อ่านละครย่อเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ตอนที่ 6

อ่านละครย่อเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ตอนที่ 6
แสงระวีถูกมัดมือมัดปากพามาขังไว้ในโกดังของสำนักพิมพ์ เสียงมือถือในกระเป๋ากางเกงของแสงระวี ปลุกเธอให้รู้สึกตัวตื่นขึ้น เธอพยายามดิ้นรนจะรับสาย แต่ไอ้
โม่งเข้ามาแย่งมือถือไปเสียก่อน แสงระวีส่งเสียงอู้อี้ๆน่ารำคาญ ไอ้โม่งดึงผ้าปิดปากออก แสงระวีขู่ทันที

"แกหนีไม่รอดแน่ มีตำรวจกำลังจะมาหาฉันที่นี่ อีกเดี๋ยวเขาก็คงจะมาถึงแล้ว"

ไอ้โม่งหัวเราะฮึๆ "ผู้กองสิงห์น่ะเหรอ...ถ้าคนอื่นจะต้องตายโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็โทษนิสัยแส่ชอบยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งของแกก็แล้วกัน" ไอ้โม่งดึงผ้าปิดปากแสงระวี
แล้วราดน้ำมันก๊าดไปรอบๆโกดัง...

ขณะขับรถไปหาแสงระวี สิงห์โทร.หาเธอตลอดทาง แต่ไม่มีคนรับสายชักเป็นกังวล เร่งความเร็วรถขึ้นอีก จังหวะนั้น มีรถกระบะคันหนึ่งแล่นสวนมา พอเห็นรถ
ของสิงห์ คนขับรถกระบะแล่นข้ามเลนเข้าหา สิงห์ต้องหักพวงมาลัยหลบ รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง หัวเขากระแทกพวงมาลัยคิ้วแตกเลือดอาบ

ไอ้โม่งสองคนลงจากรถหมายจะฆ่าสิงห์ แต่สิงห์มีฝีมือเหนือกว่ายิงไอ้โม่งคนหนึ่งตาย ส่วนอีกคนหนึ่ง เขาจับหัวกระแทกฝากระโปรงรถสลบ สิงห์ใกล้หมดแรง

แต่พยายามรวบรวมกำลังเดินมาที่รถของคนร้าย รีบขึ้นรถขับตรงไปหาแสงระวี...

ครู่ต่อมา สิงห์มาถึงสำนักพิมพ์ฟ้าใหม่ เห็นไฟไหม้โกดังเก็บของ รู้ทันทีว่าแสงระวีต้องอยู่ในนั้น วิ่งฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปอุ้มหญิงสาวซึ่งหมดสติออกมาได้ทัน...

ในเวลาเดียวกัน กำนันฉ่ำส่งศรกับสมุนมาจับตัวคนในครอบครัวเสือพาแยกกันไปคนละทาง ลิงลมพามะลิไป เห่าดงคุมตัวแม่ไว้ หมีควายจับพ่อไป เสือจะตามไปช่วย
แต่ศรเข้ามาขวางไว้

"เอ็งต้องคว่ำข้าให้ได้ก่อนว่ะ บักเสือ ไม่งั้น...เอ็งช่วยครอบครัวเอ็งไม่ได้แน่ๆ"

ในเมื่อศรอยากหาเหาใส่หัว เสือยินดีจัดให้ ศรไม่ได้ต่อสู้กับเสือแบบแฟร์ๆ แต่กลับใช้ปืนไล่ยิงอุตลุด เสือหลบหลีกคมกระสุนได้ว่องไวอย่างเหลือเชื่อ จนศรเองอด
แปลกใจไม่ได้ ระหว่างที่ศรกำลังวาดปากกระบอกปืนไปรอบๆ เสือโผล่มาด้านหลังเอามือจับปากกระบอกปืนไว้ ขู่ตะคอกเสียงลั่น

"ไปให้พ้นบ้านข้า ไม่อย่างนั้นเอ็งต้องเสียใจ"

ศรไม่สนใจคำขู่ เหนี่ยวไกปืนขณะเสือเอามืออุดปากกระบอกปืนไว้ ปืนระเบิดใส่หน้าศรเต็มๆเลือดไหลนอง นอนดิ้นพราดๆร้องขอความช่วยเหลือลั่น เสือไม่สนใจ
วิ่งตามเห่าดงซึ่งลากตัวพุ่มแม่ของเสือไป อึดใจเดียว เสือโผล่มาประชิดตัวเห่าดง แย่งมีดพกไปจากมือเขาอย่างง่ายดาย แล้วสับศอกเข้าหน้าเต็มๆ เห่าดงสลบกลาง
อากาศ พุ่มบอกเสือให้รีบไปช่วยพ่อกับมะลิ

"ไม่ต้องห่วงจ้ะแม่ ฉันต้องช่วยพ่อกับน้องให้ได้" เสือวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุพัดผ่าน พุ่มยืนงง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสามารถทำแบบนี้ได้...

เสือตามลิงลมจนทัน ทั้งสองคนตรงเข้าต่อสู้กัน เสือเสียท่าโดนหมัดลิงลมกระเด็นหงายหลัง มะลิคว้าไม้ใกล้มือฟาดใส่ลิงลม แต่เขาไวกว่า คว้าข้อมือเธอบิดอย่างแรง
แล้วต่อยท้องน้อยมะลิหมดสติ เสือโกรธมาก ตั้งท่าไม้ตายหมัดเขวี้ยงควายจะเล่นงานลิงลม แต่หมีควายโผล่เข้ามาล็อกเขาจากด้านหลัง

ลิงลมได้ทีอัดกำปั้นใส่เสือไม่ยั้งหน้าตาแตกเลือดโชก เสือเริ่มหมดแรงคอตก ลิงลมยังไม่หยุดประเคนเข่าสั้นใส่ท้อง เสือจุกตัวงอทรุดฮวบ หน้าคว่ำลงไปกับพื้น หมี
ควายยื่นปืนให้ลิงลม

"จัดการมันให้จบๆไปเลย มันจะได้ไม่มาเป็นเสี้ยนหนามกำนันอีก"

ทันใดนั้น เห่าดงวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกลิงลมว่าศรโดนเสือเล่นงานหนัก ถ้าไม่พาไปโรงพยาบาลมีหวังตายแน่ ลิงลมแค้นใจมาก ยิงใส่เสือเป็นชุด กระสุนพุ่งเจาะ
หลัง เสือนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น

ooooooo

สิงห์นั่งเฝ้าแสงระวีอยู่ในห้องพักฟื้นคนไข้จนถึงรุ่งเช้า พอจ่าเพิ่มกับหมู่แย้มมาถึง สิงห์ชวนออกมาคุยกันที่โถงทางเดิน จ่าเพิ่มรายงานว่าโกดังของสำนักพิมพ์ เสีย
หายเกือบทั้งหมด มี รปภ.เสียชีวิตหนึ่งราย และไม่พบร่องรอยของคนที่ทำร้ายแสงระวี ส่วนไอ้โม่งสองคนที่เล่นงานผู้กองก็ไม่เจอหลักฐานอะไรให้ตรวจสอบ

"พวกมันวางแผนเอาไว้หมดแล้ว โจมตีแล้วกลบเกลื่อนร่องรอยไม่ให้ตามได้"

สิงห์ว่าแล้วถอนใจเหนื่อยใจ ยิ่งได้ฟังจ่าเพิ่มตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิบัติการแนบเนียนขนาดนี้ ต้องมีฝีมือระดับพระกาฬ สิงห์ยิ่งเป็นห่วงความปลอดภัยของแสงระวี

จังหวะนั้นธงไทเดินสีหน้าวิตกกังวลเข้ามาบอกสิงห์ว่า แสงระวีหายตัวไป หมอจะเข้ามาตรวจดูอาการไม่เห็นอยู่ในห้องพักฟื้นแล้ว

"แสงระวียังบาดเจ็บอยู่ น่าจะไปไม่ไกล หมู่ จ่ารีบช่วยกันตามหา"

ไม่นานนัก สิงห์ตามแสงระวีทันตรงหน้าโรงพยาบาล พอรู้ว่าเธอจะไปช่วยเสือกับครอบครัว สิงห์ขอร้องว่ารอให้หายดีก่อนค่อยไป แสงระวีโกหกว่าตัวเองไม่ได้เป็น
อะไร แต่พอก้าวเท้าเดิน เซจะล้ม สิงห์รีบเข้าไปประคอง เขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวลเรื่องของเสือ เลยอาสาไปช่วยเสือแทนเธอ...

ด้านเสือถูกเคนกับลุงมั่นพามาให้หลวงพ่อเข้มรักษาอาการบาดเจ็บ หลวงพ่อเอาหัวกระสุนออกจากตัวเสือได้หมด บอกเคนว่าเสือมีพลังข้าวเหนียว พักไม่นานก็คงฟื้น

แต่ปลิวพ่อของเสือไม่โชคดีอย่างนั้น...

กำนันฉ่ำโกรธแทบคลั่งเมื่อรู้จากลิงลมว่าเสือยังไม่ตาย กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่วัดดอนควาย ผิดกับศรที่ต้องนอนอยู่ในห้องไอซียู เป็นตายเท่ากัน กำนันฉ่ำต้องการให้
เสือชดใช้ที่ทำให้ลูกของเขาบาดเจ็บสาหัส จึงไปแจ้งความกับตำรวจว่าเมื่อคืนนี้เสือกับปลิวบุกเข้าไปขโมยของในบ้านของ เขาและทำร้ายร่างกายศร เขาเลยจำเป็น
ต้องยิงปลิวเพื่อป้องกันตัว แถมสร้างหลักฐานเท็จเอาของมีค่าของตัวไปซ่อนในบ้านเสือ

ตำรวจหลงเชื่อส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาจับเสือที่วัดดอนควาย หลวงพ่อเข้มรู้ทัน บอกเคนให้พาเสือไปหลบในป่าช้าหลังวัด ทั้งคู่มาซ่อนตัวอยู่แถวหลุมฝังศพของเสือเชิด

"พวกมันฆ่าพ่อข้า ทำร้ายน้องสาวกับแม่ข้า แล้วยังมายัดเยียดข้อหาให้ข้าเป็นคนผิด ความยุติธรรมมันไม่เคยมีอยู่เลยหรือวะ" เสือเคียดแค้นสุดขีด

เคนปลอบให้ใจเย็นๆก่อน ตอนนี้ตำรวจเชื่อตามหลักฐานที่กำนันสร้างขึ้น แต่ถ้าเราเอาเรื่องนี้ไปบอกแสงระวี บางทีเธออาจจะหาทางช่วยเขาได้ เสือไม่ต้องการความ
ช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น นอกจากสองมือของเขาเอง แล้วหันไปคว้าจอบที่วางไว้แถวนั้น ขุดตรงที่ลุงมั่นฝังกล่องปืนของเสือเชิดไว้

เสือได้ปืนของเสือเชิด รีบตรงไปบ้านกำนันฉ่ำทันที เคนรู้ว่าเสือคิดจะทำอะไร พยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล โทสะบังตาจนเสือไม่ฟังอะไรทั้งนั้น...

ฝ่ายมะลิพยายามอธิบายว่าตำรวจกำลังเข้าใจเสือผิด กำนันฉ่ำกับพวกต่างหากที่บุกบ้านของเธอ และฆ่าพ่อของเธออย่างเลือดเย็น ตำรวจเกรงอิทธิพลของกำนันฉ่ำ
เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถามหาหลักฐานจากมะลิ ลุงมั่นโกรธชี้ไปบนศาลาสวดศพ บอกว่าศพของปลิวเป็นหลักฐานตำตาอยู่แล้ว แต่ตำรวจไม่สนใจ...

สิงห์พาแสงระวีกลับมาห้องพักฟื้น บอกเธอว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะรีบไปหมู่บ้านดอนควายให้เร็วที่สุด และจะช่วยเหลือเสืออย่างเต็มความสามารถขอให้เธอพักผ่อน รักษาตัวให้หาย ธงไทเดินออกมาส่งสิงห์หน้าห้อง สิงห์บอกธงไทว่า ระหว่างที่เขาไม่อยู่จะให้จ่าเพิ่มกับหมู่แย้มคอยดูแลความปลอดภัย ให้ ธงไทขอบใจสิงห์ที่คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยแสงระวี

ooooooo

พอกำนันฉ่ำรู้ว่าเสือหนีรอดเงื้อมือตำรวจไปได้ สั่งสมุนของตนออกตามล่า แล้วสั่งเห่าดงไปเฝ้าศรที่โรงพยาบาลเผื่อเสือคิดจะตามไปทำร้าย ลิงลมขอล่าเสือ ด้วยตัวเอง ให้หมีควายกับคนอื่นๆอยู่คุ้มครองกำนันที่นี่ กำนันฉ่ำปฏิเสธว่าไม่ต้อง เขามั่นใจว่าเสือไม่กล้าเสนอหน้ามาที่นี่แน่

แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างกำนันฉ่ำคาด เสือบุกมาถึงบ้านกำนันฉ่ำพร้อมกับปืนของเสือเชิด ขู่ว่าถ้ากำนันอยากมีชีวิตรอด ต้องยอมรับผิดกับตำรวจว่าฆ่าพ่อของเขา
และกุเรื่องใส่ความเขา

"ฝันกลางวันไปเถอะ เอ็งอยากทำอวดเก่งใส่ข้ามาตลอด แล้วยังทำให้ลูกข้าต้องเสียโฉม สายไปแล้วที่ข้าจะทำตามคำขอร้องเอ็ง"

"งั้นกำนันก็ต้องตาย" เสือชักปืนออกมาเล็งไปยังกำนันฉ่ำ เล่นเอากำนันฉ่ำชะงัก แต่ยังปากดีขู่ว่าถ้าเสือฆ่าเขา

ก็ ต้องติดคุกตลอดชีวิต แถมยังหยุดแผนการของเขาไม่ได้ เพราะเขายังมีศรที่จะช่วยสานงานต่อ คราวนี้มะลิกับพุ่มไม่มีทางรอดเงื้อมมือศรไปได้ กำนันฉ่ำหัวเราะสะใจ เสือโกรธสุดๆเหนี่ยวไกปืนทันที

กำนันฉ่ำตกใจ คาดไม่ถึงว่าเสือจะกล้ายิงหลับตาปี๋คิดว่าตัวเองไม่รอด แต่ปืนกลับยิงไม่ออก เสือเหนี่ยวไกซ้ำแล้ว

ซ้ำอีก ปืนก็ยังยิงไม่ออก นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อเข้มขึ้นมาได้

"เวลานี้ใจของเอ็งมีแต่โทสะและโมหะคิดแต่จะทำลายล้างศัตรูให้พบกับหายนะปืนมันถึงไม่ทำงาน"

เสือ เข้าใจแล้วว่าทำไมปืนถึงยิงไม่ออก ระหว่างนั้นเสียงรถหวอตำรวจดังใกล้เข้ามา กำนันฉ่ำได้ทีคุยทับว่าดวงตัวเองแข็งกว่าดวงของเสือ แล้วตะโกนเรียกตำรวจให้มาจับเสือ

"เรื่องระหว่างฉันกับกำนันยังไม่จบ หรอก จำคำพูดของฉันไว้ให้ดี ถึงฉันจะถูกต้อนให้จนตรอก แต่ฉันก็ไม่หยุดสู้... ตรงกันข้ามฉันจะยิ่งสู้ให้หนักกว่าเดิม สู้ด้วยความยุติธรรม"

เสือกระโจนหนีออกทางหน้าต่าง รอดพ้นตำรวจมาได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นเขากลับมาที่วัดดอนควาย พุ่ม มะลิ เคน ดอกสร้อยกับลุงมั่นต่างดีใจที่เสือไม่ได้ทำร้ายกำนันฉ่ำ เสือเข้าไปคุยกับหลวงพ่อเข้มเพียงลำพังในโบสถ์ วางปืนของเสือเชิดตรงหน้าหลวงพ่อแล้วก้มกราบขอโทษ

"เพราะความวู่วามเอาแต่โทสะเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่ได้ปืนของเสือเชิดห้ามไว้ ผมก็คงต้องกลายเป็นคนเลวไม่ต่างจากพวกกำนันฉ่ำ"

หลวง พ่อดีใจที่เสือคิดได้ แม้ตอนนี้เสือจะต้องเผชิญกับวิบากกรรม ก็ขอให้คิดเสียว่าวิบากกรรมครั้งนี้ อาจจะเป็นโอกาสให้เสือได้ใช้พลังข้าวเหนียวผดุงความยุติธรรม เสือทำหน้างง

"เอ็ง เคยตั้งคำถามกับหลวงพ่อมาตลอดไม่ใช่เหรอว่า ทำไมเหล่าเทพเทวดา ฟ้าดิน ถึงได้มอบพลังพิเศษนี้ให้กับเอ็ง... นี่แหละคือคำตอบ เขามอบพลังอันยิ่งใหญ่ก็เพื่อจะมอบหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้เอ็งด้วย"

เสือ เข้าใจแล้วว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร และจะพยายามทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด หลวงพ่อเข้มบอกเสือให้เก็บปืนของเสือเชิดไว้ วันหนึ่งเขาอาจต้องใช้มัน เสือเก็บปืนเหน็บเอวไว้ ก้มกราบ ลาหลวงพ่อ...

ถึงเวลาที่เสือจะไปจาก บ้านดอนควายแล้ว เขากราบลาแม่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า มะลิจะขอไปด้วย ลุงมั่นค้านว่าจะทำให้ เสือลำบากเปล่าๆ เสือสัญญาว่าเมื่อใดที่หาความยุติธรรมเจอ เขาจะกลับมาหาแม่กับน้อง มะลิไม่อยากแยกกับพี่ชาย ร้องไห้ ฟูมฟายกอดเอวเขาไว้แน่น

"มะลิจ๊ะ ฟังพี่นะ พี่กับมะลิไม่ได้อยู่ห่างกัน เราจะอยู่ ด้วยกันเสมอ นี่ไงมะลิเห็นไหม" เสือเอาผ้าขาวม้าที่พันคอให้ดู "ผ้าที่มะลิให้พี่ไว้ พี่จะพกติดตัวเสมอ เหมือนว่ามะลิอยู่ใกล้ๆ พี่ตลอดเวลา"

เสือเดินจาก ไปพร้อมกับเคน มะลิกับดอกสร้อยกอดคอกันร้องไห้ระงม เคนพาเสือลัดเลาะมาทางหลังวัด เสือเร่งให้ รีบๆพาตนเองหนี ตำรวจใกล้เข้ามาทุกที เคนพาเสือมาถึงกระต๊อบ ซึ่งมีซากมอเตอร์ไซค์เกลื่อนพื้น เปิดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นรถมอเตอร์ไซค์สีดำ เคนตั้งชื่อมันว่า "บุญลือควายเหล็ก" คุยว่า ตัวเองสร้างมอเตอร์ไซค์คันนี้กับมือจากเศษเครื่องยนต์เหลือๆ เขายกให้เสือไว้ใช้หนีตำรวจ เสือขอบใจเพื่อนซี้มาก

เคนหยิบกระดาษ โน้ตยื่นให้เสือ "เอ็งไปถึงกรุงเทพฯเมื่อไหร่ ไปตามที่อยู่นี่ บอกเขาว่าบักเคนให้มา เขาจะช่วยเหลือ เอ็งทุกอย่าง...ข้าจะอยู่ที่นี่ช่วยดูแลแม่กับน้องเอ็งให้ จนกว่าจะแน่ใจว่าพวกกำนันฉ่ำไม่มายุ่งอีก แล้วข้าจะรีบตามไปช่วยเอ็งที่โน่น"

เสือซึ้งน้ำใจเพื่อน รับหมวกกันน็อกมาสวม สตาร์ตเครื่อง ก่อนทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงรถหวอตำรวจดังไล่หลังเขาไป เคนมองตามเสือล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเหรียญสิบบาทที่เสือเคยให้ ดีดลอยขึ้นก่อนจะตบลงที่หลังมือเป็นการเสี่ยงทายชะตาชีวิตของเพื่อนรัก เขาค่อยๆเปิดมือดู ยิ้มพอใจ "โชคดีว่ะเสี่ยว"

ooooooo

เสือ ขับมอเตอร์ไซค์หนีรอดการจับกุมของตำรวจ มาได้ เขาแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งมีร้านมินิมาร์ทอยู่ด้วย บังเอิญเหลือเกินที่สิงห์ก็แวะซื้อของ และถามทางไปบ้านดอนควายที่ร้านมินิมาร์ทแห่งนั้น ขณะสิงห์กำลังยืนฟังผู้จัดการร้านบอกเส้นทาง มีชายวัยรุ่นสองคนควงปืนเข้ามาจี้ชิงทรัพย์ในร้าน

ขู่ว่าถ้าใครส่ง เสียงจะยิงไส้แตก สิงห์ขยับมือไปแตะปืนที่เอวยังไม่ทันจะชักออกมา วัยรุ่นคนหนึ่งจ่อปืนที่หัวเขาเสียก่อน สั่งให้ทุกคนในร้านไปรวมกันหน้าตู้แช่ ลูกค้าชายคนหนึ่งอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีออกไปนอกร้าน โจรวัยรุ่นใจเหี้ยมตามออกไปยิงทิ้งก่อนกลับเข้าร้านมินิมาร์ทเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น

ทุกคนในปั๊มน้ำมันต่างตกใจกรีดร้องลั่น เด็กปั๊มรีบโทร.แจ้งตำรวจ เสือได้ยินคำว่าตำรวจเตรียมจะหนีต่อ แต่มีหญิงแก่คนหนึ่งวิ่งเข้ามาร้องโวยวายว่าลูกสาวของเธออยู่ในร้าน ใครก็ได้ช่วยลูกของเธอที ไม่มีใครกล้าเสี่ยง หญิงแก่จะเข้าไปช่วยลูกด้วยตัวเอง เสือรีบตามมาห้าม

"ข้างในนั้นมันอันตราย เดี๋ยวผมจะช่วยลูกสาวป้าเอง"

เสือ แอบเข้าไปในร้านทางประตูหลัง จังหวะนั้น รถตำรวจเข้ามาจอดในปั๊มสองคัน ตำรวจไม่ต่ำกว่า 5 คนเฝ้าระวังอยู่หน้าร้าน วัยรุ่นหัวโจกเอาปืนจี้สิงห์เป็นตัวประกันออกมาหน้าร้านยื่นข้อเรียกร้องว่า ภายใน 20 นาทีนี้ตำรวจต้องหารถตู้มาหนึ่งคันพร้อมน้ำมันเต็มถัง ถ้าช้ากว่านี้เขาจะฆ่าตัวประกันทีละคน

หัวโจกพูดเสร็จพาสิงห์กลับ เข้าร้านผลักไปที่เคาน์เตอร์เก็บเงินสั่งให้กวาดเงินใส่ถุงผ้าที่เตรียมมา สิงห์ เหลือบเห็นเสือหลบอยู่แถวชั้นวางของ เสือส่งสัญญาณเป็นทำนองให้สิงห์เล่นงานคนทางซ้าย ส่วนเขาจะจัดการคนทางขวาเอง สิงห์รอจังหวะที่จะส่งถุงเงินให้หัวโจกแกล้งทำถุงเงินหล่นพื้น

เสือ ได้ทีปราดเข้าจัดการวัยรุ่นทางขวาตามนัด สิงห์ อัดวัยรุ่นหัวโจกจนคว่ำ สองหนุ่มจัดการรวบตัววัยรุ่นทั้งคู่ ไว้ได้ สิงห์หันไปขอบใจเสือที่ช่วยเขาไว้ ทันทีที่ตำรวจเข้า เคลียร์พื้นที่ เสือหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สิงห์แปลกใจในพฤติกรรมลึกลับของพลเมืองดีคนนั้น แต่กลับต้องอึ้งเมื่อตำรวจเอารูปถ่ายของเสือให้เขาดู

อ่านละครย่อเรื่อง นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ตอนที่ 6
ที่มา ไทยรัฐ