อ่านละครย่อเรื่อง ระบำดวงดาว วันที่ 30 กันยายน 2553
“เหมยสวีทกิ๊กหนุ่มไฮโซ ควงกันจองเรือนหอ” แต้วอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับเช้านี้ เหมยเดินออกมาแต้วจึงส่งให้เหมยดู เหมย หงุดหงิดที่นักข่าวเต้าข่าวโดยที่ไม่เป็นความจริงสักนิด เพราะเขากับไม้เป็นพี่น้องกัน แต้วพยายามบอกว่าไม้ชอบเหมย แต่เหมยยืนยันว่าไม้เป็นน้องชาย แต้วบอกว่าไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน เหมยชะงักเพราะจริงอย่างที่แต้วพูด แต่ยังไงเหมยก็ยืนยันว่าเหมยไม่เคยคิดกับไม้แบบนั้น และไม่มีวันคิดด้วย เหมยหันหน้าจะเดินออกจากบ้าน ก็ชะงักเมื่อเห็นไม้ยืนจ้องเธออยู่ เหมยและไม้มองหน้ากัน คราวนี้ทั้งสองคนมีเรื่องต้องคุยกันซะแล้ว
---@@@---
ด้านปยุตรอ่านข่าวและภาพที่ลงหนังสือ ปยุตรรู้ดีว่าไม้คิดยังไงกับเหมย และแม้ว่าข่าวที่ออกมาจะเป็นเพียงการขายข่าว แต่ความรักที่ไม้มีให้เหมยมันเป็นเรื่องจริงที่ปยุตรอดหึงไม่ได้
---@@@---
เหมยกับไม้นั่งคุยกันแบบเปิดใจ เหมย บอกว่าไม่ได้คิดอะไรนอกจากเห็นไม้เป็นน้องชายและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
“เพราะพี่เหมยมีพี่ยุตรใช่มั้ย พี่เหมย ถึงรักผมไม่ได้”
“ฟังพี่นะไม้ ถึงพี่ยุตรเขาจะไม่เข้ามาในชีวิตพี่ พี่ก็ไม่มีวันคิดแบบนั้นกับไม้ ลองกลับไปคิดดูดี ๆ ว่าความรู้สึกที่ไม้มีให้กับพี่ มันใช่ความรักแบบหนุ่มสาวหรือเปล่า หรือจริง ๆ แล้วมันเป็นแค่ความผูกพันที่ไม้เข้าใจผิดไปเอง”
ไม้พูดไม่ออก เหมยเสยผมไม้ปลอบอย่างเอ็นดู “เรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะ”
ไม้มองหน้าเหมย เหมยยิ้มให้อย่างจริงใจและว่าสักวันไม้จะต้องเจอคนที่ใช่ เหมยจับมือไม้ให้กำลังใจ ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินออกไป แต่ไม้เรียกไว้ก่อนจะบอกว่าเขาจะพยายามทำอย่างที่เหมยบอก แม้ว่าจะยากก็ตาม เหมยยิ้มกว้าง ทั้งคู่เหลือเพียงความบริสุทธิ์ใจให้แก่กัน เหมยโผเข้าไปกอดน้องชายอย่างสุดรัก ไม้กอดตอบ แต่จังหวะนั้นปยุตรเดินเข้ามาเห็นช็อตเด็ดพอดี แอบจี๊ดในใจ!!! เหมยหันมาเห็นปยุตร จึงผละตัวออกจากไม้
“ผมมารับเหมยไปกองถ่าย ป่านนี้นักข่าวคงรอเหมยอยู่เต็มกองแล้วล่ะ เหมยสูดลมหายใจหนัก ๆ พร้อมเจอกับปัญหา เหมยนำเดินออกไป ปยุตรมองไม้อย่างข้องใจนิด ๆ แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่กว่า ปยุตรจึงไม่พูดอะไร และจะเดินออกไป แต่ปยุตรต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงไม้ดังขึ้นมา
“ฝากดูแลพี่เหมยแทนผมด้วยนะพี่ยุตร” ปยุตรหันกลับมา ไม้ยิ้มน้อย ๆ ให้ ปยุตรยิ้ม ออกมาได้บ้างเหมือนกัน
---@@@---
ป้องนั่งสับสนจมกับความคิดของตัวเอง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจโทรฯ หากันต์ กันต์ซึ่งกำลังดูแลแม่กุ้ง เห็นป้องโทรฯ เข้ามาก็ไม่อยากรับเพราะยังน้อยใจเรื่องที่ป้องแถลงข่าวว่าไม่ได้คิดอะไรกับกันต์ กันต์เดินออกจากห้องมารับโทรศัพท์ เสียงกันต์เรียบนิ่งพร้อมรับฟังทุกอย่าง ป้องไม่ได้บอกอะไรมากแค่บอกว่าตอนเย็นจะไปหาที่โรงพยาบาล หลังวางสาย ทั้งคู่ต่างก็หนักใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
---@@@---
เหมยตอบคำถามนักข่าวตามความจริงว่าบ้านที่จะซื้อ เธอและไม้น้องชายตั้งใจเพื่อเป็นอนาคตให้น้อง ๆ และครอบครัว ทำให้เหมย ได้คะแนนไปอีกในสายตานักข่าว น้ำหวานเห็นแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้ มดแดงพอจะรู้ว่างานนี้เป็นฝีมือเต้าข่าวของน้ำหวานจึงพูดแดก น้ำหวาน ไม่ยอมแว้ดใส่ มดแดงอารมณ์เสียเดินปลีกตัวไป น้ำหวานเดินมาประจันหน้ากับเหมย
“สงครามระหว่างเธอกับชั้นมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น เตรียมตัวไว้ได้เลย!!!” พูดจบก็สะบัดเดินออกไปทันที
เหมยอึ้งไป รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือน้ำหวานแน่ สุดจะเหนื่อยหน่ายใจ
---@@@---
นักข่าวทยอยกันกลับหลังสัมภาษณ์เสร็จ น้ำหวานเห็นปยุตรก็ปรี่เข้ามาทักเสียงหวาน ปยุตรทำหน้าเซ็ง ๆ ไม่อยากเสวนาด้วย น้ำหวานแหย่เรื่องเหมยกับไมค์ที่ไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริง ๆ ปยุตรบอกเขารู้ดีว่าเหมยเป็นคนอย่างไร น้ำหวานส่งสายตาหวานเชื่อมให้ปยุตรอย่างเปิดเผย ทันใดนั้นไฟที่เซตฉากก็ล้มคว่ำลงมาตรงหน้าน้ำหวาน ด้วยความตั้งใจของใครคนหนึ่ง ปยุตรคว้าตัวน้ำหวานหลบ ไฟเฉียดน้ำหวานไปนิดเดียว แต่ขาไฟก็ล้มมากระแทกแขนปยุตรที่เอาตัวบังน้ำหวานอยู่
หน้าของปยุตรแนบกับหน้าน้ำหวาน น้ำหวานรู้สึกอบอุ่นจากสัมผัสของปยุตรขึ้นมาในฉับพลัน เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยยกไฟขึ้นจากตัวปยุตร ทีมไฟขอโทษขอโพยและรีบยกไฟออกไปจากตรงนั้น น้ำหวานกล่าวขอบคุณปยุตรและมองอย่าง ชื่นชม เหมยเดินออกมาจากห้องแต่งตัว และต้องชะงักเมื่อเห็นน้ำหวานยืนอยู่กับปยุตร
น้ำหวานเหลือบเห็นเหมยจึงจงใจแกล้งโดยการจับแขนปยุตรด้วยความเป็นห่วง ปยุตรว่าไม่เป็นไร น้ำหวานทำทีจะเดินไปแต่แกล้งเดินล้ม ปยุตรต้องเข้าไปประคองอีกครั้ง คราวนี้น้ำหวาน กอดซบอกปยุตรให้เหมยเห็นจัง ๆ น้ำหวาน ส่งสายตาท้ารบ เหมยอึ้งไป ก้มหน้าพยายามไม่คิดมาก แต่ก็ความน้อยใจมันมีมากกว่า น้ำตาเอ่อ ขึ้นมาทันที เหมยรีบปาดน้ำตา และเดินเลี่ยงไปทางอื่น น้ำหวานยิ้มสะใจ ก่อนที่จะหันมองตาม ปยุตรอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แปลกไป
ชายลึกลับคนที่ตั้งใจทำไฟล้มใส่น้ำหวาน มองเหตุการณ์ที่ไม่เป็นอย่างที่ใจหวังด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านโกรธแค้น
---@@@---
ตอนที่ 21
ไม้นั่งซึมอยู่หน้าบ้าน แต้วเดินออกมา เห็นเลยลงนั่งปลอบไม้
“ถ้าเรารักใครสักคน แล้วไม่ได้รับความรักนั้นตอบ มันก็เจ็บแบบนี้ล่ะ แต่เราก็ยังมีความสุขที่ได้รักเขาไม่ใช่เหรอ เพียงแต่ว่ามันคงต้องยอมเป็นทุกข์ที่ต้องรอว่าเมื่อไหร่เค้าจะรักเรา”
ไม้ยิ้มเข้าใจที่แต้วพูดหมดทุกอย่างแล้วแซวแต้ว “แก่แดด พูดยังกับเข้าใจความรักได้ดีนักนี่” แต้วหัวเราะเบา ๆ “ก็แต้วเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน” ไม้ชะงักกึก ลึก ๆ แล้วไม้ก็รู้ว่าแต้วรักเขา แต่ไม้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันไหนที่ เขาจะรักแต้วได้เหมือนอย่างที่เขารักเหมย แต่อย่างน้อยวันนี้เขาก็มีแต้วคอยนั่งเป็นเพื่อนยามที่เขาทุกข์ใจ
---@@@---
ที่สวนหย่อมในโรงพยาบาล ป้องบอกกันต์ว่าคุณพิงค์เรียกเข้าไปพบ เตือนให้รักษา ภาพลักษณ์ เพราะกลัวคนดูรับไม่ได้ กันต์เห็นใจป้องจึงขอยุติความสัมพันธ์ กันต์ค่อย ๆ เดินจากไป แต่ป้องคว้ามือเอาไว้ ป้องบีบมือกันต์แน่น “ผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น และผมอยากให้คุณอยู่ข้าง ๆ ผมแบบนี้” กันต์ยิ้มปนเศร้า เหมยที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ห่าง ๆ รู้สึกเข้าใจ จึงเดินเข้าไปหาน้องชาย
“พี่ไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างกันต์กับคุณป้อง ความจริงมันเป็นยังไง แต่พี่แค่อยากจะบอกว่า ความสุขของคนเราคือการได้ยืนอยู่บนความจริง ไม่โกหกคนอื่น และที่สำคัญต้องไม่โกหกตัวเอง” เหมยพูดเหมือนสะท้อนใจเรื่องของตนเอง กันต์และป้องมองหน้ากันรู้สึกผิดที่หลอกตัวเอง “บางครั้งความจริงมันก็ไม่ได้มาพร้อมกับการยอมรับ แต่จำไว้นะความจริงมันมาพร้อมกับความสุขเสมอ เชื่อพี่นะกันต์” เหมยพูดจบก็ให้กำลังใจกับทั้งสองคน ด้วยการแตะบ่า แล้วก็เดินไปทางห้องคนไข้แม่กุ้ง ทั้งป้องและกันต์ยังยืนนิ่งทบทวนสิ่งที่เหมยพูด เพียงชั่วครู่ ทั้งสองมองหน้ากัน แต่คราวนี้เห็นประกายในแววตาของทั้งคู่เปล่งออกมาอย่างชัดเจน
---@@@---
ในห้องพัก เหมยป้อนข้าวแม่กุ้ง แต่ หน้าตามีแววกังวล ยังคิดวนเวียนถึงเรื่องปยุตร และน้ำหวาน แม่กุ้งจับสังเกตได้ เหมยสารภาพ ทั้งน้ำตา “เหมยไม่เข้าใจคุณยุตรเค้าเลยค่ะแม่ เหมยเห็นว่าเขาจับมือถือแขนกับน้ำหวาน แต่พออยู่ต่อหน้าเหมย เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมยไม่เข้าใจจริง ๆ”
“ไม่เข้าใจ ก็ต้องหาทางทำความเข้าใจ ให้เร็วที่สุด ความรักน่ะถือทิฐิไม่ได้นะลูก ถ้าเหมยรักคุณยุตร เหมยก็ต้องเปิดใจกับเขา” เหมยพยักหน้ารับฟังสิ่งที่แม่กุ้งสอน แต่ลึก ๆแล้วก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะเคลียร์กับปยุตรได้จริงหรือ
---@@@---
ที่คอนโดฯ น้ำหวานนั่งอยู่บนโซฟา นึกถึงเหตุการณ์ที่ปยุตรช่วยเธอไว้ น้ำหวานยิ้มละไม สัมผัสอันอบอุ่นแบบนั้น เธอไม่เคยได้ รับจากใครนอกจากความรู้สึกที่ได้จากปยุตร น้ำหวานตัดสินใจกดโทรฯหาปยุตรทันที ปยุตรที่กำลังนั่งเขียนข่าวอยู่รับสาย น้ำหวานขอบคุณปยุตรยกใหญ่พร้อมหยอดคำหวาน ปยุตรชะงักไป ฝ่ายเหมยหยิบมือถือออกมากดโทรฯหา ปยุตร แต่เป็นสายเรียกซ้อน ปยุตรมองมือถือเห็นว่าเป็นสายเรียกซ้อนจากเหมยก็จะหา ทางวางสายจากน้ำหวาน แต่ไม่มีจังหวะ ปยุตร พะวงกับสายของเหมยตลอดเวลา ฝั่งเหมยก็ถือสายรออยู่อย่างอดทน ปยุตรตัดบทจากน้ำหวานจังหวะที่ปยุตรตัดสายน้ำหวานทิ้ง เหมยก็วาง สายไป แล้วก็ปิดเครื่อง “ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย คนบ้า” ปยุตรโทรฯกลับไปหาเหมยแต่เหมยปิดเครื่องไปแล้ว ทางฝั่งน้ำหวานที่ถูกปยุตรตัด สายทิ้ง ก็เริ่มหงุดหงิด “คุณยุตร น้ำหวานจะ ทำให้คุณเห็นว่าน้ำหวานมีดีกว่านังเหมยเป็นไหน ๆ” ดวงตาน้ำหวานวาวโรจน์ ครั้งนี้เธออยากได้ปยุตรจริง ๆ
---@@@---
ที่วัด พีทและรมมี่มาไหว้พระด้วยท่า ทีสบายใจ รมมี่ไม่ได้มีท่าทางเปรี้ยวฉูดฉาดเหมือนเดิม จากนั้นทั้งคู่ไปให้อาหารปลากันต่อด้วยท่าทางนิ่ง ๆ แต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ให้อาหารปลาเสร็จแล้วเราไปนมัสการ หลวงพ่อกันนะคะ ฉันอยากให้ท่านช่วยดูฤกษ์ให้”
“ฤกษ์อะไร?”
“ก็งานแต่งงานของเราน่ะสิคะ”
พีทอ้าปากค้างแบบคาดไม่ถึง รมมี่ถามเย้า ๆ
“หรือจะไม่แต่ง?”
“แต่งสิ ผมอยากแต่งงานกับคุณ ไชโย” พีทตะโกนเสียงดัง พีทมองหน้ารมมี่แล้วยิ้มกว้าง สองหนุ่มสาวประสานสายตากัน ก่อนหันไปให้อาหารปลาต่ออย่างมีความสุข
---@@@---
รมมี่กับพีทนัดเหมยกับปยุตรออกมาทานข้าวนอกบ้าน เพื่อบอกข่าวดี เหมยยังงอนปยุตรอยู่เลยไม่ค่อยสบตา
“คือว่า..ผมกับรมมี่จะแต่งงานกัน”
เหมยกับปยุตรประหลาดใจไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เหมยยิ้มกว้างแสดงความยินดีกับ ทั้งคู่
“ดีใจด้วยนะรมมี่ คุณพีท”
“ขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าบ่าวครับ”
“โห ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้หรอก ต้องขอดูพฤติกรรมก่อน เรื่องเก่าชั้นไม่สน แต่ถ้ามีเรื่องใหม่มาชั้นเอาตายแน่”
อ่านละครย่อเรื่อง ระบำดวงดาว วันที่ 30 กันยายน 2553
ที่มา เดลินิวส์