@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 9/2-10

@^@..อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 9/2-10
ตอนที่ 9 (ต่อจากวานนี้)

เห็นศิศิราทุกข์ระทมไม่เว้นวาย ซ้ำร้ายยังมาถูกงูกัด มาณสิงห์สู้อุตส่าห์ไปหาดอกจันทร์กระจ่างฟ้านอกวังมาให้ ด้วยหวังว่าดอกไม้สวยงามหายากชนิดนี้จะทำให้ศิศิรายิ้มได้และนอนหลับฝันดี แต่พอมาณสิงห์ กลับออกไปเฝ้าหน้าห้อง ทีฑายุกลับแอบเข้ามาทางหน้าต่างแล้วทำลายมันจนแหลกคามือ แถมยังคาดคั้นศิศิราให้บอกมาว่ากำลังคิดแผนอะไรกับมาณสิงห์

ศิศิราปฏิเสธเสียงแข็ง ทีฑายุรู้ว่าโกหก ทำท่าข่มขู่เธออย่างเหนือกว่า

"รู้ไว้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไร หรือว่าอยากให้คนทั้งวังตื่นมาเห็นสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยของเจ้าหญิง"

"เธอมันก็ดีแต่ปลิ้นปล้อน รังแกผู้หญิงไปวันๆ ถ้าไม่มีลุงคอยบงการเป็นหุ่นเชิด ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายเสเพล

ป่าเถื่อน"

"ถ้าจะเถื่อนครบเครื่อง มันก็ต้องปล้ำเจ้าหญิงด้วย" ทีฑายุรวบตัวศิศิรา ทั้งที่เธอพยายามปัดป้อง ขอร้องอย่ารังแกเธออีกเลย "งั้นก็แต่งงานซะ"

"เราเกลียดเธอ"

"เกลียดก็ต้องแต่ง ถ้าแต่งก็แยกห้องกันอยู่ แต่ถ้าไม่แต่ง เราก็ต้องอยู่ด้วยกันในห้องนี้ทั้งวันทั้งคืน จะได้รู้ตัวเองสักทีว่า ความเป็นเจ้าหญิงมันมีค่าเป็นแค่สิ่งที่ทำให้บัลลังก์ลุงโกญจนาทมั่นคง ไม่มีอะไรน่าเสน่หาสำหรับไอ้ทีฑายุเลยสักนิดเดียว"

ทีฑายุผลักศิศิราล้มลง แล้วเขาก็กลับออกไปทางหน้าต่างเหมือนตอนเข้ามา ศิศิราน้ำตาเอ่อ หยิบดอกไม้ของมาณสิงห์ที่แหลกอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วลุกขึ้นทำท่าจะเปิดประตู แต่แล้วเปลี่ยนใจดึงมือกลับ ยอมเก็บความทุกข์ไว้เพียงลำพัง...

ข้างฝ่ายทีฑายุ ครู่ต่อมาเขาไปปรากฏตัวที่หอคณิกาอย่างคนหงุดหงิดหัวเสีย เขาระบายออกจนจตารีคาดเดาได้ไม่ยาก ก่อนจะเข้ามาโอบรอบคอเขาไว้อย่างรู้อารมณ์

"ตัวก็ใกล้ หัวใจก็เคยผูกพันกันมา ทำไมทีฑายุถึงจะเอาชนะใจเจ้าหญิงอีกครั้งไม่ได้ล่ะคะ รู้มั้ยผู้หญิงน่ะเอาใจไม่ยาก แค่มีรอยยิ้มในดวงตาให้ หัวใจก็พร้อมที่จะละลาย เหมือนครั้งนึงแสนนานที่ทีฑายุเคยมีให้จตารี"

ทีฑายุเมินหน้าไปทางอื่นอย่างขุ่นใจ ไม่อยากต่อความ จตารีกระชับอ้อมกอด ขณะที่ปากก็รำพันจี้ใจดำเขาต่อไป

"โบราณว่าสามวันจากนารีเป็นอื่น แต่นี่ทีฑายุก็ไม่เคยห่างเจ้าหญิง นอกเสียจากว่ามีใครกำลังแทรกตัวมาเยียวยาหัวใจบอบช้ำ จนทีฑายุหมดความหมาย"

คำพูดของจตารีทำให้ทีฑายุยิ่งขุ่นมัวเมื่อนึกถึงมาณสิงห์... เขาปัดหมอนใกล้มือระบายอารมณ์ จตารียิ้มไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เร่งรัดรู้คำตอบ เพราะต้องการแค่หย่อนเชื้อความระแวงศิศิราลงไปในใจทีฑายุ

ooooooo

ไมยาดินเจอกัญญาภัคในเช้าวันใหม่ เขาถามเธอว่าบอกเรื่องเมื่อวานให้ท่านโกญจนาทรู้หรือยัง กัญญาภัครับปากว่าต้องบอกแน่ แล้วไมยาดินก็จะได้ ความดีความชอบ ไมยาดินเน้นย้ำว่าเขาไม่ได้ทำงานหวังรางวัล

"แต่คนเสียสละกล้าบ้าบิ่นอย่างเธอ ก็ต้องมีคนเห็นใจและซึ้งใจบ้าง อย่างน้อยก็มีกัญญาคนนึงที่รู้ว่าเธอเป็นคนดี ซื่อสัตย์ต่อท่านโกญจนาทมากแค่ไหน ผู้ชายอย่างไมยาดิน ต่อให้หาทั้งแคว้นก็คงจะไม่มีใครดีเสมอเหมือนอีกแล้ว"

กัญญาภัคยิ้มโปรยเสน่ห์ ไมยาดินสุดปลื้ม ตกลงไปในกับดักคำชมของกัญญาภัคอย่างไม่รู้ตัว...ส่วนทีฑายุที่เมื่อคืนหัวเสียไม่สบอารมณ์ เช้าขึ้นแทนที่จะผ่อนคลายกลับต้องหงุดหงิดขึ้นมาอีก เมื่อเดินมาเห็นมาณสิงห์ยังปักหลักอยู่หน้าห้องศิศิรา พอทีฑายุเปิดฉากไล่มาณสิงห์กลับถูกมาณสิงห์ยอกย้อนอย่างเจ็บแสบก่อนเดินจากไป ทีฑายุเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่พอใจ ลงนั่งหน้าห้องได้ครู่เดียว ศิศิราก็เปิดประตูออกมาเจอ ศิศิราเข้าใจว่าทีฑายุนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อคืน จึงประชดขึ้นมา

"นี่เราคงเป็นนักโทษชั้นดี ถึงได้หลานกบฏโกญจนาทมาเฝ้าไม่ให้คลาดสายตา"

"คนมาเฝ้าด้วยความห่วงใยทั้งคืน ยังไม่ได้นอน แต่หา ความดีไม่ได้เลย" ทีฑายุโกหกหน้าตาย ศิศิราปรายตามองนิดเดียวแล้วจะเดินหนี ทีฑายุรีบลุกขึ้นดันศิศิราติดประตูแล้วใช้แขนล็อกตัว ถามเสียงแข็งว่าจะไปไหนแต่เช้า เมื่อเธอไม่ตอบจึงค่อนแคะว่านัดองครักษ์ไว้ที่ไหน สวนดอกไม้หรือห้องปักไหม

"อย่าเอานิสัยมักง่ายของตัวเองมาใช้กับเรา" ศิศิราตวาดใส่ ทีฑายุเห็นนางข้าหลวงหลายคนเดินผ่านเลยแกล้งดันศิศิราชิดประตูและโน้มหน้าเข้าข้างแก้ม นางข้าหลวงมองมาตาโต ศิศิราอายทั้งดิ้นทั้งผลักแต่ทีฑายุยิ่งแกล้งกอด

"หาที่พลอดรักให้มิดชิดสมฐานะเจ้าหญิงหน่อยก็ดีนะเพคะ" กัญญาภัคก้าวเข้ามายืนตรงหน้า ศิศิราตกใจผลักทีฑายุสุดแรง "สงสัยครอบครัวเราจะได้สายเลือดใหม่เร็วกว่าที่คิด"

"อย่าฝันเกินไปหน่อยเลยกัญญาภัค แค่พวกกบฏได้แตะบัลลังก์ ความอัปยศก็มากพอสำหรับวังนี้แล้ว"

"แล้วเมื่อกี๊ที่เจ้าหญิงปล่อยให้พี่ทีฑายุกอดจูบล่ะ จะเรียกอะไรดีให้สมกับการปล่อยตัวปล่อยใจ...หญิงงามเมือง เหมาะดีมั้ย"

"ทีฑายุบังคับเรา"

"รวมที่หายกันไปสองต่อสองก่อนหน้านี้ ก็เป็นการบังคับข่มขืนใจหรือเปล่า ลับตาคนไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น คงสนิทชิดเชื้อกันได้ตามใจอยาก"

ศิศิราหน้าชากับรอยยิ้มเยาะของกัญญาภัคและสายตาของนางข้าหลวงที่แอบมองมา ศิศิราอับอายขายหน้าจนต้องรีบกลับเข้าห้อง กัญญาภัคยังขุ่นใจเตือนทีฑายุอย่าประเจิดประเจ้อนัก คนอื่นจะเอาไปนินทาลับหลังได้ว่าครอบครัวเราไม่ให้เกียรติ ผู้หญิง

ทีฑายุไม่มีท่าทีใดๆ เขาผลักประตูตามศิศิราเข้าไปในห้อง แล้วก็เห็นศิศิราใช้มีดจ่อคอตัวเองทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บช้ำ

"พอใจหรือยัง สนุกมากพอหรือยังที่ได้ทำให้เราสิ้นเกียรติ"

"ก็สนุก แต่วางมีดลงก่อนเถอะ"

"บอกสิว่าจะไม่แต่งงานกับเรา"

"อย่าขอสิ่งที่มันยากนัก เถอะน่า แต่งๆไปก่อน ถ้าอยากอยู่กับองครักษ์จริงๆเดี๋ยวจะหาทางช่วยให้สมหวังเป็นคราวๆไป เอามั้ย"

"หยุดดูถูกเรากับมาณสิงห์สักที บอกมาทีฑายุ ว่าเธอจะล้มเลิกการแต่งงาน"

"การแต่งงานคือเรื่องที่ลุงโกญจนาทตัดสินใจให้แล้ว"

"ถ้าเธอยืนยันว่าจะทำเพื่อลุง โดยไม่เห็นแก่ความจริงใจที่เราเคยมอบให้ เราก็ต้องทำเพื่อรักษาเกียรติยศแห่งราชวงศ์ เราจะไม่ยอมให้ชีวิตของเราเป็นเครื่องมือของคนคิดคดทรยศแผ่นดิน"

ศิศิรากดมีดลงที่คอจนเลือดซึมออกมา ทีฑายุตกใจร้องห้าม ขอให้คิดถึงน้องชายบ้าง

"น้องธราเทพต้องรู้ว่าพี่สาวของเขาได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว"

ศิศิราจะกดมีดอีก ทีฑายุจึงถอยไปที่ประตูพลางขอร้องให้เธอหยุดทำร้ายตัวเอง ศิศิรายื่นคำขาดว่าเธอไม่ต้องการงานแต่งงานสกปรก ขณะที่มือก็พร้อมจะกดมีดตลอดเวลา

"รักษาชีวิตไว้ ศิศิรา ชีวิตเจ้าหญิงมีค่ามากกว่าจะยอมสละเพราะเกลียดชังผู้ชายชั่วๆอย่างเรา" ทีฑายุมองประสานสายตาศิศิรา เมื่อแน่ใจว่าศิศิราไม่ลดมีด ทีฑายุจำใจหันหลังเดินออกประตูไป

เสียงทีฑายุปิดประตูดังโครม ทำให้มาณสิงห์ที่ยืนอยู่ แถวนั้นสังหรณ์ใจ วิ่งมาผลักประตูเข้าไปทันที...มาณสิงห์ตกใจกับภาพศิศิราน้ำตาไหลพราก มีดยังจ่ออยู่ที่คอ เขาตั้งสติเดินมาใกล้ ค่อยๆดึงมีดออกมาโยนทิ้ง

"เมื่อไหร่เราจะพ้นไปจากฝันร้ายสักที" ศิศิราคร่ำครวญน่าเวทนา

"อย่าทนต่อไปอีกเลย ถึงเวลาที่เราต้องสู้ เจ้าหญิงทรงสละทุกอย่างมามากเกินไปแล้ว นอกวังยังมีประชาชนและกองทัพที่ยอมตายแทนพระองค์ ขอทรงรักษาชีวิตและหัวใจไว้ไม่ให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำอีก ขอเพียงวางใจในความรัก และภักดีของกระหม่อม"

ขณะเดียวกันนั้น ทีฑายุเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงเข้ามาในท้องพระโรง กัญญาภัคทำไม่รู้ไม่ชี้ ตามเข้ามาสรรเสริญเยินยอที่ทีฑายุกำลังจะได้ครอบครองทั้งบัลลังก์และความรัก

"พี่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อครอบครอง"

"แล้วพี่มาทำไมล่ะคะ มายืนในห้องนี้ ในวังนี้ทำไม"

"เรามีหน้าที่ หน้าที่ต้องมาก่อนความพอใจส่วนตัว"

"หน้าที่อะไรคะ"

"วันนึงพี่จะบอก"

"ทุกคนก็นึกถึงแต่ตัวเอง ไม่มีใครเลยที่นึกถึงใจกัญญา ชีวิตกัญญามันคงไร้ค่า" กัญญาภัคน้อยใจน้ำตาปริ่ม แล้วซบลงกับอกทีฑายุ "กัญญาต้องการแค่ความรัก ความเข้าใจ ที่ไม่มีใครเคยให้ นอกจากพี่ทีฑายุ"

ศิศิราเดินมาหยุดมองผ่านประตูเข้าไปด้านใน เห็นภาพทั้งคู่แนบชิดกัน ซ้ำได้ยินทีฑายุบอกรักกัญญาภัค แต่ไม่ได้ยินคำต่อท้ายที่เขาย้ำว่ารักอย่างน้องสาว เพราะศิศิราวิ่งตามมาณสิงห์ ออกไปเสียก่อน

เมื่อถูกทีฑายุย้ำแล้วย้ำอีกอย่างไม่มีใจเช่นคนรัก กัญญาภัคเจ็บใจแล้วกะไประบายอารมณ์กับศิศิรา ผู้หญิงซึ่งเป็นตัวการ แต่เมื่อเข้ามาในห้องต้องพบกับความว่างเปล่า กัญญาภัคเดินหาจนทั่วห้อง แล้วนึกสังหรณ์ใจ วิ่งพรวดออกไป

มาณสิงห์กำลังพาศิศิราหนีออกจากวัง แต่เกือบถูกไมยาดินจับได้ ถ้ากัญญาภัคไม่มาขวางอย่างแนบเนียน และเปิดทางปล่อยทั้งคู่ไป มาณสิงห์กับศิศิราเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอพ้นจากวังมาได้ทั้งคู่ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมุ่งหน้าเพื่อจะออกนอกเมืองให้ได้ แต่แล้วเกือบจะจ๊ะเอ๋กับทีฑายุที่แวะมาหาจตารี โชคดีที่มาณสิงห์ตาไวเห็นทีฑายุก่อน จึงพาศิศิราหลบไปจากตรงนั้น

ขณะลัดเลาะเข้าไปในซอยหนึ่ง ทั้งคู่เจอหญิงขอทานเนื้อตัวมอมแมม ศิศิราหวั่นว่าจะหลงทาง มาณสิงห์จึงเข้าไปถามหญิงขอทาน

"ถนนเส้นไหนเป็นทางลัดไปนอกเมือง"

หญิงขอทานก้มหน้าก้มตาชี้มือไปทางเล็กแคบ ศิศิราตอบแทนน้ำใจของหญิงขอทานด้วยแหวนที่นิ้วของตัวเอง ถอดส่งให้เก็บเอาไว้ประทังชีวิต

หญิงขอทานประคองมือรับแล้วยกมือไหว้ท่วมหัว พอศิศิราหันหลังวิ่งตามมาณสิงห์ ออกไป หญิงขอทานก็ค่อยๆเปิดผ้าคลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริงว่าเธอคือกัญญาภัคนั่นเอง

"วิ่งไปเร็วๆ นั่นน่ะมันทางไปนรกของแก...ศิศิรา" กัญญาภัคแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ร้ายลึก

ooooooo

ตอนที่ 10

หลังรู้ว่าศิศิรากับมาณสิงห์หนีออกจากวังไปแล้ว ญาณีกับส้มเสี้ยวพยายามจะตามไปให้ได้ แต่ทั้งคู่ก็ทุลักทุเลน่าดูขณะปีนกำแพงวัง และสุดท้ายก็ล้มเหลว เพราะสามหนุ่มเพื่อนของทีฑายุมาเห็นเข้า

โกญจนาทโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตำหนิทีฑายุที่ปล่อยให้ ผู้หญิงอ่อนแอเหมือนลูกนกถูกเด็ดปีกหนีไปได้กับองครักษ์ ส่วนทาอูกับรามปุระก็มองทีฑายุอย่างดูแคลน ทีฑายุสีหน้าไม่สู้ดี บอกโกญจนาทว่า ตนกำลังจะไปตามศิศิรา รามปุระขัดขึ้นทันทีว่าอย่าลำบากเลย เรื่องตามล่าพวกตัวแสบ ไมยาดินเร็วกว่าหลานท่านโกญจนาทเยอะ

ไมยาดินกำลังเร่งรีบจะออกจากวังพร้อมทหารกลุ่มหนึ่ง แต่ถูกกัญญาภัคออกมาขวางทาง และพูดรู้ทันว่าไมยาดินกลัวไปไม่ทันเจ้าหญิงกับมาณสิงห์...ไมยาดินชะงัก สังหรณ์ใจ

"หรือว่าคนปล่อยเจ้าหญิงให้หนีไปคือเธอ"

"เพราะเรารู้ว่าศิศิราจะหนีไม่พ้นต่างหาก คนเดียวที่จะ ทำให้ศิศิราจนมุมคือเธอเท่านั้น...ไมยาดิน" กัญญาภัคยิ้มมีเลศนัย เพราะเธอได้วางกับดักจัดการกับมาณสิงห์และศิศิราไว้แล้ว

มาณสิงห์กับศิศิราหลงกลเดินไปตามเส้นทางที่หญิงขอทานชี้บอก แล้วมาณสิงห์ก็เหยียบกับดักจนตัวลอยละลิ่วขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่กับต้นไม้ โชคดีที่ศิศิรายั้งเท้าทัน แต่ก็ยืนตัวเนื้อสั่นด้วยความตกใจ

ด้านกัญญาภัคจอมเจ้าเล่ห์ ผละจากไมยาดินก็มาหาทีฑายุ นำแหวนของศิศิรามาโชว์ ทีฑายุจำแหวนวงนี้ได้ดี คว้ามาจากมือกัญญาภัคทันที

"แหวนของศิศิรา...กัญญาได้แหวนวงนี้มาจากไหน"

"รักเร่สิคะ เห็นเจ้าหญิงกำลังเอาแหวนปิดปาก

ชาวบ้านเพื่อซื้ออิสรภาพที่จะหนีไปกับมาณสิงห์ แต่ต่อให้ ตั้งใจหนีไปใช้ชีวิตกับมาณสิงห์ไกลแค่ไหน ศิศิราก็ต้องถูกเอาตัวกลับมาแต่งงานกับพี่ทีฑายุจนได้ค่ะ"

ทีฑายุฟังแล้วเดือดปุดในใจ ปาแหวนลงพื้นก่อนเดินผละไป กัญญาภัคเหยียดยิ้ม พึมพำออกมาด้วยความพอใจ กับแผนของตนเอง

"ความรักที่พี่มีให้ศิศิรานั่นแหละ ที่กัญญาจะให้มันกลับมาแทงใจพี่"

ooooooo

ทั้งที่ตัวเองยังคงห้อยหัวอยู่กับต้นไม้ แต่

มาณสิงห์ก็ยังมีแก่ใจเป็นห่วงศิศิรา รุกเร่งให้เจ้าหญิงรีบหนีไปก่อนที่พวกมันจะตามมา ยังไงเจ้าหญิงก็ต้องรักษาชีวิตไว้เพื่อประชาชนทั้งหมด


อ่านละครย่อเรื่องมงกุฎแสงจันทร์ ตอนที่ 9/2-10
(อ่านต่อพรุ่งนี้)