อ่านละครย่อเรื่อง ระบำดวงดาว ตอนที่ 7

อ่านละครย่อเรื่อง ระบำดวงดาว ตอนที่ 7
เพราะน้ำหวานมีข้อแม้ว่าถ้าจะให้เล่นฉากเลิฟซีน ต้องกอดปล้ำกับพระเอกก็ต้องมีหมอนข้างคั่นกลาง เลยกลายเป็นฉากเลิฟซีนที่ดูตลกน่าสมเพชมากกว่า

ผู้กำกับเห็นแล้วอารมณ์เสียสุดขีดแผดเสียงลั่น

"แอร๊ยยยยย ตูอยากตาย ไม่ต้องเลิฟซงเลิฟซีนมันแล้ว ใช้มุกโบราณมันนี่แหละ พีทเอาผ้าห่มคลุมตัวเองกับน้ำหวานแล้วแพนกล้องไปที่หัวเตียง จบ!"

ทุกคนรับคำ อึดใจเดียวพีทกับน้ำหวานก็อยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน ใต้ผ้าห่มพีททำท่าปลุกปล้ำน้ำหวานอย่างเมามันแต่ความจริงพีทไม่ได้ถูกต้อง เนื้อตัวน้ำหวานเลย

ผู้กำกับมองดูผ้าห่มที่ขยับอย่างไร้ศิลปะก็อารมณ์เสียระเบิดเสียง "โอ๊ยยย...เซ็งเป็ดโว้ย"

แต่หารู้ไม่ว่าใต้ผ้าห่มนั้น น้ำหวานนอนมองพีทตาเยิ้ม

ก่อนที่จะใช้เท้าแตะไปที่เท้าพีทแล้วค่อยๆไล้เท้าขึ้นมาหน้าแข้งวนไปมาอย่างยั่วยวน

พีทมองน้ำหวานตาวาว...ยิ้มที่มุมปากอย่างรู้กัน...

ดังนั้น...คืนนี้ ที่สระน้ำคอนโดฯที่พีทอยู่จึงมีบทเลิฟซีนกันในสระนอกบทกันอย่างร้อนแรง เมามัน ระหว่างนั้นโทรศัพท์ มือถือของน้ำหวานดังขึ้น เธอไม่รับสายเพราะไม่อยากเสียอารมณ์ ที่กำลังติดพันแต่โทรศัพท์ก็ดังไม่ยอมหยุด จนพีทบอกว่าทางโน้นคงมีเรื่องอยากคุยกับเธอให้ไปรับก่อนดีกว่า

"ใครกัน! กวนใจซะจริง!!" น้ำหวานจำใจโผจากพีทขึ้นมาคว้ามือถือขึ้นดูบ่น "ไม่เห็นรู้จัก"

พอรับสาย ปลายสายคือจิมมี่นั่นเอง เขาไม่เผยตัวแต่พูดขู่ๆว่า "ผมมีเรื่องจะบอก อย่าเพิ่งวางสายนะคุณน้ำหวาน

ผมแค่จะบอกคุณว่า ตอนนี้ในมือผมมีรูปเลิฟซีนที่เร่าร้อนระหว่างคุณกับหมอวาทิศ ไม่รู้ว่าคุณสนใจหรือเปล่า"

น้ำหวานตกใจหน้าซีดเผือด พีทสังเกตอยู่เขามองอย่างสนใจ

ooooooo

กลับถึงบ้าน น้ำหวานเล่าให้พริมาและพฤกษ์ฟังพริมาถามว่าจริงหรือเปล่า น้ำหวานบอกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า พอพฤกษ์ถามว่ามันจริงใช่ไหม น้ำหวาน หันไปแว้ดใส่พ่อทันทีว่า

"พ่อก็...เรื่องแบบนี้ของหนุ่มสาวมันเป็นเรื่องปกติ คนที่แอบถ่ายต่างหากที่มันไม่ปกติ"

ปัญหาจึงมีว่า ทางเราจะหาทางทำลายรูปนั้นอย่างไร

น้ำหวานบอกว่ามันเรียกสามแสน พริมาโวยวายว่ามันขู่กันชัดๆ พฤกษ์เสนอให้แจ้งตำรวจ น้ำหวานเอ็ดพ่อว่า

"ขืนแจ้งตำรวจ คนเขาก็รู้กันหมดสิคะว่าเป็นน้ำหวานจริงๆ" พริมาถามว่าแล้วจะยอมเสียเงินหรือ น้ำหวานเบ้หน้า "น้ำหวานไม่ให้หรอกค่ะ"

พฤกษ์กลัวน้ำหวานจะงานหายเงินหด น้ำหวานปลอบใจ ว่าไม่เป็นไร มันอาจจะแค่ขู่ก็ได้เพราะข่าวก็ยังไม่มี ในเน็ตก็ยังไม่มี แต่ทันใดก็มีเสียงสัญญาณคอมพิวเตอร์เตือนว่ามีเมล์เข้า น้ำหวานรีบไปเปิดดู

แล้วทั้งสามก็ตะลึงงันเมื่อเห็นรูปน้ำหวานนัวเนียกับวาทิศในสระน้ำ!

หลังจากหายตะลึงพริมาถามว่าน้ำหวานจะแก้ปัญหาอย่างไรคงต้องจ่ายสามแสนใช่ไหม ก็พอดีมือถือน้ำหวานดังขึ้น เป็นสายจากจิมมี่นั่นเอง

น้ำหวานตวาดไปว่าตนไม่ยอมจ่ายแม้แต่บาทเดียว จิมมี่ขู่ว่าถ้าอย่างนั้นก็รอดูภาพเธอกับผัวตามแผงหนังสือก็แล้วกัน ทั้งที่ตกใจแต่น้ำหวานก็ยังทำปากกล้าท้าทายไปว่า "ดี!! ฉันจะได้ยิ่งดัง"

สามพ่อแม่ลูกเกือบทะเลาะกันว่าจะยอมจ่ายหรือไม่ ถ้าไม่ก็มีหวังดับ น้ำหวานกลัวแต่ก็ยังทิฐิบอกพ่อกับแม่ว่าตนไม่ชอบให้ใครมาขู่เพราะถ้ารู้ว่า เรากลัวมันก็จะยิ่งได้ใจเรียกร้องจากเรามากขึ้น สุดท้ายเสียงแข็งว่า

"หวานจะยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวเท่านั้นว่ามันไม่จริง อยากรู้เหมือนกันว่าใครมันจะทำอะไรหวานได้!"

ส่วนจิมมี่เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบที่พอใจก็ฮึดฮัดคำรามว่า "รู้จักฉันน้อยไป นังน้ำหวาน" พลางฮึดฮัดเดินผ่านเฮียใหญ่ไป เฮียถามว่าเสียบอลอีกรึไง ถูกตวาดว่า "เรื่องของผม"

"เออ...เรื่องของแก แต่มันเกี่ยวกับงานของฉัน งานที่ให้ ทำน่ะเสร็จรึยัง"

จิมมี่ไม่ตอบ เฮียใหญ่บ่นว่าก็เป็นเสียอย่างนี้แล้วจะเจริญได้ยังไง กลับถูกพูดอย่างท้าทายว่า

"ไม่ต้องมาบ่นผมนะเฮีย ผมมีเงินเมื่อไหร่ ผมไม่อยู่ให้เฮียด่าแน่" พูดแล้วเดินหัวเสียไป

"ฉันด่ามันตรงไหน...ไปกันใหญ่แล้วไอ้นี่" เฮียใหญ่ส่ายหน้าบ่นงึมงำ งงๆ

ooooooo

ปยุตรพาเหมยมาแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เขาหยอกเหมยขำๆ ว่าต่อไปเธอคงนั่งกินข้างทางแบบนี้ไม่ได้แล้ว เหมยถามว่าทำไมไม่ได้

"ก็มันอยู่ข้างถนน อีกอย่างขืนมานั่งกินกับผมเดี๋ยวก็เป็นข่าว" เหมยทำหน้าทะเล้นบอกว่าดีสิจะได้ดัง ปยุตรแกล้งทำหน้าจ๋อยๆ บอกว่า "แต่เป็นข่าวกับนักข่าวกระจอกอย่างผมไม่ดังหรอก"

เหมยเลยหยุดหัวเราะบอกว่าตนไม่อยากดังเพราะข่าวหรอก อยางดังเพราะความสามารถ อยากเป็นนักแสดงที่ดี ปยุตรบอกว่าจะเอาใจช่วย แต่ที่สำคัญเธอต้องจำคำพูดของตัวเองวันนี้ไว้ให้ดี ไม่ใช่พอดังขึ้นมาก็...เขาพูดถึงตรงนี้ เหมยก็แทรกขึ้นว่า "ลืมตัว"

ทั้งสองคุยกันถึงพวกดาราดังบางคนที่พอดัง ได้ทุกอย่างแล้วก็ลืมหมดว่าตัวเองเคยพูดไว้ว่ายังไง เหมยรับรองว่าตนไม่เป็นอย่างนั้นท้าให้คอยดูก็แล้วกัน

"เออ...จะคอยดู แล้วก็คอยเอาใจช่วยขอให้คุณดังๆ ไม่หวังอะไรมากหรอก ขอแค่...สัมภาษณ์ง่ายหน่อยก็แล้วกัน ไม่ใช่อะไรๆ ก็ไม่ว่าง...ไม่ว่าง..."

"เหน็บฉันตั้งแต่ยังไม่เป็นดารา สงสัยจะเก็บกดมากเลยนะคุณเนี่ย" เหมยหยอก

"ผมก็แค่เตือนไว้ ไม่มีใครตั้งใจที่จะลืมตัวหรอก แต่พอลืมตัวขึ้นมาจริงๆ มันก็จะทำร้ายคนรอบข้าง ด้วยการ 'ลืม' นึกถึงใจคนเหล่านั้นไง" ปยุตรพูดจริงจังเสียจนเหมยเถียงไม่ออก

ooooooo

ไม่เพียงปยุตรจะคุยกับเหมยเรื่องนี้ แม้แต่ที่ร้านขายของของแม่กุ้ง ป้าผ่องและบรรดาเพื่อนแม่ค้าพ่อขายทั้งหลายก็พูดถึงเรื่องนี้ แม่กุ้งเห็นด้วยกับคำพูดของปยุตรพูดนิ่มๆว่า

"มันก็จริงอย่างที่ปยุตรว่านะเหมย คนรวย คนดัง ชอบทำอะไรไม่นึกถึงใจคนอื่น"

ป้าผ่องผสมโรงว่าบางคนเอาแต่ใจตัวไม่สนใจคนอื่นที่มายืนรอซื้อของก่อน เตือนเหมยว่าดังแล้วอย่าเป็นอย่างนั้นก็แล้วกัน เหมยก็ยังรับรองจริงจังกับทุกคนว่าไม่เป็นหรอก ส่วนกันต์ถามว่าต่อไปเหมยจะมายืนขายกล้วยทอดอย่างนี้อีกหรือเปล่า

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พี่ก็เป็นพี่คนเดิม" เหมยบอกกันต์ แม่กุ้งแซวยิ้มๆว่า แต่อาจจะไม่เหมือนเดิม

สุดท้ายเหมยต้องย้ำแล้วย้ำอีกว่าตนจะเหมือนเดิม ไม่ว่าจะดังแค่ไหนรวยแค่ไหน เหมยคนนี้ก็จะเป็นเหมยคนเดิม

"ผมเชื่อ" ไม้พูดขึ้น เหมยดึงไม้เข้าไปกอดขอบใจน้องชาย

แต้วที่แอบชอบไม้อยู่ถือช่อดอกไม้เข้ามาจะแสดงความยินดีกับเหมย เห็นภาพนั้นถึงกับดอกไม้หลุดจากมือ จากนั้นเลี่ยงไปนั่งเศร้าที่สะพานหน้าบ้านเช่า จนไม้ตามไปเจอถามว่าทำไมไม่เอาดอกไม้ไปให้เหมย แต้วตอบประชดแกมน้อยใจว่า "เข้าไม่ถึงตัว"

แต้วพูดอย่างน้อยใจที่ใครๆก็ชื่นชมเหมยเห็นเหมยดีไปหมดทุกอย่าง ไม้มองหน้าแต้วพูดขำๆว่าอิจฉาเหมยหรือ แต้วยอมรับว่าใช่ เพราะใครๆก็ชื่นชมเหมยแต่ไม่มีใครเห็นหัวตนเลย

ความน้อยใจทำให้แต้ววิ่งหนีจากไม้ไป ไม้เป็นห่วงวิ่งตามไปดึงแต้วไว้ถามว่าเป็นอะไร

"พี่เหมยไม่ใช่พี่ของแต้ว! พวกเราสี่คนไม่มีใครเป็นพี่น้องใครทั้งนั้น เป็นแค่เด็กที่ถูกแม่กุ้งเก็บมาเลี้ยง แต้วเองก็ไม่อยากจะคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ ถูกแม่ ทิ้งมาตั้งแต่แบเบาะ พอโตขึ้นมาก็ไม่มีใครสนใจอีก ทุกคนในบ้านมีแต่รัก ชื่นชมพี่เหมย อะไรๆก็เหมยๆๆ ได้ยินไหมว่าแต้วไม่อยากได้ยินชื่อเหมย"

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" ไม้ตะคอก กระชากแต้วอย่างแรงเตือนว่า "มีสติหน่อยนะแต้ว พี่เหมยทำทุกอย่างเพราะพวกเราทุกคน"

แต้วเถียงว่าไม่ใช่ เหมยอยากดังอยากเป็นดารา เหมย ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองทั้งนั้น ไม้เสียงดังไปด้วยความโกรธจัดว่า "มีแต่แต้วเท่านั้นล่ะที่คิดแบบนี้"

"เห็นไหม...แม้แต่ไม้ก็ยังรัก ยังเข้าใจแต่พี่เหมย ไม่เคยเข้าใจแต้วเลย" พูดแล้วสะบัดหลุดวิ่งออกไป ไม้เป็นห่วง รีบวิ่งตามไป

ทั้งคู่วิ่งไล่กันมาเต็มแรง ไม่ทันดูรถของนักท่องเที่ยวที่ขับมา ไม้ตะโกนสุดเสียง "แต้วระวัง!" แล้วกระโจนเข้าคว้าตัวแต้วเหวี่ยงออกไปเต็มแรง แต่ตัวไม้เองกลับบาดเจ็บสาหัส!

เมื่อตำรวจมาสอบปากคำ แต้วยืนหน้าซีดไม่กล้าพูดความผิดของตัวเอง...

ooooooo

อ่านละครย่อเรื่อง ระบำดวงดาว ตอนที่ 7
ที่มา ไทยรัฐ