อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน วันที่ 28 กันยายน 2553

อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน วันที่ 28 กันยายน 2553
“คนพรรค์นั้นทำอะไรเป็น...จับเข็มก็ไม่ติดมือ ซักผ้าก็บิดน้ำไม่แห้ง กวาดบ้านกวาดเรือนก็พอจะทำได้อยู่...แต่แม่ไม่อยากให้เข้าไปทำข้าวของในห้องแม่เสีย ๆ หาย ๆ ก็เลยต้องเลี้ยงเสียข้าวสุกไปแบบนี้”

โอชินลุกจากห้องเดินผ่านได้ยินเสียง สองคนแม่ลูกนั่งชยันโตถึงตนอยู่ในห้องกลาง พยายามเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง แล้วย้อนกลับมายังได้ยินเสียงเขาสนทนากันชัดเจน

“พี่ริวโซ่ก็เหลือเกิน ไปคว้าผู้หญิงยังงั้นมาเป็นเมียได้”

“เอาเถอะ ปล่อยให้มันอยู่เฉย ๆ อีกหน่อยมันก็คงรู้สึกตัว ถ้าไม่รู้สึกก็เห็นต้องออกปากไล่กันบ้าง บ้านทาโนะคุระไม่ต้อนรับคนที่เลี้ยง เสียข้าวสุกนะ”

โอชินย่างเท้ามาถึงห้องเฉลียงรับลมจากภายนอก มองเข้าไปภายในหัวใจเต้นระทึก ยิ่วกำลังนอนหลับอยู่อย่างสบาย มีมุ้งครอบปกคลุมอยู่ หัวใจเต็มไปด้วยความทรมานด้วยความคิดถึง ค่อยเขยิบปลายเท้าแผ่วเบาตรงเข้าไปเพื่อจะกอดจูบลูกให้สมกับความคิดถึง ทันทีเสียงจึเนะโกะร้องเรียก โอชินชะงัก รีบหันกลับย้อนไปทางเดิมตรงไปหาจึเนะโกะในห้องครัว

จึเนโกะทำอุด้งให้กิน โอชินตรงเข้าไปจัดการเพราะรู้สึกหิว ยังไม่ทันจะปรุงอะไรให้เข้าที่เข้าทาง เสียงโอคิโย่ซึ่งนั่งอยู่กับบุตรสาวในห้องกลางติดห้องครัวก็ดังขึ้นมาว่า

“เฮ้อ...นึกไม่ถึงเลยนะเนี่ย คนเอาแต่นอนทั้งวันกลับมีแรงกินกลางวันหน้าตาเฉย”

“กรรมของคุณพ่อและพวกพี่ ๆ ใจอ่อน จนเกินไปก็ถูกผู้หญิงหลอกง่าย ๆ แบบนี้แหละค่ะ”

“สมัยที่แม่เป็นสะใภ้ คุณย่าของลูกดุยังกะอะไรดี แม่ขนาดเป็นไข้ตัวร้อนจัดยังไม่กล้าคิดจะล้มตัวนอนเลย เมื่อถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ หิวแค่ไหนก็ไม่กล้ากินหรอก สะใภ้เมืองซาง่าเขาเป็นแบบนี้ แต่นี่อะไรกันเหนื่อยนิดหน่อย โอ๊ย...ทำงานไม่ไหวขึ้นมาละ...จะกินท่าเดียว”

“พี่จ๋า...ขอบคุณนะคะ...แต่กินไม่ลงแล้วค่ะ” พลางลุกขึ้นจะกลับไปที่ห้อง

โอคิโย่เรียกโอชินเสียงลั่นก่อนจะสั่งให้กลับมากินอุด้งที่ปรุงไปแล้ว

“เมื่อไม่กิน ทำไมมาผสมให้เสียของ อ้อ...ไม่พอใจคำพูดของฉันล่ะซี...เดี๋ยวก็คงจะต้องไปสำออยกับริวโซ่ ว่าถ้านอนอยู่เฉย ๆ ก็จะไม่ให้กินข้าว...ฉันไม่เคยพูดนะว่าไม่ให้แก กินข้าวน่ะ “จึเนะโกะ...เอาไปให้เขาหน่อยสิ... ประเคนหน่อย...ทำแล้วอย่าให้เสียของฉันไม่ชอบ ให้กินจนพอเลยก็แล้วกัน...”

โอชินยืนค้างทำอะไรไม่ถูก จิตใจเต็มไปด้วยความแค้นใจหาทางระบายไม่ได้

“ทำไมไม่รีบกินเข้าไปล่ะ”

โอชินจึงค่อย ๆ สืบเท้ามานั่งลงข้างชามอุด้ง จับตะเกียบกล่าวขอบคุณเสียงแผ่วเบา แล้วตักอุด้งกลืนกินผสมน้ำตาที่ตกคลั่กอยู่ในทรวงอก

---@@@---

ในวันต่อมาไดโงะโร่จึงพบโอชินเข้ามาที่ห้องกลางเพื่อบอกว่าจะออกไปทำงานอย่างเคย โอชินอ้างว่าได้พักวันหนึ่งแล้วจึงรู้สึกสบายขึ้นมาก วันนี้จึงจะออกไปทำงานในไร่ต่อ ไดโงะโร่ย้อนถามด้วยความไม่เข้าใจ คำถามของไดโงะโร่ดังพอที่จะเข้าหูโอคิโย่ซึ่งนั่งอยู่เคียงข้าง แต่โอคิโย่ทำเป็นไม่ได้ยิน โอชินน้อมคำนับอีกครั้งก่อนจะถอยออกไป เมื่อโอชินไปแล้ว ไดโงะโร่หันมาถามภรรยา

“มีอะไรกันอีกล่ะ โอคิโย่ ต้องพูดกันเท่าไรจึงจะฟังกันบ้างนะ”

โอคิโย่รินน้ำชาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิด ขึ้น ไดโงะโร่จึงส่งเสียงดัง

“เอ...คุณนี่ก็...ฉันจะไปตรัสรู้ได้ยังไงเล่า มันไม่ได้ออกไปทำงานวันหนึ่ง มันอาจจะหายเหนื่อยของมันก็ได้นี่นา...”

ไดโงะโร่รู้ดีว่ามันไม่ได้เป็นอย่างภรรยาบอก แต่วันเวลาก็ผ่านไปอีก โดยนับตั้งแต่วันนั้นโอชินไม่ยอมหยุดงานอีกเลย ออกไปทำงานที่ไร่กับริวโซ่ทุกวันจนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ร่วง การ เก็บเกี่ยวข้าวเพื่อเก็บผลผลิตของชาวเมืองซาง่ากำลังจะมาถึง เช่นเดียวกับการกำหนดคลอดของโอชิน...ที่ใกล้เข้ามา

จู่ ๆ โอคิโย่ก็เรียกโอชินเข้ามาพบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอีก โอชินได้แต่นึกในใจว่าแม่สามีจะมาไม้ไหนอีก โอคิโย่ถามว่าเตรียมทุกอย่างพร้อมหรือยังก่อนจะเข้าเรื่องเมื่อโอชินบอกว่าพร้อมแล้ว

“ดี...ฉันจะบอกให้นะ...ห้องเก็บของน่ะ จะใช้เป็นห้องคลอดของอาจึโกะเขา...ส่วนเธอฉันอนุญาตให้ใช้บ้านหลังใน ตอนนี้ถึงมันจะผุพัง ไปบ้างก็ยังใช้เป็นห้องคลอดได้ พรุ่งนี้หยุดงานซะครึ่งวันไปทำความสะอาด...”

บ้านหลังใน เดิมทีสมัยที่ทาโนะคุระยังเป็นราชาที่ดิน ใช้เป็นสถานที่พักอาศัยของคนงาน ปัจจุบันเป็นห้องเก็บของที่รกรุงรังไม่ได้ทำความสะอาดมาแรมเดือนแรมปี ตั้งอยู่นอกอาณาเขตของบ้านทาโนะคุระ แต่ก็ติดกันแค่ข้ามประตูมาก็ถึงแล้ว

โอชินเข้าใจดีว่าเพราะเหตุใดมารดาของสามีจึงระเห็จตนไปคลอดลูกนอกเขตบ้านทาโนะคุระ มันเป็นเพราะนิยายงมงายเรื่องนั้นเอง ที่จะให้มีการคลอดพร้อม ๆ กันทีเดียวสองคนไม่ได้ในบ้านหลังเดียวกัน...

ริวโซ่ถึงกับแทบลมจับ เมื่อค่อย ๆ ผลักบานประตูออกและมองเข้าไปข้างในเห็นหยากไย่เต็มไปทั้งห้องมืดมิด

“ไอ้แบบนี้มันจะอยู่กันได้ยังไง”

“ช่างเถอะค่ะ เราเก็บกวาดเฉพาะตรงส่วน ที่จะพอคลอดก็แล้วกัน ใช่ว่าจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนตายเมื่อไรกันคะ”

โอชินตอบสามีอย่างไม่สะทกสะท้าน จิตใจแห่งความเป็นแม่กำลังสมบูรณ์เต็มขีดสุด อีกไม่ช้าสายเลือดก้อนหนึ่งของเธอก็จะออกมาผจญ โลกแล้ว...ชีวิตในวันข้างหน้าไหนเลยจะต้องเลี้ยงลูกน้อย ทารกไม่เดียงสา ไหนเลยจะต้องทำงานราวกับทาส คงจะต้องลำเค็ญเหนือกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่านัก...

---@@@---

ตอนที่ 34

วันรุ่งขึ้นโอชินกับริวโซ่ได้พักงานครึ่งวันเอาเวลาไปชำระคราบสกปรกอันเรื้อรังมาแรมปีของบ้านหลังใน นอกเขตบริเวณบ้านทาโนะคุระ ทันทีที่เห็นสภาพบ้านริวโซ่ก็แทบทรุดรู้สึกราวกับตัวเองไม่ใช่ทายาทคนหนึ่งของตระกูลที่สามารถติดดาบได้อย่างสมเกียรติยศซามูไร ทุกครั้งที่เขามองดูเมียท้องแก่หยิบโน่นฉวยนี่อย่างฉับไวและกระฉับกระเฉงเขาอดแปลกใจในความอดทนแห่งการสู้กับชีวิตของเธอมิได้

เขาอาจจะกระทำความผิดอย่างใหญ่หลวงในการที่เขาตัดสินใจนำโอชินมาที่เมืองซาง่า ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนเรื่องใหญ่โตล้วนแล้วแต่ผิดความคิดหมายไปเสียทั้งสิ้น สำหรับ โอชินแล้วเธอคุ้นเคยดินมาแต่เล็กแต่น้อย ชีวิตของเธอดูเหมือนจะเป็นหนี้บุญคุณแก่ดินอย่างมากมาย อย่างชนิดจะใช้เอาไม่หมดทีเดียว ชีวิตที่ดำเนิน มาบางครั้งเท้าลอยเหนือดินแต่แล้วมันกลับจมดินลงอีกครั้งและอีกครั้ง

โอชินถือเป็นเรื่องเคราะห์กรรมที่เธอจะต้องมาคลอดนอกเขตบ้านทาโนะคุระ แต่เป็นการดีแล้วที่เคราะห์ร้ายเสียก่อนจะเคราะห์ดีได้ คลอดลูกอย่างปลอดภัย...สำหรับเธอ...ดูเหมือนดินฟ้าอากาศช่างเต็มไปด้วยวิญญาณที่ร้ายกาจนักหนา ไม่สามารถจะทนดูโอชินมีความสุขได้ ริวโซ่กับ โอชินช่วยกันชำระส่วนหนึ่งของบ้านหลังนั้นจนสะอาดเรียบร้อยในเวลาโพล้เพล้ โอคิโย่ เดินซอยเท้ามาจนถึงข้างในแลดูความเรียบร้อยที่ไม่น่าเชื่อ

“จัดการได้เรียบร้อยดีนี่”

“ก็ได้คุณริวโซ่ช่วยแหละค่ะ”

“บ้านสมัยก่อนนี้สร้างแข็งแกร่งดีจังครับคุณแม่...ได้เห็นเนื้อไม้แล้วแบบนี้ไต้ฝุ่นยังไม่ต้องไหวหวั่นเลยนะครับ”

“โอชินอาจจะเจ็บท้องเมื่อไรก็ได้ ถ้ายังไงริวโซ่มานอนเสียด้วยกันก็ได้นะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เจ็บท้องก็ยังมีเวลาเรียกหาทันถมไปค่ะ”

“แต่เธออาจจะเจ็บตอนเที่ยงนางกลางคืนก็ได้ ฉันมานอนเป็นเพื่อนจนกว่าจะคลอดก็แล้วกัน”

“ดี...แม่ค่อยสบายใจหน่อย นี่เป็นกระดาษ น้ำมัน...รู้แล้วไม่ใช่รึว่าเวลาคลอดจะต้องปูกระดาษนี้ไปข้างบนพื้น”

“ทราบค่ะ”

“อาจึโกะก็ ต้องเตรียมกระดาษน้ำมันให้เหมือนกัน...ก็เลยซื้อมาให้ด้วย”

“ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง”

“เฮ้อ...เธอกับอาจึโกะนี่ ไม่รู้ใครจะคลอดก่อนใคร...อยากให้มันเสร็จไปซะเร็ว ๆ แม่ละก็หายใจไม่ทั่วท้องมาหลายวันแล้ว”

โอคิโย่เดินกลับเข้าไปในบ้านทาโนะคุระส่งเสียงหัวเราะทับถมความกังวลอันใหญ่หลวงสืบเนื่องมาแต่ความเชื่อที่ว่า ถ้าคลอดพร้อมกันสองคนในบ้านเดียวกัน...จะมีความตายเกิดขึ้น...

“เฮ้อ บ้านใหญ่ ละก็ตื่นเต้นเสียจริง ๆ”

“แต่ถึงไง คุณแม่ก็ยังกรุณาเป็นห่วงฉันนะคะคุณ”

“ใช่ละซี...ก็อุตส่าห์ไล่เธอออกมาจากบ้านนี่...”

โอชินยิ้มฝืดเคืองพอดีกับจึเนะโกะปรากฏ ที่ประตูบ้าน “อ้อ...พี่จึเนะ...”

“คิดว่าเข้านอนแล้ว น่าสังเวชโอชินเสียจริง เผอิญจะต้องมาคลอดพร้อมกับอาจึโกะด้วย... ไม่งั้นก็ไม่ต้องออกมาลำบากที่นี่หรอก เอาผ้าผืนนี้ปูพื้นชั้นหนึ่งก่อนค่อยปูกระดาษน้ำมันทับ เวลาคลอดหัวเด็กจะได้ไม่กระแทกพื้น ข้างในยัดปอไว้ถือว่าเป็นคาถากันผี...เมื่อเตรียมให้อาจึโกะฉันก็เลยทำเผื่อเธอด้วย”

“ให้ฉันรึคะ พี่”

“ฉันมันแค่สะใภ้ ทำอะไรให้มากกว่านี้ก็ไม่ได้ทั้ง ๆ ที่อยากจะทำ คิดว่าเป็นน้ำใจก็แล้วกันนะ”

“ขอบคุณค่ะ”

ที่มา เดลินิวส์