อ่านละครย่อเรื่อง วนิดา วันที่ 28 กันยายน 2553
“ข้าพเจ้าขับไล่มณฑาออกไปโดยไม่มีทรัพย์สินติดตัว ภายหลังข้าพเจ้าจึงทราบว่าข้าพเจ้าเป็นฝ่ายเข้าใจผิด แต่ข้าพเจ้าไม่มี โอกาสรับหล่อนคืนมาดังเก่าเสียแล้ว.....ตอนนี้ข้าพเจ้ากำลังป่วยหนัก และถูกกีดกันการติด ต่อทุก ๆ ทางกับมณฑา โดยผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ทำให้ข้าพเจ้าเป็นบ้าด้วยความหึงหวง ภายหลังข้าพเจ้าได้รับเครื่องเพชรที่หายไปคืนมาจาก “เจริญ” ชายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับมณฑา ข้าพเจ้าจึงได้ซ่อนเครื่องเพชรทั้งหมดไว้กับจดหมายฉบับนี้...ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับนางมณฑา มหศักดิ์ ภรรยายอดรักของข้าพเจ้า ถ้าท่านผู้ใดมาพบขอให้นำไปมอบคืนให้แก่มณฑา และขอได้กรุณาประกาศให้ได้ทราบถึงความบริสุทธิ์ของมณฑาด้วย...วิญญาณของข้าพเจ้าจะขอบคุณอย่างยิ่ง พระยามหศักดิ์ธำรง ประจักษ์อ่านจดหมายจบก็นิ่งไป พูดไม่ออก วนิดาน้ำตารื้นด้วยความตื้นตันและดีใจที่ได้รู้ว่าย่ามณฑาของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ประจักษ์เก็บจดหมาย เงยหน้ามองวนิดา
“ฉันยินดีด้วย ในที่สุดคุณย่าของเธอก็เป็นผู้บริสุทธิ์”
“ขอบคุณนะคะ คุณย่าขา คุณย่าพ้นมลทินแล้วนะคะ”
“นิด ฉันละอายใจเหลือเกินที่แม่ของฉันใส่ร้ายคุณย่าของเธอเพียงเพราะความอิจฉา อยากมีอยากได้ ฉันจะทำตามที่คุณลุงท่านสั่ง ฉันจะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้”
วนิดามองประจักษ์รู้สึกเห็นใจ และรู้ว่าประจักษ์ลำบากใจและเสียใจมากขนาดไหน... ประจักษ์เศร้า วนิดาจับแขนประจักษ์ ประจักษ์หันมา
“ดิฉันยกให้คุณเป็นผู้ตัดสินใจก็แล้วกัน ...สิ่งที่ฉันต้องการ คือ ได้รู้ว่าคุณย่าของฉันไม่เคยทำให้มหศักดิ์ของคุณต้องเสียเกียรติ แค่ดิฉันรู้ว่าคุณย่าบริสุทธิ์จริง และอย่าให้ใครมาพูดจาใส่ร้ายคุณย่าอีกเท่านั้น ดิฉันก็พอใจแล้ว”
ประจักษ์มองวนิดาอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ
“ดิฉันพูดจริง ๆ ค่ะ”
วนิดามองหน้าประจักษ์ด้วยสายตาที่แจ่มใสหมดสิ้นความกังวลใด ๆ
“ถึงอย่างไรฉันก็จะต้องเปิดเผยเรื่องนี้... คุณป้ามณฑาท่านควรจะได้รับการยกย่อง และกอบกู้เกียรติของท่านกลับมา อัฐิของท่านก็ควรที่จะนำมาเก็บไว้เคียงข้างกับคุณลุงของฉันที่นี่”
“ดิฉันว่าคุณใช้เวลาไตร่ตรองดูให้ถ้วนถี่ก่อนเถอะค่ะ..อย่าลืมนึกถึงแม่คุณด้วยนะคะ”
“ขอบใจนะนิด”
วนิดายิ้มให้ประจักษ์อย่างจริงใจ ประจักษ์ จับมือวนิดา มองด้วยความซึ้งใจ
“คุณยังมีเวลา จนกว่าจะถึงวันที่คุณประจวบกลับมา และดิฉันต้องไปจากมหศักดิ์”
ยิ้มของทั้งคู่ดูเจื่อนไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
---@@@---
ขณะที่ พิสมัยกำลังเดินทางมาที่วิหารกลางน้ำ...ประจักษ์หยิบลูกกุญแจถูกสอดไขเพื่อเปิดหีบ แล้วฝาหีบก็ถูกยกเปิดขึ้นมา...เครื่องเพชรมากมายกองอยู่แน่นหีบ ประจักษ์ วนิดา ยืนดูอยู่หน้าหีบนี้ ตาลุกโพลงด้วยกันทั้งคู่
“นี่ใช่มั้ยคะ...เครื่องเพชรของตระกูล”
“คงใช่”
“คุณย่าไม่ได้เอาไปไหนเลย”
“ทั้งหมดนี้เป็นของเธอ”
“ควรเป็นของคุณค่ะ เพราะมันอยู่ในวิหารนี้ซึ่งเป็นของมหศักดิ์”
“ผิดแล้ว คุณลุงยกเครื่องเพชรพวกนี้ให้คุณป้า เธอเป็นหลานของท่าน เพราะฉะนั้นมันต้องเป็นของเธอถึงจะถูก”
“ฉันไม่ต้องการของเหล่านี้มากไปกว่าได้พบจดหมายที่แสดงความบริสุทธิ์ของคุณย่า เราเก็บของพวกนี้ไว้ที่นี่ตามเดิมเถอะนะคะ... แล้วก็กรุณาอย่าให้ใครทราบเรื่องนี้”
“เราจะเก็บเป็นความลับ”
วนิดาเกี่ยวนิ้วก้อยประจักษ์ให้สัญญากัน วนิดามอบให้ประจักษ์เป็นผู้เก็บจดหมายเอาไว้ ส่วนเครื่องเพชรเก็บไว้ที่เดิม...ขณะเก็บวนิดาถูกเสี้ยนตำนิ้วเลือดไหล ประจักษ์ดูดเลือดที่นิ้ววนิดา ประจักษ์กับวนิดามองหน้ากัน...จังหวะนั้น พิสมัยเดินมาเห็นพอดี
“คุณพี่ !!”
ประจักษ์กับวนิดาหันไปเห็นพิสมัยก็ตกใจ ประจักษ์รีบปล่อยมือวนิดา พิสมัยจ้ำเดินเข้ามาด้วยความรีบทำให้สะดุด คว้าประตูเอาไว้ ประจักษ์และวนิดาตาโต ร้องเสียงหลง
“อย่า..!!!”
ประจักษ์กับวนิดายื่นมือไปสุดตัว หวังจะรั้งประตูไว้ แต่ไม่ทัน ประตูเคลื่อนเข้ากรอบ วงกบอย่างสนิท ปิดดังปัง !!!!! ทั้งคู่ตกใจ หันมามองหน้ากัน อย่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น....และจังหวะนั้นเองพิสมัยพุ่งเข้ามาตบหน้าวนิดา เพียะ!! วนิดาหน้าหัน ประจักษ์ตกใจ
“หน้าด้าน! ไม่อายผีอายสางบ้างเหรอไง น่าไม่อาย”
“หยุดนะพิสมัย!! เธอก้าวร้าวนิดมากไปแล้ว”
“น้องก้าวร้าวตรงไหน เห็น ๆ อยู่ว่ามัน กำลังให้ท่าคุณพี่”
“นิดไม่ได้ให้ท่าฉัน” ประจักษ์จับมือวนิดาข้างที่เป็นแผลขึ้นมาให้ดู “นิ้วเค้าเจ็บ ฉันก็เลยดูให้” พิสมัยเห็นแต่ก็เชิดไม่สำนึกผิด
“งั้นก็ถือเป็นคราวเคราะห์ของเธอไปก็แล้วกัน...เรากลับกันเถอะค่ะคุณพี่” พิสมัยเข้าไปควงแขนประจักษ์
“กลับไม่ได้”
“ทำไมคะ!!”
“ประตูนี้เป็นประตูกล ปิดแล้วคนข้างในเปิดไม่ได้ แล้วเมื่อตะกี้เธอเพิ่งดึงประตูปิดเข้ามา เข้าใจหรือยัง?”
พิสมัยตาเหลือก โผกอดประจักษ์ โวย วายลั่น “ไม่นะคะคุณพี่ น้องไม่อยากติดอยู่ในนี้ น้องกลัว”
ประจักษ์เลี่ยงตัวหนีออกมา ไม่สนใจพิสมัย คิดหาทางออก
“เราจะออกไปยังไงคะ”
“เธอช่วยดูทีว่าพอจะมีอะไรแข็ง ๆ มาใช้งัดได้บ้าง”
ประจักษ์เดินไปสำรวจที่ประตู พิสมัยยังโวยวายต่อ
“นี่เราต้องอยู่กับกระดูกผีจริง ๆ เหรอคะ...น้องไม่ยอม ไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”
วนิดาเดินไปหาอุปกรณ์งัดประตู...ไม่มีใครสนใจพิสมัยที่กำลังโวยวายอยู่เลย จู่ ๆ พิสมัย เกิดร้องกรี๊ดขึ้นมา วนิดากับประจักษ์ตกใจ หันไปมอง
“คุณพี่คะ ช่วยด้วยค่ะตัวอะไรอยู่ที่เท้าน้องไม่รู้ค่ะ ผีแน่ ๆ เลย ผีเกาะขาน้อง ช่วยด้วยค่ะคุณพี่”
มีแมงมุมเกาะอยู่ที่ฝ่าเท้าของพิสมัย
“คุณพี่คะคุณพี่ ช่วยน้องด้วย” พิสมัย ส่งเสียงโวยวายไม่เลิก
ประจักษ์ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย เดินเข้าไปเขี่ยแมงมุมออกจากเท้าพิสมัย เห็นเป็นแมงมุม พิสมัยยิ่งกรี๊ดเข้าไปอีก
“นี่พิสมัย! หยุดโวยวายสักทีเถอะ แค่ นี้ฉันก็ปวดหัวมากพอแล้วนะ”
พิสมัยหยุดโวยวาย ประจักษ์เดินกลับไปหาทางออกที่ประตูต่อ วนิดาเดินบอกว่าไม่มีอะไรมาใช้งัดได้เลย แล้ววนิดาก็ช่วยประจักษ์ออกแรงดันประตูอย่างสุดแรง แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ประตูจะเปิดออก
---@@@---
ตอนที่ 21
ฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ดังนั้นทั้งสามคนจึงต้องค้างคืนที่วิหารจนกระทั่งเช้า วนิดาเดินสำรวจดูรอบ ๆ และหาทางปีน ออกจากวิหารเพื่อไปเปิดประตู....แต่ระหว่างที่ปีนออกมาวนิดาเกิดพลัดตกลงมาจนได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็ฝืนทนเจ็บไปเปิดประตูได้สำเร็จ ...จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้ประจักษ์เห็นธาตุแท้ความเห็นแก่ตัวของพิสมัย จนรับไม่ได้อีกต่อไป
ที่มา เดลินิวส์