อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบ วันที่ 29 กันยายน 2553

อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบ วันที่ 29 กันยายน 2553
“เออ ให้มันได้ยังงี้...ถ้าคุณรักเค้า รู้มั้ยว่าผู้ชายเค้าต้องการอะไร เค้าต้องการให้ผู้หญิงที่เค้ารัก เชื่อมั่นในตัวเค้า ไม่ว่าจะยังไงก็ตามคุณจะไม่เชื่อก็ได้ แต่ที่ผมพูด จริงหรือไม่จริง ลองคิดดู คุณก็จะรู้”

ธามทำเป็นเดินไปอย่างแมน ๆ เหมือน ยอมให้บาจรีย์ตัดสินใจเอง แต่จริง ๆ แล้วแอบเดินไปหลบอยู่หลังต้นไม้ คอยมองว่าบาจรีย์จะทำยังไง พอเห็นบาจรีย์ตัดสินใจเดินกลับไปเรือนพัก ธามก็ค่อยโล่งอก

“ก็เป็นเด็กดีเหมือนกันนี่นา” ธามมอง บาจรีย์ที่เดินกลับไป อดยิ้มนิด ๆ ไม่ได้

---@@@---

วันรุ่งขึ้น พชรกลับมานำสหายใต้ดินออกฝึกซ้อมแต่เช้า ภูษณะและบาจรีย์พากันดีใจมาก พชรขอโทษธามที่พูดจาไม่ดีใส่ แถมยังไล่ให้ธามกับพวกกลับไปเมืองไทยอีก ธามทำเป็นเก๊กเดินหนีไป ทำเอาทุกคนใจคอไม่ดี ภูษณะร้องถามว่าธามจะไปจริง ๆ เหรอ ธามหันกลับมาบอกว่าใช่ ทุกคนหน้าเสียหนักขึ้น แต่พอได้ยินธามพูดต่อว่าจะไปเอาอาวุธใหม่มาให้ใช้ ทุกคนก็ค่อยโล่งอก

“ว่าแต่..อะไรกันที่เปลี่ยนใจนายให้หาย เป็นบ้าเป็นบอได้” ภูษณะนึกสงสัย

พชรนิ่งอึ้งไป ตอบไม่ได้ แต่สายตาเหลือบไปเห็นลำธารที่ยืนหลบอยู่ไม่ไกล...อึ้งไป ทันที พชรกับลำธารสบตากันในชั่วอึดใจ เหมือน กับโลกได้หยุดหมุนไป พาริณมองตามสายตาของพชรไป เห็นลำธารที่กำลังจะผละไปพอดี พาริณชะงักไปทันที

---@@@---

ทหารของดารัณกลับไปเล่าเรื่องชาครให้ ราชิตฟัง ราชิตใช้ให้ทหารคนดังกล่าวย้อนกลับไปสืบดูว่าในบ้านหลังนั้นมีอะไร ชาครพยายามปกปิดอะไรอยู่ ทหารคนดังกล่าวย้อน กลับมาอีกครั้ง พบวาสินอยู่ในบ้านตามลำพัง โชคดีทหารคนดังกล่าวจำหน้าวาสินไม่ได้ วาสิน กลัวมากคว้าหินที่อยู่ใกล้มือเป็นอาวุธฟาดใส่ หัวหทารคนดังกล่าวจนตาย ชาครกลับมาเห็น จึงตัดสินใจพาวาสินไปหาพชรที่ค่าย

ไม่มีใครจำวาสินได้ มีเพียงพชรกับพาริณ เท่านั้นที่จำได้ ภูษณะกับธามยังคงไม่ไว้ใจชาคร คิดว่าการที่ชาครพาวาสินมาอาจเป็นแผนตบตาหลอกให้เชื่อใจ ชาครเล่าว่าวาสินเกิดความแคลง ใจในตัวดารัณมานานแล้วจึงได้ส่งตนไปเป็นไส้ศึก ความเคลื่อนไหวของดารัณทั้งหมดมีเพียงชาครเท่านั้นที่ล่วงรู้

“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าไม่ใช่นกสองหัว”

“ไม่ใช่แค่พวกท่านหรอกที่ระแวงข้า ข้ารู้ดีว่าราชิตเองก็คงคิดเช่นเดียวกัน แต่มันต่างกันตรงที่นกสองหัวตัวนี้ เลือกที่จะภักดีต่อกษัตริย์วาสินต่างหาก ข้าต้องไปแล้ว ถ้ามีความ เคลื่อนไหวของดารัณ ข้าจะรีบรายงานทันที”

พอชาครกลับไปแล้ว พชรก็รีบพาวาสิน ไปให้ลำธารตรวจร่างกาย ลำธารบอกว่าสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือต้องพยายามเรียกความทรงจำจากสิ่งที่คุ้นเคย ข้าวของ ผู้คน เรื่องราวต่าง ๆ พชรต้องคอยอยู่เคียงข้างช่วยฟื้นความทรงจำให้กับวาสิน พชรขอให้ลำธารช่วย บาจรีย์จ้องมองพชรที่มองดูลำธารอย่างชื่นชมด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ

---@@@---

ชาครย้อนกลับมาเก็บ ทำลายหลักฐานทุกอย่างที่บ้านพักวาสิน เสร็จแล้วถึงค่อยกลับไปหาราชิตในเมือง แต่พอไปถึงกลับถูกราชิตจับตัวไว้ในฐานะไส้ศึก โดยมีศพของทหารที่ราชิต ใช้ให้ไปตามสืบเรื่องวาสินเป็นหลักฐาน ชาครคิดหาทางรอดด้วยการหยิบตราประจำตำแหน่งของตัวเองออกมา แล้วโยนไปที่ศพทหาร

“ทำอะไร คืนตำแหน่งให้ก่อนตายยังงั้นเหรอ”

“ข้าให้มันไงล่ะ มันอยากจะได้ตำแหน่ง ของข้านักถึงกับไปเป่าหูท่าน ว่าข้าเป็นไส้ศึก มันเข้ามาจู่โจมจะเอาชีวิตข้า คงกะว่าข้าตาย มันจะได้ขึ้นแทน”

ราชิตฟังชาคร นิ่งอยู่ ใจยังไม่เชื่อ “ปาก ดีนัก คิดว่าข้าจะเชื่อรึไง ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงไม่รีบไปรายงาน”

“ก็ข้าตกผาไปพร้อมกับมัน กว่าจะกลับขึ้นมาได้”

“เจ้าคิดว่า ข้าจะใจอ่อนงั้นเหรอ รู้มั้ย ว่าทำไมข้าสวามิภักดิ์แก่ท่านดารัณ นอกจากลาภยศ นั่นก็เพราะข้าชอบความเด็ดขาดของท่าน อะไรที่ไม่ชอบมาพากล ก็ต้องปราบให้ราบคาบ”

ราชิตสั่งให้ทหารยิงชาครทิ้ง แต่แล้วจู่ ๆ ชาครก็หยิบเอามีดขึ้นมาปาดดวงตาข้างหนึ่ง เลือดสาดกระจาย

“ข้าไม่มีอะไรให้ท่านเชื่อ นักรบที่นายไม่เชื่อใจ ก็มืดมนดังคนตาบอด ข้าโง่ที่ปล่อยให้เพื่อนมาทรยศได้ ต้องได้รับผลตอบแทนเช่นนี้”

ชาครลุกขึ้นอย่างไม่กลัวเกรง ทิ้งอาวุธ ทั้งหมด เดินโซเซไปอย่างไม่สนใจไยดีใด ๆ ไม่สนว่าข้างหลังมีกระบอกปืนจ่ออยู่ถึง 3 กระบอก ชาครเดินไปเรื่อย ๆ และเริ่มเจ็บมากขึ้นมากขึ้น...จนทรุดลง ราชิตกับพวกทหารปล่อยชาครทิ้งไว้อย่างนั้น ชาครโล่งอกที่สามารถหนีรอดจากเงื้อมมือราชิตไปได้

“ท่านวาสิน ท่านจะต้องกลับมาจำความได้และกลับมาเป็นมิ่งขวัญให้แก่มินาลินของเรา”

---@@@---

ธามได้ข่าวว่ามีกลุ่มคนแปลกหน้าแบกโลงไม้เดินผ่านมาใกล้ค่ายกองกำลังใต้ดิน จึงพาจ่าแสงกับกองกำลังจำนวนหนึ่งไปตรวจดู พบอาวุธจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในโลง ทุกคนพากันตกใจ แต่พอรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของอดิศร ก็ค่อยโล่งใจ

---@@@---

ตอนที่ 13

ลำธารดีใจมากที่ได้พบกับอดิศร พชรมองลำธารที่กอดอดิศรแน่น ด้วยแววตาเศร้าระคนเอ็นดู เมื่อเห็นหญิงที่เขารัก กลับเป็นเหมือนเด็ก ๆ อดิศรเห็นลูกสาวดูผอมลง อดเป็นห่วงไม่ได้ ลำธารไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง จึงโกหกว่าเธอสบายดี ที่ดูผอมอาจเป็นเพราะไม่ได้ทานอาหารฝีมือแม่มานาน

พชรเดินมาหาอดิศร ตั้งใจจะชวนไปพบกับวาสิน ลำธารรีบปาดน้ำตาอย่างไม่ให้มีพิรุธ พชรเห็นลำธารร้องไห้ก็ตกใจจะเข้ามาแตะไหล่ปลอบ ลำธารผงะหนีไม่ให้พชรสัมผัสตัว อดิศรเห็นอาการคนทั้งสองก็สงสัยในความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก

วาสินจำอดิศรไม่ได้ พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก พชรมุ่งมั่นอยากช่วยวาสินฟื้นความจำ จึงพาลำธารไปที่เรือนพัก ค้นหาข้าวของของวาสินที่เก็บรวบรวมมาได้ให้ลำธารดู

“ตอนที่ดารัณก่อกบฏ เราไม่สามารถจะรวบรวมอะไรมาได้ นี่เป็นของที่ท่านพ่อให้ผม มันน้อยเกินไปใช่มั้ย”

“แต่การที่จะฟื้นความทรงจำของท่าน ของพวกนี้อาจไม่จำเป็น คนไข้ส่วนมาก มักจดจำฐานะหน้าที่ของตัวเอง ได้ไม่เท่ากับจดจำครอบครัว หรือคนที่รัก แต่บางที ครอบครัวของท่านอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้”

“ผมก็เหมือนคนอื่น ๆ ถึงจะแบกรับ หน้าที่ไว้ขนาดไหน แต่ส่วนที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ก็คือคนที่เรารัก”

ลำธารเห็นสีหน้าแววตาของพชร ที่สื่อสารความในใจ ถึงกับมือไม้อ่อน จนเผลอทำของ หล่น พชรก้มช่วยจับไว้ มือของทั้งสองสัมผัสกัน ใบหน้าประชิดกันเพียงแผ่นกระดาษคั่นกลาง ลำธารเคลิ้มไปชั่วขณะ แต่พอนึกขึ้นได้ รีบชักมือออกแล้วเดินหนีกลับไปที่เรือนพักของวาสินทันที พชรมองตามลำธาร ถอนใจด้วยความว้าวุ่น ที่แทบจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่

พชรค้นหารูปของเนตราไปให้วาสินดู แม้วาสินจะจำไม่ได้ว่าเนตราเป็นใคร แต่ก็รู้สึกผูกพันกับเนตราเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนกับว่า “รักเท่าชีวิต” ลำธารเห็นว่าวาสินเริ่มจำอะไรได้บ้าง จึงบอกให้วาสินลองคิดทบทวนดูอีกที ว่ามีภาพความทรงจำอะไรที่เกี่ยวโยงกับสร้อยรักเท่าชีวิตที่เนตราใส่อยู่บ้าง

วาสินมองภาพสร้อยรักเท่าชีวิต พยายาม นึกทบทวน แต่บาจรีย์กลับโผล่เข้ามาขัดจังหวะ วาสินไม่มีสมาธิรวบรวมความคิด พชรขอให้บาจรีย์ออกไปจากเรือนพัก ปล่อยให้การฟื้นความทรงจำเป็นหน้าที่ของลำธาร บาจรีย์น้อยใจมาก เดินหงุดหงิดออกมาระบายอารมณ์นอกเรือนพัก แต่กลับมาเจอ กับธาม สองคนปะทะคารมกันอีก บาจรีย์น้อย ใจมากยิ่งขึ้น ที่ใคร ๆ ก็ไม่รัก ไม่ชื่นชม ไม่เหมือนกับลำธาร

---@@@---

เวคินสืบรู้มาว่าคลังอาวุธที่ใหญ่ที่สุดของดารัณ ตั้งอยู่ไม่ห่าง จากวังมินาลินมากนัก แต่การจะบุกเข้าไปโจมตีคลังอาวุธของดารัณกลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะดารัณวางกองกำลังคุ้มกันไว้อย่างแน่นหนา ทุกคนพากันท้อใจ แต่อดิศรกลับเห็นต่าง มั่นใจว่าไม่มีที่ไหนที่ไม่มีจุดอ่อน ถ้ารู้ว่าจุดอ่อนของคลังอาวุธของดารัณอยู่ตรงไหนก็จะสามารถโจมตีคลังอาวุธได้ พชรนึกถึงชาครขึ้นมาทันที

การเสียสละดวงตาหนึ่งข้าง ทำให้ชาครรอดชีวิตมาได้ แต่ดารัณยังคงไม่เชื่อใจชาคร ราชิตจึงส่งคนไปคอยจับตาดูพฤติกรรมชาคร อย่างใกล้ชิด พชรแอบส่งข่าวผ่านเจ้าของร้านเหล้าในเมือง บอกให้ชาครช่วยสืบหาจุดอ่อนของคลังอาวุธของดารัณมาให้

---@@@---

ชาครแอบหลบออกมาพบกับพชรที่เนินเขาชานเมืองมินาลิน เพื่อมอบแผนที่ฐานทัพที่ซ่อนคลังอาวุธ พร้อมอธิบายแผนการบุกเข้าโจมตีคลังอาวุธให้พชรฟัง โดยไม่รู้ว่าทหารสอดแนมของดารัณแอบติดตามมาคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของชาครอย่างใกล้ชิด

ทหารสอดแนมบุกจู่โจมเข้าจับกุมพชรกับชาคร จะเอาตัวไปให้ดารัณ พชรกับชาครช่วยกันจัดการทหารสอดแนม พชรเกือบพลาดท่า โดนทหารสอดแนมแทง ชาครโผเข้าบัง โดนกริชแทงถากสีข้างแทนพชร พชรรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

อ่านละครย่อเรื่อง ศิราพัชร ดวงใจนักรบ วันที่ 29 กันยายน 2553
ที่มา เดลินิวส์