อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบตอนที่ 7

อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบตอนที่ 7
ลำธารนั่งรถกลับบ้านพร้อมธามและคณะของจ่าแสง ตลอดทางเธอเหม่อลอยไม่พูดคุยกับใคร จน กระทั่งถึงบ้านก็ยังหงอยเหงาพิกล ทำให้ศิรดาอดสงสัยในท่าทีของลูกสาวไม่ได้ แต่เรื่องที่พชรคือรัชทายาททำให้ศิรดาตื่นเต้นตกใจมากกว่า เธอจึงตำหนิธามที่ไม่บอกให้แม่รู้บ้าง ขณะที่ลำธารก็ต่อว่าพ่อว่าปิดบังกันได้

"นี่ถ้าแม่รู้ว่าเป็นเจ้าชายแห่งมินาลิน แม่คงดูแลท่านให้ดีกว่านี้"

"โธ่ แม่ครับ นายวิน เอ๊ย ท่านพชรท่านไม่ถือตัวหรอกครับ ขนาดโดนผมแกล้ง แถมโดนยัยลำธารด่ากรอกหูอยู่ทุกวันท่านยังไม่เคยปริปากบ่น อยากรู้จริงๆว่าท่านคิดยังไง กับเธอ ถึงไม่เคยโกรธ ไม่เคือง ไม่แค้นอะไรทั้งนั้น แถมยังช่วยชีวิตยัยลำธารตั้งไม่รู้กี่หน"

ลำธาร ชะงักกึก นึกถึงความดีของพชรแล้วใจหายวาบขึ้นมาทันที แต่แล้วความนึกคิดของลำธารก็สะดุดหยุดลง เมื่อธีรัชแทรกเข้ามาทักทายเธอด้วยความดีใจสุดๆ แต่ลำธารดูจะเฉยๆ เหมือนไม่ยินดียินร้าย

ธีรัชแสดงความห่วงใยลำธารที่ต้องไปเสี่ยง อันตรายอยู่ในป่าหลายวัน คิดไปคิดมาธีรัชอยากจะจัดงานเลี้ยงปลอบขวัญลำธาร พร้อมกันนี้ก็หาแนวร่วมจากธามด้วย แต่ก็ถูกธามเบรก ขณะที่ลำธารเองก็ปฏิเสธด้วยท่าทีเนือยๆ

"ขอบใจมากนะน็อต เราเองก็ดีใจที่มีคนเป็นห่วงเรามากขนาดนี้ แต่ตอนนี้เราอยากพัก"

"เหนื่อย ลำธารเหนื่อยใช่มั้ย งั้นเข้าไปพักในบ้านก่อนมั้ย เดี๋ยวเราเป็นคนปรนนิบัติพัดวีให้ลำธารเอง นะๆ ไปนะๆ"

"ไม่ต้องหรอกน็อต ฉันว่าเธอกลับไปก่อนดีกว่า"

"อ้าว แต่เราเพิ่งมานะ มาก็ไกล รถก็ติด แต่เพราะคิดถึงจึงมาหา"

"ฉันเหนื่อยจริงๆ ขอโทษนะน็อต กลับไปก่อนแล้วกัน"

ธีรัชสีหน้าจ๋อยสนิท ต้องยอมจำนนแต่โดยดี

"จ้ะๆ ไปก็ไป แต่ลำธารอย่าลืมนะว่า ถ้าต้องการคนดูแล น็อตคนนี้พร้อมจะดูแลลำธารเสมอ"

"จ้ะ ขอบใจมากนะน็อตที่อุตส่าห์แวะมา"

พอ ธีรัชเดินออกไปแล้ว ลำธารถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ออกอาการเศร้าขึ้นมาทันที ศิรดาลอบมองลูกสาวด้วยความสนใจใคร่รู้ หลังจากพากันเข้าบ้าน ศิรดาจึงไม่รีรอที่จะจิกธามมาซักถาม

"ไหนเล่ามาซิธาม ว่าอยู่ที่โน่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมยัยลำธารกลับมาถึงได้หงอยอย่างนั้น"

"โธ่ ผมจะไปรู้ได้ยังไงครับ ผมเองไม่ได้อยู่กับยัยลำธารตลอดซักหน่อย คนที่ผมอยู่ด้วยคือยัยคุณหนูนกหวีดนั่นต่างหาก"

"ตาธาม ไปเรียกเจ้าหญิงอย่างนั้นได้ยังไง"

"เอ๊า ก็มันจริงนี่ครับแม่ ยัยนั่นน่ะน่ารำคาญสุดๆ ขนาดแมลงหวี่ยังอายเลยล่ะ"

"แล้วที่เราแซวว่าลำธารลืมหัวใจไว้ที่นั่นมันหมายความว่ายังไง"

"ผม ก็แซวไปอย่างนั้นเองแหละครับแม่ เรื่องนี้ถ้าแม่ อยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเองสิครับ ขอตัวไปอาบน้ำนอนตีพุงก่อนนะครับ" ธามเดินหาวออกไป ศิรดามองค้อน บ่นงึมงําอย่างขัดใจ

"ดูซิ อุตส่าห์ตามน้องไปตั้งหลายวัน ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง"

ooooooo

ทาง ฝ่ายคณะของภูษณะกลับไปถึงมินทุกลางดึก มาดิสร์กับตวิษาและเนตราอยู่รอรับ เห็นพชรบาดเจ็บ เนตราสงสารลูกจับใจ แต่ลึกๆก็ดีใจที่ลูกเข้มแข็งสมเป็นรัชทายาทแห่งมินาลิน

เช้าขึ้นแม่ลูกเผชิญหน้าในห้องอาหาร เนตราถือโอกาสเกริ่นเรื่องสำคัญที่เธอได้ตกลงกับมาดิสร์และตวิษาเอาไว้แล้วแก่พชร

"พชร...ลูกในฐานะตัวแทนแห่งราชวงศ์มินาลิน เราได้ตกลงทำการสำคัญบางอย่างกับราชวงศ์มินทุ"

"อะไรเหรอครับท่านแม่"

"เรื่อง นี้ให้ท่านมาดิสร์เป็นคนบอกก็แล้วกัน แต่แม่อยากขอร้องให้ลูกเชื่อฟังแม่และปฏิบัติตาม เพราะแม่เชื่อว่ามันจะส่งผลดีทั้งต่อตัวลูกและต่อชาวมินาลินทุกคน"

พ ชรสีหน้าแปลกใจสงสัย อีกครู่ มาดิสร์ ตวิษา ภูษณะและบาจรีย์ เดินเข้ามานั่งประจำที่ มาดิสร์มองหน้าเนตราอย่างรู้กัน ก่อนจะเอ่ยเป็นงานเป็นการ

"วันนี้พ่อมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพวกเราทุก คน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พ่อแม่และท่านหญิงเนตราได้คุยกันไว้สักพัก ถึงหนทางที่จะทำให้มินทุและมินาลินมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นในมินาลินซ้ำรอยอีก ครั้ง...พชร"

"ครับท่านลุง"

"หลานเองคงพอจะรู้ว่าหนทางที่จะ กอบกู้มินาลินนั้นมีเพียงไม่กี่วิธี หนึ่งในวิธีที่ลุงกับแม่ของหลานได้คิดไว้คือการทำให้มินาลินและมินทุรวมเป็น ปึกแผ่นเดียวกัน ซึ่งทางออกที่ลุงกับแม่ของหลานได้เลือกไว้คือการให้หลานและบาจรีย์ อภิเษกสมรสกัน"

พชรนิ่งอึ้ง ตรงกันข้ามกับบาจรีย์ที่แทบกรีดร้องด้วยความดีใจสุดขีด

"ท่านพ่อ นี่ท่านพ่อพูดจริงๆเหรอคะ"

ตวิษายิ้มรับและตอบแทน "จริงสิลูก ไหนๆลูกกับพชรก็รู้จักกันมานานอยู่แล้ว แม่คิดว่าบาจรีย์และพชรไม่น่าขัดข้องอะไรใช่มั้ยลูก"

"ไม่ขัดข้องค่ะท่านแม่"

"น้อยๆหน่อยยัยบาจรีย์ ถามพชรซักคำรึยังว่าเขาเต็มใจจะแต่งงานกับเราด้วยรึเปล่า"

"ไม่เห็นต้องถามเลยพี่ภู พี่พชรต้องเต็มใจอยู่แล้ว จริงไหมคะพี่พชร"

พชรยิ้มเจื่อนๆแทนคำตอบ ในใจไม่ได้เต็มใจแม้แต่น้อย

"หาก เวลาที่เหมาะสมเดินทางมาถึง งานอภิเษกสมรสจะเกิดขึ้นทันที" มาดิสร์สรุปหนักแน่น พาริณที่ยืนอยู่มุมหนึ่งในห้องมองพชรด้วยความเจ็บปวด เธอค่อยๆเลี่ยงออกไปเงียบกริบอย่างคนหมดหวังในรัก ภูษณะชำเลืองตามพาริณอย่างจับสังเกต

ตกกลางคืน พชรนั่งเหม่อมองผ้าเช็ดหน้าของลำธารที่ยังพกติดตัวตลอดเวลา หวนนึกถึงเหตุการณ์ในป่าที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอก็ยิ่งเศร้า...หารู้ ไม่ว่ามุมหนึ่งใกล้ๆกัน พาริณ ยืนปาดน้ำตาด้วยความเสียใจ กระทั่งพาริณเป็นฝ่ายหันไปเห็นพชร จึงเดินเข้าไปทักเขาด้วยน้ำเสียงปกติ

"ท่านไม่ควรมานั่งคนเดียวมืดๆอย่างนี้"

"วังมินทุคงไม่มีใครอุกอาจกล้าเข้ามาทำร้ายฉันได้หรอกพาริณ"

"เอ๊ะ ผ้านั่น"

"ของ ลำธารน่ะ...ตลอดเวลาที่เราอยู่ประเทศไทย แม้ว่าในใจของเราจะรู้สึกโดดเดี่ยวแค่ไหน แต่ลำธารทำให้ความรู้สึกของชายพลัดถิ่นคนหนึ่งมีกำลังใจและมีชีวิตชีวาขึ้น ได้ นี่คือสิ่งวิเศษที่เราได้รับจากลำธาร"

พาริณน้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง เจ็บปวดกับทุกคำพูดของพชร แต่พยายามดึงตัวเองกลับสู่โลกแห่งความจริง

"ไย ท่านคำนึงถึงหญิงอื่น ท่านอย่าลืมว่าผู้หญิงที่ท่านจะอภิเษกสมรสด้วยมีเพียงเจ้าหญิงบาจรีย์คน เดียวเท่านั้น แต่ถึงยังไงท่านก็ไม่ควรจะเห็นแก่ความรักมากกว่ามินาลินหรอกนะ"

"เรื่อง นั้นไม่ต้องห่วงหรอก เรารู้ตัวดีว่าเราเป็นใคร กำลังทำอะไร หน้าที่เราคือการกอบกู้มินาลินคืนมา ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่มีทางเห็นความสุขส่วนตัวของตัวเองมากไปกว่าบ้านเกิด เมืองนอนหรอกพาริณ" พชรเน้นย้ำทั้งที่รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน ที่ต้องทนฝืนใจตัวเองขนาดนี้...

ooooooo

เควิน หัวหน้ากองกำลังใต้ดินผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์แห่งมินาลินกำลังรวบรวมกอง กำลังให้ได้มากที่สุดเพื่อทำการต่อต้านพวกดารัณ เมื่อดารัณทราบข่าวจากสายของตนจึงไม่รีรอที่จะสั่งสมุนตามล่า ทำให้ พลพรรคของเควินบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย แต่เมื่อเควินทราบข่าวว่าบัดนี้พชรเดินทางกลับมาที่มินทุแล้ว และในไม่ช้าจะมากอบกู้มินาลินคืนจากดารัณ ความฮึกเหิมของเควินก็กลับคืนขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อที่มินาลินเกิด สงครามกลางเมือง พชรจึงต้องเร่งวันเดินทางให้เร็วขึ้นอีก ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลที่ลำธารสังกัดอยู่ก็ได้รับแจ้งจากทางกาชาดสากล ว่าที่มินาลินต้องการหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ไปดูแลคนบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ไม่สงบ ลำธารรับฟังข่าวนี้ด้วยความสนใจ และเป็นห่วงพชรเหลือเกิน

ถึง เวลาที่พชรต้องเดินทางจากมินทุสู่มินาลินในวันพรุ่งนี้ บาจรีย์ร้องไห้น้ำตานองหน้า เว้าวอนไม่อยากให้เขาไปเลย เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ได้กลับมา

"แล้วชาวมินาลินนับล้านที่เฝ้ารอการกลับมาของพี่ล่ะ ฟังพี่นะ ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับพี่มากกว่าแผ่นดินมินาลิน หวังว่าน้องคงเข้าใจ"

"บาจรีย์เข้าใจดี แล้วพี่พชรเคยรู้ไหมว่าคนสำคัญขนาดที่บาจรีย์ยอมแลกชีวิตด้วยคือใคร บาจรีย์ทิ้งความสุขสบายที่

มิ นทุแล้วหนีไปเมืองไทย จนเกือบเอาชีวิตไปทิ้งในป่าก็เพราะใคร" บาจรีย์ระเบิดอารมณ์ด้วยความน้อยใจ พาริณได้ยินเสียงบาจรีย์จึงเดินเข้ามาดู ทันเห็นบาจรีย์โผกอดพชรด้วยความรักสุดดวงใจ

"คนคนเดียวที่บาจรีย์ รักก็คือพี่พชร...พี่กลับไปกู้ชาติเพื่อคืนความสุขให้แผ่นดิน น้องไม่มีสิทธิ์ห้าม แต่อยากให้พี่พชรรู้ไว้ว่าดวงใจน้องเฝ้ารอทุกวินาทีให้พี่กลับมา ถ้าพี่พชรเห็นแก่ ความรักของน้องที่รักพี่เหนือกว่าชีวิตตัวเอง พี่พชรรับปากได้

ไหมว่า ไม่ว่ายังไงจะต้องรอดชีวิตกลับมาแต่งงานกับบาจรีย์ อนาคตข้างหน้าเราต้องปกครองแคว้นร่วมกัน แล้วเราจะครองรักกันจนชั่วนิรันดร์"

พชรมิอาจปฏิเสธความตั้งใจของเธอ ได้ เขาทำได้เพียงรักษาน้ำใจด้วยการยิ้มและพยักหน้า ค่อยๆเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน...พาริณเห็นภาพบาดใจตรงหน้า น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนหันหลังเดินหนีไป

"บาจรีย์ให้พี่พชรไว้ดูต่างหน้าเวลาไปรบ พี่พชรจะได้ ไม่เหงาเวลาคิดถึงบาจรีย์ไงคะ"

พ ชรรับผ้าเช็ดหน้าที่บาจรีย์ยื่นให้ ทั้งที่ในใจไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น ความรู้สึกของเขามีต่อเธอคือพี่ชายที่รักน้องสาว และหญิงเดียวที่เขารักก็คือลำธารเท่านั้น

หลังจากแยกย้ายเข้าห้องพัก บาจรีย์คิดหนักอยากจะแอบหนีไปกับคณะของพชรด้วย แต่ก็ถูกตวิษาดักทางปิดโอกาสอย่างรู้ทัน...

ฟาก ลำธารที่ประเทศไทย เธอเก็บเอาข่าวสารความไม่สงบของมินาลินมานอนคิดจนฝันร้าย ฝันว่าพชรถูกพวกดารัณฆ่าตาย พอสะดุ้งตื่นถึงกับใจคอไม่ดี ร้องไห้ออกมาอย่างขวัญเสีย

ooooooo

เช้าแล้ว พชรบอกลาเนตราและให้สัญญาว่าตนจะกู้บัลลังก์ของท่านพ่อคืนมาจากดารัณให้ได้ เนตรายิ้มเชื่อมั่นในความกล้าหาญและตั้งใจจริงของลูก แล้วหันไปทางพาริณ บอกให้ดูแลตัวเอง และฝากดูแลพชรด้วย

"หม่อมฉันจะปกป้องรัชทายาทให้เท่าชีวิตของหม่อมฉัน ขอท่านหญิงจงอย่ากังวล"

"ขอบใจเธอมาก ฉันดีใจนะพาริณ ว่าถึงแม้พชรจะเป็นเพียงเจ้าชายไร้บัลลังก์ แต่เจ้าก็ยังคงจงรักภักดีต่อพชร"

"หม่อมฉันเป็นองครักษ์แห่งราชวงศ์ ไม่ว่าอย่างไรสถานะของหม่อมฉันก็ไม่มีวันเป็นอื่น"

"โชคดีของเราและพชรที่มีทหารดีๆอย่างเจ้า เอาล่ะ ออกเดินทางได้แล้ว ขอให้ทุกคนโชคดี"

ทุกคนแยกย้ายเตรียมขึ้นรถ มาดิสร์เดินมาจับบ่าให้กำลังภูษณะที่ร่วมขบวนไปกับพชรด้วย

"ระวังเนื้อระวังตัวให้ดีด้วยนะภูษณะ อย่าลืมว่าดารัณมีทหารมีฝีมือรายล้อมมากมาย"

"ท่านพ่ออย่ากังวลไปเลย ลูกจะระวังตัวเป็นอย่างดี ว่าแต่ทำไมไม่เห็นบาจรีย์มาส่งเลย"

มาดิสร์ไม่ตอบ แต่ยิ้มมีเลศนัย...บาจรีย์ถูกตวิษาจับขังไว้ในห้อง เธอร่ำร้องจะไปกับพชร ขอร้องท่านแม่ปล่อยเธอไปเถอะ

"ไม่ได้ เราเป็นผู้หญิงจะตามเขาไปทำไม พี่เขามีงานใหญ่ต้องทำ ขืนไปก็เป็นภาระพี่เขาเปล่าๆ"

"แต่ลูกเป็นห่วงพี่พชรกับพี่ภูษณะ ลูกอยากตามไปช่วยด้วยนี่ท่านแม่"

"ยังไงแม่ก็ไม่ให้ไปเด็ดขาด ลูกต้องอยู่ที่นี่ ห้ามไปไหนเด็ดขาด จำไว้"

"ขอเจอหน้าพี่พชรนิดหนึ่งก็ยังดีนะคะ...นะคะท่านแม่"

ต วิษาไม่ฟังคำออดอ้อนของลูกสาวอีกแล้ว สั่งกำชับทหารให้เฝ้าหน้าห้องไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามให้เจ้าหญิงออกจากห้อง เว้นเสียแต่ตนจะสั่งเท่านั้น

ooooooo

ทางเมืองไทย ลำธารตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าเธอจะร่วมเดินทางไปมินาลินกับหน่วยแพทย์อาสา แต่ธีรัชซึ่งรู้เป็นคนแรกไม่เห็นด้วยอย่างแรง เขาพยายามทักท้วงเธอเพราะที่นั่นอันตรายมาก อีกอย่างถ้าเธอไป เขาต้องคิดถึงจนเป็นไข้แน่ๆ
ลำธารทำหน้าปูเลี่ยนๆกับถ้อยคำลิเกของธีรัช จากนั้นก็ยืนยันกับเขาว่า ยังไงเธอก็ต้องเดินทางไปมินาลินให้ได้ แต่เมื่อกลับบ้านมาขออนุญาตพ่อกับแม่ พวกท่านกลับเสียงแข็งไม่ยอม

"ไม่ได้นะลำธาร แม่ไม่ให้เราไปเด็ดขาด คราวก่อน

ที่หายตัวไปแม่ก็เป็นห่วงแทบแย่ นี่อะไรจะหาเรื่องไปมินาลินอีก คิดอะไรของเราฮึ"

"ลำธารไปกับหน่วยแพทย์อาสา ไปช่วยรักษาคนเจ็บ รับรองว่าไม่อันตรายหรอกค่ะ"

"แต่สถานการณ์ที่โน่นตอนนี้กำลังวิกฤติ พ่อว่าลูกอย่าเสี่ยงไปเลยดีกว่า"

"พ่อคะ ลำธารเคยเสี่ยงมาแล้ว ลำธารดูแลตัวเองได้ ขอลำธารไปนะคะ"

"ลำธาร...ทั้ง ชีวิตนี้พ่อไม่เคยห้ามอะไรลูกเลย แต่ครั้งนี้พ่ออนุญาตให้ลูกเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นไม่ได้ อย่าพูดกับพ่อเรื่องนี้" อดิศรตัดบทแล้วเดินหนีทันที ศิรดาเองก็ยื่นคำขาดเหมือนกัน

"ถ้าลูกยังรักพ่อกับแม่อยู่ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก"

ลำธาร ยืนหน้าจ๋อย มองตามพ่อกับแม่ไปด้วยความผิดหวัง ธามซึ่งแอบฟังอยู่ก้าวเข้ามายืนตรงหน้าน้องสาว ถามว่าคิดยังไงถึงจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง ลำธารไม่ตอบแต่กลับขอร้องพี่ธามช่วยพูดกับพ่อแม่ให้หน่อย

"เฮ้อ เรื่องอื่นพี่ก็พอช่วยได้นะ แต่เรื่องนี้พี่เห็นด้วยกับพ่อกับแม่ ว่าเธอไม่น่าไปตอนนี้ รอให้สถานการณ์ดีกว่านี้ค่อยไปไม่ดีกว่าเหรอ"

"ที่ ลำธารอยากไปช่วยชาวมินาลินก็เพราะเห็นทุกคนกำลังลำบาก ถ้าทุกคนปลอดภัยดีกันหมดแล้วลำธารจะไปทำไมล่ะพี่ธาม หรือว่าพี่ธามไม่เป็นห่วงคนที่นั่น"

"คนที่นั่น...น้องหมายถึงพชร?"

"พ ชรมีบุญคุณกับลำธาร เขาเกือบต้องตายเพราะช่วยชีวิตลำธาร ในฐานะที่น้องอยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือได้จะให้ น้องงอมืองอเท้า ในขณะที่พชรและพลเมืองของเขาต้องการความช่วยเหลือเหรอคะพี่ธาม"

ธามอึ้งไปกับเหตุผลที่เขามิอาจปฏิเสธความปรารถนาดีของน้องได้

"นะ คะพี่ธาม ช่วยพูดกับพ่อและแม่ให้หน่อยนะ นะๆๆๆๆ" ลำธารเกาะกอดอ้อนสุดชีวิต ที่สุดธามก็ใจอ่อนยอมไปเจรจากับพ่อแม่ โดยมีลำธารตามมาฟังผลอยู่ข้างๆด้วย

"ผมว่าพ่อกับแม่ลองฟังยัยลำธารซักครั้งเถอะครับ"

"ไม่ห้ามน้องแล้วยังจะเข้าข้างอีกเหรอ ไม่เห็นรึไงว่าที่ที่น้องจะไปมันอันตรายขนาดไหน"

"รู้ครับ แล้วผมเองก็ห่วงยัยลำธารด้วย ผมเลยคิดว่าจะไปกับยัยลำธารด้วยอีกคน"

"อะไรกัน นี่ลูกสองคนเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรือไง"

"เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของมินาลิน พ่อไม่อยากให้ แกเข้าไปยุ่ง"

"ถ้า ในฐานะทหารนาวิกโยธินผมเห็นด้วยครับพ่อ แต่ ถ้าในฐานะเพื่อน ยังไงผมก็คิดว่าผมคงทิ้งเจ้าชายรัชทายาทไปไม่ได้ เช่นเดียวกับที่พ่อเป็นเพื่อนรักกับเจ้าครองแคว้นมินาลิน พ่อถึงได้ช่วยเป็นภาระให้พชรมาฝึกรบกับหน่วยของเรา หวังว่าพ่อคงเข้าใจความรู้สึกของผมนะครับ"

อดิศรชะงักกึก เถียงไม่ออก มองหน้าศิรดาอย่างลำบากใจเหลือเกิน

"พ่อจะถือว่าลูกพร้อมที่จะรับผลที่เกิดจากการตัดสินใจของตัวเอง...พ่ออนุญาต"

ธามกับลำธารที่ลุ้นอยู่หันมองหน้ากันขวับแล้วยิ้มอย่างดีใจ แต่ศิรดาแทบเต้น โกรธอดิศรขึ้นมาทันที

"คุณ...นี่คุณปล่อยให้ลูกไปง่ายๆได้ยังไง ถึงพ่อจะอนุญาต แต่แม่ไม่...ไม่เด็ดขาด"

สองพี่น้องมองพ่อขอความเห็นใจ อดิศรได้แต่ถอนหายใจ ลำธารจึงโผไปกอดแม่

"แม่ คะ ลำธารรู้ดีว่าการไปมินาลินจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วง แต่ขอให้ลำธารเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอีกหลายชีวิตในมินาลิน ขอให้ลำธารไปลบฝันร้ายให้คนที่นั่นนะคะ นะคะแม่"

"ไม่...แม่ไม่อนุญาต...จนกว่าจะสัญญาก่อนว่าจะติดต่อกลับมาหาพ่อและแม่ทุกๆวัน"

สองพี่น้องยิ้มกว้างดีใจสุดๆ รีบให้คำมั่นสัญญาก่อนก้มลงกราบที่ตักพ่อและแม่...

นอกจากธามกับลำธารแล้ว จ่าแสงก็ได้รับอนุญาตให้ เดินทางไปมินาลินด้วย โดยจ่าแสงจะไปพร้อมธาม หลังเตรียมสัมภาระและจัดการเรื่องลาราชการเสร็จแล้ว ส่วนลำธารเดินทางไปก่อนพร้อมกับหน่วยแพทย์อาสา ที่มีธีรัชร่วมทีมไปด้วยอีกคน

ooooooo

ทันทีที่เดินทางถึงมินาลิน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ได้ปักหลักรักษาชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากการสงคราม กลางเมืองที่เกิดขึ้นจากความโหดเหี้ยมของดารัณที่ต้องการยึดอำนาจ

รวมทั้งผู้คนมาเป็นฝ่ายของตน หากผู้ใดยังจงรักภักดีต่อพชร มันผู้นั้นก็ต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน

เมื่อคณะของพชรเดินทางมาถึงมินาลินและได้พบกับเวคิน หัวหน้ากองกำลังใต้ดินที่ยังจงรักภักดีต่อราชวงศ์ เวคินดีใจเป็นที่สุด และแสดงพลังของพวกตนที่พร้อมจะกอบกู้บัลลังก์ คืนแก่พชรให้จงได้ นั่นยิ่งทำให้พชรรู้สึกมีกำลังใจและมีความหวังเต็มเปี่ยม

วันแรกของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ นึกไม่ถึงว่าลำธารจะได้เจอกับพชร สองคนโผกอดกันแนบแน่นด้วยความคิดถึงและโหยหา ก่อนจะจูงมือกันเดินห่างออกไปจากหน่วยแพทย์ฯ

"คุณน่าจะรู้ว่าที่มินาลินไม่มีความปลอดภัยหลงเหลืออยู่ คุณมาที่นี่ทำไม"

"แล้วนายล่ะ เมื่อรู้ว่ามันอันตรายแล้วกลับมาทำไม"

"คุณก็รู้ว่าผมมาเพื่อกอบกู้มินาลิน"

"เหตุผลก็ไม่ต่างกัน นายกับฉันต่างก็ต้องการช่วยเหลือคนไม่ใช่เหรอ"

"แต่คุณไม่มีความผูกพันกับคนที่นี่เท่าผม"

"ใครบอกนายว่าฉันไม่มีความผูกพันกับคนที่นี่"

"คนที่นี่...คุณหมายถึงใคร"

"ไม่รู้ ลองหาคำตอบเอาเองสิ" ลำธารหันหลังให้เขาอย่างงอนๆ พชรยิ้มบางๆ เดินมายืนตรงหน้าเธอ

"คุณหมายถึงผม...ใช่ไหมลำธาร"

ลำธารยิ้มแทนคำตอบ พชรดีใจทำท่าจะกอดเธอ แต่ พลันธีรัชก็วิ่งหน้าเริดเข้ามาร้องเรียกลำธาร ทำให้สองคนต้องผละออกจากกันโดยเร็ว

ธีรัชเห็นพชรก็รู้สึกเกรงขามในความเป็นเจ้าชาย ธีรัชพูดผิดพูดถูกหลังพยายามจะใช้ราชาศัพท์ จนพชรต้องเอ่ยปากว่า
"พูดกับเราแบบปกติเถอะ อย่าลำบากเลย เราขอตัวลำธารสักครู่ได้ไหม"

"ไม่ได้ เอ๊ย ได้ขอรับ...ตามสบายครับ" พูดแล้วธีรัชก็หน้าสลดตาละห้อย มองตามทั้งคู่จูงมือกันออกไปทางเนินเขา

พชรกับลำธารดื่มด่ำกับความสุขได้ครู่เดียวก็มีมารเข้ามาผจญอีกจนได้...พาริณ โผล่เข้ามาแจ้งข่าวแก่พชรว่าท่านภูษณะมีเรื่องต้องประชุมด่วน พูดพลางเธอชำเลืองมองลำธารอย่างไม่พอใจ...

กว่าจะประชุมเสร็จก็ค่ำพอดี พาริณทักท้วงอย่างแปลกใจ ที่พชรจะไม่กลับค่ายพร้อมกับพวกเธอ ทั้งที่กองกำลังของเวคินก็เฝ้ารอการกลับมาของพชรอยู่

"พาริณ ภูษณะ เวคิน รุดหน้าไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วงเรา"

"ไม่...องครักษ์จะอยู่ห่างรัชทายาทไม่ได้ หากท่านอยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่ไปไหน" พาริณเสียงแข็ง...ภูษณะเหลือบมองไปทางเต็นท์เห็นลำธารยืนชะเง้อมองพชรด้วยใจ ที่ห่วงหา ก็เข้าใจอะไรๆได้ทันที

"เราขอเวลาอยู่ที่นี่แค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น หวังว่าเจ้าคงไม่ขัดคำสั่งเรา"

พาริณทำท่าจะไม่ยอมอีก ภูษณะเลยต้องออกโรง

"พาริณและพวกเจ้าทุกคนออกไปรอก่อน เราขอคุยกับพชรแต่เพียงลำพัง"

ทุกคนจำต้องทำตามคำสั่งของภูษณะ จากนั้นภูษณะขยับมาใกล้พชร ตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมา

"เหตุผลของนายในการไม่กลับพร้อมกับพวกเราก็คือคุณลำธาร"

พชรไม่มีทางเลี่ยง พยักหน้าให้ภูษณะด้วยอาการสุขุม

"ระยะเวลาที่ลำบากด้วยกันในเมืองไทย คงทำให้นาย ผูกพันกับเธอ ฉันคงห้ามอะไรนายไม่ได้ ถ้านายอยากมีเวลากับเธอสักคืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าฉันจะให้คนมารับ"

"ขอบคุณที่เข้าใจ"

"แต่ความผูกพันของนายคงไม่สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินคำว่าเพื่อน อย่าลืมว่ามินาลินและมินทุต้องผนึกเป็นแผ่นดินเดียว และการรวมประเทศจะไม่สำเร็จ หากงานอภิเษกสมรสระหว่างนายกับบาจรีย์ไม่เกิดขึ้น ฉันไม่ได้เตือนนายหรอกนะ เพราะรู้ดีว่านายคงตระหนักถึงความสำคัญข้อนี้ จริงไหมพชร"

พชรสะอึกอึ้งที่ภูษณะอ่านใจเขาได้อย่างปรุโปร่ง

ooooooo
อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบตอนที่ 7
ที่มาไทยรัฐ