อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน วันที่ 29 กันยายน 2553

อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน วันที่ 29 กันยายน 2553
“ขอให้คลอดปลอดภัยนะจ๊ะ”

จึเนะโกะกล่าวแล้วหันกายกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่...โอชินรับเอาผ้าปูพื้นมาถือไว้กล่าวกับสามีว่า

“แม้แต่พี่จึเนะก็ยังเป็นห่วงเป็นใยฉัน ฉันจะต้องคลอดเองให้ได้โดยจะไม่รบกวนผู้อื่นให้เดือดร้อนเลย”

“เว้นแต่ฉันคนเดียวนะโอชิน” ริวโซ่เติม ประโยคของภรรยาพลางยิ้มให้อย่างมั่นใจและหนักแน่น

---@@@---

ถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็ถึงกาลกำหนดคลอดของโอชิน นาทีแห่งการคลอดชีวิตใหม่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่วันนี้ก็วันพรุ่งนี้ แต่โอชินมิได้คำนึงยังคงช่วยสามีเก็บเกี่ยวข้าวสาลีอยู่ในนา...อันว่าเรานี้มิใช่ใครอื่น นอกเสียจากเป็นลูกสาวของแม่ที่เป็นชาวนาผู้ยากจน แม่ซึ่งเคยคลอดในกลางนามาแล้ว...ทำไมเราจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้...โอชินคะนึงไปในระหว่างทำงาน

ผืนนามีน้ำเจิ่งนองด้วยฝนตกชุก แต่ข้าวสาลีก็งอกงามเก็บเกี่ยวไปแทบจะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยด้วยความปราโมทย์ในผลผลิตที่แรงแห่งสองมือกระทำมันขึ้นมา...เขากับเธอช่วยกันเกี่ยวตลอดทั้งวัน โอชินก้มหลังตัดต้นข้าวด้วยเคียวด้ามสั้น ก้มหลังได้อย่างลำบากเพราะท้องอันใหญ่โต การทำงานจึงล้าหลังริวโซ่ ชั่วระยะไม่นานนักเขาก็รุดหน้าไปกว่าเธอทิ้งเธอไว้ข้างหลัง แต่ริวโซ่ก็มิได้ลืมว่าโอชินตก อยู่ในสภาวะใดแล้ว บ่อยครั้งเขาจะเหลียวกลับมาดูเมียข้างหลัง...บางครั้งเคียวหลุดจากมือ หลังจากอัตราความรวดเร็วของการเกี่ยวข้าวนั้นช้าลง ๆ

ริวโซ่จะพลอยหยุดระงับการทำงานของเขาไปด้วย ยืนมองด้วยความห่วงใย จนกระทั่ง โอชินก้มไปจับเคียวขึ้นมาใหม่แล้วเกี่ยวเก็บสืบไปโดยมิได้ปริปากเขาจึงถอนใจพลอยโล่งอก... งานของเขาวันนั้น เสร็จเกือบค่ำมืด เมื่อมาถึงบ้านที่อยู่นอกเขตบ้านหลังใหญ่ ตะวันก็ตกดินแล้ว ทิ้งรัศมีมีแผดจ้าสุดท้ายก่อนความมืดจะเข้ามาแทนที่...เขาพากันล้างแข้งขาอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเหมือนเคย ริวโซ่กล่าวกับภรรยา

“วันนี้รู้สึกเจ็บท้องหรือไง”

“พอทนได้ค่ะ...ท้องคราวนี้รู้สึกเด็กไม่ค่อยดิ้นเลย ผิดกับยิ่ว...ตอนนั้นถีบแม่ยังกะอะไรดี...”

“คงจะเป็นผู้หญิงสมใจฉันแน่เลย”

ระหว่างนั้นมีเสียงฝีเท้าอันร้อนรนของใครคนหนึ่งดังออกมาจากในบ้าน คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นพบจึเนะโกะหน้าตาตื่น ในมือถือคบไฟที่ยังไม่ได้จุด

“อาจึโกะเจ็บท้องนานแล้ว อยากให้ช่วยไปรับหมอตำแยที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน มันมืดแล้ว หมอมาไม่ถูก...ถ้ามีคนไปรอรับก็จะสะดวกขึ้น เป็นหมอตำแยที่มาจากในเมือง ถ้าเป็นคนบ้านเดียวกันนี้ก็คงไม่ต้องรบกวน...ช่วยหน่อยนะ”

ริวโซ่รับคบไฟมาพร้อมด้วยชนวนจุดไฟ เร่งฝีเท้าออกจากบ้านทาโนะคุระไปทันที จึเนะโกะว่าอาจึโกะคงจะคลอดก่อนโอชิน โอชินเสนอตัวจะช่วยเหลือแต่จึเนะโกะว่าไม่ต้องเพราะรู้ว่าโอชินเหนื่อยมามากแล้ว พร้อมกับบอกว่าทำกับข้าวไว้ให้โอชินแล้วด้วยเพราะกลัวว่าจะยุ่งเรื่องอาจึโกะคลอดลูกจนไม่มีเวลาหาให้

เมื่อจึเนะโกะกลับเข้าบ้านหลังใหญ่ไปแล้ว โอชินก็เข้าไปที่บ้านพักของตนเองหาไม้ขีดมาจุดตะเกียง แต่แล้วโอชินก็เกิดอาการเจ็บท้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความเจ็บร้าวนั้นเตือนสติให้โอชินระลึกว่านาทีสำคัญกำลังจะมาถึง...เอามือกุมหน้าท้องพลางกล่าวเสียงสั่นเครือกับตัวเอง เบา ๆ

“ยังนะ...ยังหรอก...เจ็บแค่นี้ยังไม่คลอดหรอก...”

โอชินเอามือควานไปจนถึงกระดาษน้ำมันที่พับเรียบร้อย นำมันออกมาคลี่ปูไปบนพื้น จากนั้นค่อยไปหยิบผ้าอ้อมที่มารดาจากยามางาตะ ส่งมาให้ เอาขึ้นมาแนบแก้มด้วยความคิดถึงแม่อย่างชนิดที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน

“แม่จ๋า...ถ้ามีแม่อยู่ใกล้ ๆ...”

เสียงขาดหายเพราะความเจ็บทวีความรุนแรงมากขึ้น...โอชินรู้สึกใจหายวาบเมื่อคิดไป ว่าขณะนี้เสมือนตนอยู่ตามลำพังผู้เดียว ด้วย ริวโซ่เพิ่งจะออกไปรอรับหมอตำแยให้อาจึโกะ ความวุ่นวายและกังวลใหญ่หลวงในบ้านหลังใหญ่มีมาโดยตลอด จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงสองยาม หมอตำแยก็ยังเอาลูกออกจากท้องของอาจึโกะไม่ได้ ริวโซ่อยู่กับพี่ชายใหญ่ข้างเตาไฟด้วยจิตใจกระวนกระวายเพื่อให้น้องสาวคลอดลูกโดยเรียบร้อย...

“นานไม่ใช่เล่นนะ...!”

ริวโซ่รำพึงออกมา พอดีกับมารดาเดินหน้า ซึมออกมาจากห้องข้างใน ทรุดกายลงนั่งเหมือนคนที่สิ้นแรง กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

“หัวเด็กมันโตมาก...อาจึโกะเป็นลมไปหลายตลบแล้ว...แม่สมเพชจนทนดูไม่ไหว”

ความผิดปกติของแรงคลอด ทำให้อาจึโกะประสบอยู่ยามนั้น...หัวเด็กไม่ยอมเข้าอุ้งเชิง กรานแสดงให้เห็นว่ามีการหดรัดตัวของมดลูกที่ผิดปกติ หากปล่อยทิ้งเนิ่นนานก็จะเกิดอาการขั้นต่อไปคือมดลูกเปลี้ยแรง อันตรายยิ่งกว่านี้คือ ถ้าการผิดสัดส่วนระหว่างหัวเด็กกับเชิงกรานแม่แล้วแทนที่มดลูกจะหดรัดตัวเฉื่อยลง กลับจะหดตัวแรงขึ้นจนทำให้มดลูกแตกได้ ไดโงะโร่เดินเหงื่อเต็มใบหน้าออกมาอีกคนหนึ่ง

“เข้าไปเป็นกำลังใจให้อาจึโกะหน่อยซิ ...โอคิโย่...”

“แย่ถึงเพียงนั้นเทียวหรือครับ”

“แม่นึกแล้วมันผิดที่ไหน นี่เป็นเพราะมาคลอดพร้อมกับโอชินพระเจ้าถึงได้ลงโทษ... ถ้าโอชินมันเชื่อแม่ยอมไปคลอดซะที่อื่น...”

“ยังจะมาพูดเรื่องไร้สาระอยู่อีก”

โอคิโย่ลุกขึ้นยืน สายตาที่มองมายัง ริวโซ่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “คอยดูนะ ถ้า อาจึโกะหรือลูกมันเป็นอะไรไปล่ะก็ ฉันจะฆ่านัง โอชิน”

“โอคิโย่...”

จึเนะโกะวิ่งถลันออกมาจากในห้องหน้าตาตื่นราวกับถูกไฟไล่มาข้างหลัง ร้องบอกโอคิโย่ เสียงหลง

“คุณแม่...คุณอาจึโกะเรียกหาค่ะ...”

“เห็นลูกได้รับความทรมานแบบนั้น ฉันทนดูไม่ไหว...”

“ไป...เข้าไปดูทำไมจะดูไม่ได้ ในเมื่อเธอส่งเสริมอาจึโกะให้มันเอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ ผลมันก็เกิดอย่างที่เห็นนี่แหละ”

“ริวโซ่...เพราะแกทีเดียว แกพานังโอชิน มา อาจึโกะมันจึงต้องทรมานเบบนี้...”

“บ้า...พูดบ้าอีกคำเดียวเป็นต้องเห็นดีกัน”

โอคิโย่กัดฟันด้วยความโกรธแค้น รีบเข้าไปข้างในห้องตามหลังไปติด ๆ ก็คือจึเนะโกะ ไดโงะโร่หันมาทางริวโซ่

“นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้ว แกไม่ไปดูโอชิน เขาบ้างรึ”

“ยังไม่มีทีท่าเลยครับ คุณพ่อ ถ้าเขามีอะไรเขาก็คงจะมาเรียกเองนั่นแหละ ตอนนี้คุณแม่เป็นห่วงอาจึโกะมาก ขออยู่ดูให้คลอดเสร็จก่อนก็แล้วกันครับ”

ระหว่างนั้นโอคิโย่ก็วิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้องบอกว่าหมอตำแยเอาไม่อยู่แล้วจะต้องไปตามสูติแพทย์ในเมือง ริวโซ่รีบอาสาจะไปตามมาให้ทันที เขาวิ่งฝ่าสายฝนออกไปโดยไม่มีคบไฟส่องสว่างทางอย่างไม่คิดชีวิต

ถึงตอนนี้โอชินก็เจ็บร้าวสุดขีดบนใบหน้ามีเหงื่อโทรมเป็นเหงื่อที่เกิดจากความเจ็บร้าว...โอชินเลื้อยคลานไปตามพื้นห้องด้วยความลำบากยากเย็น...จนกระทั่งมือเอื้อมถึงบานประตูใหญ่...พยายามออกแรงเลื่อนจนสำเร็จ... สายฝนสาดกระเซ็นเข้ามาต้องแสกหน้าพร้อมด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ...

โอชินพูดอะไรไม่ออก...ตั้งใจจะเปิดบานประตูส่งเสียงเรียกหาสามีสุดที่รัก...แต่รู้สึกปวดร้าวจนแทบจะทนต่อไปมิได้...ดวงตาพร่าพราวด้วยสายฝน...หอบหนักดุจดังเสียงหอบของสัตว์ป่าที่ได้วิ่งมาเป็นระยะทางไกลแสนไกล โอชินพยายามทรงตัวแนบกับเสาต้นใหญ่หน้าประตู...อ้าปากอย่างยากเย็นแล้วตะโกนสุดเสียง

อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน วันที่ 29 กันยายน 2553
ที่มา dailynews