อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน ตอนที่ 32

อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน ตอนที่ 32
วันพุธ ที่ 22 กันยายน 2553
ตอนที่ 32

ฐานะของโอชินในบ้านทาโนะคุระยังคงเหมือนเดิม ปัญหาระหว่างแม่สามีโอคิโย่ที่ตั้งท่ารังเกียจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อไดโงะโร่ พ่อสามีพาโอชินไปหาหมออีกครั้งเพื่อดูอาการ ของมือที่ยังใช้การไม่ได้ และเสนอให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านเกิด แต่โอคิโย่กลับตีความไปว่าโอชินควรจะแยกทางกับริวโซ่ไปเลย

แต่แล้วสถานการณ์ก็กลับกลายไปทางตรงกันข้าม ริวโซ่ที่แยกห้องนอนหลังจากความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เมื่อได้มารู้ว่าโอชินตั้งท้องเข้าโดยบังเอิญ ริวโซ่ที่เคยมีท่าทางหมางเมินก็กลับมาดูแลเอาใจใส่โอชินเหมือนเดิม ทั้งยังคอยปกป้องโอชินจากโอคิโย่อีกด้วย ทำให้โอคิโย่ยิ่งเกลียดโอชินมากขึ้นเพราะคิดว่าเป็นผู้ยุยงเป่าหูลูกชายของตน ยิ่งเมื่อได้รู้จากแม่ของโคโซ่เกี่ยวกับเรื่องที่โอชินเคยตั้งใจจะหนีไป หลังจับได้ว่าโอชินให้เงินซาว่าเพื่อใช้เป็นทุนสำหรับหนีไปจากบ้าน ของสามี ค่ำวันนั้น ทาโนะคุระอยู่กันพร้อมหน้าทั้งไดโงะโร่ ฟุกุทาโร่ ริวโซ่ และโอคิโย่

“หนูโอชิน ที่แม่ของโคโซ่มาพูดยังงั้นเป็นความจริงหรือ”

“จริงค่ะ”

“แล้วทำไมหนูโอชินไม่ไปล่ะ”

“เพราะผมเป็นคนห้ามไว้ครับ...คุณ ซาว่าเป็นคนมาบอกผม...ผมก็เลยไปห้ามไว้ทันท่วงที”

“อ้อ...นี่ถูกซาว่าหักหลังสินะ”

“มิได้ค่ะ...คุณซาว่าเป็นห่วงหนูค่ะ...ไม่ได้หักหลัง”

“คุณซาว่าไม่เห็นด้วยที่โอชินจะพายิ่วไปอยู่โตเกียว เกรงว่าจะไปตกระกำลำบากด้วยกันทั้งคู่ จึงพยายามขัดขวางการออกจากบ้านของโอชิน”

“มันไม่น่าจะยุ่งยังงั้นเลย ถ้าปล่อยไปก็คงจะไม่ต้องมารกหูรกตาที่นี่แล้ว...”

“โอคิโย่...พูดอะไรระมัดระวังปากเสียบ้าง”

“มันไม่ใช่แค่นั้นนะครับ คุณซาว่าเขารู้ว่าโอชินตั้งท้องเข้าด้วย เขาก็เลยยิ่งหาทางห้ามโอชินเป็นการใหญ่เลย...”

“หา นี่โอชินตั้งท้องแล้วรึ?”

“ห้าเดือนแล้วครับคุณพ่อ ความจริง โอชินคิดจะไปทำผมที่โตเกียวเพื่อเลี้ยงลูก แต่บาดเจ็บจนมือขวาทำงานไม่ได้ งานทำผมก็เลยทำไม่ได้”

“ก็มันแส่หาเรื่องจนเจ็บเองนี่นา”

“ไม่ใช่ครับ โอชินเขาเจ็บเพราะผมเป็นคนทำ ผมผลักโอชินล้มลงไปกระแทกก้อนหิน ผมจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โอชินจะต้องอยู่ที่นี่ และจะต้องคลอดลูกที่บ้านนี้ด้วย”

“ริวโซ่...นี่แก...”

“ริวโซ่ ดีแล้ว...ทำตามที่แกต้องการก็แล้วกัน...ตอนนี้ใครจะไล่โอชินไม่ได้...”

โอคิโย่จับแขนสามีกล่าวว่า “แต่โอชิน ...โอชินมัน...”

“พอแล้ว...หยุดนะ โอชินรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะ...ลูกจะได้แข็งแรง...เฮ่อ...เฮ่อ ...ต่อไปนี้ไอ้เสียงนกเสียงกามันคงจะเซ็งแซ่ระเบิดละ...แต่อย่าไปฟังมันเลย...ในบ้านนี้มีพ่อกับริวโซ่อยู่ไม่ต้องกลัวนะ...”

โอชินค้อมศีรษะแทบติดพื้นห้อง รู้สึก ไม่คาดคิดว่า เหตุการณ์จะกลับกลายเป็นแบบนี้ หะแรกคิดอยู่ในใจว่า จะต้องถูกเฉดหัวออกจากบ้านทาโนะคุระแล้ว แต่มาได้ยินคำพูดอันแข็งกร้าวของริวโซ่ในอันที่จะปกป้อง ก็เกิดความซาบ ซึ้งในความรักที่สามีให้กับตนเองอย่างสุดซึ้ง เมื่อมีโอกาสอยู่กันตามลำพังโอชินจึงกล่าวกับสามี

“ต่อไปนี้ คุณก็คงจะถูกคุณแม่สับละเอียด ละนะคะ”

ริวโซ่ ยิ้มเบิกบานดุจเดียวใบหน้าที่โอชิน เคยได้เห็นบ่อยครั้งในโตเกียว “ช่างเถิด...ขอให้โอชินได้คลอดลูกอย่างปลอดภัยก็พอใจแล้ว ...ต่อให้โดนโขกสับอย่างไรฉันก็ทนได้...มันลูกของฉันนี่นา...”

พลางลงมือถอดโป๊ะตะเกียง จุดไม้ขีดไฟสว่างวาบขึ้นเห็นดวงหน้าที่ยิ้มละไมของโอชินอยู่เคียงข้าง

---@@@---

วันถัดมาเป็นวันฉลองเทศกาลเด็กผู้ชาย แต่ริวโซ่กับภรรยายังคงต้องออกไปทำงานที่ไร่เหมือนเคย ไม่เหมือนเคยก็เพียงอย่างเดียวเขาทำงานกันอย่างมีความสุขมีความยิ้มแย้ม แจ่มใส ต่างลงมือเก็บผักกันตามประสาสองคนผัวเมียยามที่ต้องอาศัยคนอื่นเขาอยู่

“เราคงไม่มีโอกาสได้ฉลองเทศกาลกับ ลูกยิ่วนะคะ”

“คุณแม่เขาฉลองให้ก็ดีแล้ว...เธอน่ะระวังสุขภาพให้มาก ๆ หน่อยจะดีกว่า”

“อืม...ยิ่วก็กำลังซน...อันที่จริงมีคุณแม่เลี้ยงให้ก็นับว่าบุญโข”

“...ถ้าทำใจคิดได้แบบนั้น เราก็สุขใจดี...”

“นั่นซี...ถือเสียว่าเราฝากเขาเลี้ยงก็แล้วกัน...มันก็หมดเรื่อง”

ริวโซ่หัวเราะตอบว่า “แล้วก็เป็นคนเลี้ยง ที่ไว้ใจได้อย่างประเสริฐสุดทีเดียวแหละ”

โอชินหัวเราะด้วย “ถึงเราจะใช้เงินสักเท่า ไหร่ ก็คงจะหาคนเลี้ยงอย่างคุณแม่ไม่ได้นะคะ”

“คราวนี้ขอให้เป็นลูกผู้หญิงนะ ให้น่ารักฉลาดเฉลียวอย่างโอชินด้วยนะ”

“ไม่นึกเลยว่าคุณจะดีใจกับการมีท้องของฉัน...ดีแล้วที่ฉันไม่ได้ไปโตเกียว ถ้าไปได้เราคงพรากจากกันไปตลอดชีวิต...ทั้งยิ่วและลูกที่จะเกิดมาก็คงไม่มีพ่อ...นี่เป็นเพราะความดีของคุณซาว่าแท้ ๆ”

“นั่นซี...ป่านนี้ซาว่าเป็นอย่างไรบ้างไม่มีทางรู้เลย...”

เมื่อเขากลับมาจากไร่ เข้าไปในบ้านกำลัง มีการฉลองหลาน ๆ กันเต็มห้อง โอคิโย่เห็น โอชินกลับมาถึงก็รีบคว้ายิ่วขึ้นมาอุ้มไว้กล่าวว่า

“เด็ก ๆ ทุกคนไปนอนกันได้แล้ว ยิ่วมันจะนอนแล้ว”

ริวโซ่เห็นโอชินอยากได้กอดลูกบ้างก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “ขอให้โอชินเขาได้อุ้มลูกยิ่วบ้างซีครับคุณแม่”

โอคิโย่หันมาทำตาสีเขียวแห่งความทุกข์

“อ้าว...ไอ้ทีจะเลี้ยงอ้างว่าทำไม่ได้ พอถึง ทีจะเล่นจะหัว...กลับทำไหว...แบบนี้ไอ้คนที่นั่งเลี้ยงมาทั้งวันมันก็เสียน้ำใจแย่สิ...”

“โอคิโย่...”

“นี่ริวโซ่คืนนี้แม่มีเรื่องสำคัญจะต้องพูดกับแก”

เรื่องสำคัญของโอคิโย่ก็คือแผนการที่ จะเอาตัวโอชินออกไปให้พ้นรัศมีบ้านทาโนะคุระให้ได้

“โอชิน มันจะคลอดลูกที่บ้านนี้ไม่ได้”

“ทำไมรึครับ”

“ฉันจะต้องเป็นคนได้คลอดลูกที่นี่ มันเป็นประเพณีว่า ลูกคนแรกจะต้องคลอดที่บ้านแม่ของตัวเอง”

“นั่นมันเรื่องของแก แกจะคลอดที่ไหนมันก็เรื่องของแก”

“มันไม่ใช่ยังงั้น แกก็รู้นี่นาว่า ในบ้านเดียวกันจะมีผู้หญิงออกลูกพร้อมกันสองคนไม่ได้ เขาถือ...ดูแต่หมากับแมวซิ ถ้าออกลูกพร้อม ๆ กันยังต้องยกเอาไปให้คนอื่นเขาเลย...”

ริวโซ่หูผึ่ง...นึกไม่ถึงว่า ในโลกนี้จะมีประเพณี บ้าบอคอแตกแบบนี้ “ทำไมจะต้องมางมงายกับประเพณีบ้า ๆ แบบนั้น”

“อ้อ...นี่ตั้งใจจะให้ลูกของหนูตายงั้นรึ”

“ทำไมจะต้องตายด้วย มีเหตุผลอะไร”

“ก็เขาว่ากันยังงั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นคำโบร่ำโบราณว่าเอาไว้นะคะ”

“เมื่อเรารู้ว่า มันไม่ดี ก็ต้องเลี่ยงเสีย ... ไม่ใช่งี่เง่าหลับหูหลับตาปล่อยทิ้งไว้”

“เหลวไหล”

“แต่ผมจะให้โอชินกลับไปยามางาตะไม่ได้”

“แปลว่า แกเห็นคนอื่นดีกว่าน้องในไส้ของแก เมื่อแกจะไม่ยอมพูด ฉันก็จะไปพูดกับมันเอง...ขืนให้มันคลอดในบ้านนี้บางทีลูกของมันอาจจะต้องตายเองก็ได้...”

“บ้ากันใหญ่ ให้เขาคลอดที่นี่แหละ คลอด พร้อมกันเลยทั้งสองคน มันจะเป็นยังไงให้มันรู้ไป...”

“พูดกันไม่รู้เรื่อง...เลิกพูดเถอะ แต่จำไว้นะ...จะไม่มีใครดูแลโอชินเวลาคลอดเลย...”

ริวโซ่ยิ้ม “ไม่ต้องห่วงครับ...ไม่ต้องให้ใครมาดูแลด้วย ผมกับโอชินจะจัดการเรื่องคลอดกันเองครับ”

“เถอะ...แล้วแกจะเสียใจภายหลัง...”

“ผมขออย่างเดียวครับอย่าเที่ยว พูดเรื่องงมงายแบบนี้ให้โอชินได้ยินนะครับ เดี๋ยวเขาจะใจเสียขึ้นมา”

สิ้นคำแล้วลุกจากมาเข้าห้องของเมีย พบโอชินกำลังนั่งเขียนพู่กัน เป็นภาพดวงหน้า ของชายหนุ่มคนเดียวเท่านั้น คือ ริวโซ่ รอยยิ้มอันบริสุทธิ์ใจของ โอชิน สร้างความรู้สึกสะเทือนใจสุดขีดให้กับริวโซ่ นับแต่นี้ไปจนกว่าจะคลอดลูก โอชินคงจะต้องผจญความทุกข์อีกแค่ไหนไม่รู้ได้

เรื่องที่พูดกับมารดามาหมาด ๆ ริวโซ่อัดมันไว้จนแน่นอกสองข้าง...แต่เมื่อมองไปที่ไหล่อันบอบบางของภรรยาตรงหน้าแล้วความรู้สึกที่อัดแน่นหน้าอกนั้นกลับหายเป็นปลิดทิ้ง...ไหล่อัน บอบบางทั้งสองข้างนั้นได้แบกความทุกข์ยากเอาไว้เหลือคณานับ

---@@@---

จึเนะโกะเฝ้ามองความเป็นไปที่เกิดขึ้นกับสะใภ้อย่างโอชินมาโดยตลอดด้วยหัวใจอันเป็นธรรม และได้รับความกดดันไม่น้อยเลยหลังจากที่ได้ยินว่าในบ้านหลังนี้จะมีเด็กคลอดพร้อมกันทีเดียวสองคน มากไปกว่านั้น โอคิโย่ มารดาของสามีระยะหลัง ๆ นี้ไม่ยอมพูดจากับโอชินเหมือนแต่ก่อน ในใจของนางอาจจะมีอะไรซ่อนเร้น คิดดังนั้นแล้ว จึเนะโกะทนไม่ได้ที่จะต้องปรึกษากับสามีตน

อ่านละครย่อเรื่อง สงครามชีวิตโอชิน ตอนที่ 32
ที่มาเดลินิวส์