@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 20/2

@^@..อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 20/2
ตอนที่ 20 (ต่อจากวานนี้)

ที่บริษัทอวตาน โสภิตาเริ่มต้นการประชุมแทนอลินด้วยเรื่องคอนเซปต์รายการอาหารที่จะทำในเทปหน้าซึ่งเป็นอาหารบำรุงกำลัง...อนุชานั่งหน้าแป้นแล้น มองโสภิตาอย่างภูมิใจ จนทีมงานชักแม่งๆ ยิ่งอนุชาซักถามโสภิตาด้วยรอยยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ย ทุกคนยิ่งสงสัย โสภิตาพยายามปรามอนุชาทั้งคำพูดและสายตา อนุชากลับแสดงตัวเป็นสามีโสภิตา แถมยังบอกด้วยว่าเรามีลูกสาววัยห้าขวบด้วยกัน ทำเอาทุกคนอึ้งย้งงงงวยไปตามกัน

ด้านพสุหลังคิดทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำต่ออลินและคำเตือนของแม่กับปฏิคมอย่างดีแล้ว เย็นนั้นเองพสุจึงไปขอโทษอลินถึงห้องพัก อลินซึ่งร้องไห้จนตาช้ำแทบไม่เชื่อหูตัวเอง พลันน้ำตาก็ย้อยหยดออกมาอีกจนพสุตกใจ

"เฮ้ย คุณลิน...ผมขอโทษคุณแล้วนะ คุณจะร้องไห้ทำไม"

"ก็ครูกุ๊กอ่ะ มาด่าฉันทำไม ฉันอุตส่าห์เป็นห่วง รีบทิ้งงานไปหา แล้วก็ด่าว่าเสียๆหายๆ ไล่ฉันกลับบ้าน ฉันต้องร้องไห้มาตลอดทาง มาร้องไห้ต่อที่บ้านอีก รู้มั้ยว่าร้องไห้แล้วมันเหนื่อย ตาก็บวม กว่าจะยุบก็ตั้งนาน นี่แน่ะ ครูกุ๊กใจร้าย" อลินไล่ทุบพสุระบายแค้น

"โอ๊ย คุณลินมาตีผมทำไม"

"ครูกุ๊กใจดำ ทำคนร้องไห้แล้วก็ค่อยมาขอโทษ นี่แน่ะๆ ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ"

"โอ๊ย...ผมเจ็บนะคุณลิน...พอได้แล้ว"

"ไม่...ฉันโกรธครูกุ๊กจริงด้วย...โกรธๆๆๆๆ"

อลินทุบไม่ยั้ง พสุต้องรวบตัวอลินไว้ในอ้อมกอด อลินยังพยายามดีดดิ้น จนใบหน้าจ๊ะเอ๋แทบชนกัน ต่างคนต่างมองกันนิ่ง...ในจังหวะที่สุดแสนจะเป็นใจเช่นนี้ อลินหลับตาพริ้มคิดว่าพสุต้องจูบแน่ แต่พสุกลับหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดขอบตาให้อลิน

"ครูกุ๊กทำไร?" อลินลืมตาขึ้นทันใด

"หน้าเยินขนาดนี้ คิดว่าผมจะทำอะไร รีบไปล้างหน้าล้างตา ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"

พสุทำฟอร์มเข้ม อลินชักสีหน้าเซ็งๆ เดินบ่นออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

"โธ่ นึกว่าจะเหมือนในละครซะอีก"

หายไปไม่นานอลินก็หน้านวลใสกลับมาหลับตาพริ้มตรงหน้าพสุอีกครั้ง พสุเขินเกินกว่าจะตอบสนอง แกล้งเอามือปาดปากอลินจนเธอแหวะ บ่นว่าเค็ม...จากนั้นพสุก็เริ่มพูดเรื่องสำคัญด้วยท่าทีจริงจัง

"ผมอยากให้คุณเลิกให้ข่าวระหว่างคุณกับผม และขอให้คุณอยู่ห่างจากผมให้มากที่สุด" อลินเคืองอย่างแรงลุกพรวดจะเดินหนี พสุรีบคว้าแขนไว้ "ฟังผมก่อน ที่ผมทำแบบนี้ เพราะผมไม่อยากให้คุณเดือดร้อน อีกไม่นานข่าวเรื่องการฆาตกรรมคงถูกปล่อยออกไป ผมไม่อยากให้คุณติดพ่วงไปกับข่าวไม่ดี"

"ฉันอยู่ในวงการบันเทิงมาค่อนชีวิต อยู่กับการตกเป็นข่าวจนนับไม่ถ้วน ฉันไม่เคยกลัวการเป็นขี้ปากของใคร โดยเฉพาะเรื่องที่มันไม่จริง...ลินเชื่อมั่นว่าแม่คุณไม่ได้เป็นคนทำ ที่ผ่านมาคุณยอมก้าวข้ามเส้นชีวิตของตัวเองเข้ามาอยู่ในโลกของฉัน ต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายสารพัด คุณไม่เคยบ่น ไม่เคยทิ้งฉันแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าวันนี้...วันที่คุณเจอปัญหา แล้วฉันหันหลังเดินหนีไป คุณไม่ต้องมาเรียกฉันว่าอลิน"

อลินพูดนิ่งๆ แต่ทุกคำกลั่นมาจากหัวใจ...แล้ววันรุ่งขึ้น อลินก็แสดงให้พสุเห็นว่าเธอพูดจริงทำจริง อลินตอบสัมภาษณ์ บรรดานักข่าวถึงความรู้สึกเกี่ยวกับข่าวการฆาตกรรมแม่ใหญ่ ซึ่งแม่ของพสุเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ

"ตำรวจยังไม่ได้สรุปนะคะ คดียังไม่ปิด เพราะฉะนั้นลินไม่อยากให้สรุปว่าคุณแม่ของคุณดินเป็นคนทำ...เรื่องออกหมายเรียกคุณแม่มาสอบ มันเป็นกระบวนการทางกฎหมายปกติ ทุกคนต้องโดนสอบหมดค่ะ การโดนสอบไม่ได้หมายความว่าคุณแม่เป็นคนทำ จากข่าวที่ออกมาคงตั้งใจจะสร้างกระแสมากกว่าที่จริงในครอบครัวของคุณดินไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะ ทุกคน เป็นคนดี น่ารัก โดยเฉพาะคุณแม่เป็นคนที่น่ารักมาก เพราะฉะนั้นลินมั่นใจว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นจริงแน่นอน และข่าวนี้ไม่มีผลต่อลินและคุณดินค่ะ เราสองคนเข้าใจกันดี...ไม่มีปัญหาค่ะ"

อลินตอบอย่างฉะฉานมั่นใจ พสุยืนดูผ่านจอทีวีอยู่กับแม่และปฏิคม เขาอมยิ้มอย่างลืมตัว ปฏิคมปรายตามองเพื่อน แกล้งกระแอมด้วยความหมั่นไส้ พสุสะดุ้งรีบหุบยิ้ม แล้วทำฟอร์มเดินบ่นคอแห้งเข้าไปในครัว ความจริงแอบมาโทร.หาอลิน ขอบคุณที่อลินแก้ข่าวให้แม่ของตน

"ไม่ต้องขอบคุณหรอก มันเป็นหน้าที่ของว่าที่ลูกสะใภ้น่ะ"

"เยอะไปแล้วๆ ผมแค่จะโทร.มาขอบคุณ...แล้วเอ่อ... นักข่าวยังตามกวนคุณอยู่หรือเปล่า"

"ไม่แล้วล่ะ ฉันตอบทุกอย่าง ไม่หลบไม่หนี ตอบหมดทุกคำถามก็สลายตัวกันไปหมดแล้ว ข่าวแบบนี้ฮือฮาไม่นานหรอก ไม่เหมือนข่าวรักๆเลิกๆ มือที่สามไรเงียะ กัดไม่ปล่อย...นี่ครูกุ๊ก ฉันรู้ว่าที่ครูกุ๊กโทร.หาฉันเพราะอยากเจอฉันใช่ป่ะ" พสุนิ่งอึ้ง อลินยังทะเล้นหลงตัวเอง "คิดถึงละซี้ เอางี้เดี๋ยวฉันไปหานะฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณป้าด้วย แล้วเจอกันนะค้า...ที่ร้าก จุ๊บๆ"

"ฮะ? นี่ใครบอกว่าผมเป็น..." พสุพูดได้แค่นั้นก็ชะงัก ได้ยินเสียงสัญญาณขาดหายไปแล้ว...ชายหนุ่มอมยิ้ม ทวนคำว่าที่รักด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็สุขใจดีแท้

ooooooo

เย็นวันเดียวกัน เพรียวรับสายจากคุณหญิงอมราด้วยน้ำเสียงที่แปลกไป แผ่วเบาและไม่ยอมเออออเหมือนก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้บริษัทเปลี่ยนเจ้านายแล้ว เพรียวขออนุญาตไม่เม้าท์เจ้านายตัวเอง เพราะมันจะเป็นอันตรายต่อหน้าที่การงานและเงินเดือน

คุณหญิงอมราผงะเล็กน้อย พอได้ยินเพรียวเอ่ยชื่อโสภิตากับปูเป้ที่มาทำงานกับบริษัท และจะเริ่มถ่ายรายการวันพรุ่งนี้ คุณหญิงถึงกับโกรธจี๊ดวางสายทันใดจนเพรียวสะดุ้งโหยง...

"นังอลิน นังตัวแสบ นี่แกไปลากนังโสภิตากับลูกมาทำงานในบริษัทเหรอเนี่ย แกตั้งใจจะประชดฉันใช่มั้ย...นังอลิน นังจิ้งจอกพันหน้า นัง...นังสะใภ้ฆาตกร" อมรากัดฟันกรอด สาปแช่งอย่างแค้นเคือง

ด้านวายุที่เห็นข่าวสัมภาษณ์ของอลินก็หงุดหงิดหมั่นไส้ ไม่น้อยเหมือนกัน ทันใดความหงุดหงิดก็พลันต้องกลายเป็นความกลัว เพราะถูกโทร.ทวงหนี้ที่ยังค้างอีกหกล้านห้า และจะคิดดอกใหม่วันนี้ ตกลงจะจ่ายเป็นอะไร จ่ายเป็นเงินหรือจะจ่ายเป็นชีวิต...

"เดี๋ยวสิเว้ย นี่เลยมาแค่วันเดียวเอง แป๊บสิวะ เดี๋ยวจะรีบหามาให้"

"ผมให้เวลาพี่อีกแค่หนึ่งวัน ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่มีเงินมาจ่าย คนในบ้านพี่ได้รู้แน่ว่าพี่เป็นหนี้ผมอยู่ เผื่อเขาจะได้รู้ว่าใครที่น่าจะมีแรงจูงใจในการฆ่า!"

วายุหน้าซีด รีบกดวางไปด้วยความตกใจ เลิ่กลั่กจะเอายังไงดี?

ส่วนที่บ้านนงพะงา อลินมาพบตามที่บอกพสุไว้ นงพะงาขอบใจอลินที่ช่วยอธิบายให้คนนอกเข้าใจเรื่องข่าว อลินยิ้มรับและถ่อมตัวว่า สิ่งที่เธอทำถือว่านิดหน่อยมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่ครูกุ๊กทำให้เธอมาโดยตลอด นงพะงายิ้มปลื้ม พสุกลับรู้สึกเก้อๆเขินๆแต่ยังเก๊ก

"ใช่ครับ เขาติดหนี้บุญคุณผมไว้เยอะ ถึงชาติหน้าก็ใช้ไม่หมด"

อลินมองค้อนพสุ แล้วหันมายิ้มหวานฉอเลาะนงพะงาอยากจะให้เขียนหนังสือซะเลย จะได้เขียนอธิบายให้คนเข้าใจว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง

"ป้าว่า...อย่ายุ่งยากเลยค่ะ รออีกหน่อยเรื่องมันก็เงียบไปเอง"

"เรื่องเงียบ แต่คนที่ยังไม่รู้ความจริงก็มีอีกเยอะนะคะ ไม่ต้องห่วง ถ้าหนังสือออกแล้ว ลินจะช่วยเดินสายขายให้ รับรองว่าต้องดังระเบิดติดอันดับหนังสือขายดีแน่นอนค่ะ"

"ถึงไม่ติดอันดับ คุณก็ต้องกว้านซื้อจนมันติดจนได้" พสุดักคอ

"แน่นอน ตอนแรกก็ต้องซื้อให้ยอดมันพุ่ง พอคนสนใจ เอ๊ะ ทำไมขายดี แล้วเขาก็อยากซื้อไปอ่าน"

"เพิ่งรู้ว่าคุณลินเก่งด้านการตลาดเหมือนกันนะเนี่ย" นงพะงาชื่นชม อลินได้ทีคุยโวว่าเธอเก่งทุกด้าน นงพะงากับอ้อนหัวเราะชอบใจ แต่พสุทนไม่ได้อายแทน ตัดบทว่าดึกแล้ว อลินควรจะกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้มีถ่ายรายการแต่เช้า...อลินหันขวับมาจ้องพสุ ถามว่ารู้ได้ยังไง?

พสุตอบคำถามอลินขณะเดินออกมาส่งเธอที่รถว่า ตาเป็นคนบอก แล้วก็บอกเรื่องที่อลินจะให้ปูเป้ไปเป็นพิธีกรรายการ อลินย้ำว่าปูเป้ทำได้ และเธอก็อยากให้โสภิตามีรายได้เพิ่มด้วย จะได้ไม่ต้องง้อนายอนุชา

"แน่ใจนะว่าแค่นั้น"

"ก็...แค่นั้นสิ จะมีอะไรมากกว่านั้นล่ะ"

"ก็อย่างเช่น...อยากให้ผมไปกองถ่าย เลยเอางานมาอ้าง จ้างให้ผมไปเป็นคนดูแลปูเป้...อะไรทำนองนั้น"

"แล้วถ้าใช่ ครูกุ๊กจะยอมทำหรือเปล่า"

"ก็ต้องดูพฤติกรรมเจ้าของบริษัทก่อน ถ้าไม่วุ่นวายมาก...ก็อาจจะทำ"

"ตอนนี้เจ้าของบริษัทเขาเปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นคนดีว่านอนสอนง่าย ไม่หงุดหงิด ไม่ขี้วีน ไม่เอาแต่ใจตัวเอง รับรองว่าไม่วุ่นวาย ไม่เชื่อก็ไปถามคุณตาดูได้เลย"

"ถ้าว่านอนสอนง่ายจริงก็รีบกลับไปได้แล้ว"

"โห เล่นมุกนี้...โอเค กลับก็ได้เจ้าค่ะ ฉันจะไม่ดื้อ ไม่เถียงสักคำ ครูกุ๊กจะได้รู้ว่าฉันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ" อลินย้ำหนักแน่นก่อนขึ้นรถจะขับออกไป พสุตัดสินใจขอบคุณอลินอีกครั้งที่ช่วยแก้ข่าวให้แม่ของเขา...อลินยิ้มแฉ่ง รีบทึกทักว่าพรุ่งนี้เจอกันที่กองถ่าย

"นี่คุณ...ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไป"

อลินไม่สน ยิ้มทะเล้นออกรถไป พสุได้แต่ส่ายหน้าขำๆ วายุแอบดูในมุมมืด หางตากระตุกพั่บๆด้วยความแค้น

ooooooo

วารินแทบช็อกเมื่อต้อมเพื่อนที่เป็นตำรวจมาบอกข่าวในเช้าวันรุ่งขึ้นว่าได้รอยนิ้วมือคนร้ายแล้วซึ่งก็คือวายุน้องชายวารินนั่นเอง ตอนนี้ทางตำรวจกำลังส่งคนมาเชิญตัวไปโรงพัก ต้อมจึงรีบมาเตือน...วารินแตกตื่นวิ่งไปปลุกและคาดคั้นน้องชายในห้อง ทีแรกวายุ ไม่ยอมรับว่าเป็นคนฆ่าแม่ใหญ่ แต่พอได้ยินว่าตำรวจรู้แล้วและกำลังจะมาที่นี่ วายุถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม

"พี่ไม่เข้าใจจริงๆว่าแกทำไปได้ยังไง แม่ใหญ่รักแกมากนะ รักยิ่งลูกแท้ๆของตัวเอง"

"ผม...ผมไม่รู้จริงๆพี่น้ำว่าทำไปได้ยังไง มันอารมณ์ชั่ววูบ ผมกำลังเครียด หนี้ก็เยอะ ผมไม่รู้จะทำยังไง พี่น้ำ...ผมไม่อยากติดคุกนะพี่ พี่น้ำต้องช่วยผมนะ พี่น้ำอย่าทิ้งผมนะ อย่าให้ตำรวจมาจับผมนะ" วายุเขย่าตัวพี่สาวด้วยความร้อนรน วารินหน้าเครียด คิดหาทางช่วย...

แล้ววายุก็เตรียมตัวหนี คว้าเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ วารินกลับเข้ามาพร้อมบัตรเครดิตสองใบ เบิกเงินได้ใบละแสน ให้วายุเอาไปกดแล้วหักทิ้งซะ ถ้าตำรวจถาม พี่จะบอกว่าวายุขโมยไป

"เราคิดดีแล้วนะว่าจะไม่มอบตัว...เพราะถ้าเราตัดสินใจจะหนีก็รีบไปเลย แล้วต้องหนีให้ตลอด หนีให้รอด แล้วไม่ต้องติดต่อกลับมาหาพี่อีก ไม่ว่าจะกรณีใดทั้งสิ้น"

วารินยื่นคำขาด วายุฟังแล้วสะท้านใจ แต่ก็ตัดสินใจไปแน่...จากนั้นพี่สาวก็กรุยทางให้น้องชายหลบตำรวจที่กำลังเข้ามาที่บ้าน ด้วยการเชิญตำรวจไปรอในห้องรับแขก...

วายุขึ้นรถได้ก็ขับพรืดออกไปด้วยความเร็ว ระหว่างทางคิดจะหนีออกเขมร จึงโทร.หาเพื่อนคนหนึ่งที่เกาะกง จะขอไปอยู่ด้วยสักพัก และให้ส่งคนมารอรับด้วย...พูดไม่ทันเสร็จสัญญาณขาดหาย วายุกำลังจะโทร.ไปอีก แต่มีสายเข้าเสียก่อน จึงกดรับอย่างรีบร้อน

"เออ...แล้วมึงส่งคนมารับกูที่ชายแดนเขมรด้วย ทางเดิมที่จะไปบ่อน"

"พี่จะหนีผมไปเขมรเหรอ?" เสียงถามกลับมาทำให้วายุหน้าซีด อุทานด้วยความตกใจ

"เฮ้ย!!"

"ถ้าพี่กดวาง ผมจะบอกตำรวจว่าพี่จะหนีไปเขมร"

"อย่า...อย่าบอกนะ ฉัน...ฉันจะรีบหาเงินมาใช้หนี้แกให้หมดเลย แต่แกต้องเลิกยุ่งกับฉัน ห้ามบอกตำรวจเด็ดขาดว่าฉันจะไปไหน"

"เจ็ดล้าน...ภายในวันนี้ ถ้าไม่มีเงินคืนพี่โดนทั้งผมทั้งตำรวจตามล่าแน่" พูดจบตัดสายทันที...วายุตะโกนด้วยความแค้นปนกลัว

"ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมซวยแบบนี้วะ แล้วจะหาเงินจากไหนวะเนี่ย"

พลันสายตาวายุก็สะดุดกับป้ายโฆษณาที่มีอลินเป็นพรีเซ็นเตอร์...ความคิดเลยบังเกิดว่าอลินนี่แหละจะทำให้ตนเองมีเงินมาใช้หนี้ จึงรีบโทร.หาหมิงเป็นการด่วน ส่วนที่บ้านบริบรรณ ทุกคนกำลังตื่นตกใจหลังฟังตำรวจแจ้งชื่อวายุคือฆาตกรฆ่าแม่ใหญ่!

หมิงปรี๊ดแตกเมื่อรับสายจากวายุที่อยากรู้ว่าวันนี้อลินถ่ายรายการที่ไหน...หมิงย้อนถามด้วยความระแวงว่าจะรู้ไปทำไม อย่าบอกนะว่าจะไปตามจีบมันอีก?

"นี่อย่าเพิ่งหึงปัญญาอ่อนได้มั้ย คนกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ที่อยากรู้เพราะตำรวจเขาได้หลักฐานแล้วว่าน้านงแม่ไอ้ดินมันเป็นฆาตกรจริงๆ"

"จริงเหรอ ว่าที่แม่ผัวนังลินมันเป็นฆาตกรจริงๆเหรอเนี่ย...สะใจ"

อ่านละครย่อเรื่องสูตรเสน่หา ตอนที่ 20/2
(อ่านต่อพรุ่งนี้)