@^@..อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 (ต่อจากวานนี้)
ดนัยเล่าความสามารถพิเศษของตะวันว่าตีกลองสะบัดชัยเก่ง ฟ้าทึ่งพูดอย่างถ่อมตัวว่า
"ฟ้ากับพี่ตะวันต้องเป“นฝาแฝดที่ไม่เหมือนกันที่สุดในโลก" เมื่อดนัยบอกว่าหน้าตาเหมือนกัน ฟ้าแย้งว่า "หน้าตาอาจจะเหมือนกัน แต่นิสัยใจคอความสามารถคนละเรื่องเลย ฟ้าสู้พี่ตะวันไม่ได้หรอกค่ะ"
"เก่งกันคนละแบบ ดีกันคนละเรื่อง เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกครับ"
ฟ้าหัวเราะเสียงใสบอกว่าดนัยเข้าใจพูดให้กำลังใจตน ดนัยยิ้มๆบอกเธอว่าถ้ามันเป“นกำลังใจให้เธอเขาก็โอเคนะ
เสียงหัวเราะหยุดกึก เมื่อวิไลเลขาเข้ามาเรียกฟ้าเสียงเข้ม เดินเข้ามามองหน้าทั้งสองอย่างไม่พอใจ ฟ้ายิ้มแหยๆ ที่คุณย่ากลับมาเร็วถามถึงพ่อกับภัทรวดี ย่าบอกว่ายังอยู่ที่งาน ตนปวดหัวเลยกลับมาก่อน
"แล้วคุณย่าทานยาหรือยังคะ ขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวฟ้าวัดความดันแล้วจะจัดยาให้นะคะคุณย่า" ฟ้าเข้าประคองย่าพาขึ้นข้างบน
ดนัยนั่งอยู่คนเดียว คิดถึงตะวันแล้วบ่นๆ "ทำงานอะไรนักหนา" พลางโทร.ไปหา
ooooooo
ตะวันเฝ้าดูแลภากรพยายามปลุกเขา จนเขารู้สึกตัวขึ้นมา ถามอย่างแปลกใจว่าตนมานอนที่นี่ได้อย่างไร แล้วตะวันมาทำอะไร
ตะวันต้องทบทวนความจำของเขาอยู่นาน ภากรจึงลำดับเหตุการณ์ได้ แต่พออยู่กับตะวันภากรก็กลับมาเป“นคนยียวนมีอารมณ์ขันตามเคย เขาพูดหยอกแกมหยิกเธอต่างๆนานา เช่น เมื่อตะวันบอกว่าที่มาช่วยเขาเพราะเห็นแก่มนุษยธรรม เขาก็แกล้งดักคอว่า
"ไม่ใช่เพราะคุณหึงผม ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับผมหรือ"
พอตะวันด่าว่าบ้า หลงตัวเองมากไปแล้ว รู้อย่างนี้ไม่ช่วยดีกว่า ภากรก็ทำหน้าทะเล้นพูดล้อว่า "โห...ยาวเลย" ตะวันลอยหน้าเข้าไป ท้าว่าจะด่ายาวกว่านี้ก็ได้เอาไหมปากดีนัก ว่าแล้วขยับจะลุกไปถูกภากรคว้าไว้อย่างแรง ทำให้เสียหลักล้มลงไปข้างๆเขา
"ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม" ภากรพูดเบาๆข้างหู ทำให้ตะวันรู้สึกตัวขยับหนีพลางผลักเขาออก เมินหน้าซ่อนความเขิน ทำปากด่าเขาว่า บ้าฉวยโอกาส
ภากรยังยั่วเย้ากระเซ้าแหย่ตะวันอย่างอารมณ์ดี จนเธอบ่นว่ารู้อย่างนี้ไม่ช่วยดีกว่าแล้วลุกพรวดออกไป ภากรเรียกไว้ไม่ทัน รีบลุกขึ้นตามออกไป แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาเธอเสียแล้ว
"หายไปไหนแล้ว เร็วชะมัด" ภากรบ่นกับตัวเอง ถอนใจอย่างเสียดาย
ooooooo
พิมพ์นภัสเจ็บใจมากที่ถูกตะวันมาขวางทำให้ แผนการล้มเหลว อาฆาตจะจองล้างจองผลาญกับตะวันจนถึงที่สุด
ส่วนตะวันกลับถึงบ้านเอาดึก ถูกภัทรวดีที่คอยจับผิดอยู่ ถามประชดว่ากลับมาแล้วหรือ
ตะวันรู้ว่าถูกหาเรื่องแน่ ทำหูทวนลมเสีย เลยถูกภัทรวดี เดินตามไปหาเรื่อง ตะวันเล่นลิ้นว่าใครจะไปรู้ว่าทักใครถามใครเพราะไม่เอ่ยชื่อ
ภัทรวดีว่าตะวันอย่างรุนแรงว่า ถ้าไม่นับถือตนก็ควรสำนึกไว้บ้างว่าตนเป“นเมียของพ่อตัวเอง มาอยู่บ้านนี้วันแรกก็กลับบ้านดึกเสียแล้ว อย่าเอานิสัยความเคยชินที่อยู่บ้านมาใช้ที่นี่
ตะวันเถียงอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ แล้วขอตัวไปนอนเลย ภัทรวดีได้แต่คำรามตามหลัง
"นังตัวดี...นังตัวแสบ"
เมื่อตัวเองทำอะไรตะวันไม่ได้ ภัทรวดีไปฟ้องวิภูหวังให้เขากระหนาบตะวันแทน กลับถูกวิภูบอกว่า ถ้าไม่อยากวุ่นวายปวดหัวก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เตือนว่าเธอต้องให้เวลาตะวันบ้าง ต่างค่อยๆเรียนรู้นิสัยกันไป อีกสักพักก็คงดีขึ้น ภัทรวดี เลยยิ่งหงุดหงิดที่วิภูไม่เล่นด้วย
ooooooo
จนรุ่งเช้า ภัทรวดีหวังอาศัยบารมีของวิไลเลขามา กระหนาบตะวัน แต่พอวิไลเลขาตำหนิตะวันว่า เมื่อคืน กลับดึกต่อจากนี้อย่าทำอีก ไม่อยากให้หลานสาวตนเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี ปรามเย้ยๆว่า
"แล้วถ้าคิดว่าที่พยายามดิ้นรนเข้ามาอยู่ที่นี่ เพราะมีแผนการชั่วร้ายละก้อ...อย่าหวังว่าจะทำสำเร็จเพราะฉันไม่ ยอมแน่"
"ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะคุณวิไลเลขา ดิฉันมันรุ่นหลานจะมีแผนการชั่วร้ายยังไงก็รับรองว่าสู้รุ่นใหญ่อย่างรุ่นแม่รุ่นย่า ไม่ได้หรอกค่ะ"
ย้อนเอาอย่างเจ็บแสบแล้วตะวันเดินผละไป ภัทรวดี รีบเข้าไปยุวิไลเลขาว่า เด็กก้าวร้าวอวดดีแบบนี้ แม้แต่ย่าแท้ๆ ยังกล้าพูดอย่างนี้ ตนรับไม่ไหวจริงๆ
"ปล่อยมันไปก่อน ถ้าแม่ทนไม่ได้จริงๆ แม่ก็ไม่เอามันไว้เหมือนกัน"
เมื่อยุวิไลเลขาไม่ขึ้น ก็เป่าหูว่าระวังจะเป“นแบบอย่างที่ไม่ดีให้ฟ้า วิไลเลขายอมรับว่านั่นเป“นสิ่งที่ตนกลัวที่สุด บอกให้ภัทรมนช่วยกันดึงๆฟ้าไว้บ้าง ถามว่าแล้วภัทรมนหายไปไหน
"เออ...คือหนูมนไปต่างจังหวัดค่ะ พอดีเพื่อนเขาชวนไปดูงานที่โรงแรม หนูมนก็เลยไปค่ะเห็นว่าจะไปหาข้อมูลมาช่วยพัฒนาโรงแรมของเราค่ะ"
วิไลเลขาถามว่าจะกลับเมื่อไร พอรู้ว่าอาทิตย์หน้า ก็บ่นว่า
"โทร.ถามดูซิว่าจะกลับเมื่อไร เป“นสาวเป“นนางเที่ยวไปค้างอ้างแรมบ้านคนอื่นนานๆมันไม่งามนะยะ" พูดเสร็จวิไลเลขาเดินแยกไป
"ค่ะ" ภัทรวดีถอนใจอย่างโล่งอกที่ไม่ถูกซักถามต่อ
ooooooo
เมื่อตะวันเจอดนัยในตอนเช้า เธอถูกถามทันทีว่า เมื่อคืนทำไมกลับดึกทำงานวันแรกก็งานเยอะเลยหรือ ตะวันพูดขำๆว่า ทุกคนในบ้านนี้เจอหน้าตนเป“นต้องพูดเรื่องกลับดึกไม่เว้นแม้แต่ดนัยหรือ
ดนัยเลยเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานเย็นฟ้าทำอาหารเลี้ยงต้อนรับตะวัน เพราะไม่รู้ว่าเธอต้องทำงานดึกตั้งแต่วันแรก ทำให้ ตะวันรู้สึกไม่สบายใจรีบไปหาฟ้า ขอโทษน้องที่ทำให้รอเก้อ ขอแก้ตัวใหม่ได้ไหม
ฟ้าดีใจถามว่าตะวันอยากทานอะไรออเดอร์ได้เลย ตะวันทำท่าคิดๆแล้วร่ายยาวว่า
"ขอเป“นไข่เจียว, ไข่ต้ม, ไข่ตุ๋น, ไข่ดาว, ไข่น้ำ ก็แล้วกัน ทำได้ไหม"
พอฟ้ายิ้มดีใจบอกว่าสบายมากจะแถมเมนูอื่นให้ด้วย สองพี่น้องเลยนัดพบกันเย็นนี้
ooooooo
อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
รุ่งขึ้น พิมพ์นภัสไปที่บ้านภัสสรแต่เช้าเพื่อง้อภากร เธอทำท่าสำนึกผิดเข้าไปขอคุยกับภากรเรื่องเมื่อคืน ภากรตอบสั้นๆว่าตนต้องรีบไปทำงาน เธอหาว่าเขาโกรธ ชี้แจงว่าเมื่อคืนเขาเมามากไม่รู้จะทำอย่างไรเลยพาไปนอนพัก ตั้งใจว่าพอเขาสร่างเมาค่อยพากลับบ้าน
"แต่ที่พี่ได้ยินมามันไม่ใช่อย่างที่พิมพ์บอกนะ" ภากรเย็นชามาก
พิมพ์นภัสหาว่าถูกตะวันใส่ร้าย ภากรถามว่าถ้าอย่างนั้นจะอธิบายอย่างไรในเมื่ออาการของตนมันยืนยันว่าถูกมอมเหล้ามอมยา เมื่อถูกยันเอาจนแต้มแบบนี้ พิมพ์นภัสยอมรับว่าทำไปเพราะรักเขาและมีคนยุให้ทำ ถ้าจะผิดก็ผิดเพราะตนรักเขามาก ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ภากรมองเธออย่างเย็นชา จนภัสสรลงมาเจอทักว่ามาแต่เช้าเลยหรือ พิมพ์นภัสโกหกได้ไม่ขัดเขินว่าเพราะตนเพิ่งรู้เรื่องภาคิน รู้สึกเป“นห่วง ถูกภัสสรห้ามเอ่ยชื่อนี้อีก พิมพ์นภัสขอให้ภัสสรใจเย็นๆ ภาคินอาจประสบอุบัติเหตุก็ได้
"จะเป“นอะไรก็ต้องติดต่อมา ไม่ใช่หายเงียบไปแบบนี้" พูดแล้วมองภากรกับพิมพ์นภัส เอ่ยอย่างฝากความหวังว่า "ลูกสองคนต้องไม่ทำให้แม่เสียใจผิดหวังเหมือนที่เจ้าคินมันทำนะ เข้าใจไหมกร"
ภากรนิ่งอย่างอึดอัดไม่อยากรับปากในสิ่งที่ขัดกับใจตัวเอง พิมพ์นภัสฉวยโอกาสตอบเองว่า
"พี่กรไม่มีทางทำให้คุณแม่เสียใจผิดหวังแน่นอนค่ะ"
ภัสสรยิ้มอย่างพอใจ ในขณะที่ภากรตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่นิ่ง...เงียบ
เขาขับรถพาพิมพ์นภัสออกมาถามว่าจะให้ไปส่งที่ไหน พิมพ์นภัสไม่ยอมบอกแต่ออดอ้อนว่าเขายังไม่หายโกรธตน ยังคร่ำครวญว่าตนทำไปเพราะความรักแท้ๆ ความรักสั่งให้เราทำได้ทุกอย่าง
"อย่าโทษความรักพิมพ์นภัส ความรักที่แท้จริงจะต้องสะอาดกว่านี้ กลับไปคิดให้ดีว่าสิ่งที่พิมพ์ทำกับพี่มันเรียกว่าอะไรแน่"
เมื่ออ้อนภากรไม่ได้ผล พิมพ์นภัสนัดแจนออกมาปรึกษาถามว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้เข้าหน้าภากรไม่ติดแล้ว แจนทำหน้าคิดๆบอกว่าจะใช้แผนเดิมคงไม่ได้แล้ว
พิมพ์นภัสพาลโกรธตะวัน แค้นใจว่าโผล่มาขวางทำให้เสียแผน
"ฉันว่าก่อนเธอจะรวบหัวรวบหางพี่กร เธอต้องจัดการนังตะวันนั่นเสียก่อน" แจนชี้แนะอีก
ooooooo
ตะวันยังคงทุ่มเทกับงานที่ได้รับมอบหมายเต็มที่ วันนี้เธอได้รับแจ้งจากศักดาว่าอาทิตย์หน้าจะนัดพรีเซนต์ งานคอนโดฯกับภากร ให้กำลังใจเธอว่าไม่ต้องกังวลรับรองผ่านฉลุยแน่ ส่วนคืนนี้ก็พักได้แล้ว ถ้าไม่อยากพักก็เอางานกลับไปคิดต่อที่บ้านก็ไม่ว่ากัน
ตะวันรับทราบแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ จนเย็นศักดาเข้ามาบอกว่าตนจะกลับก่อน ตะวันขอทำงานต่ออีกนิดเดียวเท่านั้น ครู่เดียวเลขาฯก็เข้ามาถามว่ายังไม่กลับหรือ ถ้างั้นตนจะกลับก่อน แล้วผละไป
"ยังไม่กลับอีกเหรอ" ตะวันถามเมื่อรู้สึกมีคนมายืนตรงที่เลขาฯเพิ่งผละไป
"ยังครับ" เสียงตอบนุ่มนวลสุภาพ
กลายเป“นภากรมายืนดูตะวันทำงานอยู่ ตะวันบอกว่าศักดากลับไปแล้ว เขากลับบอกเธอว่าไม่ได้มาหาศักดาแต่มาหาเธอ จะมาชวนไปทานข้าว อยากเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยไว้เมื่อคืนนี้
"ที่ฉันช่วยคุณไม่ได้หวังว่าจะต้องให้คุณมาตอบแทน อีกอย่างคุณก็ขอบคุณฉันแล้ว ไม่ต้องขอบคุณซ้ำหรอก ฉันไม่ อยากได้" พูดแล้วเก็บเอกสารขอตัวเพราะต้องรีบกลับบ้าน
"ดีเหมือนกันจะได้รู้จักบ้านคุณด้วย" ภากรโมเม
ตะวันรีบลุกเดินอ้าวออกไป ดูนาฬ”กาแล้วเธอเรียกแท็กซี่ไปเลย พอภากรตามออกมาก็ไม่เจอแล้ว พึมพำได้แค่ว่า "หายไปไหนแล้ว"
ooooooo
ฟ้าเตรียมอาหารไว้เลี้ยงต้อนรับตะวันเป“นการแก้ตัวเมื่อวานนี้ เสร็จแล้วจะไปอาบน้ำก่อน แต่พอเดินออกจากห้องครัวก็เจอดนัยมาถึงพอดี ขณะเธอยืนทักทายดนัยนั่นเอง ภัทรวดีก็แทรกเข้ามาพูดเหยียดหยามดนัยว่ามาสอพลอรอร่วมโต๊ะด้วยหรือ ด่าว่าเป็นกาฝากอย่ามาสะเออะ ให้มันรู้ที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง
ผมคงต้องทำความเข้าใจกับคุณนายสักนิดนะครับ ผมเข้ามาอยู่ที่นี่เพราะตะวันขอ ไม่ได้เข้ามาเป“นกาฝากเกาะใคร"
ทันใดนั้นตะวันมาถึง เธอถามว่ามีเรื่องอะไรกันมิทราบคุณแม่เลี้ยง ภัทรวดีไม่ตอบเดินสะบัดไป ฟ้าดีใจที่ตะวันกลับมา บอกให้ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะมาทานข้าวด้วยกัน
ตะวันชวนดนัยกินข้าวด้วยกัน ดนัยขอไปกินข้างนอกดีกว่า ตะวันไม่ยอมจับมือเขาไว้พูดเข้มๆว่าอยู่กินข้าวด้วยกัน ตะวันขอร้อง ทั้งสองจ้องหน้ากัน ฟ้าดูออกว่าทั้งคู่มีความรู้สึกพิเศษต่อกันเลยเดินเลี่ยงไปทางอื่นอย่างไม่อยากเป“นส่วนเกิน
ดนัยถามตะวันว่าจะประกาศสงครามหรือ ตะวันพูดขำๆ ว่าก็แค่ประกาศให้ทราบว่าอาณาเขตของตนแค่ไหนเท่านั้นเอง แล้วขอตัวไปอาบน้ำ
ฝ่ายภัทรวดีเฝ้ายุแหย่วิไลเลขาว่าตะวันจะมาพาฟ้าเสียไปแล้วจริงๆ ยุให้รีบจัดการเสีย
พอดีวิภูเข้ามาถามว่าวางแผนอะไรกันอยู่หรือ วิไลเลขาค้อนลูกชายงอนๆ ตัดพ้อว่าเดี๋ยวนี้แม่ไม่มีความหมายแล้ว เขาอยากทำอะไรก็ทำเถอะ
"ถ้าคุณแม่หมายถึงเรื่องที่ตะวันเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ละก้อ...ผมอยากให้คุณแม่เป”ดใจให้กว้าง ตะวันก็เป“นหลานของคุณแม่เหมือนฟ้า และถ้าคุณแม่จะยุติธรรมอีกสักนิด คุณแม่ น่าจะสงสารตะวันด้วยซ้ำ"
วิไลเลขาถามแบบหาเรื่องว่าตนจะเป“นแบบนี้แล้วใครจะทำไม สั่งวิภูไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วไม่อยากฟัง ทำเอาวิภูพูดไม่ออก ยืนมองแม่แล้วแอบถอนใจเซ็งๆ
ooooooo
แขไขอยู่เชียงใหม่ วันนี้ไปทำผมที่ร้าน ระหว่างให้ช่างทำผมก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน เจอข่าวฟ้าหม้ายขันหมากก็ตกใจสงสารลูก กลับไปปรึกษาโอภาสว่าจะโทร.ถามข่าวนี้กับตะวันดีไหม
โอภาสเชื่อว่าตะวันคงไม่กล้าเล่าเพราะแขไขเคยสั่งเด็ดขาดไม่ให้ติดต่อบ้านนั้นไว้แล้ว แต่เห็นแขไขร้อนใจจึงเสนอว่าเย็นนี้ลองโทร.คุยกับตะวันดูก็ได้เผื่อจะรู้เพราะหนังสือพิมพ์ ลงข่าวครึกโครม
"ก็ดีเหมือนกัน รอให้ตะวันเลิกงานก่อน" แขไขเห็นด้วย
แขไขอดรนทนรอจน 6 โมงเย็นแล้วรีบลุกไปโทร.หาตะวัน เป“นเวลาที่ตะวันอยู่ในห้องน้ำพอดีและฟ้ามานั่งรอพี่สาวอยู่ที่ห้องจะรับโทรศัพท์แทน พอดีตะวันออกมาเห็นชื่อแม่ที่หน้าจอเลยรีบคว้า เดินเลี่ยงไปคุย
แขไขถามว่าทำไมรับโทรศัพท์ช้า ตะวันปดแม่ว่ากำลังประชุมอยู่ บอกแม่ว่าประชุมเสร็จจะโทร.กลับแล้วกดวางสาย หันไปยิ้มกับฟ้าที่ยืนอยู่ห่างๆ ชวนไปกินข้าวกันดีกว่าตนหิวแล้ว
แขไขวางสายจากตะวันรู้สึกแปลกๆ ลูกบอกว่าประชุมอยู่แต่พูดไม่ค่อยเต็มเสียง
"ก็ลูกประชุมอยู่ก็ต้องพูดเบาๆสิ ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก" โอภาสปลอบใจไปตามประสา
ooooooo
อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 6
บรรยากาศที่โต๊ะอาหารอึดอัดและกร่อยสนิทเพราะทั้งวิไลเลขาและภัทรวดีต่างนั่งปั้นปึ่ง จนทุกคนไม่กล้าขยับเขยื้อน กินกันเกร็งๆ คุยกันเซ็งๆ จนสุดท้ายตะวันขอตัวลุกไปเพื่อจะโทรศัพท์หาแม่
แขไขคอยตะวันโทร.กลับ เธอบอกแม่ว่าเพิ่งกลับถึงหอพัก แขไขถามไถ่สารทุกข์สุขดิบถามเรื่องงานแล้วจึงถามเรื่องฟ้าว่า ตะวันรู้เรื่องคนนั้นหนีงานหมั้นฟ้าไหม เป็นอย่างไรบ้าง
"อ้อ ก็พอรู้บ้างนิดหน่อยค่ะแม่ คือตะวันได้ยินมาจากวงในว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนไม่ดี" แขไขตกใจถามว่าไม่ดีแล้วเขาให้หมั้นทำไม "ก็คุณวิไลเลขาเป็นคนจับคลุมถุงชนไงคะแม่ แต่ก็โชคดีที่น้องรอดมาได้"
แขไขเอะใจว่าทำไมตะวันถึงรู้ลึกรู้ละเอียดขนาดนั้น เธอปดแม่ว่าพวกนั้นเป็นพวกไฮโซร่ำรวยเกิดเรื่องขนาดนี้ใครๆก็พูดถึง และเรื่องนี้ก็สืบไม่ยากด้วย ดนัยก็ช่วยสืบด้วย
"แต่ยังไง ตะวันก็อย่าเผลอไปเข้าใกล้บ้านปัญญารักษ์ นะลูก" แขไขย้ำด้วยความเป็นห่วงอีก
พอวางสายจากแม่ ตะวันพึมพำว่าตนไม่เจตนาทำแบบนี้กับแม่แต่มันจำเป็น แม่อย่าโกรธเลยนะ
ooooooo
ภัทรมนพาภาคินไปพักที่บ้านพักตากอากาศของภัทรวดีที่ชะอำ
วันนี้เขาตื่นแต่เช้าไปเดินที่ชายหาด เจอจันทิกาสาวสวยเซ็กซี่เข้ามาเล่นน้ำทะเลพอดี ภาคินรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นทันทีหาทางทำความรู้จัก
ทั้งคู่รู้จักกันไม่ยาก เพียงสบตาทักทายไม่กี่คำต่างก็ดูลายกันออก เมื่อแนะนำชื่อแก่กันแล้ว จันทิกาก็วิ่งหยอกล้อกับภาคินอย่างระริกระรี้ที่ริมหาด ภาคินถามว่าจะพบกับเธอได้ที่ไหนอีก
"ถ้าคืนนี้คุณแวะไปที่ผับของโรงแรมนั่น คุณเจอจูนแน่นอนค่ะ"
"โอเคครับ" ภาคินตอบรับตาเป็นประกาย
ปรากฏว่าภัทรมนเพิ่งตื่น มองหาภาคินไม่เห็นจึงเดินลงไปหาที่ชายหาด พอเจอถามว่าไปไหนมา ภาคินตอบหน้าตาแจ่มใสว่ามาเดินเล่น ภัทรมนคิดว่าเขานอนไม่หลับถามว่าจะกลับกรุงเทพฯไหม ท่าทางเขาไม่มีความสุข ภาคินรีบบอกว่าตนแค่เซ็งๆ แต่ตอนนี้หายเซ็งแล้ว ภัทรมนจึงชวนกลับไปทำอาหารเช้ากินกัน
ภาคินโอบเอวภัทรมนพากันเดินขึ้นไป แต่ในใจหมกมุ่นคิดถึงแต่จันทิกาสาวน้อยผู้ปลุกความกระชุ่มกระชวยให้เขาตั้งแต่เช้า
ooooooo
รุ่งเช้า ฟ้าตื่นมาส่งตะวันไปทำงาน เจอวิภูขับรถจะออกพอดี วิภูพยายามชวนตะวันไปด้วยกัน ตะวันยังคงทำตัวห่างเหินเย็นชา เรียกแทนตัวเองว่าดิฉันและเรียกวิภูด้วยคำว่าคุณแทนคำว่าพ่อ เธอไม่ยอมไปกับวิภู จนฟ้าขอร้องเธอจึงยอมขึ้นรถไปด้วย แต่พอพ้นบ้านก็บอกวิภูให้จอดตนจะลง
ครั้นวิภูพยายามจะไปส่งที่ทำงาน ตะวันพูดเสียงแข็งใส่ว่า ที่ตนมาด้วยก็เพราะไม่อยากให้ฟ้าเสียใจเท่านั้นเอง แล้วสั่งให้หยุด จากนั้นลงไปขึ้นรถแท็กซี่ไปทำงาน วิภูได้แต่ มองตามไปอย่างเจ็บปวด
ส่งตะวันแล้วฟ้าเดินกลับเข้าบ้าน เจอวิไลเลขา ฟ้าขออนุญาตไปข้างนอกจะไปซื้อของขวัญให้พี่สาว วิไลเลขาได้จังหวะเตือนว่าฟ้ากับตะวันถูกเลี้ยงมาคนละแบบ ฟ้าเป็นคนว่านอนสอนง่าย อย่าได้เชื่อใครง่ายๆ ย่าไม่ได้สอนให้ระแวงพี่สาวแต่ระวังตัวไว้ก็ดี
เมื่อได้ออกไปที่ห้าง ฟ้าไปเดินดูนาฬิกาจะซื้อให้ตะวัน
เป็นความบังเอิญที่ภากรก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าเดียวกันเขาสั่งดอกไม้ช่อหนึ่งตั้งใจจะเอาไปให้ตะวัน สั่งแล้วบอก
คนขายว่าเดี๋ยวจะแวะมาเอา จากนั้นเดินออกไปดูของอื่น
พิมพ์นภัสกับแจนที่เห็นรถของภากรขับเข้ามาตั้งแต่แรกแล้วจึงลงไปสะกดรอยตาม
ภากรเดินผ่านร้านขายนาฬิกามองเข้าไปสะดุดตาเมื่อเห็นเป็นตะวันอยู่ในร้านนั้น แต่มีโทรศัพท์จากแม่เข้ามาเขาจึงเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ พิมพ์นภัสตามมาเห็นฟ้าอยู่ในร้าน เธอมองจิกคำรามเบาๆ
"นังตะวัน ช่างกล้านัก นังนี่"
พิมพ์นภัสเห็นภากรเดินเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ เป็นโอกาสเหมาะเธอพุ่งเข้าไป ฟ้าเบี่ยงตัวหลบ เพราะไม่รู้จักพิมพ์นภัส ทำให้พิมพ์นภัสยิ่งแค้นใจ กระชากเข้าไปตบหน้า ฟ้าตะลึงงัน พนักงานในร้านไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง ฟ้าจึงถูกพิมพ์นภัสเล่นงานฝ่ายเดียวตบหน้าซ้ำๆจนเป็นผื่น ปากก็ด่าไม่หยุด
"จำใส่สมองทึบๆของแกไว้นะ ว่าอย่ามายุ่งกับพี่กร ครั้งเดียวที่แกทำกับฉันมันก็มากเกินพอไปแล้ว"
ภากรคุยโทรศัพท์เสร็จหันมาเห็นฟ้าวิ่งหนีไป เขาจะวิ่งตามถูกพิมพ์นภัสเข้ามาขวางทำเป็นไม่รู้เรื่อง พอภากรบอกว่าเห็นตะวันวิ่งไปทางโน้น เธอถามว่าเขานัดตะวันไว้หรือ พอภากรบอกว่าเปล่า เธอจับผิดว่าแล้วมาเจอกันได้ยังไง
"พี่ไม่เห็นจะแปลกเลย กับพิมพ์เองเราก็ไม่ได้นัดกันยังมาเจอกันได้" พูดแล้วเขาเบี่ยงตัวเดินไปทางที่เห็นฟ้าวิ่งไปไม่สนใจดอกไม้ที่สั่งไว้อีกเลย
ooooooo
ฟ้าวิ่งไปชนเข้ากับดนัยที่ทำงานเสร็จพอดีเลยมาเดินห้าง เขาเห็นที่แก้มเธอมีรอยฝ่ามือเป็นผื่น ถามว่าเป็นอะไร ใครทำอะไรเธอ ฟ้าร้องไห้เมื่อพบคนที่ห่วงใย ดนัยขอให้เธอเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ทันที่ฟ้าจะเล่า เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักพิมพ์ให้ไปทำสกู๊ปที่เขาดินต่อ ฟ้าจึงขอตามไปด้วย
"ก็ได้ครับ แต่คุณต้องเล่าให้ผมฟังนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ" ดนัยมีข้อแม้แล้วพากันไป
เพราะดนัยต้องทำงาน แม้จะเอาใจใส่คอยดูแลฟ้าแต่ก็พลัดหลงกันจนได้ ดนัยตกใจรีบเดินตามหา ถามคนที่สวนมา พอรู้ลักษณะก็บอกว่าเพิ่งเดินไปทางโน้นพลางชี้ให้ดู ดนัยรีบตามไปอย่างมีความหวัง แต่เดินตามหาจนเหงื่อตกก็ไม่เจอ ทำให้เขายิ่งกังวลพร่ำถามในใจว่า "คุณฟ้า...คุณอยู่ไหนครับ"
พงษ์ที่ขับรถพาฟ้าไป กลับบ้านไปบอกวิไลเลขาว่าพลัดกับฟ้าหาไม่เจอจึงกลับมาบอก พงษ์ถูกคาดโทษว่า ถ้าหาฟ้าไม่เจอ "แกตายแน่!" แล้ววิไลเลขาก็ให้สายหยุดโทร.เข้ามือถือฟ้าตลอดเวลาจนกว่าจะโทร.ติด
ดนัยทั้งให้ทางกองอำนวยการประกาศตามหาฟ้า ทั้งออกเดินตามหาเอง จนกระทั่งเจอเมื่อฟ้าไปนั่งดูการแสดงของลิงจบ ดนัยทั้งดีใจทั้งฉุนที่เกิดเรื่องให้ตกอกตกใจ ตำหนิจนฟ้าหน้าจ๋อยหนักเข้าก็น้ำตาคลอ จนดนัยรู้สึกตัวเลิกบ่น
ฟ้าขอโทษดนัยที่ทำให้เขาทุกข์ร้อนใจ ไม่ทันไรท้องร้องจ้อกๆ เธอบอกเขาเขินๆว่าหิวแล้ว ดนัยจึงพาไปกินก๋วยเตี๋ยวริมทาง ปรากฏว่าเธอโซ้ยเข้าไปถึงสองชาม บอกเขาเขินๆว่า ปกติกินชามเดียวก็อิ่มแต่วันนี้หิวจัด
ooooooo
ภากรหงุดหงิดมากที่วันนี้ไปเจอเรื่องร้ายๆที่ห้างสรรพสินค้า ภัสสรคิดว่าเขาเครียดเพราะงานหนักเนื่องจากภาคินไม่เอาเรื่อง งานทั้งหมดจึงตกอยู่กับภากร
ภัสสรบอกพิมพ์นภัสที่ทำทีเป็นห่วงเป็นใยภากรว่า พรุ่งนี้เขาก็ยังต้องไปดูโครงการที่ชะอำอีก พิมพ์นภัสขอตามไปด้วย ภากรปฏิเสธไม่อ้อมค้อมว่าไม่ได้ ตนไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว
ความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติของทั้งคู่ ทำให้ภัสสรสงสัยว่ามีอะไรผิดใจกัน พอถามพิมพ์นภัสก็บอกว่าไม่มีอะไร ภัสสรจึงให้พิมพ์นภัสเป็นเพื่อนตนไปซื้อของดีกว่าภากรจะได้ทำงาน
ภัทรวดียังหาโอกาสยุแหย่ใส่ไฟตะวันกับดนัยอยู่เนืองๆ หาทางที่จะให้วิไลเลขาไล่ตะวันกับดนัยออกจากบ้านให้ได้
จนสบโอกาสเหมาะเจาะเมื่อดนัยพาฟ้ากลับมา เธอเข้าไปเป่าหูวิไลเลขาทันทีว่า สองคนคงนัดพบกันข้างนอกเพิ่งนั่งแท็กซี่กลับมาด้วยกัน ฟังแล้ววิไลเลขาเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที ตรงไปเล่นงานดนัยถึงห้องพัก ทั้งด่า ทั้งเยาะเย้ยเหยียดหยาม หาว่าเขาหวังมาเกาะหาประโยชน์จากฟ้า
"ผมไม่เคยคิดอย่างที่คุณพูด แล้วก็ไม่มีวันคิดด้วย" ดนัยโต้ตอบไปอย่างไม่พอใจ
พอวิไลเลขากลับไป ภัทรวดีกับสายหยุดก็หัวเราะเสียงแหลมเข้ามาพูดเยาะเย้ย แล้วบอกดนัยให้เตรียมหาที่อยู่ ใหม่รอไว้ได้เลย ท่าทางจะอยู่ที่นี่ไม่รุ่งเสียแล้ว
ส่วนวิไลเลขาเมื่อด่าดนัยจนหนำใจแล้วก็กลับไปคุยกับฟ้า หว่านล้อมหลานสาวอย่างอ่อนโยนว่าไม่อยากให้ไปไหนมาไหนกับดนัย ถ้าอยากไปเที่ยวเขาดินวันหลังให้ชวนย่า ย่าจะไปเป็นเพื่อน
"ค่ะ" ฟ้ารับคำหน้าจ๋อย นึกเดาในใจว่าดนัยต้องโดนย่าเล่นงานมาแล้วแน่ๆ
ooooooo
ด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกของดนัย ฟ้าแอบไปหาเขาที่ห้อง ไม่ทันได้เปิดประตูห้องก็ถูกภัทรวดีที่ซุ่มอยู่หัวเราะเยาะ พูดเย้ยหยันว่ามาหาผู้ชายถึงห้อง ระวังท้องโตแล้วไม่มีพ่อจะอับอายกันไปหมด
ฟ้าคิดไม่ถึงว่าภัทรวดีจะมองตนในแง่ร้ายถึงเพียงนี้ เสียใจจนพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าภัทรวดีอย่างตัดพ้อเจ็บปวดแล้ววิ่งกลับไป
ooooooo
ดนัยคิดหนักไปนั่งซึมอยู่ที่สนาม ตะวันสงสัยเดินไปถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขาถามเธอว่า ถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ตะวันจะอยู่คนเดียวได้ไหม ครั้นตะวันถามว่ามีเรื่องอะไรหรือ เขากลับบอกว่าไม่มีอะไร
ตะวันจับมือดนัยไว้ มองหน้าพูดแกมขอร้องว่า
"ถ้าไม่มีอะไรจริงๆก็แล้วไป แต่นัยต้องสัญญานะว่าเราจะต้องอยู่ด้วยกัน ถ้านัยไปจากที่นี่เมื่อไหร่ ตะวันก็จะไปด้วย"
อ่านละครย่อเรื่องเหลี่ยมรัก ตอนที่ 5-6