@^@..อ่านละครย่อเรื่องกุหลาบเหนือเมฆตอนที่ 6

@^@..อ่านละครย่อเรื่องกุหลาบเหนือเมฆตอนที่ 6
ตอนที่ 6 (ต่อจากวานนี้)

จากนั้นไม่นาน เรวัติติดหนวดปลอมใส่วิกกับแว่นดำเดินเข้ามาแตร่ๆแถวหน้าห้องฉุกเฉิน ทำทีเหมือนมารอญาติ หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมากางอ่าน แต่สายตาค่อยจับจ้องไปทางอรนิชที่กำลังนั่งร้องไห้ โดยมีอรนุชซึ่งใบหน้ามีปลาสเตอร์ ปิดรอยแผลที่มุมปาก และใส่แว่นดำปกปิดรอยช้ำรอบดวงตา นั่งหน้าหงิกมองน้องสาวอย่างรำคาญ

"เธอจะร้องไห้ให้มันได้อะไรขึ้นมา ฮึ...ยัยลูกนก...

ไอ้พี่พีน่ะ มันทรยศเธอนะ แถมคนที่มันไปกินข้าวด้วยก็คือนังไอริณ...ศัตรูหมายเลขหนึ่งของเรา"

อรนิชร้องไห้ฟูมฟายว่า ถ้าพีรเทพเกิดตายขึ้นมา เธอจะทำอย่างไร อรนุชสวนทันทีว่าให้เอาไปไว้วัด อรนิชน้อยใจที่พี่สาวเอาแต่โจมตีแฟนเธอตลอด ตัดพ้อว่าเพราะพีรเทพไม่ใช่แฟนอรนุช ถึงพูดแบบนี้ได้

"อ๋อ...ถ้าเป็นพี่วินทำ...พี่จะจ้างมือปืนมายิงให้พิการรู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ไปทำอย่างนี้อีก"

เรวัติได้ยินถึงกับสะดุ้ง หนังสือพิมพ์หลุดมือ รีบก้มเก็บขึ้นมาทำเป็นอ่านต่อ แต่คอยเงี่ยหูฟังทั้งคู่ตลอดเวลา จังหวะนั้น พีรเทพถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ตามใบหน้ามีผ้าพันแผลปิดอยู่ แขนเข้าเฝือกอ่อนไว้และมีรอยช้ำทั่วตัว อรนิชปรี่เข้าไปหา คร่ำครวญว่าเขาถูกทำร้ายหนักถึงขนาดแขนหักเลยหรือ พีรเทพแย้งว่าแค่ร้าวเท่านั้น

"แหม...ทำไมไม่ขาดเสียให้หมดเรื่องหมดราวนะ" อรนุชตามเข้ามายืนด้านหลังน้องสาว ถลึงตาใส่พีรเทพ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลขอให้ไปคุยกันต่อที่ห้องพักผู้ป่วย ก่อนเข็นรถเข็นไปที่ลิฟต์ สองพี่น้องเดินตาม...

ขณะเดียวกัน ในห้องทำงานของไอริณ เลอลักษณ์กำลังเอายาทาตรงบริเวณรอยช้ำใกล้คางกับมุมปากให้ไอริณ บ่นว่าอยากเห็นสภาพของพีรเทพมาก

"ป่านนี้ยัยลูกน้ำกับยัยลูกนกเอาไปไว้วัดเตรียมรดน้ำแล้วมั้ง...แหม...ลืมเรื่องสำคัญเสียสนิท...แกช่วยโทร.ไปเช็กกับวัติหน่อยสิว่า นายพีรเทพอยู่โรงพยาบาลอะไร ห้องไหน ฉันจะได้ส่งดอกไม้ไปเยี่ยมสักหน่อย"

เลอลักษณ์ยิ้มอย่างรู้ทัน "จะให้สั่งดอกไม้ที่ว่านั่นหรือเปล่าค่ะ"

"ใช่เลย...เอาพวงใหญ่สุดแบบที่เคยสั่งนะจ๊ะ...เพื่อนเด่น" ไอริณยิ้มสะใจ...

ขณะเรวัติกำลังบ่นให้วินฟังทางโทรศัพท์ ว่ารู้สึกแปลกๆที่เลอลักษณ์โทร.มาถามชื่อโรงพยาบาลกับหมายเลขห้องพักฟื้นของพีรเทพ เขาเหลือบเห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงพยาบาล พร้อมหิ้วถุงใบใหญ่ตรงไปที่ลิฟต์ ชักสังหรณ์ใจขึ้นมา รีบวางสายจากวิน แล้วเดินตามชายคนนั้นไป เห็นเข้าไปในห้องพักฟื้นของพีรเทพ

สักพักชายคนนั้นถูกผลักกระเด็นออกจากห้อง พวงหรีดลอยตามออกมา แล้วอรนิชเดินออกมายืนเท้าสะเอวหน้าตาเอาเรื่อง สั่งให้เอาพวงหรีดไปคืนคนส่ง ฝากไปบอกมันด้วยว่าเชิญเก็บเอาไว้ใช้เอง ก่อนปิดประตูใส่หน้า อรนุชฟันธงว่าต้องเป็นนังไอวัณโรคส่งมาแน่นอน พีรเทพหน้าเสียเกรงว่าจะเป็นลางร้ายอะไรหรือเปล่า

"อาจจะใช่ค่ะ" อรนุชตวัดสายตามองพีรเทพอย่างเคืองๆ

"พี่ลูกน้ำคะ...นกขอร้อง"

"กลับก็ได้ไม่ได้อยากจะอยู่นักหรอก" อรนุชหยิบกระเป๋าถือกับนิตยสารเล่มหนึ่งติดมือไปด้วย พอออกจากห้อง รีบยกหนังสือขึ้นบังหน้าเดินตรงไปที่ลิฟต์ เรวัติทำฟอร์มอ่าน หนังสือพิมพ์ แต่สายตาเหลือบมองเธอตลอด ครู่ต่อมาอรนุชก้าวออกจากลิฟต์เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ยิ้มกว้างเมื่อเห็นเป็นเบอร์ของบุปผา รีบรับสายเสียงหวาน

"อันยองฮาเซโยค่ะ...คุณแม่ขา"

บุปผาหัวเราะคิกคักถูกอกถูกใจ พูดประโยคเดียวกันกลับไป แล้วชวนอรนุชมากินข้าวยำเกาหลีที่บ้านของเธอ อรนุชเอามือแตะแผลที่ปากก่อนจะบอกปัดว่าคืนนี้เธอไม่ค่อยสะดวก

"ทำไมล่ะจ๊ะ เสียงหนูไม่ค่อยดีเลย เอาอย่างนี้คุณแม่ จะให้พี่วินไปรับ หนูลูกน้ำพอจะสะดวกมั้ยจ๊ะ"

"สะดวกลื่นไหลเลยค่ะ คุณแม่...น้ำมีละครเกาหลีใหม่ๆอีกสามเรื่อง น้ำจะเอาไปให้คุณแม่ด้วยนะคะ"

"งั้นเดี๋ยวแม่โทร.บอกพี่วินเขาก่อนนะลูก"

"น้ำเกรงใจ๊ เกรงใจ พี่วินจะแย่...แต่ถ้าเป็นความประสงค์ ของคุณแม่...น้ำก็ต้องพยายามระงับความเกรงใจค่ะ...น้ำจะรออยู่ที่ออฟฟิศนะคะ" อรนุชวางสายยิ้มกริ่ม

ooooooo

ไอริณสีหน้าครุ่นคิดเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องทำงานตัวเอง แล้วหันไปทางเลอลักษณ์

"ฉันว่าฉันเห็นอีตากาแฟใส่นมที่ร้านนั่นแหละ...มากับยัยลูกน้ำยุงลาย"

"แกตาฝาดมั้ง...คุณกาแฟใส่นมของแกเขาจะไปกับยัยนั่นทำไม"

"นั่นแหละปัญหา เดี๋ยวพอหน้าตาค่อยยังชั่ว ฉันจะลากคอมาถามให้ได้"...

ขณะวินกำลังบ่นกับเรวัติอย่างเป็นกังวลว่า ไอริณอาจจะเห็นเขาแวบๆด้านหลังตอนไปกับอรนุชที่ร้านอาหาร บุปผาโทร.มาสั่งให้วินไปรับอรนุชที่ออฟฟิศแล้วพามาที่บ้านของเรา เรวัติตั้งข้อสังเกตว่าแม่ของวินท่าทางจะถูกใจอรนุชเป็นพิเศษ วินพยักหน้า ไม่ใช่แค่ถูกใจเท่านั้น แต่ถึงขนาดที่แม่อยากได้ มาเป็นลูกสะใภ้

"แล้วแกว่าไง...จะยอมรับยัยสวยสยองมั้ย"

"ยังไม่ยอมรับทั้งนั้นแหละ...ไปล่ะ" วินรีบออกไป เรวัติมองตามด้วยความเป็นห่วงปนสยองนิดๆ...

ไม่นานนัก รถของวินแล่นมาตามถนนในบ้าน บุปผากับอาทรออกมารอต้อนรับอรนุช โดยมีอรหญิงรับใช้ยืนเยื้องไปด้านหลัง อาทรทำหน้าเซ็งๆ สงสัยว่าทำไมต้องขนออกมากันทั้งบ้านแบบนี้ด้วย

"เพื่อแสดงถึงความรักความอบอุ่นในครอบครัวค่ะ และที่สำคัญเพื่อแสดงว่าทุกคนในบ้านนี้ยินดีต้อนรับหนูลูกน้ำ มาเป็นศรีสะใภ้" บุปผาสายตาจับจ้องรถของวินที่มาจอดตรงหน้า

อรนุชรีบเข้ามาไหว้พ่อแม่ของวินอย่างอ่อนช้อย ทุกคนมองเธออย่างตกตะลึง บุปผาถามว่าหน้าไปโดนอะไรมา อรนุชถอดแว่นดำออกน้ำตาไหลพราก บุปผาตกใจคิดว่าวินลงไม้ลงมือกับเธอ ตั้งท่าจะเล่นงานลูกชาย อรนุชจูงมือบุปผาเข้าไปคุยต่อที่ห้องดูทีวี เล่าให้ว่าที่แม่ผัวฟังทั้งน้ำตาว่า คนที่ทำกับเธอคือ เจ้าของหนังสือชิค วูแมน

"แล้วทำไมหนูไม่ตบมันบ้างล่ะลูก" บุปผาคอยส่งกระดาษทิชชูให้อรนุช

"เพราะหนูเป็นผู้ดีค่ะ ตั้งแต่เกิดมาคุณพ่อคุณแม่ พร่ำสอนให้เป็นคนดี ไม่พูดจาหยาบคาย ไม่ทำร้ายผู้อื่น ไม่ ใส่ร้ายคนอื่น เป็นต้นค่ะ...คุณแม่"

"โถ สั่งสอนแต่ของดีๆทั้งนั้นเลย มิน่า...หนูลูกน้ำถึงได้เป็นคนดี ไม่มีติแบบนี้" บุปผายิ่งปลื้มอรนุชมากขึ้น...

ทางด้านวินเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆให้พ่อฟัง ซึ่งต่างจากที่อรนุชเล่าให้บุปผาฟังโดยสิ้นเชิง เว้นแต่คู่กรณีของอรนุชยังคงเป็นไอริณ ผู้หญิงที่อาทรเคยเจอแล้ว แถมยังชมว่าเธอมีน้ำใจ

"ไม่น่าเชื่อ...หนูลูกน้ำก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน...แกเห็นกับตาแน่นะ"

"โธ่...คุณพ่อ...เห็นคาสองตานี่เลยครับ แถมผมยังเป็นคนพาน้องลูกน้ำไปทำแผลที่ รพ.ด้วย"

อาทรสงสัยว่าสองสาวมีเรื่องอะไรกันถึงได้สวมวิญญาณอาฆาตขนาดนั้น วินคิดว่าคงเป็นเพราะต้องการแย่งกันเป็นเจ้ายุทธจักรหนังสือผู้หญิง อาทรอยากรู้ว่าใครผิดใครถูก วินลงความเห็นว่าผิดทั้งคู่...

อรนุชยังคงพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้ไอริณไม่หยุด จนบุปผาเชื่อสนิทว่าไอริณเป็นคนร้ายกาจ ขณะที่อรนุชดีแสนดี คิดแต่จะให้อภัย ไม่เคยอาฆาตพยาบาทจองเวรใคร แม้ว่าคนคนนั้นจะทำร้ายเธอขนาดไหน

"แต่ต่อไปนี้ห้ามคุณแม่ซื้อหนังสือ ชิค วูแมนเด็ดขาดนะคะ แล้วก็ช่วยบอกต่อทุกๆคนที่คุณแม่รู้จักด้วยค่ะ"

"ไม่อาฆาตพยาบาทเลยหรือจ๊ะ" บุปผาถึงกับเซ่อรับประทาน...

ดึกมากแล้ว ตอนที่วินขับรถมาส่งอรนุชที่บ้าน อรนุชใช้มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนโกหกวินว่ามีอะไรเข้าตา วินหลงกล อาสาจะดูให้ ขณะก้มมองหาเศษผงในตาอรนุชซึ่งไม่มีวันจะหาเจอ เธอก็แกล้งขยับเข้าใกล้จนหน้าเกือบจะชนกัน วินรู้สึกตัวรีบขยับออกห่าง แล้วลงมาเปิดประตูรถให้ อรนุชก้าวลงมาแกล้งเซให้วินรับไว้ในอ้อมแขน ทั้งสองคนยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนผละจากกัน

อรนุชทำเป็นเขิน ขอบคุณวินที่มาส่ง แล้วเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์...

วินเพิ่งกลับเข้าบ้านตัวเองหลังจากส่งอรนุช ไอริณก็โทร.มาหา สั่งให้ไปพบเธอวันพรุ่งนี้ วินแดกดันว่าเขาไปกินเงินเดือนจากเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงได้สั่งเอาๆ ราวกับเป็นเจ้านาย

"อย่าลืมล่ะ 9 โมงเช้า ที่ร้านกาแฟเยื้องๆออฟฟิศฉัน" ไอริณวางสายทันที

วินวางโทรศัพท์ลงอย่างเซ็งๆที่เธอคอยตามจิกไม่เลิก

ooooooo

วินมาถึงร้านกาแฟตรงตามนัด เห็นไอริณนั่งหันหลังให้ เดินเข้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้าม ทำเป็นแปลกใจ ว่าทำไมวันนี้ไอริณนึกครึ้มอะไรถึงสวมแว่นดำ ไอริณ จ้องจับผิดเขาเขม็ง

"เมื่อวานตอนเย็นคุณอยู่ที่ไหน"

"เดี๋ยว...นึกก่อน...ตอนเย็นๆ...อ๋อ...ผมยังอยู่ที่บูธในงานบ้านจัดสรรและคอนโดฯที่เมืองทองธานีครับ"

ไอริณอ้างว่าเธอเห็นเขาที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งกลางห้างฯดัง วินท้วงว่าถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่เข้ามาทัก ไอริณ ไม่พอใจ สั่งห้ามเขาพูดจายอกย้อนกับเธอ วินทำไม่รู้ไม่ชี้ หยิบเมนูขึ้นมาดู ไอริณไม่พอใจ คว้าเมนูจากมือเขา คาดคั้นให้เขาตอบว่าเคยไปร้านที่เธอว่าหรือเปล่า วินถอนใจเฮือก

"ไอ้ร้านที่คุณว่านั่น...อย่าว่าแต่จะเคยไปเลย แม้แต่ชื่อผมก็ไม่เคยได้ยิน...แน่ใจนะว่าไม่ได้ตาฝาด มองเห็นใครเป็นผมไปหมด" วินยิ้มยั่ว

ไอริณขบกรามแน่น ยื่นหน้าเข้าใกล้ วินยื่นหน้าเข้าไปบ้าง ยิ้มกวนๆใส่ ไอริณเลยด่าว่า "ไอ้บ้า" แล้วลุกพรวดออกไป วินถึงกับสะดุ้ง หุบยิ้มทันที...ครู่ต่อมา ไอริณเข้ามาในห้องทำงาน เธอ เจอคุณหญิงป้าสีหน้าบึ้งตึงและเลอลักษณ์นั่งหน้าจ๋อยรออยู่ ไอริณไหว้ทักทายคุณหญิงป้า ถามว่ามีธุระอะไรจะใช้เธอหรือ

"ธุระอะไรเรอะ...ช่วยกรุณามาดูนี่หน่อย" คุณหญิงป้าเรียกเสียงเข้ม

ไอริณยิ้มหวานเดินเข้ามาหา คุณหญิงป้าหยิบโทรศัพท์ มือถือขึ้นมากดแล้วส่งให้ ไอริณรับโทรศัพท์มาดู เห็นคลิปที่เธอกับอรนุชกำลังตบตีกันก็ตกใจ ร้องเอะอะว่ามีคนถ่ายคลิปไว้ ด้วยหรือ

"อ๋อ...ไม่ได้ถ่ายไว้เฉยๆจ้ะ แต่ยังส่งให้ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง คุณหญิงป้าเห็นแล้วอยากจะเป็นลม...หลานริณ นี่หลานคิดยังไงถึงได้กล้าหาญชาญชัยไปตบกันในห้างฯอย่างนั้น"

"ก็เขามาตบริณก่อนนี่คะ"

ไอริณคิดว่าคุณหญิงป้าไม่พอใจที่เธอไปมีเรื่อง แต่ ที่ไหนได้ท่านกลับยุส่งว่าทีหลังตบอรนุชให้คว่ำ แถมเล่าถึงตอนที่ท่านเองยังสาวๆ และมีเรื่องตบตีกับวาริรินทร์ นึกเสียดายที่สมัยนั้นยังไม่มีคลิป แล้วเอ่ยปากชวนทั้งคู่ไปช็อปปิ้ง เลอลักษณ์ อึกอัก คุณหญิงป้าคะยั้นคะยอให้ไปเป็นเพื่อน รับปากว่าจะซื้อกระเป๋าให้คนละใบเป็นการตอบแทน

"ใบละ 199 หรือเปล่าคะ" ไอริณแซว

"แหม...แพงกว่านั้นก็ได้...เกิดมาใช้เงิน เกิดมาใช้ทอง... ไปเร็ว" คุณหญิงป้าเดินนำสองสาวออกไป...

ที่ร้านอาหารเจ้าประจำของคุณหญิงป้า อรนุชซึ่งสวมแว่นดำอำพรางกับอรนิช และวาริรินทร์กับนิคแฟนหนุ่มนัดมากินข้าวด้วยกัน วาริรินทร์ขอดูร่องรอยจากการตบตีกับไอริณ อรนุชมองซ้ายมองขวา แล้วค่อยๆดึงแว่นลงมา แค่พอเห็นรอยเขียวคล้ำใต้ตา บอกว่าดีขึ้นกว่าวันแรกๆมาก นิคมองยิ้มๆบอกว่าเดี๋ยวก็สวยเหมือนเดิม

วาริรินทร์กระแอมเบาๆเหมือนจะปราม นิคกลับคิดว่าอะไรติดคอ อรนุชรู้งานรีบบอกว่าถึงอย่างไรก็สวยสู้วาริรินทร์ ไม่ได้ อรนิชรับลูกทันทีว่าจริง เพราะวาริรินทร์สวยอมตะอยู่แล้ว วาริรินทร์ยิ้มพอใจ

ooooooo

คุณหญิงป้าซื้อกระเป๋าแจกหลานสาวทั้งสองเรียบร้อย ทั้งหมดก็ออกจากร้าน เลอลักษณ์ตาไวเห็นวิทวัสหรือคุณอนาวินตัวปลอมกับวินหรือนายกาแฟเดินออกมาจากฟิตเนส โดยนายกาแฟเดินนำหน้า คุณอนาวินหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินตาม เธอร้องเอะอะด้วยความดีใจ ไอริณกับคุณหญิงป้ามองตามสายตาเลอลักษณ์

"ต๊าย...จ๋องเชียว มองอย่างนี้ไม่รู้ใครเป็นเจ้านาย ใครเป็นลูกน้องกันแน่"

ไอริณตะโกนเรียกนายกาแฟดังลั่น วินตกใจ ชะงัก แต่ ไม่หันไปมอง ตั้งสติได้รีบหันมายกมือไหว้ขอบคุณวิทวัส แล้วคว้าข้าวของจากมือเขามาถือเอง วิทวัสตกใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเจ้านาย

"คุณวินครับ..."

"นายชื่ออนาวิน ส่วนฉันชื่อกาแฟ...อย่าลืม" วินกระซิบเสียงเข้ม

ไอริณรีบเดินเข้ามาเรียกนายกาแฟ วินทำเป็นเพิ่งได้ยินเสียงเรียก หันมาไหว้ไอริณ แล้วไหว้คุณหญิงป้ากับเลอลักษณ์ ที่เพิ่งเดินเข้ามา ทุกคนรับไหว้ ไอริณหันไปไหว้ทักทายคุณอนาวิน คุณอนาวินสะดุ้งเฮือก รับไหว้แทบไม่ทัน

"คุณอนาวินเพิ่งปรารภกับผมว่า อยากจะพบคุณไอริณ... จริงไหมครับคุณอนาวิน"

"มั้ง...ครับ" คุณอนาวินเสียงสั่น

คุณหญิงป้าเสนอให้ไปหาที่คุยกันไปกินอาหารกันไปดีกว่าจะยืนคุยกันตรงนี้ ทุกคนเห็นด้วย คุณหญิงป้าเดินนำมาที่ร้านอาหารเจ้าประจำ พลางบ่นว่ามาร้านนี้ทีไรเจอยัยวานรแทบทุกที ไอริณภาวนาขออย่าให้เจอ แต่บังเอิญวันนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคงลาพักร้อน พอทุกคนโผล่เข้ามาแค่หน้าประตูร้าน ก็เห็นกลุ่มของวาริรินทร์นั่งกินอาหารอยู่

นายกาแฟรีบคว้าแขนคุณอนาวินหันหลังกลับชิ่งหนีทันที ไอริณพยายามจะเรียกแต่ไม่ทัน ทั้งคู่จ้ำอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มของวาริรินทร์หันมามอง แต่นายกาแฟหนีรอดสายตาอรนุชไปได้อย่างเฉียดฉิว บริกรหญิงพากลุ่มของไอริณมานั่งโต๊ะซึ่งติดกับโต๊ะของกลุ่มวาริรินทร์พอดี คุณหญิงป้าแกล้งบ่นดังๆให้ได้ยินกันทั่ว

"ไม่มีโต๊ะที่บรรยากาศดีกว่านี้แล้วหรือจ๊ะ...เธอ"

"เอ้อ...พอดีว่างโต๊ะเดียวค่ะ"

วาริรินทร์พูดลอยๆขึ้นว่า ถ้าลำบากมากนักก็ไปหากินร้านอื่น คุณหญิงป้าโต้กลับลอยๆเช่นกันว่าถ้าจะกินร้านนี้ใครหน้าไหนจะทำไม คุณหญิงป้าเชิดคอ หน้าตั้ง ลงนั่งที่โต๊ะนั้น ไอริณและเลอลักษณ์นั่งตาม

"อ้าว...แล้วนี่คุณอนาวินกับนายกาแฟหายไปไหนล่ะ" คุณหญิงป้าเพิ่งนึกได้

อรนุชถึงกับหูผึ่ง หันขวับมามอง ไอริณบังเอิญหันมาเจอพอดี อรนุชทำเป็นเพิ่งเห็น ร้องทักไอริณว่ามากินข้าวหรือ ทำไมใจเราสองคนถึงตรงกันจริงๆ ไอริณยิ้มเฉือดเฉือนแล้วว่า ไม่ใช่แค่ใจ แต่บาดแผลของเรายังตรงกันอีก

"เอ๊ะ...แล้วนี่จะมีแฟนคนเดียวกันมั้ยเอ่ย"

"มันเป็นเรื่องของอนาคตและอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน จ้ะ ลูกน้ำเพื่อนเลิฟ"

"เอาเป็นว่าต่างคนต่างก็ระวังของๆตัวไว้ให้ดีนะจ๊ะ ริณเพื่อนเลิฟ" อรนุชยิ้มหน้าระรื่น

หลังจากรุ่นเล็กปะทะคารมพอเจ็บๆคันๆก็ถึงคิวของรุ่นใหญ่ คุณหญิงป้ากับวาริรินทร์ด่ากันไปด่ากันมาพอเรียก น้ำย่อย แล้ววาริรินทร์เรียกคุณหญิงป้าดาริกาว่า "คุณหญิงอีกา" ส่วนคุณหญิงป้าก็เรียกวาริรินทร์ว่า "นังวานร" วาริรินทร์ ภูมิต้านทานการถูกด่าต่ำกว่า เลยทนไม่ไหวถึงกับกรี๊ดสนั่น นิคเห็นท่าไม่ดี ดึงวาริรินทร์ให้ลุกหนี วาริรินทร์ทำท่าจะไม่ยอม แต่นิคดึงออกไปจนได้ อรนุชกับอรนิชรีบเช็กบิลแล้วลุกตาม ขณะที่คุณหญิงป้าหัวเราะชอบใจ...

พอกลับถึงบ้าน อรนุชถามน้องสาวว่าได้ยินที่คุณหญิงอีกาถามว่า คุณอนาวินกับใครอีกคนหายไปไหนหรือเปล่า อรนิชได้ยินเช่นกัน อรนุชหน้าเครียดทันที คิดว่าพี่วินของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะรู้จักนิสัยไอริณดี รู้ว่าไอริณกำลังคิดจะทำอะไรกับเขา

"แบบเดียวกับที่พี่น้ำคิดจะทำกับแฟนของมันหรือคะ"

อรนุชพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาคิมหันต์ คิมหันต์รายงานว่าได้ชื่อและที่อยู่แล้วว่าชื่อวิทวัส อยู่คอนโดฯแถวลาดพร้าว ที่ทำงานยังสืบไม่ได้ นายคนนี้เป็นคนค่อนข้าง เก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แล้วรับปากว่าจะสืบทุกอย่างมาให้ โดยเร็วที่สุด อรนุชวางสาย หันมาถ่ายทอดคำพูดของคิมหันต์ให้ น้องสาวฟังอีกที...

ขณะเดียวกัน วินมาหาเรวัติที่ห้องพัก ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดีกับวิทวัส วินจะให้เขาย้ายเข้ามาอยู่คอนโดฯเดียวกับเรวัติ แล้วแต่งเรื่องว่าอยากแยกมาอยู่ตามลำพัง แต่ เรวัติไม่เห็นด้วย ไอริณต้องสืบจนได้ว่าบ้านคุณอนาวินอยู่ที่ไหน แล้วจะเข้าไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ของเขา วินสะดุ้ง คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร

"ให้เข้าไปอยู่ในบ้านแก...คุณแม่แกชอบหนังเกาหลีใช่มั้ย แกก็สร้างเรื่องสู้ชีวิตประทับใจแบบเกาหลีให้วิทวัส ขี้คร้านคุณแม่จะสงสารน้ำตาท่วมบ้าน"

วินไม่อยากโกหกพ่อกับแม่ เรวัติอาสาจะโกหกเอง เพียงแต่วินต้องเป็นคนไปเล่าเรื่องโกหกที่เขาแต่งให้พ่อกับแม่ฟัง วินนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า เรวัติอ้างว่าวินเริ่มเรื่องโกหกมาตั้งแต่ต้น ไม่อย่างนั้นไอริณคงไม่เข้าใจผิดมาจนป่านนี้ วินแก้ตัวว่าไอริณเข้าใจผิดเองต่างหาก เขาแค่ปล่อยเลยตามเลย

"ก็นั่นแหละ แต่การโกหกครั้งนี้ไม่มีอันตราย ตรงกันข้าม มันเป็นไปเพื่อความปลอดภัยของแกด้วย"

วินคิดหนัก ก่อนจะเห็นคล้อยตามเรวัติ

ooooooo

วินกลับถึงบ้าน เล่าเรื่องที่เรวัติแต่งขึ้นให้แม่ฟัง บุปผาเห็นใจเพื่อนของลูกชายมาก อนุญาตให้พามาอยู่ที่เรือนหลังเล็ก วินเกรงใจพ่อ กลัวจะไม่เห็นด้วย บุปผารับปากว่าจะจัดการพ่อเอง บอกว่าชีวิตเพื่อนของลูกเหมือนพระเอกเรื่อง "นายจอมหยิ่งกับยอดหญิงจอมตื๊อ" วินตีหน้าตายถามว่าจริงหรือ

"ใช่จ้ะ...พระเอกเป็นคนหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี...ที่พยายามหนีผู้หญิงคอยตามตื๊อ...วินไปบอกเขาเลยว่าแม่จะคอยขวางผู้หญิงคนนั้นไว้เอง...ว่าแต่เพื่อนลูกชื่ออะไรนะ"

"อนาวิน...ครับ"

บุปผาร้องเอะอะดีใจที่เขาชื่อเหมือนวิน ยินดีจะช่วยเต็มที่ วินทั้งโล่งใจและหนักใจในคราวเดียวกัน...

ไอริณกลับถึงบ้านต้องประหลาดใจที่เห็นพ่อกับแม่ของเธอรออยู่ ทรุดตัวลงกราบที่ตักพิธานกับเดือนเต็มอย่างหญิงสาวผู้เรียบร้อย

"คุณพ่อคุณแม่จะมาทำไมไม่โทร.บอกริณก่อนคะ...ริณ จะได้ไปรับที่สนามบิน"

"พ่อไม่ชอบนั่งเครื่องบิน เลยให้วิชิตขับรถมา"

เดือนเต็มไม่อ้อมค้อมเข้าเรื่องที่ทั้งคู่ต้องลงมากรุงเทพฯ อย่างเร่งด่วนเพราะมีคนส่งคลิปไอริณตบกับลูกน้ำกลางห้างดัง มาให้พวกท่านดู ไอริณแย้งว่าไม่ใช่กลางห้างแต่เป็นบริเวณที่จอดรถ เดือนเต็มถามเหตุผลว่าทำไมต้องตีกันทั้งๆที่ไอริณ กับลูกน้ำเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก หรือว่าแย่งผู้ชายอย่างที่ใครๆเขาลือกัน ไอริณปฏิเสธว่าเปล่า

พิธานไม่พอใจมาก สั่งไอริณไปเก็บข้าวของเตรียมตัว กลับเชียงใหม่พร้อมกับท่าน ไอริณไม่อยากกลับ อ้างว่ามีงานต้องรับผิดชอบ พิธานไม่ยอมยืนกรานว่าเธอต้องกลับ เขาให้เวลา 3 วัน จัดการงานให้เรียบร้อย ไอริณพยายามขอร้องพ่อกับแม่ แต่ท่านทั้งสองไม่ใจอ่อน...จากนั้นไอริณโทร.ไปบอกข่าวร้ายให้เลอลักษณ์รู้ เลอลักษณ์ถึงกับใจหาย แนะนำให้ก้มกราบวิงวอนขอร้องให้พวกท่านเห็นใจ

"แกก็รู้ว่าคุณพ่อฉันเด็ดขาดแค่ไหน คุณแม่เคยช่วยก็ไม่ยอมช่วย...สงสัยว่าต่อไปนี้ ฉันจะต้องถูกกักบริเวณ อยู่ในเชียงใหม่ตลอดไป"

"เออ...นึกได้แล้ว คุณหญิงป้าไง...คุณหญิงป้าอาจจะช่วยได้ เดี๋ยวฉันจะโทร.บอกคุณหญิงป้าเอง"

ooooooo

คุณหญิงป้าทราบเรื่องจากเลอลักษณ์รีบมาหาพิธานกับเดือนเต็มที่บ้านไอริณแต่เช้า ป้าสร้อยขึ้นไปแจ้งให้ไอริณทราบว่าคุณหญิงป้ามา ไอริณขอร้องป้าสร้อยช่วยไปดูท่าทีของพ่อกับแม่ แล้วค่อยขึ้นมาบอกว่าเธอควรจะลงไปตอนไหน ป้าสร้อยรับคำ...

พิธานเชิญคุณหญิงป้ามานั่งที่ห้องรับแขก เดือนเต็มอับอายมากกับคลิปฉาวที่ร่อนไปทั่วเมืองเชียงใหม่

"เธอจ๋า คนไทยน่ะใจดี ลืมง่ายจะตาย เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด มันเกิดขึ้นทุกวัน เดี๋ยวก็มีเรื่องใหม่ๆเกิดขึ้นแล้วคนก็จะลืมเรื่องเก่าๆไป"
อ่านละครย่อเรื่องกุหลาบเหนือเมฆตอนที่ 6
(อ่านต่อพรุ่งนี้)