อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบตอนที่ 1
มินาลิน รัฐอิสระเล็กๆที่มั่งคั่งด้วยเพชร ตั้งอยู่เหนือเมืองน่าน ระหว่างชายแดนสี่ประเทศคือไทย ลาว จีนและพม่า ปกครองโดยระบบผู้นำรัฐชื่อวาสิน มีสตรีหมายเลขหนึ่งภรรยาของผู้นำชื่อเนตรา ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ "พชร"
วาสินมีเพื่อนสนิทที่พ่อของเขานำมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมคือดารัณ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันจนวาสินขึ้นเป็นผู้นำรัฐ ดารัณจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลด้านการทหารของมินาลิน มีอำนาจรองจากวาสิน
ต่อมาดารัณคิดการใหญ่ทำการกบฏโดยใช้กองโจรที่แอบซ่องสุมไว้ วาสินมอบหมายให้ทหารที่ไว้ใจได้พาเนตราและพชรหนี แต่ทหารผู้นั้นกลับหักหลังวาสินและเข้าเป็นพวกของดารัณ โดยลวงสองแม่ลูกไปเพื่อจะฆ่าทิ้ง แต่ถูกพชรฆ่าตายก่อน ขณะที่สองแม่ลูกกำลังถึงขั้นวิกฤติหนีไม่พ้น ก็ได้รับการช่วยเหลือจากทหารของมาดิสร์ ผู้นำรัฐมินทุ ที่มีชายแดนติดกับมินาลิน
มาดิสร์มีลูกชายหญิงสองคนคือภูษณะกับบาจรีย์ บาจรีย์ ดีใจมากที่ได้เจอพชรอีกเพราะเธอหลงรักเขาอยู่ ยามนี้ที่เขากับแม่บาดเจ็บมา เธอจึงดูแลเขาอย่างดี แต่ดูเหมือนพชรจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินความเป็นพี่น้อง
เสียงร่ำไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจของเนตราดังมาจากเรือนรับรอง ตวิษา ภรรยาของมาดิสร์เฝ้าปลอบใจเนตราด้วยความสงสารจับใจ โดยมีมาดิสร์ยืนมองอย่างเข้าใจความรู้สึกของเธอผู้สูญเสีย
"เนตรา...เธอต้องเข้มแข็งนะ เธอต้องผ่านมรสุมร้ายนี้ไปให้ได้"
"พี่วาสิน...ไม่จริง พี่ต้องไม่ตาย พี่จะตายไม่ได้ น้องไม่เชื่อ มันไม่ใช่เรื่องจริง"
พชรกับบาจรีย์เข้ามาได้ยินเสียงคร่ำครวญของเนตรา ทั้งคู่ตกใจกับข่าวร้าย เนตราดวงตาแดงก่ำด้วยความเสียใจ ลุกขึ้นวิ่งไปกอดพชร
"พชร...พ่อไม่อยู่กับเราแล้วลูก พ่อไม่อยู่แล้ว..."
"ไอ้ดารัณ!" พชรคำรามลั่น แล้วมองไปยังมาดิสร์กับตวิษา "ท่านป้า ท่านลุง ผมฝากแม่ไว้ด้วย"
"เดี๋ยวสิ หลานจะรีบผลุนผลันไปไหน"
"ผมจะไปฆ่าไอ้ดารัณ" พชรหันหลังจะเดินไป ทว่าภูษณะเดินมาขวางเขาไว้
"หยุดก่อนไอ้เพื่อนรัก ลำพังนายคนเดียวจะทำอะไรไอ้ดารัณได้"
ภูษณะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ขณะที่พชรยังเดือดดาลจัด
ooooooo
ดารัณก่อกบฏสำเร็จและกำลังชื่นมื่นกับตำแหน่งผู้นำรัฐคนใหม่ที่ตั้งตนขึ้นมาเอง ท่ามกลางผู้ที่ยังจงรัก ภักดีต่อวาสินหลายคน แต่แล้วดารัณก็เด็ดหัวไปทีละคนอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะสั่งราชิต สมุนมือขวานำกองกำลังตามหาพชรแล้วตัดหัวมันมาให้ได้ พร้อมนำสร้อยศิราพัชรกลับคืนมาสู่เราผู้ครองนครแห่งมินาลิน
มาดิสร์ให้เนตราเอาหีบสมบัติเข้ามาซ่อนไว้ในตู้เซฟภายในห้องลับที่เป็นฐานบัญชาการของเขา โดยย้ำให้เนตรามั่นใจได้ว่าที่นี่ปลอดภัยที่สุด
"ขอบคุณท่านทั้งสองที่เป็นที่พึ่งพิงแก่เราและลูก ขอบคุณจริงๆ" เนตรายกมือไหว้สองสามีภรรยา ตวิษารีบจับมือเนตราไม่ให้ไหว้ตน
"อย่าถึงกับต้องไหว้เลย มินทุกับมินาลินก็เหมือนบ้านพี่เมืองน้องกัน"
"แต่พวกท่านและชาวมินทุอาจจะต้องเดือดร้อน เพราะดารัณมันต้องการชีวิตเราและลูก และที่สำคัญมันต้องการศิรา–พัชรเหนือสิ่งอื่นใด"
"ฉันให้สัญญาว่าฉันและชาวมินทุจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ดารัณได้ในสิ่งที่มันต้องการ" มาดิสร์ให้คำสัตย์แก่ เนตรา...บาจรีย์ที่ยืนอยู่ด้วยเอ่ยปากว่าตนอยากไปดูพี่ภูษณะฝึกรบ พ่อกับแม่ทำหน้าแปลกใจ ทุกทีลูกสาวไม่เคยสนใจพี่ชายฝึกรบ บาจรีย์ยิ้มเขินๆก่อนบอกว่า ครั้งนี้มีพี่พชรด้วยนี่นา...
ขณะพชรทดสอบฝีมือกับภูษณะอยู่นั้น ราชิตนำกำลังทหารจำนวนหนึ่งเข้ามาโจมตีเพื่อจะฆ่าพชรให้ได้ตามคำสั่งของดารัณ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว เพราะพชรมีทั้งภูษณะ และพาริณ สาวสวยฝีมือดีจากมินาลินซึ่งเป็นเพื่อนของพชรตั้งแต่เด็กตามมาช่วย
ทหารที่มาด้วยถูกฆ่าตายหมด ส่วนราชิตเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่จับบาจรีย์เป็นตัวประกันแล้วปาระเบิดควันเปิดทางให้ตัวเองหนีไป...จากนั้นพาริณก็ตามพชรเข้าไปพบเนตรา พร้อมด้วยคณะของมาดิสร์ที่แสดงความห่วงใยสองแม่ลูกอย่างเห็นได้ชัด แต่กับพาริณนั้น บาจรีย์รู้สึกไม่ถูกชะตาจึงหาทางไล่เธอกลับไปมินาลิน พชรจึงต้องออกโรงว่า
"พาริณภักดีต่อท่านวาสินและราชวงศ์ หากกลับมินาลิน คิดเหรอว่าดารัณจะปล่อยให้พาริณรอดชีวิต"
"ถ้างั้นก็อยู่ที่นี่ก็ได้ ถ้าไม่ช่วย ฉันคงกลายเป็นคนใจดำ" ภูษณะกล่าวด้วยมาดเคร่งขรึม พาริณมองหน้าเขาอย่างไม่ชอบใจนัก
"ถึงท่านไม่ให้ฉันอยู่ ฉันก็ไม่ฟังเพราะฉันต้องรับใช้ท่านพชร หวังว่าคงเข้าใจ"
ภูษณะรู้สึกเสียหน้าที่โดนพาริณย้อน...พชรเหลือบมองไปยังมาดิสร์ที่สีหน้าเครียดๆ จึงถามท่านลุงว่า คิดอะไรอยู่หรือ?
"การบุกมินทุของราชิตครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่ ตราบใดที่ดารัณไม่ได้ในสิ่งที่มันต้องการ และหากว่าดารัณยกกองกำลังทหารทั้งหมดบุกมินทุ เราต้านไม่อยู่แน่ๆ เพื่อความปลอดภัยของหลานและเพื่อการกู้บัลลังก์แห่งมินาลินกลับคืน เราต้องมีพันธมิตรคอยช่วยเหลือ"
"พันธมิตรที่ท่านว่าหมายถึง..."
"ประเทศไทย" สิ้นคำของมาดิสร์ พชรนิ่งไปอย่างคาดไม่ถึง
ooooooo
เพียงเช้าวันใหม่ อดิศร นายพลผู้บังคับการหน่วยรบพิเศษของประเทศไทยซึ่งเป็นเพื่อนรักของมาดิสร์ก็เตรียมตัวเดินทางไปมินทุ ท่ามกลางความแปลกใจของศิรดาผู้เป็นภรรยา ว่าสามีมีงานด่วนอะไรถึงได้รีบร้อนนัก แถมก่อนไปยังบอกให้เธอสั่งคนช่วยทำความสะอาดเรือนรับรองใหญ่ไว้ด้วย
อดิศรไปพบมาดิสร์และยินดีที่จะช่วยเหลือดำเนินการเรื่องการลี้ภัยและการฝึกทหารให้แก่พชร แต่พชรจะต้องไปในฐานะคนธรรมดาสามัญ มิใช่ในฐานะของรัชทายาทแห่งมินาลิน และเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย เราทุกคนต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
"ในฐานะของผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินแห่งราชอาณาจักรไทย เรารับรองความปลอดภัยให้ท่านได้ ท่านพชรเตรียมตัวให้พร้อม เราจะไปเมืองไทยกันเดี๋ยวนี้แล้ว"
ขาดคำของอดิศร พาริณที่ร่วมประชุมอยู่ด้วยลุกขึ้นยืนทันที
"ดิฉันขอตามไปพิทักษ์ท่านพชรตามคำสั่งของท่านวาสิน"
"ผมอนุญาต หากไปในฐานะเพื่อน มิใช่ในฐานะองครักษ์"
"ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือผม แล้วผมจะกลับมาเพื่อทวงมินาลินกลับคืน" พชรลั่นวาจาอย่างมุ่งมั่น
จากนั้นทุกคนพากันออกไปส่งพชรกับพาริณที่รถยนต์ พชรฝากมาดิสร์กับตวิษาดูแลแม่ของตนด้วย มาดิสร์รับปากจริงจังขอพชรอย่าได้กังวล ขณะที่ภูษณะก็กำชับเพื่อนรักว่า
"ตั้งใจซ้อมรบนะพชร นายคือความหวังของมินาลิน"
พชรโอบไหล่ภูษณะ ก่อนที่จะก้มลงกราบเท้าเนตรามารดาสุดที่รัก เนตราพยุงพชรให้ลุกขึ้นแล้วจุมพิตหน้าผากลูก หยิบถุงกำมะหยี่จากกระเป๋าเสื้อออกมา ซึ่งมีสร้อยเส้นหนึ่งที่ด้านหลังจี้เพชรรูปหัวใจสลักคำว่า "รักเท่าชีวิต" มอบให้ลูกชาย
"แม่อยากให้ลูกเก็บสร้อยเส้นนี้เอาไว้ มันคือตัวแทนความรักของพ่อที่มอบไว้ให้แม่ และหากวันใดลูกเจอหญิงอันเป็นที่รัก แม่อยากให้เธอได้เก็บมันเอาไว้เหมือนที่แม่รักษามันเท่าชีวิต...ในถุงนี้มีเพชรมากพอที่จะแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้มหาศาล เอาไว้ใช้ยามอยู่ต่างบ้านต่างเมืองนะลูก"
พชรเก็บถุงกำมะหยี่แล้วสวมกอดมารดาด้วยความรักอีกครั้ง
"เมื่อผมพร้อมรบ ผมจะรีบกลับมาครับ"
พชรผละไปขึ้นรถยนต์ที่พาริณกับอดิศรรออยู่ แล้วรถคันนั้นก็แล่นฝ่าความมืดออกไป โดยมีกลุ่มของมาดิสร์ยืนมองตามจนลับตา
ooooooo
เมื่อราชิตทำงานพลาดกลับมาเผชิญหน้ากับดารัณในวันรุ่งขึ้น ดารัณโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตะคอกใส่จนราชิตหน้าถอดสี
"การฆ่าไอ้พชรมันยากนักรึไงวะ ถึงปล่อยให้มันรอดไปได้"
"ถ้าไม่มีนังพาริณเข้ามาช่วย ผมเอาหัวพชรมาให้ท่านได้แน่นอน"
"เราไม่ต้องการคำแก้ตัว จำใส่กะโหลกไว้ซะว่าอย่าทำงานพลาดซ้ำสองอีก"
"ครับท่านดารัณ ผมจะตามไปล่ามันเอง"
"ไอ้โง่ แกคิดว่ามันยังอยู่มินทุรึไง ป่านนี้มันหนีไปไหนต่อไหนแล้วโว้ย" ดารัณโวยวายหยิบของใกล้มือปาราชิตที่ก้มหน้าก้มตาอย่างเกรงกลัว...
ทางฝ่ายอดิศร เมื่อพาพชรกับพาริณมาถึงบ้านของตน ก็รีบนำพาไปยังเรือนรับรองซึ่งมีเครื่องอำนวยความสะดวกหลายอย่าง
ที่มา ไทยรัฐ