อ่านละครย่อเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ตอนที่ 13

อ่านละครย่อเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ตอนที่ 13
ลิงลม เห่าดง กับหมีควายใส่หน้ากากกันแก๊สพิษ บุกเข้าไปในโรงงานผลิตสารเคมี ยิง รปภ.กับคนงาน
ที่เข้ามาขัดขวางตายไปหลายคน แล้วช่วยกันขนถังใส่สารพิษออกมาทางด้านหลัง...

สักพัก เสียงสัญญาณเตือนภัยดังไปทั่วบริเวณ เหล่าคนงานต่างวิ่งหนีตายออกมาหน้าโรงงาน นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวปรี่เข้าไปถามคนงานคนหนึ่งว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่าโรงงานถูกปล้นและมีสารพิษรั่วอยู่ภายใน ทันใดนั้น มีเสียง รปภ. ตะโกนขอความช่วยเหลือ มีคนติดอยู่ในโรงงาน 2 คนออกมาไม่ได้ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวหันไปมองทางโรงงาน

ก่อนจะวิ่งด้วยความรวดเร็วปานพายุพัดเข้าไปในนั้น...

แสงระวีเพิ่งมาถึงหน้าโรงงานผลิตสารเคมี คว้ากล้องมาถ่ายภาพเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้น พร้อมกับช่วยพวกคนงานที่ได้รับบาดเจ็บส่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพรับไป ดูแล พอได้ยินเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพคุยกันว่านักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวกำลังเข้าไป ช่วยคนงาน 2 คนที่ติดอยู่ข้างใน แสงระวีไม่รอช้ารีบ ตามไปทำข่าว...

ขณะเดียวกัน ศรจอดรถบรรทุกรออยู่ด้านหลังโรงงาน เห่าดง หมีควาย กับลิงลมทยอยขนถังบรรจุสารพิษตามใบสั่งของอำนาจขึ้นไปเก็บหลังรถ ศรมองไปทางโรงงานสีหน้าร้ายกาจ ลิงลมเหมือนจะรู้ทันถามดักคอศรว่าไม่ได้ทำตามคำสั่งของอำนาจใช่ไหม ศรปรายตามองลิงลมไม่พูดอะไร

"อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะเว้ย นายสั่งแค่ให้มาเอาของที่นายต้องการแค่นั้นแล้วให้รีบกลับ แต่เอ็งสั่งให้ลูกน้องเอ็งสร้างความวุ่นวายที่นั่นทำไม"

ศรเคารพคำสั่งของอำนาจ แต่ในเมื่อมีโอกาสจะจัดการเสือ เขาไม่อยากเสียโอกาสนั้นไปฟรีๆ ลิงลมเข้าไปกระชากคอเสื้อศร ขู่ว่าอวดดีแบบนี้อย่าทำพลาดก็แล้วกัน เขาจะกระทืบ

ศรซ้ำเป็นคนแรกแล้วผลักศรออกอย่างไม่พอใจ เห่าดงกับหมีควายถามศรว่าจะให้จัดการลิงลมไหม ศรส่ายหน้า

"ไม่ต้อง...ยังไม่ใช่ตอนนี้ รอให้ข้าจัดการกับบักเสือให้ได้ก่อนเถอะ" ศรแสยะยิ้ม...

ทางฝ่ายแสงระวีลัดเลาะมาถึงตัวโรงงาน เห็นสิงห์กับพวกตำรวจกำลังคุยกับวิศวกรโรงงาน แสงระวีเข้าไปแอบฟังใกล้ๆ สิงห์ถามวิศวกรว่าจะต้องทำอย่างไรไม่ให้สารพิษรั่ว

ออกมานอกโรงงาน วิศวกรอธิบายว่ามีวาล์วฉุกเฉินที่ใช้ปิดระบบอากาศของโรงงาน ถ้าปิดวาล์วนั้นได้สารพิษก็จะถูกดูดกลับเข้าไปเก็บที่เดิม แต่ต้องรีบจัดการก่อนที่แรงดันของสารพิษที่รั่วออกมาจะระเบิด สิงห์แปลกใจว่ารออะไรอยู่ทำไมไม่รีบจัดการ

"เราเข้าไปปิดวาล์วนั้นเองไม่ได้ เพราะตอนนี้สารพิษปริมาณเข้มข้นกระจายอยู่ทั่วบริเวณนั้นอันตรายเกินกว่าจะเข้าไปได้ครับ"

จ่าเพิ่มแนะให้อพยพประชาชนรอบๆพื้นที่ สิงห์เห็นว่าไม่ทันการจะลองเสี่ยงเข้าไปจัดการเอง แล้วขอหน้ากากกันแก๊สพิษมาสวม แสงระวีได้ยินโดยตลอดเกรงว่าถ้าปล่อยให้สิงห์

เข้าไปเจอนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว เขาต้องไม่ยอมปล่อยนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวแน่ เธอต้องหาทางเตือนนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว หันไปคว้าหน้ากากกันแก๊สพิษที่แขวนอยู่ข้างผนัง ตัดสินใจวิ่งเข้าไปในตัวโรงงาน...

นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวกวาดตามองหาคนงานที่ติดอยู่ ผ่านควันพิษที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ เขาต้องเอาผ้าขาวม้าที่พันคอมาปิดจมูก มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือแว่วมา เขารีบวิ่งไปทางต้นเสียงด้วยความเร็วของนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว โชคไม่ดีเจอสิงห์ระหว่างทาง สิงห์หาว่าเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวไม่ใช่ เป็นอุบัติเหตุอย่างที่ใครๆ เข้าใจ โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ สิงห์ชักปืนขู่ให้เขามอบตัว

"มีคนติดอยู่ข้างใน ถ้าผมไปช้า พวกเขาจะตายกันหมด"

สิงห์ไม่เชื่อ เพราะไม่ได้รับรายงานว่ามีคนงานติดอยู่ในนี้ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวยืนยันว่ามีคนติดอยู่ในนี้จริงๆ สิงห์ ไม่ฟังจะจับตัวเขาให้ได้ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวไม่มีทางเลือกตรงเข้าต่อสู้กับสิงห์ ทั้งคู่แลกหมัดกันท่ามกลางควันพิษ

แสงระวีวิ่งตามเข้ามาเจอทั้งคู่พอดี นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวชะงักหันไปมองหญิงสาว

สิงห์ได้ทีคว้าปืนขึ้นมาจ่อเขาไว้ แสงระวีขอร้องสิงห์ ให้ปล่อยนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวไป มีคนงานติดอยู่ในนี้กำลังรอความช่วยเหลือจากเขา สิงห์ละสายตาแป๊บเดียว นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว หายตัวไปแล้ว หมู่แย้มวิทยุเข้ามาแจ้งสิงห์ว่า วิศวกรเร่งให้รีบปิดวาล์วความดันภายใน 10 นาที ไม่เช่นนั้นโรงงานจะระเบิด เป็นจุณ สิงห์ตกใจไล่แสงระวีออกไปจากที่นี่

แล้วรีบวิ่งไปที่วาล์วฉุกเฉิน แสงระวีเป็นห่วงสิงห์รีบตามติดเสือในคราบนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวตามหาสองคน งานสาวจนพบ ประคองทั้งคู่ในสภาพใกล้หมดสติออกมาจากโรงงาน

จ่าเพิ่มกับหมู่แย้มหันมาเห็นนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ปราดเข้าไปล้อม ชักปืนขู่ให้มอบตัว

"จ่าจะทำอะไรกับผมก็ทำเถอะ แต่ต้องรีบช่วยสองคนนี้ก่อน"

จ่าเพิ่มสั่งหมู่แย้มรับตัวคนงานไปส่งเจ้าหน้าที่ฯ ขณะในมือยังถือปืนขู่เสือไว้...

ด้านสิงห์มาถึงวาล์วฉุกเฉิน พยายามออกแรงหมุนแต่วาล์วฝืดมากไม่ขยับ หาท่อนเหล็กมางัดก็ไม่ได้ผล มองนาฬิกาข้อมือ เหลือเวลาแค่ 5 นาทีก่อนจะระเบิด ระหว่างนั้นแสงระวี ตามเข้ามา

"พี่สิงห์แก้ปัญหานี้ไม่ได้หรอกค่ะ พี่สิงห์ต้องให้นักสู้ พันธุ์ข้าวเหนียวมาช่วย"

ขาดคำ แสงระวีเข่าอ่อนเพราะได้รับแก๊สพิษบางส่วน สิงห์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ ใกล้เส้นตายเข้ามาทุกขณะ สิงห์ วิทยุสั่งจ่าเพิ่มอพยพคนออกจากโรงงานทันที เขาปิดวาล์วไม่ได้และไม่รู้ว่าจะพาแสงระวีหนีออกมาทันเวลาหรือเปล่า สิงห์มองนาฬิกา ข้อมือ เหลือเวลาแค่ 3 นาทีเท่านั้น

เสือได้ยินสิงห์พูดทุกคำ อาสาจะเข้าไปช่วยทั้งคู่เอง จ่าเพิ่มยังไม่ทันพูดอะไร เสือวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว อึดใจเดียว เขามาถึงตรงที่สิงห์กับแสงระวีอยู่ สิงห์ในสภาพอ่อนแรงยังคงประคองแสงระวีไว้ตลอด

"ผู้กองต้องรีบพาคุณแสงระวีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง"

สิงห์ กัดฟันพยุงแสงระวีออกไป ส่วนเสือวิ่งมาถึงวาล์วฉุกเฉิน ขณะเหลือเวลาแค่ 10 วินาที เสือจับวาล์วแล้วเริ่มออกแรงหมุนแข่งกับเวลาที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ เหลืออีกแค่วินาทีเดียว เสือปิดวาล์วได้สำเร็จเป็นจังหวะเดียวกับสิงห์พาแสงระวีออกมาพ้นโรงงาน

จ่า เพิ่มนำตัวสิงห์กับแสงระวีส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เหตุการณ์ในโรงงานกลับเข้าสู่สภาวะปกติ นักสู้พันธุ์ ข้าวเหนียวรู้ว่าสิงห์กับแสงระวีออกมาอย่างปลอดภัยก็โล่งใจ ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ooooooo

แสงระวีอาการดีขึ้นมาก หลังจากหมอฉีดยาแก้พิษให้ หมอขอดูอาการอีกคืนหนึ่งก่อน ถ้าไม่มีอะไร จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ธงไทเลิกงานแล้วแวะมาเยี่ยม เห็นลูกสาวปลอดภัยก็หายห่วง แสงระวีบ่นกับพ่อว่าเสียดายที่เธอไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพนักสู้พันธุ์ข้าวเห นียวทั้งๆที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน

"เรื่องนั้นอย่าเพิ่งพูดถึงเลย ตอนนี้ลูกควรจะพักผ่อนให้มากๆ"

จังหวะ นั้น มือถือของธงไทมีเสียงเตือนว่ามีข้อความส่งถึง เขาเปิดดูข้อความแล้วหันไปบอกแสงระวีว่ามีงานด่วนต้องทำ ขอตัวกลับก่อน ธงไทออกจากห้องพักของแสงระวีตรงไป ยังประตูทางออกฉุกเฉิน เปิดเข้าไปเจอโรสในชุดกุหลาบแดงสวมหน้ากากรออยู่ ธงไทถามว่าได้ข่าวอะไรมาบ้าง โรสแอบเข้าไป ตรวจดูผลพิสูจน์หลักฐานของตำรวจพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในโรงงานผลิตสารเคมีไม่ใช่อุบัติเหตุ

"เป็นการจงใจทำให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุจากผู้ไม่

หวังดี เพื่อที่จะปกปิดหลักฐานสำคัญว่ามีการปล้นเอาสารพิษร้ายแรงจำนวนมากไปจากโรงงาน"

ธง ไทตั้งข้อสังเกตว่าเหตุวุ่นวายครั้งนี้ต้องเกี่ยวพันกับองค์กรเขี้ยวพยัคฆ์ สั่งโรสให้นำเรื่องนี้ไปบอกสิงห์ โรสขัดขึ้นว่าสิงห์ไม่เชื่อในเจตนารมณ์ที่ดีของพวกเราแล้วเขาจะฟังเราหรือ

"แต่นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ลำพังพวกเรารับมือไม่ไหวแน่" ธงไทสีหน้าวิตกกังวลอย่างมาก...

ใน เวลาต่อมา กุหลาบแดงเข้าไปหาสิงห์ซึ่งยังนอนให้น้ำเกลืออยู่ในโรงพยาบาลเดียวกับแสงระ วีเตือนว่าจะมีการก่อวินาศกรรมในกรุงเทพฯเร็วนี้เขาต้องเตรียมพร้อมรับมือ แทนที่สิงห์จะขอบใจ กลับถอดสายน้ำเกลือ แล้วพุ่งล็อกตัวกุหลาบแดงกดลงกับเตียง จะถอดหน้ากาก แต่พยาบาลเปิดประตูห้องเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน กุหลาบแดงได้ทีพลิกตัวกลับดันเขาพ้นทางแล้ววิ่งหนี สิงห์ไล่ตามแต่ไม่ทัน

จ่า เพิ่มกับหมู่แย้มเดินตรวจพื้นที่มาเจอสิงห์ ทักว่าออกจากห้องทำไม หมอยังไม่อนุญาตให้เขากลับบ้าน สิงห์เล่าเหตุการณ์ที่กุหลาบแดงบุกเข้าไปหาเขาในห้องพักฟื้นให้ฟัง หมู่แย้มถามว่าแล้วนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวมาด้วยหรือเปล่า สิงห์ ชะงัก เอะใจว่านักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวอาจจะอยู่ที่นี่กับแสงระวี...

เป็น อย่างที่สิงห์คาด นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวแวะมาเยี่ยมแสงระวีจริงๆ เธอดีใจมากที่เขามาหา หลังจากขอบคุณที่ช่วยชีวิต เธอกับสิงห์แล้ว แสงระวีขอถ่ายรูปและขอสัมภาษณ์เหตุการณ์ แก๊สรั่วเมื่อตอนบ่าย นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวไม่อยากเป็นข่าว ที่ ทำไปทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ใช่เพราะต้องการชื่อเสียง

"ฉัน ก็ไม่ได้จะเอาคุณไปสร้างชื่อเสียง การทำความดีของคุณมันควรจะต้องได้รับการเผยแพร่ คนอื่นที่เขาอยากจะทำดีแบบคุณบ้างจะได้มีกำลังใจ"

นักสู้พันธุ์ข้าว เหนียวไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่สุดท้ายเขาก็อนุญาตให้เธอถ่ายรูป แสงระวีเชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นตัวแทนของความดีที่ทุกคนจะยกเป็นแบบอย่าง

"แต่สำหรับผู้กองสิงห์คงไม่ใช่ เพราะเขายังมองว่าผมเป็นพวกนอกกฎหมาย"

"วันนี้คุณช่วยชีวิตพี่สิงห์ ฉันว่าเขาอาจจะเปลี่ยนทัศนคติไม่ดีที่มีต่อคุณไปได้บ้าง"

เรื่อง กลับไม่เป็นอย่างแสงระวีหวัง สิงห์พาจ่าเพิ่มกับ หมู่แย้มพร้อมปืนในมือพรวดพราดเข้ามาในห้องแสงระวีแบบ ไม่ให้ตั้งตัว ในห้องกลับไม่มีแม้แต่เงาของนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว เพราะเขามีพลังพิเศษสามารถได้ยินเสียงจากระยะไกล รู้ล่วงหน้าว่าสิงห์จะมาโดดหนีออกทางหน้าต่างห้อง หายตัวไปท่ามกลางความมืด

สิงห์ มั่นใจว่านักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวต้องมาที่นี่ เพราะเขาได้ยินเสียงคนคุยกัน แสงระวีหาว่าเขาหูฝาดไปเอง สิงห์หยิบกล้องถ่ายภาพดิจิตอลของแสงระวีที่วางอยู่ขึ้นมาเปิดดู เห็นภาพนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวที่เธอเพิ่งถ่ายเอาไว้ เป็นการยืนยันว่านักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวมาที่นี่ แสงระวีจนแต้มแย่งกล้องคืนมาอ้างว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ แล้วตัดบทขอตัวพักผ่อน

"แสงระวีต้องการปกป้องเขาไปเพื่ออะไร"

"เพื่อให้เขาได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นได้ เหมือนที่เขาช่วยชีวิตพี่สิงห์วันนี้ไงคะ"

ooooooo

ส้ม ร้องเพลงสุดท้ายจบ บ๋อยเข้ามากระซิบว่าผู้จัดการสั่งให้ไปนั่งคุยเป็นเพื่อนเฮียอู๋ ส้มหนีไม่ออกจำใจเดินเข้าไปไหว้เฮียอู๋อย่างขอไปที เฮียอู๋ชวนส้มดื่มเป็นเพื่อน ส้มปฏิเสธว่าไม่ดื่ม วันนี้ไม่ค่อยสบาย ถ้า เขาไม่มีธุระอะไรอีกเธอขอตัวก่อน แฟนรออยู่ที่บ้านแล้วจะเดินหนี เฮียอู๋กำลังเมาได้ที่ดึงส้มมานั่งตัก

"ปล่อยส้มนะเฮีย อย่ามาทำรุ่มร่ามกับส้มนะ"

"ออกไปกินข้าวกับเฮียก่อน แล้วเฮียสัญญาว่าส้มจะได้ไปหาแฟนพร้อมเงินในกระเป๋า"

ส้ม พยายามสะบัดหนี เฮียอู๋สั่งสมุนคุมตัวเธอไปขึ้นรถ เคนซึ่งจอดแท็กซี่รอรับส้มกลับบ้าน เห็นส้มไปกับพวกเฮียอู๋ ท่าทางเหมือนถูกบังคับ เคนจะเข้าไปช่วย แต่มีคนเมาเข้ามาขวางไว้ สั่งเคนให้พาไปส่งบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่ของเคนหน้าตาเฉย กว่าเคนจะกำจัดคนเมาไปพ้นทาง ส้มหายตัวไปแล้ว เคนรีบบึ่งรถกลับบ้านพัก เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เสือฟัง เร่งเสือให้รีบตามไปช่วยส้มก่อนจะสายเกินไป...

ครู่ต่อมา สมุนของเฮียอู๋ลากส้มเข้าไปในห้องพักของโรงแรมม่านรูด ส้มดิ้นรนขัดขืน เฮียอู๋รำคาญชกท้องเธอเต็มแรง จนจุกแทบหมดเรี่ยวแรง สมุนทั้งสองเอาส้มไปโยนไว้บนเตียงแล้วออกไปรอหน้าห้อง เฮียอู๋ย่างสามขุมเข้าหา ส้มลุกขึ้นจะวิ่งหนี เขาคว้าตัวเธอกดไว้กับเตียง ส้มสู้สุดฤทธิ์ สะบัดมือเขาหลุด วิ่งหนีเข้าห้องน้ำใส่กลอนประตูขังตัวเองอยู่ในนั้น เฮียอู๋ทุบประตูปังๆสั่งให้เปิด ส้มกลัวมาก ร้องลั่น

"พี่เสือ...พี่เสือช่วยส้มด้วย...ช่วยด้วย"

สมุน สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าห้องได้ยินเสียงโครมคราม พากันแอบดูที่ช่องประตู เลยไม่เห็นลิงลมเข้ามายืนด้านหลัง กว่าจะรู้ตัวว่าภัยมาถึงก็สายเกินไป สมุนทั้งสองคนโดนลิงลมหักคอตายคามือ ลิงลมเปิดประตูผลัวะเข้าไปในห้อง เฮียอู๋หันมาเห็น ชักสีหน้าไม่พอใจ ถามลิงลมว่าเป็นใคร เข้ามาทำไม

"ผู้พันขอความร่วมมือกับเอ็ง แต่เอ็งทำเป็นเล่นตัว ข้าเลยต้องมาเจรจาแทน"

"ที่แท้ ก็คนของไอ้อำนาจ...กลับไป...อั๊วไม่มีอะไรจะคุยด้วย ไอ้งานแบบนั้นอั๊วไม่ยุ่งเว้ย...ฆ่าคนตายเป็นเบือแบบนั้น ถ้าโดนจับได้อั๊วไม่อยากเป็นหนังหน้าไฟให้พวกลื้อ" เฮียอู๋เดินไปที่เตียงช้าๆหยิบปืนจากกระเป๋าหันมาเล็งไปยังลิงลม แต่เขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว กลับมาโผล่ด้านหลังเฮียอู๋อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

"งั้นเอ็งก็รู้เรื่องมากเกินไป สมควรต้องโดนเช็กบิล"

ลิงลม จับเฮียอู๋หักคออย่างง่ายดาย ส้มแง้มประตูแอบดู เห็นลิงลมฆ่าเฮียอู๋ ผวาสุดขีดถอยกรูด ลิงลมมองประตูห้องน้ำที่แง้มอยู่อย่างสงสัย เดินเข้าไปใกล้ จังหวะนั้น เสียงมือถือของเขาดังขึ้น

"ครับผู้พัน มันไม่ยอมร่วมมือกับเรา ผมก็เลยปิดปากมันไปแล้ว เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะลงมือเองครับ"

ลิงลม วางสาย หันไปมองศพเฮียอู๋ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถ ไม่ได้สนใจห้องน้ำอีก ส้มรอจนทุกอย่างเงียบ ค่อยๆเปิดประตูห้องพักออกมา เจอศพสมุนของเฮียอู๋หน้าห้องถึงกับผงะ เสือมาถึงพอดี ส้มร้องไห้โฮโผเข้ากอดเขา ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ละล่ำละลักบอกว่า พวกกำนันฉ่ำบุกเข้ามาจัดการกับพวกนี้

ooooooo

พอหมออนุญาตให้ กลับบ้านได้ แสงระวีตรงไป ที่สำนักพิมพ์ฟ้าใหม่ ทำสกู๊ปข่าวพร้อมกับลงรูปของนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวที่เธอถ่ายไว้ แล้วเอาไปให้ธงไท ตรวจดู แสงระวีขอโทษที่ยังไม่ได้บอกนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ให้มาพบกับพ่อ เพราะสิงห์เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ธงไทสีหน้าหนักใจขึ้นมาทันที

"ข่าว ที่ลูกเอามาให้พ่อดู เอาไปตีพิมพ์ได้เลย ส่วนเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว แสงระวีลองพยายามดูแล้วกัน ถ้ามีช่องทาง พอติดต่อเขาได้ ก็ช่วยติดต่อให้พ่อที"

แสงระวีรับคำ ธงไทรอจนลูกไปพ้นสายตา รีบโทร.บอกโรสเสียงเครียดว่าแสงระวียังติดต่อนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวให้เรา ไม่ได้ ตอนนี้เธอถูกสิงห์เฝ้าจับตาทุกฝีก้าว คงเป็นเรื่องยาก ที่จะให้นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวมาช่วยงานพวกเรา ธงไทเร่งโรสให้รีบหาข้อมูลแผนวินาศกรรมขององค์กรเขี้ยวพยัคฆ์ด้วย...

ทาง ฝ่ายเสือเร่งพรรคพวกที่ขับแท็กซี่ช่วยกันหาข่าวเพิ่มเติมจากสิ่งที่ส้ม ได้ยินเมื่อคืน แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เขาทนรอต่อไปไม่ไหว สวมชุดนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวตรงไปหาแสงระวีให้ช่วยสืบเรื่องนี้อีกแรง...

สัก พัก เสือในชุดดำสวมหน้ากากมาดักพบแสงระวีที่รถของเธอซึ่งจอดอยู่หน้าตึกสำนัก พิมพ์ฟ้าใหม่เล่าทุกอย่างที่ส้มได้ยินให้เธอฟัง แสงระวีถามย้ำว่าข่าวที่เขาได้ยินมาแน่ใจว่าไม่ผิด เสือพยักหน้า

"คนที่ให้เบาะแสผมมายืนยันว่าพวกมันกำลังวางแผนฆ่าคนบริสุทธิ์จำนวนมากภายในวันนี้"

"งั้นนี่ก็ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ เราต้องหาทางหยุดพวกนั้น"

เสือไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ถึงมาขอให้เธอช่วย แสงระวีรับปากจะช่วยเขาแน่ และเธอรู้แล้วว่าจะหาข้อมูลได้จากใคร...

ขณะเดียวกันที่เซฟเฮาส์ ไม่ว่าศรจะใช้พวกผีดิบมาข่มขู่อย่างไร มะลิก็ไม่ปริปากบอกที่ซ่อนของเสือ กำนันฉ่ำสั่งศรเลิกยุ่งกับมะลิได้แล้ว ป่วยการจะไปบังคับ ศรเตรียมแผนไว้สำหรับมะลิแล้ว กำนันฉ่ำเตือนว่าจะทำอะไรก็อย่าให้กระทบกับงานใหญ่ที่อำนาจวางแผนไว้ ศรรับคำ หันไปสั่งเห่าดงกับหมีควาย

"เดี๋ยวพวกเอ็งจัดการตามที่ข้าสั่งแล้วคอยรายงานข้าตลอด ข้าจะไปทำงานให้ผู้พัน" ศรยิ้มชั่วร้าย...

เห่าดงเดินตามแผนที่ศรวางไว้ เอาอาหารกลางวันเข้าไปให้มะลิในห้องขัง แล้วแกล้งลืมล็อกประตูห้องตอนกลับออกไป มะลิรอจนปลอดคนรีบหนีออกไปทันที อารามรีบร้อน มะลิไม่ทันสังเกตเห็นเห่าดงกับหมีควายแอบสะกดรอยตาม หวังว่าเธอจะพาไปยังที่ซ่อนตัวของเสือ...

สิงห์สั่งจ่าเพิ่มตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจากกุหลาบแดงแล้วพบว่ามีสารเคมีหาย ไปจากโรงงานผลิตจริง แต่สิงห์ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องวินาศกรรมจะจริงด้วยหรือเปล่า เพราะองค์กร ที่กุหลาบแดงอ้างว่ากำลังต่อกรด้วย เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ถ้าจะให้ชัวร์คงต้องได้ตัวกุหลาบแดงกับนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวมาสอบสวน

ระหว่างนั้น แสงระวีมาขอให้สิงห์ช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเบาะแสของนักสู้พันธุ์ข้าว เหนียว นอกจากสิงห์จะไม่ให้ความร่วมมือเหมือนเคยแล้ว ยังสั่งจ่าเพิ่มกับหมู่แย้มสะกดรอยตามแสงระวีอย่าให้คลาดสายตา เผื่อเราจะได้ตัวนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว กับกุหลาบแดง

ด้านแสงระวีกลับมาขึ้นรถอย่างผิดหวัง ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร นึกขึ้นได้โทร.ไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ และย้ำว่าเบาะแสเกี่ยวกับแผนการบางอย่างที่นักสู้พันธุ์ ข้าวเหนียวให้มาจะเกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าเราหยุดยั้งไม่ทันจะมีคนตายมากมาย ธงไทรับปากว่าจะจัดการให้เร็วที่สุดได้อะไรเพิ่มเติมแล้วจะโทร.บอก

"ค่ะพ่อ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวบอกว่าเขาจับตาดูลูกอยู่ ถ้าได้ข่าวอะไรคืบหน้า เขาจะเป็นฝ่ายมาหาลูกแล้วลูกจะให้เขาคุยกับพ่อ" แสงระวีวางสาย ขับรถออกไปโดยไม่รู้ว่าสิงห์กับลูกน้องสะกดรอยตาม...

มะลิหนีมาถึงป้ายรถเมล์ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ปรี่เข้าไปขอความช่วยเหลือจากผู้คนแถวนั้น แต่ไม่มีใครสนใจ เธอเหลือบเห็นรถของเห่าดงกับหมีควายจอดหลบมุมอยู่ไม่ห่าง รีบหลบหลังป้ายรถเมล์ สมุนของศรมองหาไม่เห็น เดินมาดูที่ป้ายรถเมล์ เห่าดงโวยวายว่าขืนปล่อยให้มะลิหายไป โดนศร เล่นงานแน่

"เฮ้ย เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวไม่รอดสายตาเราไปได้หรอก ตอนนี้มันหลงกลแผนของนายแล้ว ปล่อยให้มันตายใจว่าหนีออกมาได้แล้วเราค่อยตามมันไปจัดการกับบักเสือ"

มะลิได้ยินเข้าเจ็บใจจะไปแจ้งตำรวจ แต่เห่าดงกับหมีควายตามทันเสียก่อน ในเมื่อแผนหลอกใช้มะลิพาไปที่ซ่อนตัวของเสือล้มเหลว พวกนั้นลากคอมะลิกลับไปขังที่เซฟเฮาส์อย่างเดิม...

ขณะสิงห์ จ่าเพิ่ม กับหมู่แย้มกำลังขับรถตามแสงระวีมาจอดรอไฟแดงที่สี่แยก พอได้สัญญาณไฟเขียวรถของแสง ระวีผ่านแยกไปได้ แต่รถของสิงห์กลับถูกเสือหรือนักสู้ พันธุ์ข้าวเหนียวยืนขวางหน้าไว้

"ถ้าผู้กองไม่คิดจะช่วยผมกับคุณแสงระวีก็อย่ามาคิดขวางทาง"

จ่าเพิ่มไม่พูดพล่ามชักปืนจะยิงเสือ แต่เขาไวกว่าลั่นกระสุนใส่ปืนในมือจ่าเพิ่มกระเด็น หมู่แย้มคว้าปืนจะช่วยยิง ก็โดนแบบเดียวกับจ่าเพิ่ม สิงห์เห็นลูกน้องเสียท่า คว้าปืนเล็งใส่เสือ

แต่เขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว จู่ๆมาโผล่ข้างหลังสิงห์ ใช้สันมือทุบท้ายทอยเขาหมดสติ จ่าเพิ่มกับหมู่แย้มจะเข้าไปช่วย เสือจ้องปืนขู่

"ผมไม่ใช่ศัตรูกับตำรวจ เพราะฉะนั้นอย่ามาขวางทางผม" เสือยิงปืนใส่ล้อรถตำรวจยางแบนสี่ล้อ แล้ววิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับทะยานออกไป

ooooooo

ขณะเดียวกัน โรสแฮ็กเข้าไปดูข้อมูลจากกล้องวงจรปิดของตำรวจจราจร แล้วรีบรายงานธงไทว่าประมาณหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เห็นรถของอำนาจบ่ายหน้าไปทางสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง นอกจากนั้น เธอยังได้ ข้อมูลสำคัญมาอีกว่า แผนร้ายที่อำนาจกับพวกกำลังจะ ลงมือทำ ต้องเกี่ยวกับรัฐมนตรีชัยยศแน่นอน

"คุณชัยยศ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรนะหรือ" ธงไทนิ่วหน้าด้วยความสงสัย...

ในเวลาต่อมา กุหลาบแดงไปถึงสวนสาธารณะแห่งนั้น แอบซุ่มอยู่ในรถส่องกล้องส่องทางไกลพร้อมที่ดักฟังเสียงระยะไกลดูความ เคลื่อนไหวของอำนาจซึ่งกำลังเข้าไปทักทาย

รัฐมนตรีชัยยศที่มาวิ่งออกกำลังกาย ท่ามกลางผู้คุ้มกันรัฐมนตรี 2 นาย จากนั้นอำนาจเดินหลบมานั่งที่ม้านั่ง สักพักศรกับ ลิงลมทำทีเดินมานั่งใกล้ๆ นัดแนะแผนกันอีกครั้งก่อนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัว กุหลาบแดงรีบโทร.รายงานธงไททันที

"ผู้พันอำนาจสั่งให้สมุนของมันลงมือจัดการกับรัฐมนตรี ที่นี่ แล้วยังประชาชนที่อยู่ในนี้ด้วยค่ะ"

"เลวที่สุด...ผมรู้แล้วว่าพวกมันต้องการอะไร สังหารรัฐมนตรีที่ขวางแผนการฮุบที่นาคนไทยของพวกมันพร้อมกับคนบริสุทธิ์ จำนวนมาก แล้วโยนความผิดให้กับผู้ก่อการร้ายกลุ่มอื่น ผลประโยชน์ที่มันได้ก็คือการเข้าไปสืบทอดอำนาจแทนท่านรัฐมนตรี" ธงไทเข่นเขี้ยว

กุหลาบแดงจะหยุดแผนชั่วของพวกมันเอง เพียงแต่เธอทำคนเดียวคงไม่ทันเวลา ธงไทรู้งานรีบโทร.บอกแสงระวีให้ขอความช่วยเหลือจากนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ทันทีที่วางสายจากพ่อ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวโผล่มาจากไหนไม่รู้มายืนอยู่ข้างรถของแสงระวี ถามว่าได้เบาะแสแล้วหรือ

"ค่ะ...พ่อฉันเพิ่งได้ข้อมูลมาว่าจะมีการวางแผนวินาศกรรมที่สวนสาธารณะ เป้าหมายคือสังหารรัฐมนตรีและประชาชนในนั้น"

นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวหน้าเครียด วิ่งไปขึ้นซุปเปอร์ถึก มอเตอร์ไซค์คู่ใจขับออกไปอย่างรวดเร็ว...

ลิงลมเฝ้ารอจังหวะที่รัฐมนตรีชัยยศมานั่งพักเหนื่อยที่ม้านั่งประจำในสวน แห่งนี้ โดยไม่รู้เลยว่าในถังขยะใกล้ๆนั้นมีถังบรรจุแก๊สพิษร้ายแรงซุกอยู่ ลิงลมหยิบรีโมตพร้อมกับหน้ากากกันแก๊สพิษขึ้นมาสวม กุหลาบแดงซึ่งซุ่มดูอยู่ไม่รอช้าชักปืนเก็บเสียงออกมายิงรีโมตในมือลิงลม กระจุย

รัฐมนตรีชัยยศรอดพ้นจากการถูกลอบสังหารอย่างหวุดหวิด และไม่ล่วงรู้เลยว่าตัวเองตกเป็นเป้า พอหายจากพักเหนื่อยท่านก็ออกวิ่งต่อ ลิงลมจะวิ่งตาม แต่กุหลาบแดงยิงปืนสกัดไว้ ลิงลมเจ็บใจเลยหันเล่นงานกุหลาบแดงแทน พุ่งเข้าเตะปืนในมือเธอกระเด็น ทั้งคู่ต่อสู้กันด้วยมือเปล่า

กุหลาบแดงต้านลิงลมได้ไม่กี่หมัดก็เสียท่า โดนอัดจนทรุด ทันใดนั้นนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวพุ่งเข้ามาขวางหน้าลิงลม สองหนุ่มแลกหมัดกันอุตลุด กุหลาบแดงเห็นไม่ได้การคว้าปืนยิงใส่ลิงลมไม่ยั้ง ลิงลมโดดหลบ ก่อนใช้พลังวิ่งหนีไปอย่างว่องไว กุหลาบแดงร้องบอกนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวว่า

"ยังเหลือพวกมันอีกคน คุณต้องรีบไปหยุดมัน ไม่อย่างนั้นมีคนตายเป็นเบือแน่...รีบไปเถอะค่ะ"

นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวใช้พลังพิเศษวิ่งหาศรจนพบ ก่อนที่ศรจะทันกดรีโมตจุดระเบิด นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวชักปืนยิงรีโมตแหลกคามือ ทั้งสองคนตรงเข้าปะทะฝีมือกันมันหยดอย่างไม่มีใครยอมใคร จังหวะนั้นแสงระวีวิ่งเข้ามาพอดี ศรสบโอกาส ชักปืนยิงใส่เธอทันที นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวพุ่งรับกระสุนไว้ได้ก่อนจะถึงตัวหญิงสาวอย่างเฉียด ฉิว พอเขา
หันมาอีกที ศรหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

ไม่นานนัก ธงไทตามมาสมทบกับกุหลาบแดง ดีใจที่สถานการณ์ถูกควบคุมไว้ได้ โชคดีที่นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวมาช่วยได้ทันเวลา ธงไทอยากจะไปขอบคุณเขาและจะชวนมาร่วมกับพวกเราโค่นองค์กรเขี้ยวพยัคฆ์ กุหลาบแดงบอกว่าตอนนี้นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวอยู่กับแสงระวี แต่พอธงไทไปถึง เขาหายตัวไปแล้ว...

ด้านศรเจ็บใจที่เสือมาขัดขวางแผนการ เลยมาลงกับมะลิแทน ขู่จะทำให้เธอกลัวจนสติฟั่นเฟือน จำแม้แต่พี่ชาย ตัวเองไม่ได้ ศรท่องคาถาเรียกผีดิบให้ปรากฏตัวขึ้นล้อมกรอบมะลิไว้ มะลิร้องลั่นกลัวสุดขีด...

อำนาจไม่พอใจมากที่แผนการก่อวินาศกรรมล้มเหลว กำนันฉ่ำได้ทีโยนให้เป็นความผิดของเสือที่มาขัดขวาง แนะอำนาจว่าในเมื่อเสือกับนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวเป็นคนคนเดียวกัน เราน่าจะกำจัดมันให้รู้แล้วรู้รอด

"ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก็บมันเอาไว้ ที่ฉันห้ามเพราะไม่อยากให้พวกแกทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ การส่งคนของเราไปจัดการกับบักเสือ ถึงจะทำให้มันไม่มาขวางเราอีก

แต่ถ้าเกิดมีคนอย่างบักเสือลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าๆแบบมัน เราไม่ต้องเสียเวลากับพวกบ้าๆแบบนี้อีกเหรอ"

"ขนาดตำรวจยังทำอะไรเราไม่ได้ หมดบักเสือไปคน คงไม่มีใครบ้าหาเรื่องตายแบบมันอีก"

อำนาจไม่เห็นด้วยที่ศรคิดแบบนั้น พยักหน้าให้ลิงลมหยิบภาพถ่ายหญิงสาวในชุดสีแดงสวมหน้ากากให้ศรดู อำนาจเล่ารายละเอียดว่า เธอคนนี้เรียกตัวเองว่ากุหลาบแดง ไม่กี่วันก่อน เธอโผล่มาเล่นงานคนของเรา ปฏิบัติการของเธอเหมือนเสือทุกอย่าง ถ้าเรากำจัดพวกนี้ไปหนึ่งคน ก็ต้องเสียเวลาตามเก็บพวกที่เหลืออีก สู้จัดการลงมือทีเดียวพร้อมกันดีกว่า

ไม่ต้องเหนื่อย ศรมองอำนาจอย่างสงสัยว่ามีแผนอะไร...
อ่านละครย่อเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ตอนที่ 13
ที่มาไทยรัฐ