@^@..อ่านละครย่อเรื่องหัวใจสองภาค ตอนที่ 6

@^@..อ่านละครย่อเรื่องหัวใจสองภาค ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 (ต่อจากวานนี้)

อารยะด่าว่าเงินตั้งยี่สิบล้านพูดออกมาได้ว่าเงินแค่นี้ ช่างเป็นลูกล้างลูกผลาญจริงๆ ดนตร์หงุดหงิดปรามพ่อว่าถ้าจะมาซ้ำเติมกันแบบนี้เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน พลางลุกขึ้นจะไป อารยะเลยบอกว่าไม่ต้องไปไหนตนจะช่วย ดนตร์หันถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่า "พูดผิดหรือเปล่า"

"ฉันช่วยแกมากี่ครั้งแล้วไอ้ดนตร์ ถึงแกจะล้างผลาญฉันขนาดไหน หน้าที่ฉันก็ต้องตามเช็ดก้นแกนี่แหละ ฉันพอจะรู้จักกับเจ้าของบ่อนที่แกไปเล่นนั่นอยู่แล้ว ฉันจะลองคุยกับเขาดู แต่ตอนนี้ฉันว่าแกควรหลบไปที่ไหนไกลๆสักพัก ก่อนที่พวกมันจะย้อนกลับมาเล่นงานแก"

ดนตร์ไม่เข้าใจว่าในเมื่อจ่ายแล้วทำไมต้องหลบด้วย อารยะอ้างว่าต้องใช้เวลาเพราะเงินคราวนี้มันเยอะ แล้วเร่งให้ ดนตร์รีบไปเก็บเสื้อผ้าหลบไปก่อน ช่วงนี้อย่าติดต่อใครและอย่าให้ใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะเส้นสายของเจ้าของบ่อนมีเยอะ อาจจะสืบรู้ว่าดนตร์ไปกบดานที่ไหน

ดนตร์รับฟังด้วยสีหน้าหนักใจ เพราะใจยังหมกมุ่นกังวลเรื่องตะวันฉายอยู่

ooooooo
อ่านละครย่อเรื่องหัวใจสองภาค ตอนที่ 6
ชัคกลับจากทำงานตอนเย็นเจอดาลัดรออยู่เพราะแม่ฝากโจ๊กมาให้กิน เธอถามพี่ชายว่าหายไปไหนมาทั้งวัน ชัคไม่ตอบแต่กลับถามว่าดนตร์หายไปไหน

"ออกไปบ้านคุณตะวันตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ"

พอชัครู้และเห็นว่าดนตร์ยังไม่กลับก็คว้าโทรศัพท์โทร. หา ปรากฏว่าดนตร์ปิดเครื่อง ทำให้ชัคยิ่งเป็นห่วง

ที่แท้ดนตร์ถูกอารยะเอาตัวไปเก็บที่บ้านให้เตรียมหลบไปกบดาน กรองทิพย์กลับมาเห็นลูกชายอยู่บ้านก็ทักอย่างประชดประชันว่า เซอร์ไพรส์จริงๆวันนี้ลูกชายอยู่บ้านในรอบหนึ่งเดือน

เห็นดนตร์เก็บเสื้อผ้าก็ถามว่าจะไปไหน อารยะเข้ามาขัดจังหวะตอบแทนลูกชายว่าจะไปเมืองนอก ไล่กรองทิพย์ว่าเมาก็ไปนอนเสีย หัดเป็นตัวอย่างที่ดีของลูกบ้าง

"ค้า...คุณพ่อดีเด่น เด่นให้ตลอดไปแล้วกัน" กรองทิพย์ ประชดแล้วเดินสะบัดออกไป

"ฉันโทร.บอกผู้จัดการทางโน้นให้แล้วนะว่าแกจะไป" อารยะปิดประตูแล้วจึงเดินมาบอกดนตร์ ส่งเงินดอลลาร์ให้ปึกหนึ่ง "เอาไว้ใช้ตอนอยู่ที่โน่น แต่ถ้าไม่พอก็โทร.มาบอกแล้วกัน ฉันจะได้โอนไปให้อีก"

เมื่อดนตร์รับเงินแล้ว อารยะกำชับว่าอยู่ทางโน้นก็กบดาน ให้ดี ห้ามติดต่อใครเด็ดขาด โดยเฉพาะชัคกับตะวันฉาย เพราะสองคนนั้นอาจจะซวยเพราะเขาไปด้วย ดนตร์ฟังแล้วเอาโทรศัพท์ มือถือมากดปิดเครื่องโยนทิ้งบนเตียง บอกพ่อเซ็งๆว่า

"พ่อไม่ต้องมาสอนผมหรอกน่า ที่ผมยอมไปเนี่ย เพราะผมมีเหตุผลของผมบางอย่างที่ทำให้ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ กลัวเรื่องไอ้หนี้เฮงซวยนั่นหรอก"

ooooooo

เพราะเจอเรื่องกระทบกระเทือนใจหลายเรื่องติดต่อกัน ทำให้ตะวันฉายกลายเป็นคนเครียดๆ จนวันนี้พรสาวใช้ที่บ้านทักว่าหน้าตาดูไม่สดใสเลย เธอตอบเลี่ยง ไปว่าเครียดเรื่องงาน

พอพรออกจากห้องแล้ว ตะวันฉายนั่งคิดถึงคำพูดของชัคที่ว่าเธอทำให้ดนตร์อกหัก แม้จะโต้ตอบไปอย่างดุดัน แต่เมื่อคิดถึงดนตร์แล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. หาเขา ปรากฏว่าปิดเครื่อง

ทั้งชัคและตะวันฉายต่างเป็นห่วงดนตร์ที่โทร.แล้วปรากฏว่าเขาปิดเครื่อง

จนวันรุ่งขึ้นชัคไปทำงาน เจอโสมศรีกำลังประคองโสมสุรางค์มาทำงาน พอเห็นชัค โสมศรีทำเป็นฟ้องว่า โสมสุรางค์ไม่สบาย บอกให้พักก็ไม่ยอมจนตนต้องพามาส่ง ส่วนโสมสุรางค์ทำท่าเหมือนจะตาย แต่ทำเป็นปากแข็งว่าตนไม่เป็นอะไรมาก

โสมศรีบ่นๆว่าตนเป็นห่วงเลยต้องมาส่ง แต่เย็นนี้ยังไม่รู้จะกลับอย่างไร จะขึ้นรถเมล์ก็กลัวลูกจะเป็นลมกลางทาง จะขึ้นแท็กซี่ก็อันตราย ตนเองก็ไม่ว่าง แล้วเอ่ยปากอย่างเกรงใจว่า

"จะเป็นการรบกวนเสี่ยไหมคะ ถ้าเย็นนี้ศรีจะรบกวนให้เสี่ยช่วยไปส่งยายโสมที่บ้านหน่อย"

แม่พูดแล้ว ลูกสาวก็ทำเป็นไอทำท่าเซๆจะเป็นลม แต่ก็ยังทำเป็นปากแข็งว่าไม่เป็นไรตนกลับเองได้ เกรงใจเสี่ยชัค โสมศรีโผเข้าประคองลูกแล้วถามชัคอีกว่าไปส่งโสมสุรางค์ ได้ไหม

"เห็นท่าจะไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเย็นนี้พี่ชัคมีประชุมกับลูกค้าวีไอพี" ดาลัดแทรกเข้ามา

โสมศรีไม่พอใจมาก บอกดาลัดว่าตนขอความเห็นใจจากเสี่ยไม่ใช่เธอ

"มันก็เหมือนกันล่ะค่ะ ดิฉันเป็นน้องสาวของเสี่ยชัค ดิฉันย่อมรู้ทุกเรื่องของพี่ชายอยู่แล้ว และรู้ใจด้วยนะคะว่า พี่ชัคชอบหรือไม่ชอบอะไร"

"งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันสละเวลามารับยายโสมกลับเองก็ได้" โสมศรีปั้นยิ้มแล้วพาโสมสุรางค์เข้าไป

พอไปถึงเคาน์เตอร์โอปะเรเตอร์ สองแม่ลูกก็พูดกันอย่างเจ็บใจที่แผนไม่สำเร็จเพราะถูกดาลัดมาขวางคอ โสมสุรางค์ บอกแม่อย่างมุ่งมั่นว่า

"แม่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ยังไงโสมก็จะไม่ยอมทนนั่งรับโทรศัพท์เงินเดือนเจ็ดพันอยู่อย่างนี้ไปตลอดหรอก ยังไงๆ โสมก็จะหาทางจับเสี่ยชัคให้ได้เร็วที่สุด"

โสมศรีชมลูกว่าดีมาก รีบทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน แล้วรีบกลับเพราะนัดร้านทำผมไว้

พอโสมศรีออกไป เจียงที่ต้องตาต้องใจโสมสุรางค์ ตั้งแต่วันแรกที่มาสมัครงาน ก็เอาน้ำและยามาให้เธอ พูดอย่างห่วงใยเอาใจว่า เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง

"ขอบคุณคุณเจียงมากนะคะ แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ คุณเอากลับไปเถอะ"

เจียงมองยากับน้ำหน้าจ๋อยๆ จำต้องถอยไป

ooooooo

เมื่อดาลัดตามพี่ชายเข้าไปในห้องทำงาน เธอบ่นว่าสองแม่ลูกนี่แผนสูงจริงๆ นี่ถ้าตนมาไม่ทัน พี่ชายก็คงปฏิเสธไม่ออก ติดกับยายคุณโสมศรีนั่นแน่ๆ

ชัคไม่ได้สนใจฟัง สีหน้ากลัดกลุ้มกังวลจนน้องสาวถามว่าเป็นอะไร กลุ้มใจอะไรหรือเปล่า

"พี่เป็นห่วงดนตร์ หายหัวไปไหนไม่รู้"

"พี่ดนตร์ก็เคยหายไปอย่างนี้บ่อยๆไม่ใช่เหรอคะ ดาว่าพี่ดนตร์หายไปไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย ป่านนี้เขาคงไปเที่ยวเล่นอยู่ที่ไหนสักที่ละมั้ง"

"เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่พี่สังหรณ์ใจว่าครั้งนี้จะเกิดเรื่องไม่ดีกับดนตร์มากกว่า"

ส่วนดนตร์เมื่อไปพักที่โรงแรมหรูของพ่อโดยมีผู้จัดการมาต้อนรับดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้จัดการพูดออกตัวว่าไม่รู้ว่าเขาจะมาพัก นึกว่าอารยะสั่งให้คนอื่น เลยอาจจะขาดตกบกพร่อง

ดนตร์บอกไม่ต้องห่วง ตนก็ไม่ชอบหรูหราและไม่ต้องการเอิกเกริก เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามาพักที่นี่ พูดแล้วจ้องหน้าผู้จัดการถามเสียงเข้มว่า "เข้าใจใช่ไหม"

"เข้าใจครับคุณดนตร์" ผู้จัดการเข้าใจทันทีว่าหมายถึงอะไร แล้วค้อมตัวออกไปเงียบๆ

ดนตร์เดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปไกลแสนไกลอย่างไร้เป้าหมาย แต่ใจคิดถึงชัคกับตะวันฉาย...

ooooooo
@^@..อ่านละครย่อเรื่องหัวใจสองภาค ตอนที่ 6
ตอนที่ 6

ส่งดนตร์กลับบ้านสั่งการให้หลบไปกบดานแล้วอารยะไปหาราญที่ห้องทำงาน ราญพูดออกตัวว่า ต้องขอโทษที่กลับมาจากมาเก๊าแล้วยังไม่ได้ไปหาเขา พอดีมีงานให้สะสางมาก ถามอารยะว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า

"ผมจะมาบอกว่า ถ้าคุณราญเงินไม่พอจะกู้เพิ่มก็บอกได้นะครับ ผมจะช่วยเต็มที่เลย"

ราญมองอารยะอย่างซึ้งใจ ชมว่าช่างมีน้ำใจต่อตนเหลือเกิน อารยะพยักหน้ายิ้มๆแล้วขอตัวกลับเพราะหมดธุระแล้ว

"เดี๋ยวครับคุณอารยะ ขายที่ดินกับคอนโดฯหมดนี่ผมขอ 15 ล้านก็พอครับ"

อารยะรับปากว่าจะลองดู ราญขอบคุณลุกมองอารยะเดินออกไป พอประตูห้องปิดเท่านั้นราญก็ทิ้งตัวนั่งอย่างกลัดกลุ้ม หยิบสมุดเงินฝากธนาคารขึ้นมาดู เห็นตัวเลขแล้วถึงกับถอนใจเฮือก

ooooooo

ตะวันฉายร้อนใจมากที่พยายามติดต่อดนตร์ อย่างไรก็ติดต่อไม่ได้ เธอเข้าไปหาอารยะที่เดินออกจากห้องราญ ถามอย่างร้อนใจว่าติดต่อดนตร์ได้ไหม ตนติดต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

อารยะตอบหน้าตาเฉยว่าดนตร์คงไม่เป็นอะไร เวลาไม่สบายใจก็มักจะหายไปอย่างนี้ทุกที พออารมณ์ดีก็กลับมาเองอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย ทำเป็นดูนาฬิกาแล้วชวนว่าใกล้เลิกงานแล้วไปดินเนอร์กันไหม ตนมีร้านใหม่จะแนะนำ

"วันนี้ตะวันต้องขอตัวนะคะ พอดีมีงานต้องเคลียร์เยอะเลยค่ะ"

อารยะไม่เซ้าซี้ ขอตัวกลับก่อน ตะวันฉายยกมือไหว้ พออารยะรับไหว้เดินจากไป เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างหันเดินไปอีกทาง

ตะวันฉายตัดสินใจไปที่บริษัทของชัค เจอโสมสุรางค์ ที่เคาน์เตอร์โอปะเรเตอร์ ถามโสมสุรางค์ที่นั่งก้มหน้าอยู่ว่าไม่ทราบว่าชัคอยู่ไหม พอโสมสุรางค์เงยหน้าขึ้นเห็นเป็นตะวันฉายก็ชักสีหน้าเล็กน้อย

อ้าว...คุณโสม คุณโสมทำงานอยู่ที่นี่เหรอคะ" ตะวันฉายถามเมื่อเห็นหน้าเต็มๆ

"ค่ะ พอดีเสี่ยชัคเขาเรียกให้โสมมาช่วยงานน่ะค่ะโสมก็เลยมา ว่าแต่คุณตะวันมาพบเสี่ยชัคเหรอคะ" ครั้นตะวันฉายตอบรับ เธอโกหกว่า "เสี่ยชัคไม่อยู่หรอกคะ เห็นออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว"

ตะวันฉายรู้สึกผิดหวังหันหลังจะกลับ บอกว่าวันหลังค่อยมาใหม่ ทันใดนั้นดาลัดเข้ามาพอดี ทักอย่างดีใจว่ามาทำอะไรหรือ ตะวันฉายบอกว่ามาหาชัค แต่โสมสุรางค์บอกว่าไม่อยู่ เลยจะกลับ

ดาลัดมองโสมสุรางค์อย่างไม่พอใจที่โกหกหน้าตาเฉย บอกว่าชัคอยู่ข้างบนแล้วพาตะวันฉายขึ้นไป ตะวันฉายมองโสมสุรางค์งงๆแล้วเดินตามดาลัดขึ้นไป

โสมสุรางค์จิกตามองตามอย่างเจ็บใจที่ผิดแผนจนได้

ระหว่างเดินไปกับดาลัดนั้น ตะวันฉายนึกในใจว่า

"รู้สึกว่าจะมีผู้หญิงอยู่ใกล้คุณทุกที่เลยนะคุณชัค ฮึ... ชอบทำหน้าตายแต่ที่แท้ก็เจ้าชู้ไม่เบา"

ooooooo

พอชัครู้จากเลขาว่าตะวันฉายมาขอพบเขา

ชักสีหน้าทันที ยิ่งเมื่อเธอเปิดประตูเข้ามา เขามองอย่างเย็นชาถามว่ามีธุระอะไรกับตนหรือ พอตะวันฉายบอกว่าติดต่อดนตร์ไม่ได้ไม่รู้เป็นอะไรหรือเปล่า ถามว่าเขาเจอบ้างไหม ชัคไม่ตอบคำถามแต่ประชดไปว่า

"นี่ถ้าดนตร์รู้ว่าคุณเป็นห่วงเขามากขนาดนี้ เขาคงดีใจ"

"ก็คุณเป็นคนบอกฉันเองไม่ใช่เหรอคะว่าเพื่อนที่ดีต้องมีความหวังดีให้กัน เอ...แต่ดูคุณไม่ค่อยเดือดเนื้อร้อนใจเท่าไรเลยนะคะที่เพื่อนรักคุณหายไป หรือว่าคุณเห็นอย่างอื่นสำคัญว่าเพื่อนคุณ"

ตะวันฉายทั้งศอกกลับและเสียดสี พอชัคถามว่าพูดอะไร เธอเตือนเขาว่าสับรางให้ดีก็แล้วกัน รถไฟชนกันขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน ชัคเลยตัดบทถามว่าตั้งใจมาหาดนตร์หรือมาแขวะตนกันแน่

พอถามกันจริงจัง ปรากฏว่าชัคเองก็ไม่รู้ว่าดนตร์หายไปไหนเพราะเขาก็ไม่ได้เจอ อดพูดประชดไม่ได้ว่าไม่ต้องห่วง ถ้าตนเจอดนตร์เมื่อไรจะส่งข่าวก็แล้วกัน

พอตะวันฉายออกจากห้อง ชัคฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ คว้า โทรศัพท์โทร.หากรองทิพย์

กรองทิพย์ดีใจมากนัดกินข้าวกับชัค มองเขาอย่างหลงใหลถ่วงเวลา จนชัคร้อนใจถามว่าเจอดนตร์บ้างหรือเปล่า จนกรองทิพย์ต้องบอกว่า เจอครั้งสุดท้ายเห็นดนตร์เก็บเสื้อผ้าไปเที่ยว แต่ไม่รู้ว่าไปไหน แล้วอ่อยชัคชวนไปเที่ยวคอนโดฯส่วนตัวของตนไหม ไปคุยกันที่นั่นสบายกว่าที่นี่เยอะสนใจไหม

ชัคไม่เล่นด้วยซ้ำยังถอนหงอกว่า

"ผมไม่สนใจ เพราะยังไงคุณอาก็เป็นผู้หญิง และก็เป็นแม่ของเพื่อนรักผม ผมว่าผมรบกวนเวลาคุณอาแค่นี้ดีกว่า ผมขอตัวก่อนนะครับ" พูดเสร็จชัควางเงินค่าอาหารไว้แล้วลุกเดินออกไป

กรองทิพย์มองตามชัคไปอย่างเสียดาย ผิดหวัง ที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรชัคก็ไม่ยอมใจอ่อนสักที

ooooooo

ใกล้ค่ำแล้ว ขณะราญกำลังจะออกจากบ้าน ตะวันฉายกลับมาพอดี เลยทำทีชวนเป็นเพื่อนไปพบลูกค้าจากฮ่องกงด้วยกันหน่อย เพราะทางนั้นจะมาคุยเรื่องร่วมหุ้นกับบริษัทเขา ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเรา ก็จะมีเงินเข้าบริษัทอีกเยอะเลย

ตะวันฉายเห็นใจพ่ออยู่แล้ว ทางไหนที่จะช่วยได้เธอทุ่มเต็มที่ ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน

"เอาให้สวยๆเลยนะลูก อย่าให้เสียชื่อพ่อล่ะ" ราญย้ำมองตามลูกสาวไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด

เมื่อไปถึงร้านอาหารในโรงแรมที่นัดกันไว้ ราญแนะนำตะวันฉายว่า

"มิสเตอร์วู คุณโรเจอร์ครับ นี่ตะวันฉายลูกสาวของผม เพิ่งกลับจากออสเตรเลียครับ ตะวัน...นี่มิสเตอร์วู ลูกค้าของพ่อ แล้วก็คุณโรเจอร์ลูกชายมิสเตอร์วู"

ตะวันฉายยกมือไหว้ทั้งสองอย่างนอบน้อม โรเจอร์ มองเธอตาเป็นประกาย...

เมื่อราญเอาเอกสารให้ มิสเตอร์วูส่งต่อให้โรเจอร์ บอกราญว่าให้ลูกชายดูดีกว่า ระยะหลังตนวางมือมานานแล้ว พลาง ทำทีว่ามีนัดกับเพื่อนชาวสวิสที่ทำบริษัททัวร์เหมือนกันที่อีกโรงแรมหนึ่ง ชวนราญไปด้วยกันไหมเผื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกัน ตลาดท่องเที่ยวทางยุโรปก็น่าสนใจไม่น้อย

ราญตามไปด้วยความเต็มใจและหวังลุ้นอะไรบางอย่าง ปล่อยให้ตะวันฉายอยู่กับโรเจอร์ตามลำพัง แต่พอผู้ใหญ่ทั่งสองไป โรเจอร์ไม่ได้สนใจเอกสารเลย กลับชวนคุย พอรู้ว่าตะวันฉายจบมหาวิทยาลัยที่เมลเบิร์นเขาทำท่าตื่นเต้นตกใจมาก บอกว่ามีเพื่อนอยู่ที่นั่นเยอะเลย

โรเจอร์ชิมลางหญิงสาวด้วยการทำทีตื่นเต้นเอามือวางที่ขาเธอ ตะวันฉายขยับขาออกอย่างรักษามารยาท โรเจอร์ ก็ยังทำเป็นตื่นเต้นจนลืมตัวคุยเรื่องเพื่อนพลางเอามือลูบแขนเธออีก

"อะไรอ่ะ" ตะวันฉายชักเอะใจขึงขังขึ้นมา คราวนี้โรเจอร์เผยโฉมหน้าหมดเปลือก ลุกขึ้นลากเธอเข้าลิฟต์

โรเจอร์ใช้ทั้งกำลังและอุบาย ในที่สุดทนไม่ได้หมายเผด็จศึกให้ทันใจ เขาโปะยาสลบใส่หน้าตะวันฉาย

แต่มันไม่โชคดีอย่างที่คิด เพราะชัคที่เข้ามากินข้าวโรงแรมเดียวกันเห็นตะวันฉายนั่งอยู่กับโรเจอร์ที่ชัครู้ดีว่าเป็นเสือผู้หญิง เขาตัดสินใจติดตามและช่วยตะวันฉายรอดพ้นเงื้อมมือมารมาได้หวุดหวิด

ตะวันฉายรู้ตัวอีกทีพบว่าอยู่ที่บ้านแล้ว เธอถามชัค อย่างแปลกใจว่าเขาเข้าไปช่วยเธอได้อย่างไร ชัคเล่าให้ฟังจบ ก็พอดีราญกลับมา ถามตะวันฉายอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพ่อโทร.หาแล้วไม่รับสาย

"นายโรเจอร์เขาจะฉุดตะวันขึ้นไปบนห้องเขา" ตะวันฉายบอกพ่ออย่างไม่หายเจ็บใจ

ราญตกใจถามว่าลูกเป็นอะไรหรือเปล่า พอตะวันฉายบอกว่าไม่เป็นไรโชคดีที่ชัคช่วยไว้ทัน ราญก็ด่าโรเจอร์ว่า ทั้งมิสเตอร์วูและโรเจอร์ต้องรู้เห็นเป็นใจกันแน่ๆ เพราะตนไปกับมิสเตอร์วูแล้วไม่เห็นมีใครที่ไหนมาพบ ลุกขึ้นพูดอย่างแค้นใจว่าจะไปเอาเรื่องกับมันให้ได้

ชัคถามติงๆว่าโรเจอร์เป็นลูกมิสเตอร์วูไม่ใช่หรือ ส่วนตะวันฉายไม่อยากให้พ่อมีเรื่องกับใคร ขอร้องว่าไหนๆตนก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วช่างมันเถอะ อย่ามีปัญหากับใครเลย

เมื่อราญยอมนั่งลง ตะวันฉายมองพ่ออย่างโล่งใจ ส่วนชัคมองราญอย่างครุ่นคิดแล้วลุกขอตัวกลับ ตะวันฉายจึงตามไปส่งข้างนอก

ooooooo

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตะวันฉายมองชัคดีขึ้นเพราะแม้ที่ผ่านมาจะทำตัวเหมือนเป็นปรปักษ์กัน แต่ในยามเธอตกอยู่ในอันตรายเขาก็ยังช่วย เธอขอบคุณเขาถามว่า

"คุณชัค เมื่อตะกี้คุณบอกว่าคุณรู้ข่าวคุณดนตร์จากอากรองทิพย์แล้วใช่ไหมคะ"

"คุณไม่มีสิทธิ์เป็นห่วงมันหรอก" ชัคตอบตัดบทแล้วเดินไป ตะวันฉายเห็นอารมณ์ของเขาแล้วทั้งหงุดหงิดทั้งงง

เวลาเดียวกัน ดนตร์ถูกเอาตัวไปเก็บที่โรงแรมวิรันดาของอารยะ เขาออกมานอนดูดาวที่ริมสระว่ายน้ำของโรงแรม คิดถึงตะวันฉาย อยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆจะได้มาเห็นดาวสวยๆด้วยกัน

ขณะนั้นเองไพศาลเอาโทรศัพท์มือถือเข้ามาให้ บอกว่าคุณพ่อเขาสั่งตนซื้อให้ ดนตร์รับไปอย่างแปลกใจ แต่เพียงครู่เดียวก็มีข้อความจากธนาคารส่งมาแจ้งว่าในบัญชีของเขามีเงินเข้าห้าแสนบาท

ดนตร์โทร.กลับไปหาอารยะ ถามพ่อว่าโอนเงินให้ตนหรือ ที่นี่ไม่มีบ่อนตนไม่จำเป็นต้องใช้เงิน อารยะพูดอย่างใจดีว่าโอนมาให้เผื่อไว้เวลาฉุกเฉิน ไม่อยากให้ใช้บัตรเครดิตเดี๋ยวจะถูกตามตัวเจอถามว่า

"แล้วแกอยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม แต่ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกมาได้เลยนะดนตร์"

กรองทิพย์ผ่านมาได้ยินพอดี นึกแปลกใจว่าสองพ่อลูกญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเธอก็ยิ้มกระหยิ่มใจเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้

ooooooo

วันนี้ราญดิ้นรนไปหาชัคที่ห้องทำงานเขาอีก เอ่ยปากกับชัค ขอโอกาสให้ตนเล่นพนันกันอีกสักครั้ง ชัคมองหน้าราญอย่างพินิจพิจารณาถามว่า

"ถ้าคุณราญโชคดีก็คงจะปลดหนี้จากผม ถ้าโชคดีกว่านั้นก็คงจะหมดหนี้ แต่ถ้าคุณราญโชคร้ายผมจะได้อะไรครับ ผมก็คงได้แต่หนี้เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะทรัพย์สินทั้งบ้านและรถ คุณราญเอาไปจำนองหมดแล้วใช่ไหมครับ"

ราญตกใจที่ชัครู้เรื่องนี้ด้วย ยิ่งเมื่อรู้ว่าชัครู้กระทั่งว่าเขากู้เงินจากแบงก์ของอารยะเอาเงินไปเล่นที่มาเก๊า โดยเอาบ้านกับรถไปจำนองก็ยิ่งตกใจ จำต้องพยักหน้ารับ

"ผมอยากเตือนคุณราญเอาไว้หน่อยว่า คุณราญอย่าไว้ใจใครให้มาก โดยเฉพาะในเวลาที่คุณกำลังเดือดร้อน เพราะคุณราญไม่มีวันรู้หรอกว่าคนที่มาช่วย เขาหวังผลประโยชน์อะไรหรือเปล่า"

ฟังชัคแล้วราญชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ ถามว่ารวมทั้งตัวชัคด้วยใช่ไหม ตัดบทฉุนเฉียวว่า

"เสี่ยคิดจะช่วยผม แต่ผมกลับคิดว่าตอนนี้มันคงไม่จำเป็นแล้ว เพราะผมไม่ชอบให้ใครมาดูถูกคนที่มีบุญคุณกับผม และผมก็อาบน้ำร้อนมาก่อนเสี่ย ผมรู้ดีว่าใครเป็นยังไง เสี่ยไม่ต้องมาสั่งสอนผมหรอก! ขอบใจนะที่เสี่ยอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยผม!"

พูดแล้วราญปึงปังออกไป ชัคมองตามแล้วส่ายหน้า อย่างเหนื่อยใจ

ooooooo