อ่านละครย่อเรื่อง วนิดา วันที่ 30 กันยายน 2553

อ่านละครย่อเรื่อง วนิดา วันที่ 30 กันยายน 2553
“ชุมศรีเอ๊ย...พี่มีเธอเป็นน้องอยู่คนเดียว พี่ก็ต้องรักต้องห่วงเธอ...ฉะนั้นพี่ไม่มีวันยอมให้น้องต้องไปทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย อย่างนั้นหรอก”

“แต่..คุณประจวบ”

“อย่าห่วงเลย...พี่ไม่ปล่อยให้ว่าที่น้องเขยไปเสี่ยงตายเหมือนกันน่า”

ชุมศรีมองดูพี่ ซึ้งใจจนน้ำตาแทบไหล ตื้นตัน...ประจวบเดินเข้ามา ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น

“พี่ชวนเรียกผมเหรอครับ”

“อืม...ชุมศรีออกไปข้างนอกก่อนไป ผู้ชายเขาจะคุยกัน”

ชุมศรีออกไป ประจวบมองตาม ชวนหยิบซองเงินในลิ้นชักออกมา แล้วยื่นให้ประจวบ

“เอาเงินนี่ไปใช้หนี้ซะ”

ประจวบอึ้ง ระคนตกใจ “แต่...”

ชวนยัดซองเงินใส่มือประจวบ “ไม่ต้องแต่ ฉันไม่ได้ให้เงินนายไปเปล่า ๆ ฉันมีงานให้นายทำด้วย”

“งานอะไรครับ”

“อืมมม...พี่จะให้นายทำงานในหน้าที่ดูแลผู้หญิงที่น่ารัก ๆ ซักคนนึง นายจะทำได้มั้ย”

“ดูแลผู้หญิง!! งานอื่นไม่ได้เหรอครับ ผม...”

“ทำไม กลัวอะไร ถ้าผู้หญิงคนนั้นคือชุมศรีน้องพี่เองล่ะ”

“พี่ชวน...”

“นายพอจะคุ้มครองชุมศรีให้เขาอยู่ดีมีสุข และซื่อสัตย์กับเค้าไปตลอดได้มั้ย”

“ได้ครับ” ประจวบรับปากอย่างมั่นใจ

“ถ้าอย่างนั้น ก็รีบเอาเงินไปใช้หนี้ซะ แล้วรีบกลับมาที่นี่นะน้องเขย”

ประจวบยิ้มตื้นตันกับความมีน้ำใจของสองพี่น้องคู่นี้

---@@@---

วันต่อมาประจักษ์ประคองวนิดา สีหน้าดีขึ้นแล้ว เข้ามาในบ้านมหศักดิ์ ป้าทอง จวง ตามมา

“ระหว่างที่ฉันไปทำงาน เธอต้องทานข้าว ทานยาให้ตรงเวลา ถ้ารู้สึกไม่ดี รีบโทรฯ หาฉันทันที”

ป้าทองกับจวงมองประจักษ์กับวนิดาแล้วอมยิ้ม

“ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ ฉันดูแลตัวเองได้ แผลที่ขาแค่นี้ ยังไกลหัวใจอีกเยอะ”

“ไกลหัวใจเธอ แต่ใกล้หัวใจฉัน...ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมา ใจฉันคงทนไม่ได้”

“คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ มีป้าทองกับจวงคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ”

“มันก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี ใครจะดูแลเธอได้ดีเท่าฉัน”

ประจักษ์มองวนิดาแววตาเป็นห่วงอย่างจริงจังจนวนิดาพูดไม่ออก ป้าทองกับจวงหัวเราะคิกคักเขินอายแทน ทำเอาเสียบรรยากาศ ประจักษ์กับวนิดาได้ยินหันไปมอง ป้าทองกับจวงรีบปิดปากแล้วอมยิ้มแทน ประจักษ์ผละออกห่างวนิดา

“ฉันไปนะ แล้วจะรีบกลับมา”

“ค่ะ”

ประจักษ์ยิ้มแล้วเดินออกไป วนิดายิ้มค้าง เห็นป้าทองกับจวงมองอยู่ วนิดาเขินอายหน้าแดง...ประจักษ์เดินออกมาเจอกับพิสมัยที่เดินออกมา

“เย็นนี้เธอว่างมั้ย ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”

พิสมัยมองประจักษ์นิ่งอึ้ง เพราะรู้ว่าประจักษ์จะคุยเรื่องอะไร ถึงตัวเย็นใจสั่น แต่พยายามไม่แสดงออก พิสมัยถามจะคุยเรื่องอะไร ประจักษ์บอกจะคุยเรื่องของเรา พิสมัยใจเสียแต่ก็รับปาก

---@@@---

ปราณีเปิดประตูเห็นพิสมัยร้องไห้ฟูมฟายก็ตกใจ ถามว่าเป็นอะไร พิสมัยโผเข้ากอดปราณี

“ปราณีช่วยฉันด้วย คุณพี่ไม่รักฉันแล้ว คุณพี่ไม่รักฉัน ฉันจะทำยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี ฮือฮือ”

“ใจเย็น ๆ ก่อนพิสมัย เธอพูดอะไรของเธอ คุณใหญ่จะไม่รักเธอได้ยังไง”

พิสมัยเอาแต่ร้องไห้ ปราณีดึงพิสมัยออกมามอง

“ตอนที่คุณพี่ ฉัน แล้วก็นังวนิดาติดอยู่ในวิหารพระฯ คุณพี่ไม่สนใจ ไม่ห่วงฉัน คุณพี่เอาใจแต่นังวนิดา ดูแลมันจนออกนอกหน้า ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน สิ่งที่คุณพี่ทำมันทำให้ฉันมั่นใจว่าคุณพี่รักนังวนิดา...เย็นนี้คุณพี่นัดฉันให้ออกไปพบ คุณพี่บอกว่าจะคุยเรื่องของเรา คุณพี่ต้องบอกเลิกฉันแน่ ๆ ปราณี ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่อยากเสียคุณพี่ไป ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าขาดคุณพี่ ฉันอยู่ไม่ได้ ฉันอยู่ไม่ได้” พิสมัยร้องไห้หนักมาก

“พิสมัย! ตั้งสติแล้วฟังฉัน...เธอจะอ่อน แอแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเธออ่อนแอ เธอจะเสียคุณใหญ่ให้นังวนิดา เธอจะยอมแพ้มันเหรอพิสมัย!”

พิสมัยนิ่งคิดตามที่ปราณีพูด “แล้วเธอ จะให้ฉันทำยังไง?” ปราณียิ้มร้าย มีแผนการ พิสมัยมองสงสัย

---@@@---

อำไพนั่งคุยอยู่กับวนิดา ไม่นานมนตรีวิ่งหน้าตาตื่นเต้นดีใจเข้ามา วนิดากับอำไพหันไปมองมนตรีที่ตรงปรี่เข้ามาจับมือวนิดาแน่น วนิดาชะงัก อำไพตกใจ

“พอรู้ว่าคุณนิดกลับมา ผมก็รีบมาหาคุณ นิดทันทีเลย ไม่ได้เจอหน้าคุณนิดตั้งหลายวัน ผมจะขาดใจตายให้ได้ ผมคิดถึงคุณนิดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ”

“หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีด้วยรึเปล่าคะ”

มนตรีเคลิ้ม “ครับ...เย้ยย!! นั่นมันคนตายแล้ว” พอนึกได้หันตาเขียวใส่อำไพ

“ถ้าคุณยังไม่ปล่อยมือคุณนิด คุณประจักษ์ ได้เล่นงานคุณตายแน่”

มนตรีผงะ ตกใจ รีบปล่อยมือจากวนิดาแล้วยิ้มแหย ๆ

“ขอโทษครับ ผมลืมตัว ดีใจมากไปหน่อย วันนี้คุณนิดว่างมั้ยครับ...ผมอยากชวนไปดูหนัง”

“ขอบคุณนะคะที่ชวน แต่นิดไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ”

“ไม่สบาย!! คุณนิดไม่สบายเป็นอะไร ครับ แล้วไปหาหมอรึยัง”

อำไพทนไม่ไหว “โอ๊ย! ถามไม่หยุดแบบ นี้ คุณนิดจะตอบได้ยังไง”

มนตรีเงียบ วนิดาอมยิ้มขำ ๆ กับท่าทางของมนตรีกับอำไพ

“คุณนิดหกล้มตอนที่ไปบางปะอิน หยุด!..ฟังฉันพูดให้จบก่อนแล้วค่อยถาม ตอนนี้อาการคุณนิดดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สมควรออกไปไหน เอ้า อยากถามอะไรก็ถาม”

มนตรีอึ้งเพราะไม่มีอะไรจะถามแล้ว “ขอให้หายเร็ว ๆ นะครับ น่าเสียดายกว่าผมจะได้ตั๋วหนังรอบแรกมา เลือดตาแทบกระเด็น”

“งั้นให้คุณจี๊ดไปดูหนังเป็นเพื่อนคุณมนตรี สิคะ”

อำไพกับมนตรีตกใจ

“จี๊ดเหรอคะ?”

มนตรีรีบปฏิเสธจนดูเหมือนรังเกียจ “โอ๊ย ไม่เอาหรอกครับ”

อำไพหมั่นไส้ ดึงตั๋วมาจากมือมนตรีทั้งสองใบ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปดู จี๊ดไปนะคะคุณนิด”

อำไพลุกเดินออกไป มนตรีเหวอ หันไปตะโกนไล่หลังอำไพ

“เฮ้ยได้ไง!!...ผมไปก่อนนะครับ” มนตรีบอกวนิดา แล้วรีบวิ่งตามอำไพไป

---@@@---

ในที่สุดมนตรีกับอำไพก็ต้องดูหนังด้วยกัน อำไพกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะดูเพราะเป็นหนังผี ยกมือขึ้นมาปิดตา แต่ก็กางนิ้วออกดู เสียงดังโครม! ออกมาจากในหนัง อำไพกรี๊ดลั่น มนตรีสะดุ้งเฮือก! มนตรีกระซิบ “นี่ เบา ๆ หน่อยได้มั้ย อายคนอื่นเค้า”

“ก็มันน่ากลัวนี่นา... นั่นไง ๆ ผีมาแล้ว”

อำไพจิกแขนมนตรีแน่นโดยไม่ตั้งใจ มนตรีสะดุ้งโหยง ร้อง โอ๊ย!

“กลัวเหมือนกันเหรอ”

“กลัวบ้าอะไร เธอจิกแขนฉันอยู่”

อำไพก้มมองเห็น ตกใจ รีบปล่อย ยิ้มแหย ๆ มนตรีหัวเสีย อำไพหันไปดูหนังเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง อำไพกรี๊ดลั่นพร้อมจิกแขนมนตรีซ้ำรอยเดิม มนตรีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด... หลังดูหนังจบ อำไพยังตื่นเต้นกับหนังที่ดูเมื่อกี๊

“หนังอะไรก็ไม่รู้ทั้งสนุกทั้งน่ากลัว วันหลังถ้ามีหนังสนุก ๆ แบบนี้อีก บอกกันบ้างนะ”

มนตรีไม่ตอบ เซ็ง อำไพหันไปมองแปลกใจ

“ทำไมคุณมนตรีทำหน้าแบบนี้ หนังไม่สนุกเหรอ”

“จะสนุกได้ยังไง มีคนมาจิกแขน ร้องกรี๊ด ๆ ๆ อยู่ข้างหู ฉันเจ็บไปหมดทั้งแขนแล้วเห็นมั้ย”

อำไพก้มมองเห็นแขนมนตรีเป็นรอยแดง อำไพตกใจ

“อุ๊ย! ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

มนตรีส่ายหน้าเซ็ง เดินออกไป อำไพจ๋อย รู้สึกผิด

---@@@---

วนิดากำลังทานข้าวอยู่ ป้าทองนั่งอยู่ ใกล้ ๆ ไม่นานถมเข้ามาบอกว่ามีโทรศัพท์ถึงวนิดา ป้าทองกับวนิดามองหน้ากันด้วยความ สงสัย

“จากใคร?”

“ไม่ใช่ธุระที่ฉันต้องถาม”

ถมสะบัดก้นเดินออกไป ป้าทองขมุบขมิบปากด่า วนิดาแปลกใจว่าใครโทรฯ หาเธอ... วนิดารับสายโทรศัพท์สีหน้าแปลกใจ

“คุณพิสมัย??”

ป้าทองยืนอยู่ด้านหลัง ได้ยินชื่อพิสมัยก็สงสัย

“ได้สิคะ คุณต้องการพบฉันที่ไหน... ตกลงค่ะ”


วนิดาครุ่นคิดสงสัยว่าพิสมัยนัดเธอออกไปทำไม?

---@@@---

ประจักษ์เดินเข้ามาเห็นพิสมัยยืนรออยู่ที่ในสวนหย่อม ประจักษ์หน้าเครียดเดินมาหาพิสมัย ทันทีที่พิสมัยหันมาเห็นประจักษ์ ก็แกล้งตีหน้าเศร้าเสียใจ

“น้องขอโทษที่น้องทำตัวไม่ดีกับคุณพี่แล้วก็วนิดาตอนที่เราติดอยู่ในวิหารพระด้วยกัน”

พิสมัยรีบพูดต่อ เข้ามาจับมือประจักษ์ น้ำตารื้นขึ้นมา สีหน้าเศร้าสร้อยดูน่าสงสาร

“คุณพี่อย่าโกรธน้องนะคะ ที่น้องทำไป เพราะน้องกลัว กลัวจะออกไปจากที่นั่นไม่ได้ และที่สำคัญ...น้องกลัวว่าคุณพี่จะทิ้งน้องไปหา วนิดา”

ประจักษ์ชะงักถูกจี้ใจดำ น้ำตาพิสมัยไหลออกมาพอดี

“ยิ่งเห็นคุณพี่เอาใจใส่ ดูแล เป็นห่วงวนิดา ทำเอาน้องทนไม่ได้ หัวใจของน้องมันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนทำให้น้องแสดงความก้าวร้าวออกไป คุณพี่อภัยให้น้องนะคะ” พิสมัยแกล้งร้องไห้ แล้วทรุดเข่าลงกับพื้นทำท่าจะกราบเท้าประจักษ์ ประจักษ์ตกใจ รีบย่อตัวลงมาจับไหล่พิสมัย

“พิสมัย...เธอจะทำอะไร”

“น้องทราบดีว่าคุณพี่คงไม่หายโกรธน้องง่าย ๆ น้องก็เลยจะแสดงความบริสุทธิ์ใจให้คุณพี่เห็นจะให้น้องไปกราบขอโทษวนิดาด้วยอีกคน น้องก็ยอม”

ประจักษ์พูดไม่ออกเมื่อพิสมัยมาไม้นี้ ประจักษ์ดึงพิสมัยให้ลุกขึ้นยืน

“เธอไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ ฉันกับนิดไม่โกรธเธอหรอก”

“จริงนะคะคุณพี่ คุณพี่กับวนิดาไม่โกรธน้องจริง ๆ นะคะ”

ประจักษ์พยักหน้า พิสมัยโผกอดประจักษ์แน่นด้วยความดีใจ หน้าเปลี่ยนเป็นร้ายทันที ประจักษ์ยิ่งเครียดหนัก เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอหอย พิสมัยผละออกมามองประจักษ์ด้วยสีหน้าสำนึกผิด พิสมัยเน้นน้ำเสียงย้ำ “คุณพี่ยังจำสัญญาที่ว่าจะแต่งงานกับน้องคนเดียวได้มั้ยคะ”

ประจักษ์ชะงัก กลืนน้ำลายด้วยความลำบากใจ “จำได้สิ”

“ชายชาติทหารอย่างคุณพี่รักษาคำมั่นสัญญายิ่งชีพ น้องจะรอวันนั้น วันที่เราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ...ขอให้คุณพี่รู้ไว้ นะคะ ว่าน้องเป็นคนเดียวที่รักคุณพี่ด้วยหัวใจที่แท้จริง ไม่มีผู้หญิงคนไหน ที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อคุณพี่ได้เท่าน้องอีกแล้ว”

พิสมัยกอดประจักษ์แน่นด้วยความรัก ประจักษ์พูดอะไรไม่ออกอยู่ในสภาวะน้ำท่วมปาก หลุบตามองพิสมัยลำบากใจ...วนิดาเห็นประจักษ์กับพิสมัยกอดกัน รู้สึกเจ็บปวด พิสมัยหันมาเห็นวนิดายืนอยู่ ยิ้มเยาะเย้ยวนิดาอย่างผู้ชนะ วนิดาเศร้าและเสียใจสุด ๆ

---@@@---

วนิดานั่งเศร้าอยู่ที่ศาลาบ้านมหศักดิ์ ยังอึ้ง ๆ งง ๆ รู้สึกเสียใจและเจ็บปวดไม่หาย ประจักษ์เดินหน้าเครียดมาหยุดยืน โดยไม่รู้ว่า วนิดานั่งอยู่ที่ม้านั่งหลังพุ่มไม้และบังเอิญหันมาเจอหน้ากัน ชะงักกันไป วนิดาลุกขึ้นยืน ทั้งคู่ดูเก้อ ๆ เขิน ๆ

“ยังไม่นอนอีกเหรอ”

“ค่ะ เอ่อ...แต่ฉันกำลังจะไปนอนแล้ว”

วนิดาหันหลังจะเดินไป ประจักษ์รีบเรียกไว้

“นิด” ประจักษ์มองสบตา รู้สึกสับสน เงียบไปนาน จนวนิดาแปลกใจ

“คุณมีอะไรจะพูดเหรอคะ”

“เอ้อ...ราตรีสวัสดิ์”

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

วนิดาเดินออกไปตามทาง เจอพิสมัยยืนรออยู่มุมหนึ่ง วนิดาชะงัก ไม่อยากมีเรื่องจะเดินหนี

“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”

“ถ้าเป็นเรื่องคุณประจักษ์ ขอให้คุณสบายใจว่าฉันจะไม่มีวันเป็นมือที่สามมาจากคุณ ถ้าทุกอย่างสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ฉันจะหย่ากับคุณประจักษ์ทันที และคุณประจักษ์ก็จะไม่มีวันได้พบหน้าฉันอีก”

“รู้เองอย่างนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูด จำคำพูดของเธอวันนี้เอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน วนิดา” พิสมัยจิกตามองวนิดาอย่างผู้ชนะ ก่อนจะเดินออกไป วนิดารู้สึกเศร้าขึ้นมา

---@@@---

เช้าวันใหม่ น้อมหัวเราะเสียงดังลั่นมีความสุขสุด ๆ ในมือมีจดหมายจากประจวบ

“ฮ่า ๆ ๆ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ตาเล็กเขียนมาบอกว่าภายในอาทิตย์นี้จะกลับมาใช้หนี้นายดาว”

น้อมหันไปยิ้มร่ากับพิสมัยและถม

“นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาเลยนะคะคุณแม่”

“ใช่ลูก แม่ดีใจจริง ๆ นังวนิดามันจะได้ขนข้าวขนของออกไปจากบ้านเราสักที”

น้อมนิ่งไป แล้วก็นึกอะไรชั่ว ๆ ออกยิ้มมุมปาก หันไปมองพิสมัยกับถมอย่างมีแผนการ...เมื่อวนิดากับประจักษ์กลับมาด้วยกัน จากการที่วนิดาไปไหว้กระดูกย่ามณฑาที่วัด ระหว่างนั้นน้อม พิสมัยเดินออกมา พิสมัยมองวนิดากับประจักษ์ไม่พอใจ

“พ่อใหญ่...ทำไมถึงมาด้วยกัน ไปไหนกันมาเหรอ”

“ไปไหว้คุณป้ามณฑามาครับ”

“แหม...น่าเสียดายที่ฉันมาช้าไปหน่อย ไม่งั้นแกจะได้ไปบอกข่าวสำคัญกับกระดูกย่าของแก”

ประจักษ์กับวนิดามองน้อมสงสัย

“คุณแม่พูดอะไร?”

“คุณเล็กเขียนจดหมายมาบอกว่าจะกลับมาภายในอาทิตย์นี้ค่ะ”

วนิดา ประจักษ์ อึ้ง ตกใจ มองหน้ากันเพราะมันเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก

“ยินดีด้วยนะวนิดา เธอจะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รักอีกต่อไปแล้ว”

พิสมัยปรายตามองประจักษ์ ประจักษ์มองวนิดาไม่วางตา วนิดาพูดอะไรไม่ออก

“พ่อใหญ่ เงียบทำไมล่ะลูก ดีใจจนพูดไม่ออกเหรอที่น้องจะกลับมา”

ประจักษ์ยังเงียบ พิสมัยเข้ามาควงแขนประจักษ์แนบแน่น

อ่านละครย่อเรื่อง วนิดา วันที่ 30 กันยายน 2553
ที่มา เดลินิวส์