม่ทันที่พ่อลูกจะได้คุยกัน วิไลเลขากับภัทรวดีก็เดินเข้ามาพร้อมกัน วิไลเลขาบอกข่าวดีว่า

"คุณภัสสรได้ฤกษ์หมั้นมาแล้วนะลูก วันที่ 2 เดือนหน้าจ้ะ"

วิภูทักท้วงว่าอีกแค่ 7 วันไม่เร็วไปหรือ ผู้เป็นแม่ชี้แจง ว่าถ้าผ่านฤกษ์นี้ไปจะมีฤกษ์ดีอีกทีก็ปีหน้า วิภูเห็นว่าเป็นปีหน้าก็ดี วิไลเลขาห่วงว่ารอไปอีกหนึ่งปีกลัวใครจะมาฉกภาคินไป เพราะผู้หญิงสมัยนี้ไม่ใช่ย่อย แล้วรวบรัดตัดบทว่า

"เอาเถอะ แม่ไม่อยากเถียงภู พรุ่งนี้เราออกไปดูชุดหมั้นกันนะลูก"

"ค่ะ" ฟ้ารับคำเบาๆจนย่ายิ้มพอใจที่หลานสาวว่า

นอนสอนง่าย

ooooooo

คืนนี้ ภาคินไปเที่ยวผับ ขณะนั่งดื่มคนเดียวนั้น เขาโทรศัพท์ไปบอกปริณดาว่าคืนนี้จะไปนอนด้วยนัดเดี๋ยวเจอกัน แต่พอพูดเสร็จเก็บโทรศัพท์ ภัทรมนก็ กรีดกรายเข้ามาทักเสียงหวานว่าดื่มคนเดียวไม่เหงาหรือ

"เมื่อกี้เหงา แต่ตอนนี้ไม่เหงาแล้ว คุณมาคนเดียวหรือ" ภาคินมองกรุ้มกริ่ม

เพียงเท่านั้น หญิงร้ายชายเลวก็มองทะลุถึงหัวใจของกันและกัน หลังจากชวนดื่มกันจนดึกแล้วภัทรมนทำเป็นเมาขอตัวกลับบ้าน มีหรือที่เสืออย่างภาคินจะปล่อยเหยื่อหลุดมือ เพียงเอ่ยปากชวนว่า "ไปกับผมนะ" เท่านั้น ภัทรมนก็หัวเราะระริกอย่างมีจริตทันที

อึดใจต่อมา ภาคินก็พาเธอเข้าม่านรูดอย่างช่ำชอง

ส่วนปริณดา นับแต่รับโทรศัพท์จากภาคินแล้วก็เตรียมตัว เฝ้ารอการมาของเขา ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาจะโทร.หา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจวางลงแล้วนั่งรอต่อไปอย่างอดทน...

ooooooo

วันนี้โอภาสรู้สึกตัวแล้ว ทันทีที่ลืมตาก็เห็นแขไขและตะวันนั่งเฝ้าอยู่ เขาถามตะวันว่ากลับมาแล้วหรือ ได้งานไหม พอตะวันบอกว่าได้ เขาหันไปพูดกับแขไขว่า เห็นไหมตนว่าแล้วว่าตะวันเก่งเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว

ทั้งตะวันและแขไขต่างพยายามยิ้มแย้ม แต่โอภาสก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่ปกติ ถามว่ามีอะไรกันหรือเปล่า แขไขไม่ตอบ เขาจึงหันไปถามตะวัน

"มีอะไรที่พ่อยังไม่รู้รึเปล่า...ตะวัน"

"พ่อต้องพูดว่า มีอะไรที่ตะวันยังไม่รู้มากกว่าจ้ะ"

เมื่อโอภาสรู้ว่าแม่ลูกได้คุยอะไรกันค้างอยู่ เขาบอกแขไข ว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคงปิดตะวันไม่ได้อีกแล้ว แขไขก็ยังกังวล บอกเขาว่าตนไม่อยากให้ลูกไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น

"จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง แขก็ต้องบอกความจริงกับลูก"

"แขไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมา แขยังไม่พร้อม"

"แต่ตะวันพร้อมค่ะแม่" เสียงตะวันแทรกเข้ามา แล้วเธอก็เดินเข้ามาพร้อมดนัยที่มาเยี่ยมโอภาส "บอกความจริงกับตะวันเถอะค่ะแม่ ตอนนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องปาลิตาที่หน้าเหมือนตะวันแล้ว แต่ยังมีเรื่องที่ว่าตะวันเป็นลูกใครกันแน่"

ดนัยเห็นว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวจึงขอตัวกลับไปก่อน เมื่ออยู่กันตามลำพังสามคน ตะวันถามทั้งแขไขและโอภาสว่า "ใครจะเป็นคนเล่าให้ตะวันฟังคะ"

ooooooo

ในที่สุดแขไขพาตะวันไปนั่งมุมสงบในโรงพยา- บาล เล่าความจริงให้ฟังว่า

"ผู้หญิงที่ชื่อปาลิตา ปัญญารักษ์ เป็นน้องสาวฝาแฝดของลูก ปาณิศา...ปาลิตา คือตะวันกับฟ้า"

"แล้วทำไมน้องถึงอยู่ที่บ้านนั้น อยู่กับใคร แล้วทำไมถึงใช้นามสกุลปัญญารักษ์" ตะวันซัก

"ตะวัน...แม่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูกฟัง แต่ลูกต้องสัญญานะว่า ถ้าลูกรู้ความจริงทั้งหมดแล้วลูกจะต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้น ไม่ไปที่บ้านปัญญารักษ์เด็ดขาด"

"จ้ะ"

เมื่อตะวันรับปากแล้ว แขไขจึงเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเล่าจบแล้วย้ำคำสัญญากับลูกอีกครั้ง ตะวันถามอย่างเข้าใจไม่ได้ว่าทำไมพ่อถึงหูเบา และทำไมคุณย่าถึงไปเข้าข้างผู้หญิงคนนั้นมาใส่ความแม่

"เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว อย่าไปติดใจสงสัยอะไรเลยลูก แม่กับพ่อโอภาสก็เลี้ยงลูกมาได้ ถึงจะไม่ร่ำรวยแต่ลูกก็มีความสุขไม่ใช่เหรอจ๊ะ แม่อยากให้ตะวันตั้งใจทำงาน ดูแลชีวิตตัวเองให้ดีมากกว่านะลูกนะ"

สองแม่ลูกคุยกันแล้วจึงขึ้นไปหาโอภาสที่ห้องคนไข้ในโรงพยาบาล โอภาสถามตะวันว่ารู้แล้วใช่ไหมว่าตนไม่ใช่พ่อที่แท้จริง

"ค่ะ" ตะวันรับคำ เดินเข้าไปจนชิดเตียง กุมมือโอภาสขึ้นมา เอ่ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า "แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตะวันรักพ่อน้อยลงเลยนะจ๊ะ จริงๆต้องพูดว่าตะวันรักพ่อมากขึ้นด้วยซ้ำ พ่อรู้อยู่เต็มอกว่าตะวันไม่ใช่ลูกพ่อ แต่พ่อก็รักตะวัน เลี้ยงตะวันมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีสักครั้งที่ตะวันจะรู้สึกว่าพ่อไม่ใช่พ่อแท้ๆของตะวัน"

"ตะวัน..." โอภาสพึมพำด้วยความปลื้มปีติ ตะวันโผเข้ากอดพ่อไว้ แขไขมองภาพนั้นด้วยความตื้นตันใจ

ooooooo

ตอนที่ 4

งานเปิดตัวงานโฆษณาคอนโดฯใกล้เข้ามาแล้ว ศักดาบอกภากรว่าไม่ต้องห่วงทุกอย่างเสร็จทันแน่นอน ภากรถามถึงครีเอทีฟคนใหม่จะมาเริ่มงานเมื่อไหร่

ศักดาย้อนถามว่าทำไมไม่ถามกันเอง ภากรบอกว่าก็ไม่เคยเจอกันเลย จะถามยังไง

"แต่ฉันว่าจะเจอหรือไม่เจอก็อย่าไปยุ่งกับเขาเลยว่ะ ให้เขาทำงานกับฉันแบบสบายๆดีกว่า"

ภากรถามว่าถ้าตนไปยุ่งด้วยแล้วเธอจะไม่สบายตรงไหน ศักดาตอบตรงเผ็งว่า ก็ตรงที่พิมพ์นภัสจะมาอาละวาดจนตะวันทนไม่ได้แล้วลาออกไปน่ะซิ

ภากรถอนใจเฮือกบ่นว่าพูดเรื่องนี้แล้วเซ็ง พิมพ์นภัสมาได้ยินพอดีถามว่าเซ็งเรื่องอะไร ภากรเงียบ ศักดาเลยแกล้งถามว่ามาหาตนหรือนัดกับภากรไว้ พิมพ์นภัสบอกว่ามาหาภากรแล้วเข้าไปอ้อนถามว่าคุยงานเสร็จหรือยังตนหิวแล้วไปทานข้าวกันเถอะ

พิมพ์นภัสดึงแขนภากรเดินออกไป ศักดามองแล้วส่ายหน้าพึมพำขำๆว่า

"ไม่รอดแน่ นายกรเอ๊ย..."

ooooooo

ปะเหมาะเคราะร้ายอย่างไรก็เหลือจะเดา เพราะภากรกับพิมพ์นภัสไปทานอาหารร้านเดียวกับที่ภาคินพาภัทรมนไปทาน

พิมพ์นภัสเห็นภาคินกับภัทรมนกำลังป้อนอาหารให้กันอย่างหวานชื่น เธอสะกิดให้ภากรดูแล้วถามว่าภาคินควงใครมา ภากรเดาว่าน่าจะเป็นว่าที่คู่หมั้นของภาคิน พิมพ์นภัส เลยชวนกันไปทำความรู้จัก

"สวัสดีค่ะที่คิน" พิมพ์นภัสเสียงหวานเข้าไปยกมือไหว้ ภาคินหันมองตกใจเล็กน้อยแต่คนเจนสังคมอย่างเขาเก็บพิรุธได้ในพริบตา ถามด้วยน้ำเสียงยินดีว่า มาทานข้าวกันหรือ พิมพ์นภัสมองหน้าภาคินกับภัทรมน พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มยินดีว่า

"พิมพ์เพิ่งทราบจากพี่กรว่าพี่คินกำลังจะหมั้น ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ"

"ขอบใจจ้ะ" ภาคินยิ้มรับแล้วหันไปชวนภากร "นั่งด้วยกันไหมกร"

"อย่าดีกว่าครับ" ภากรปฏิเสธพี่ชายแล้วหันไปทาง

ภัทรมน "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณฟ้า ผมภากร น้องชายพี่คินครับ"

"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แต่มนไม่ใช่ยายฟ้านะคะ" ภัทรมนยิ้มหวานให้อย่างไม่สะทกสะท้าน ภากรกับพิมพ์นภัสชะงักมองหน้ากันอย่างแปลกใจ จนภัทรมนย้ำอีกทีว่า "ภัทรมนค่ะ"

ภากรมองหน้าพี่ชายอีกที เห็นทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

@^@..อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 (ต่อจากวานนี้)

เมื่อแยกไปแล้วพิมพ์นภัสบ่นว่า "ผู้หญิงสมัยนี้ทำไมถึงได้หน้าด้านหน้าทนก็ไม่รู้นะคะพี่กร รู้ก็รู้ว่าผู้ชายกำลังจะ หมั้น ยังมาวุ่นวายให้เขาวอกแวกอีก นี่ถ้าพี่กรเป็นอย่างพี่คิน พิมพ์ไม่ยอมจริงๆด้วย"

ภากรตัดบทว่าสั่งอาหารเถอะตนหิวแล้ว กระนั้นพิมพ์นภัสก็ยังย้ำว่า "พี่กรอย่าทำแบบพี่คินนะคะ" ภากรไม่ตอบแต่เร่งให้รีบสั่งอาหารตนหิวแล้ว พิมพ์นภัสทำหน้างอนๆที่เขาไม่ยอมรับปาก

ส่วนภาคินไม่รู้สึกอะไรเลยกับการที่ภากรกับพิมพ์นภัสมาพบ เขาป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่กับภัทรมน เขาบอกภัทรมนว่าไม่กังวลเพราะน้องชายไม่ใช่คนปากโป้ง แล้วชวนไปหาที่สำราญกันต่อ

ooooooo

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันหมั้นแล้ว วิไลเลขาให้ฟ้าลองชุดหมั้น ชมว่าสวยเหลือเกิน ทั้งยังถามอวดๆกับภัทรวดีว่าหลานสาวตนสวยไหม ภัทรวดีชมว่าสวย แล้วทำเป็นเข้าไปประคองหน้าฟ้าหันไปดู เตือนว่า

"วันงานอย่าทำหน้าเศร้าอย่างนี้นะจ๊ะ เดี๋ยวแขกที่มาจะสงสัยว่าหนูถูกบังคับให้หมั้น"

วิไลเลขาปรามว่าทำไมพูดอย่างนั้น แล้วให้ฟ้าไปเปลี่ยนชุดเสีย

"โอ๋กันไปเถอะ เดี๋ยวก็รู้" ภัทรวดีมองตามสองย่าหลานไปอย่างหมั่นไส้

ส่วนปริณดาเมื่อไปตรวจที่คลินิกรู้ตัวว่าท้องก็รู้สึกเป็นกังวล พยาบาลบอกให้นั่งรอสักครู่จะจัดยาบำรุงครรภ์ให้

ขณะนั่งรอ ปริณดาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดู เห็นภาพภาคินกับฟ้า มีบรรยายใต้ภาพว่า

"กิ่งทองใบหยกคู่ใหม่ ภาคิน ปาณิศา กำลังยุ่งวุ่นวายเตรียมงานหมั้นวันที่ 2 ที่จะถึงนี้ ส่วนงานแต่งดูความสวยของเจ้าสาวแล้วไม่น่าเกิน 3 เดือนแน่นอน ฟันธง"

ปริณดาหน้าซีดมือสั่น ปล่อยหนังสือพิมพ์ร่วงจากมือไม่รู้ตัว น้ำตาคลอปริ่มจนเธอต้องยกมือปิดปากพยายามกลั้นความรู้สึกไว้เต็มที่

ooooooo

อีกสองวันจะถึงวันหมั้นแล้ว ภัสสรเพิ่งเจอภาคิน เตือนลูกชายว่าให้ทำตัวดีๆหน่อย อย่าทำให้แม่ต้องเสียหน้า แม่ไม่อยากผิดใจกับวิไลเลขา เพราะฝ่ายนั้น รักหลานสาวขนาดไหนก็เห็นกันอยู่แล้ว

ภาคินรับปากว่าจะทำตัวให้ดีไม่ให้มีปัญหาก็แล้วกัน ภัสสรขอให้เริ่มตั้งแต่งานหมั้นเลย ย้ำว่าฤกษ์หมั้น 9 โมงเช้า เราต้องไปถึงบ้านปัญญารักษ์ไม่เกิน 8 โมง เพราะฉะนั้นคืนพรุ่งนี้เขาควรเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม

"โอเคครับคุณแม่ ว่าแต่ผมจะไปอาบน้ำ คุณแม่จะอาบให้ผมด้วยไหมครับ" ภาคินหยอก พอถูกถลึงตาทำเสียงดุอย่างหมั่นไส้เขาก็หัวเราะ "ผมล้อเล่นน่ะครับ ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ"

ภัสสรมองตามภาคินแล้วส่ายหน้าเอือมๆ

ฝ่ายภัทรมนเพิ่งกลับถึงบ้านเช่นกัน พอป้าถามว่ากับภาคินคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เธอคุยอวดว่าไปไกลจนคุณป้าคิดไม่ถึงเลยแหละ แต่ขออำไว้ก่อน ให้คุณป้ารอดูเองก็แล้วกันว่าแผนการต่อไปจะเป็นอย่างไร

ooooooo

ตะวันจะเดินทางกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯแล้ว แขไขเป็นห่วงลูก แต่ก็เบาใจเมื่อรู้ว่าตะวันจะเดินทางมากับดนัยที่ได้งานเหมือนกัน ฝากให้ดูแลลูกสาวด้วย ไม่ลืมย้ำกับตะวันว่า

"ตั้งใจทำงานให้ดีนะลูก แล้วก็อย่าลืมที่สัญญาไว้กับแม่ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่บ้านปัญญารักษ์"

ส่งตะวันขึ้นรถแล้ว แขไขปรารภกับโอภาสอย่างอดกังวลไม่ได้ว่า

"จะไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นใช่ไหมคะพี่ภาส"

ooooooo

ปริณดาตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาภาคิน เขารับสายแล้วบอกเธออย่างเย็นชาว่าวันนี้ตนไม่ว่าง เอาเป็นว่าว่างเมื่อไรจะไปหาก็แล้วกัน

เวลาเดียวกันเขาก็ถูกภัทรมนประกบแจ เธอมารอรับเขาไปกินอะไรกันเป็นการส่งท้ายก่อนวันที่เขาจะมีเจ้าของ แล้วกิ่งควงกึ่งคุมเขาไปด้วยกัน

ปริณดามองโทรศัพท์ในมือที่ถูกภาคินตอบตัดบทไปเมื่อครู่นี้ พึมพำบอกลูกในท้องอย่างมาดมั่นว่า

"แม่จะไม่ยอมให้ลูกเกิดมาโดยไม่มีพ่อเด็ดขาด พรุ่งนี้แม่จะบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก"

เช่นเดียวกับตะวัน เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ขณะเข้าร้านอาหารเธอหยิบหนังสือพิมพ์ในร้านอ่าน เจอข่าวฟ้าจะหมั้นกับภาคินในวันพรุ่งนี้แล้ว เธอบอกดนัยอย่างเด็ดเดี่ยวว่า

"พรุ่งนี้แล้ว ตะวันอยากไปแสดงความยินดีกับน้อง" ครั้นดนัยทักท้วงว่าล้อเล่นใช่ไหม เธอยืนยันขึงขังว่า "จะมีวันไหนที่เหมาะกับการเปิดตัวตะวันเท่าวันพรุ่งนี้อีกล่ะ จริงไหม"

ooooooo

ภัสสรคอยภาคินอยู่ที่บ้านอย่างร้อนใจที่ดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับ ภากรปลอบใจแม่ว่าภาคินโตแล้ว และการหมั้นครั้งนี้ก็ไม่มีใครบังคับ ภาคินรักและอยากหมั้นกับฟ้าเอง แม่อย่าห่วงเลย ไปนอนเสียพรุ่งนี้จะได้ สดชื่น แล้วพาแม่ไปส่งที่ห้องนอน

หารู้ไม่ว่า ภาคินถูกภัทรมนพาไปดื่มในผับ เธอจ้างบ๋อยมอมเขาโดยแอบใส่บางอย่างเข้าไปในเหล้า แล้วฉอเลาะหลอกล่อเขาให้ดื่มหมดไปแก้วแล้วแก้วเล่า

ระหว่างนั้น ภัสสรทนไม่ได้โทร.เข้ามือถือ ภาคินกำลังมึนเหล้าและเมารักไม่ได้สนใจ ภัทรมนมือหนึ่งป้อนเหล้าเขา อีกมือแอบกดปิดโทรศัพท์ที่โชว์ชื่อผู้โทร.ว่า "แม่"

ภัสสรเพียรโทร.อยู่นับครั้งไม่ถ้วน ทีแรกถูกปล่อยทิ้งจนสายหลุด หนักเข้าก็ปิดเครื่องเลยทำให้ยิ่งร้อนใจเข้าไปหาภากรที่ห้องนอน บอกภากรว่ารู้สึกสังหรณ์ใจยังไงก็ไม่รู้

"คุณแม่อย่าเพิ่งคิดมากซิครับ บางทีนายคินอาจจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่ออฟฟิศก็ได้นะครับ พอคุณแม่โทร.ถี่ๆแบตฯก็หมด"

"จริงเหรอลูก แล้วตาคินไปไหนล่ะ" ภัสสรพึมพำสีหน้ายังกังวล

เวลาเดียวกันนั้น ภาคินถูกมอมเหล้าวางยาจนไม่ได้สติ ภัทรมนกับบ๋อยช่วยกันพาเขาไปที่ห้องพักในโรงแรม จัดให้เขานอนอย่างดี ก่อนออกไปภัทรมนบอกเขาล้อๆอย่างสะใจว่า

"หลับให้สบาย แล้วพบกันพรุ่งนี้นะคะ"

ooooooo

ภัทรมนกลับถึงบ้านดึกมากจนภัทรวดีที่ดักรออยู่ถามอย่างไม่ชอบใจว่าไปไหนมากลับเอาป่านนี้ ทีแรกภัทรมนก็ลีลาเล่นลิ้นไม่ยอมบอก พอถูกผู้เป็นป้าขู่ว่าตนเป็นป้า ไปทำอะไรไว้ตนต้องรู้ก่อน ภัทรมนจึงตัดสินใจจะเล่า แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อวิภูมาเจอถามว่าสองคนทำไมยังไม่นอน

"มนกำลังจะไปนอนเดี๋ยวนี้ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ" ภัทรมน ฉวยโอกาสหลบไปทันที

"ไปนอนเถอะค่ะพี่ภู" ภัทรวดีเข้าไปชวน วิภูยังติดใจถามว่าสองคนมีอะไรกันหรือเปล่า เมื่อภัทรวดียืนยันว่าไม่มีอะไร เขาพูดอย่างไม่เชื่อนักว่าถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป ภัทรวดีตัดพ้อว่า "พี่ภูเคยมองวดีในแง่ดีบ้างไหมคะ"

"ถ้าเธอเป็นคนดี ใครจะมองเธอในแง่ไหน เธอก็เป็น คนดี ไม่มีใครเปลี่ยนได้หรอก" พูดแล้ววิภูเดินแยกไป ภัทรวดีมองตามอย่างไม่พอใจ เบ้ปากพูดเบาๆว่า

"ทำเป็นด่าแบบผู้ดี ฮึ...ฉันไม่สนหรอก"

ภัทรมนแยกไปแล้วไม่ได้ไปที่ห้องตัวเอง แต่กลับไปที่ห้องฟ้า เมื่อเคาะประตูแล้วฟ้ามาเปิดให้ ภัทรมนถามกวนๆว่ายังไม่นอนอีกหรือ หรือว่านอนไม่หลับ พลางถือวิสาสะเดินเข้าไปดูชุดหมั้นที่แขวนอยู่ เหยียดยิ้มชมว่าชุดสวยดี

"ขอบใจ" ฟ้าตอบหน้าเรียบเฉย

"ใส่แล้วจะสวยเหมือนแม่สายบัวไหมนะ..." ภัทรมนพูดเป็นปริศนา พอฟ้าถามว่าพูดถึงอะไร เธอก็ทำเฉไฉว่า "ก็พูดไปเรื่อยๆ เธอจะมาเอาอะไรกับฉัน ดีใจด้วยนะ ที่จะมีคู่หมั้นคู่หมาย พรุ่งนี้คงเป็นวันที่คุณฟ้าหลานสาวคนสวยทายาทเจ้าของโรงแรมห้าดาวที่ร่ำรวย จะมีความสุขที่สุด...ใช่ไหม"

ภัทรมนยื่นหน้าเข้าไปเย้ย ฟ้าสะอึกถามว่าเธอกินเหล้ามาหรือ ภัทรมนลอยหน้าบอกว่านิดหน่อย ด่าฟ้าว่า "อย่าดัดจริตทำเป็นเด็กดีไปหน่อยเลย น่ารำคาญ" แล้วดันฟ้าไปที่เตียงผลักล้มลง ยื่นหน้าเข้าไปพูดอีกว่า "นอนซะ พรุ่งนี้จะได้สวย...ซ้วย...ซวย"

ภัทรมนหัวเราะร่วนแล้วเดินออกไป ฟ้าลุกขึ้นมองตามอย่างครุ่นคิด

คืนเดียวกัน ตะวันกลับไปที่ห้องพักในอพาร์ตเมนต์ หยิบหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวหมั้นของฟ้ามาอ่านพึมพำ

"เรียนจบก็หมั้นเลย งานการไม่ต้องทำ คุณหนูขนานแท้และดั้งเดิมจริงๆ โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ย"

ตะวันถอนใจเฮือก พับหนังสือพิมพ์วางแล้วล้มตัวลงนอน หลับตาเหนื่อยๆ

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าให้ฟ้าแต่เช้ามืด เจ้าตัวนั่งหน้าซึม จนวิไลเลขาเข้ามาทักว่าง่วงนอนหรือเปล่า ฟ้าตอบหงอยๆว่าเปล่า วิไลเลขา จึงบอกหลานสาวอย่างให้กำลังใจว่า

"เดี๋ยวย่าลงไปดูความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะ" แล้วสั่งเด็กรับใช้ให้ดูแลฟ้าด้วย